28 กุมภาพันธ์ 2552 17:36 น.
แม่มดใจร้าย
หลายครั้ง หลายหน เรื่องราวแห่งโลกอินเตอร์เน็ต ก็คงไม่พ้นการเอาข้อมูล บทกวี หรือวรรณกรรมของผู้อื่นมา โดยมิได้เอ่ยอ้างแหล่งที่มา จนเกิดเหตุการณ์ที่เป็นข้อถกเถียงกันมากมาย..
วันก่อนได้เขียนเรื่อง สะ-หมอง โดยที่มิได้รับรู้ว่าที่นี่เกิดอะไรกันขึ้น แต่เมื่อโพสข้อมูลเรียบร้อยแล้ว กลับได้รับรู้ข้อมูล ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจไปในทางที่ไม่ถูกได้ แต่มิเห็นเหตุที่จะต้องแก้ต่าง เพราะอาจเหมือนกับแก้ตัว..
เหตุการณ์แบบนี้ เช่นนี้ คงเกิดขึ้นไม่รู้จักจบจักสิ้น ถ้าผู้ที่นำข้อมูลของผู้อื่นมานั้น มิได้มีการเอ่ยอ้างถึงแหล่งที่มา และเอ่ยอ้างถึงผู้เขียน ซึ่งถือเป็นการให้เครดิตอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่เขียนบทความ วรรณกรรมนั้น
จากความรู้สึกของตัวเองที่ผ่านมา เมื่อพบว่ามีคนคัดลอกเรื่องราวของตัวเองไปนั้น อดรู้สึกลึก ๆ ไม่ได้ว่า กว่าจะคิด กว่าจะเขียน ออกมาได้สักเรื่องหนึ่งนั้น ถึงแม้มันจะไม่ได้ทรงคุณค่ามากมายในสายตาใคร แต่มันเป็นคุณค่าทางใจสำหรับผู้เขียน
และเห็นใจในความรู้สึกของผู้ที่ถูกพาดพิง แต่เหตุบังเอิญสำหรับเรื่องราวการเขียน บทกวี บทความนั้น ถ้าจะพูดตามความจริง ซึ่งเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนพูดอาจจะตายได้ เพราะไม่ถูกใจใครหลายคนว่า..
การเขียนบทกวี บทความนั้น มันเป็นไปได้ยากยิ่งที่ แต่ละคนจะเขียนได้ละม้าย คล้ายคลึงกันจนแทบจะแยกไม่ถูก หัวข้ออาจจะตรงกันได้ แต่เนื้อในนั้นคงหาไม่
เรื่องที่เขียนในวันนี้ อาจไม่ถูกใจใครหลายคน แต่..อยากจะบอกว่า
อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล..ในการตัดสินใจว่า ใครถูก ใครผิด เพราะบางครั้งเรื่องราวบางเรื่อง ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า อะไรเกิดก่อน อะไรเกิดหลัง และอย่าตัดสินด้วยเหตุเพราะว่า ฉันเป็นพวกเธอ และเธอเป็นเพื่อนฉัน เพราะเหตุว่า ถ้าวันหนึ่งเรื่องราวมันมาถึงตัวเองแล้ว มันคงเป็นอะไรที่ตัดสินลำบากยากยิ่ง
ปล. เขียนเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง สำหรับศูนย์กลางจักรวาล..แห่งโลกใบนี้
ขอบคุณสำหรับหัวข้อเรื่อง ที่เพื่อนเอ่ยออกมา และขอนำมาเป็นหัวข้อในการเขียน
12 กุมภาพันธ์ 2552 17:50 น.
แม่มดใจร้าย
ของบางสิ่ง ยิ่งมองยิ่งช้ำ อยากลืมเลือนกลับจำ เหมือนอดีต ที่เคยพลาดพลั้ง ติดฝังลึกข้างใน ดั่งเงาคอยสะท้อนเรื่องราวให้ใจหวั่น อยู่ร่ำไป...
บทเพลง..กระจก จากละครเวที ทวิภพ
กระจก..มีประโยชน์มากหลาย ทำประตู หน้าต่าง หรือตกแต่งบ้านให้ดูสวยงาม
กระจก..ใช้ส่องหน้า ยามแต่งตัว (สิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่)
ใครเคยขึ้นดอยอินทนนท์ ในส่วนจัดแสดงเขาจะมีตู้คำถามให้คนเปิด..
ตู้หนึ่งถามว่า..สัตว์ประเภทใดร้ายกาจที่สุด คนส่วนใหญ่ตอบเสือ สิงห์ กระทิง แรด ตามแต่ใจนึก
แต่..พอเปิดมา สิ่งที่จ๊ะเอ๋อยู่ในตู้คือกระจกส่องหน้าตัวเอง
มนุษย์นี่แหละ..เป็นสัตว์ที่ร้ายกาจที่สุด
กระจก..ยังสามารถใช้ส่องใจ
ว่า..ใจนิ่ง ใจสว่าง ใจสงบ
ส่องกระจก..ดูแล้วรู้บ้างหรือไม่ว่าทำสิ่งใดผิดพลาด
ผิดพลาดแล้วทำอย่างไร..
ทำซ้ำๆ เหมือนเดิม หรือปรับปรุงแก้ไข
ทำผิดแล้วรู้จักขอโทษหรือไม่..
หรือยังตะแบงว่าฉันไม่ผิด..เธอนั่นแหละผิด
ถ้ามิกล้าถามผู้ใด..หันกลับไปส่องกระจก แล้วถามกับเงาตัวเองในกระจกว่า ที่ผ่านมาฉันทำถูกหรือไม่
หรือถ้าถามแล้วยังได้คำตอบเดิมว่าฉันไม่ผิด..เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้
"ส่องกระจก ส่องใจ ใครควรคิด
อย่ายึดติด ตัวข้า มันน่าขัน
ส่องกระจก ส่องใจ ใครครวญกัน
ผ่านมานั้น ทำผิด ในสิ่งใด"