10 มีนาคม 2551 19:40 น.
แม่มดใจร้าย
ฉันกอดกระชับตัวเองทุกครั้ง เมื่อสายลมแห่งความหนาว มาปะทะผิวกาย ใครจะคาดคิดว่าอากาศที่ดูธรรมดา ๆ แบบนี้ กลับมีอุณหภูมิที่ ติดลบถึงสิบกว่าองศา
เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ถึงสามสี่ชั้นนั้น ไม่ได้ช่วยให้ความหนาวคลายลงได้ ใครจะคาดคิดว่า น้ำเปล่าทั้งขวดที่ทิ้งอยู่ในรถเพียงข้ามคืนนั้น จะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งขวด..
ลมหนาว.. ความหนาว.. คงสู้ใจที่แสนหนาวไม่ได้
ฉันออกเดินทางไปยังดินแดนที่ใฝ่ฝันว่า..สักวันฉันจะต้องไปให้ได้
แต่..ใครเล่าจะคาดคิดว่า..การเดินทางของฉันเป็นไปอย่างเกินคาดการณ์
ฉันเดินทางแบบเงียบ ๆ มีเพียงคนรับรู้ไม่กี่คน และหลายคนทักถาม
อย่างเป็นห่วงว่า จะทนไหวหรือ อากาศ และสภาพอากาศ ณ ช่วงเวลานั้น
ไม่น่าเดินทางไปสักนิด
จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างการเดินทาง..
จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเดินทางไปถึง..
ฉันตอบเพียงว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าระหว่างการเดินทางจะเป็นเช่นไร
แต่..แต่ฉันหลับได้อย่างสบายใจ
ฉันยิ้มรับกับดินแดนแปลกใหม่ ที่ฉันใฝ่ฝันถึง เมื่อเท้าฉันเหยียบย่างลง
บนพื้นแผ่นดินแห่งบรรพบุรุษ..
หลายครั้งหลายหนมีคนเฝ้าถามว่า ทำไมถึงไม่ไปที่อื่นบ้าง กี่ครั้งกี่หนแล้ว
ที่เดินทางมาแต่ประเทศจีน
ฉันตอบไปว่า กี่ครั้ง กี่หนที่ฉันไปนั้น ไม่เคยซ้ำกันเลยสักครั้ง
แผ่นดินแห่งบรรพบุรุษของฉัน กว้างใหญ่ไพศาล จนอดคิดไม่ได้ว่า
ชีวิตนี้จะไปได้ทั่วหรือไม่..
ฉันหลงรักดินแดนแห่งนี้..
ฉันหลงรักสายลมหนาว..
ฉันหลงรักทุกเรื่องราวที่เป็นดินแดนแห่งบรรพบุรุษ
31 มกราคม 2551 10:27 น.
แม่มดใจร้าย
จากวันวาน..
คุณคะฉันรักคุณค่ะ..
ใครหลายคนที่อ่านเรื่องราวนี้แล้ว อาจจะตีความหมายว่า ฉันบอกรักชายหนุ่มคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ..
เปล่าเลยค่ะ..จากเรื่องราววันนั้น..
ฉันไม่ได้บอกรักใครเป็นพิเศษเลย..
ถ้า..คุณอ่านให้ดี คุณจะรู้ความหมาย..ที่ซึ้ง..กว่านี้ว่า คนที่ฉันบอกรักคือใคร
ฉันบอกแล้วว่า..ฉันไม่เชื่อถ้ามีใครมาบอกรักฉัน แม้ว่ามันจะฟังแล้วหวานซึ้งจับจิต จับใจ..
สำหรับคน ๆ นี้ที่ฉันบอกรักเขา เพราะเขาอยู่กับฉันมานานแสนนาน อยู่ข้างกายฉันตลอดเวลา ไม่ว่าฉันจะสุข จะทุกข์ เขาไม่เคยทอดทิ้งฉัน
ระหว่างฉันกับเขาคงจะจากกันเมื่อวันที่ร่างมอดดับ..
ระหว่างฉันกับเขาคงเป็นเงาของกันและกันตลอดไป..
และระหว่างฉันกับเขาคงมิอาจมีวันทอดทิ้งกันได้..
ถึงวันนี้ฉันยังยืนยันคำเดิมว่า..
คุณคะฉันรักคุณค่ะ
28 มกราคม 2551 12:33 น.
แม่มดใจร้าย
ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร
มาดลจิต มาดลใจ เสน่หา
รักนี้จริงจากใจหรือเปล่า
หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแกล้งเพียงแต่แลตา
ยั่วอุราให้หลงลำพอง..
ความรักทำให้โลกสดใส ทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างดูสวยงาม..
คุณเคยสังเกตุบ้างหรือไม่ว่า เวลาคนมีความรัก คน ๆ นั้นจะดูยิ้มแย้ม และสดใสอยู่เสมอ..
และทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นตรงข้ามกัน เมื่อความรักลอยหายไป..
ฉันไม่รู้ว่าแอบรักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันรู้แต่ว่าตลอดเวลา ไม่ว่าฉันจะเหงา จะโดดเดี่ยว หรือมีปัญหาอะไรมากมายหลายร้อยพัน..
คุณจะอยู่ข้างกายฉัน และคอยปลอบโยนให้ฉันหายทุกข์ร้อน..
คุณคะ..คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราจะบอกว่าเรารักคนอื่น
แต่ในขณะเดียวกันเรากับไม่รักตัวเอง เราเอาความรักไปมอบให้คนอื่น โดยการทำร้ายตัวเองและทำร้ายใจเราเอง ฉันไม่เคยเชื่อเลยค่ะ ถ้าใครมาบอกรักฉัน แล้วฟูมฟายมากมายเมื่อไม่ได้ความรักตอบ..
คุณคะ..ฉันมีความลับจะบอกกับคุณว่า ตลอดเวลาฉันไม่เคยรักใครค่ะ เพราะทุกสิ่งที่ฉันทำไปก็เป็นเพราะฉันรักตัวเองมากกว่า ฉันถึงได้เลือกที่จะทำเช่นนั้น
คุณคะ..ตอนนี้คุณจะรู้หรือไม่ ว่าฉันรักคุณ รักมากกว่าที่จะนำความรักที่มีอยู่ไปมอบให้ใครได้..
คุณจะรู้หรือไม่ว่าฉันไม่เคยบอกรักใคร แต่วันนี้ฉันมีสิ่งหนึ่งที่จะบอกคุณค่ะว่า..
"คุณคะฉันรักคุณค่ะ"
รักมากเกินกว่าที่จะนำความรักไปมอบให้ใครด้วยค่ะ
14 ธันวาคม 2550 23:17 น.
แม่มดใจร้าย
ต่าบรื้อ พะตี..(ขอบคุณ)
ขอบคุณในความมีน้ำใจของพวกพี่ ๆ ที่เสียสละและแบ่งปันความเอื้ออาทร ต่อผู้อยู่ในดินแดนแห่งประเทศไทย ที่ดูเหมือนใกล้ แต่ในความจริงแสนไกลห่าง..
ความยากลำบากจากการเดินทางไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อหัวใจอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่รู้จักแบ่งปัน..
เส้นทางอันวิบากที่ผ่านเขาลูกแล้วลูกเล่า ผ่านหุบเหวทั้งซ้ายและขวา หนทางมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็มิได้สร้างความย่อท้อต่อการเดินทาง..
การเดินทางครั้งนี้สร้างมิตรภาพและรอยยิ้ม จากใจสู่ใจ จากผู้หนึ่งสู่ผู้หนึ่ง ทุกเส้นทางที่ผ่านล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ไมตรีจิตมิตรภาพที่ถักทออยู่ภายใต้ฟ้าเมืองไทยมิเคยจางหาย..
เหนื่อยแสนเหนื่อย หนาวแสนหนาว ไกลแสนไกล พวกเราก็ยิ้มได้ เมื่อได้พบรอยยิ้มอันเป็นสุขจากผู้รับ และพวกเราก็ยิ้มเป็นสุขอย่างผู้ให้..
ขณะเดียวกันเราก็เป็นผู้รับ จากผู้รอต้อนรับไมตรีจิตที่พวกเรานำไปมอบให้ ข้าวปลาอาหารที่ถูกตระเตรียมไว้ตามอัตภาพเพื่อต้อนรับขณะผู้เยือน..
สุขใดไหนเล่าจะเท่านี้..
เท่าที่เห็นเพื่อนไทยยิ้มได้..
รอคอยไมตรีจิตและน้ำใจ..
แบ่งและปันสู่ไปไทยด้วยกัน..
18 ตุลาคม 2550 09:15 น.
แม่มดใจร้าย
เขียนเรื่องนี้มาก็นานมากแล้ว เขียนโดยไม่ต้องร่างก่อน เปิดเว็บบ้านกลอนได้ก็เขียนเลย วันนี้เกิดมีว่างงานมากขึ้นมา ลองเอาหัวข้อมาหาเล่น ๆ จ๊ะเอ๋แบบที่คนอื่นเคยเจอมา
ขอบคุณนะคะสำหรับการนำผลงานไปเผยแพร่
ขอบคุณนะคะ
หัวใจอ่อนล้าหรือกล้าแข็ง
Posted : 13-08-2007 10:11:27
มนุษย์มักพกจิตใจที่อ่อนแออยู่เสมอ
จะเห็นได้จากเวลาที่แต่ละคนมีเรื่องราวที่มากระทบจิตใจ เรามักจะเห็นร่องรอยของคราบน้ำตาที่ไหลเปื้อนใบหน้า
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าน้ำตาไม่ได้ทำให้ความทุกข์ที่พบเจอนั้นลดน้อยลง และน้อยคนนักที่จะรู้จักคำว่า น้ำตาท่วมอก
เราอาจจะเห็นเขายิ้มแย้ม แต่จะรู้ซึ้งถึงจิตใจหรือไม่ว่าเขามีความทุกข์เพียงใด
ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีความอ่อนแออยู่ในหัวใจ บางครั้งบางคราวที่มีเรื่องราวมากระทบจิตใจ
ก็อดไม่ได้ที่จะใช้น้ำตาเป็นเพื่อน จนมีความรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เหมือนมิตรแท้ ที่ยั่งยืนและถาวร
ไม่ว่าเราจะสุขหรือทุกข์ เขามักจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ
แต่ในบางครั้งบางคราวเช่นกันที่เรากลับทอดทิ้งเขาอย่างไม่สนใจใยดี
ตลอดเวลาที่ฉันมีความอ่อนแออยู่ในหัวใจ และมีเพื่อนแท้ที่ชื่อว่า น้ำตา
ฉันก็ได้เรียนรู้ว่าหัวใจของฉัน ได้บ่มเพาะความกล้าแข็งขึ้นเรื่อย ๆ
เหมือนต้นกล้าที่กำลังเจริญงอกงามและเติบโตขึ้น
เป็นความงอกงามของหัวใจที่เรียนรู้ที่จะรัก ให้ และรอ
แต่จะมีคนสักกี่คนที่จะรู้จักบ่มเพาะหัวใจของตัวเองให้กล้าแข็ง ในความกล้าแข็งของหัวใจที่เกิดขึ้นนั้น
ทำให้ฉันเห็นว่ามนุษย์ทั่วโลกนี้ต่างเกิดมาเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำขึ้นไม่ว่าจะจากอดีต หรือปัจจุบัน
และจะมีมนุษย์สักกี่คนที่จะมีความรู้สึกเช่นนี้
เพราะมนุษย์ทุกวันนี้ล้วนมีแต่การแข่งขัน เพื่อให้พบกับชีวิตที่สวยงามตามใจปรารถนา
แต่ลืมมองกลับไปว่าในความสวยงามที่ต้องการนั้นมีสิ่งหนึ่งที่อ่อนล้าลงทุกวัน
นั่นก็คือหัวใจของเรา จะมีคนสักกี่คนที่จะหยุดแล้วมองย้อนกลับไปดูแลหัวใจตัวเอง
และไปบ่มเพาะหัวใจตัวเองที่อ่อนล้าลงทุกวัน ๆ เพื่อให้มีความกล้าแข็งขึ้น
และพร้อมที่จะแบ่งปันความกล้าแข็งนั้นให้ผู้อื่นต่อไป
-----------------------------
หัวใจอ่อนล้าหรือกล้าแข็ง
มนุษย์มักพกจิตใจที่อ่อนแออยู่เสมอ จะเห็นได้จากเวลาที่แต่ละคนมีเรื่องราวที่มากระทบจิตใจ เรามักจะเห็นร่องรอยของคราบน้ำตาที่ไหลเปื้อนใบหน้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าน้ำตาไม่ได้ทำให้ความทุกข์ที่พบเจอนั้นลดน้อยลง และน้อยคนนักที่จะรู้จักคำว่า น้ำตาท่วมอก เราอาจจะเห็นเขายิ้มแย้ม แต่จะรู้ซึ้งถึงจิตใจหรือไม่ว่าเขามีความทุกข์เพียงใด
ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีความอ่อนแออยู่ในหัวใจ บางครั้งบางคราวที่มีเรื่องราวมากระทบจิตใจ ก็อดไม่ได้ที่จะใช้น้ำตาเป็นเพื่อน จนมีความรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เหมือนมิตรแท้ ที่ยั่งยืนและถาวร ไม่ว่าเราจะสุขหรือทุกข์ เขามักจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ แต่ในบางครั้งบางคราวเช่นกันที่เรากลับทอดทิ้งเขาอย่างไม่สนใจใยดี
ตลอดเวลาที่ฉันมีความอ่อนแออยู่ในหัวใจ และมีเพื่อนแท้ที่ชื่อว่า น้ำตา ฉันก็ได้เรียนรู้ว่าหัวใจของฉัน ได้บ่มเพาะความกล้าแข็งขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนต้นกล้าที่กำลังเจริญงอกงามและเติบโตขึ้น เป็นความงอกงามของหัวใจที่เรียนรู้ที่จะรัก ให้ และรอ แต่จะมีคนสักกี่คนที่จะรู้จักบ่มเพาะหัวใจของตัวเองให้กล้าแข็ง
ในความกล้าแข็งของหัวใจที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ฉันเห็นว่ามนุษย์ทั่วโลกนี้ต่างเกิดมาเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำขึ้นไม่ว่าจะจากอดีต หรือปัจจุบัน และจะมีมนุษย์สักกี่คนที่จะมีความรู้สึกเช่นนี้ เพราะมนุษย์ทุกวันนี้ล้วนมีแต่การแข่งขัน เพื่อให้พบกับชีวิตที่สวยงามตามใจปรารถนา แต่ลืมมองกลับไปว่าในความสวยงามที่ต้องการนั้นมีสิ่งหนึ่งที่อ่อนล้าลงทุกวัน นั่นก็คือหัวใจของเรา จะมีคนสักกี่คนที่จะหยุดแล้วมองย้อนกลับไปดูแลหัวใจตัวเอง และไปบ่มเพาะหัวใจตัวเองที่อ่อนล้าลงทุกวัน ๆ เพื่อให้มีความกล้าแข็งขึ้น และพร้อมที่จะแบ่งปันความกล้าแข็งนั้นให้ผู้อื่นต่อไป
จากคุณ :