9 พฤษภาคม 2551 22:03 น.
แม่มดใจร้าย
ในภาวะที่เศรษฐกิจบ้านเรากำลังถดถอย แต่เพื่อนบ้านของเรากำลังเดือดร้อน..
ขอส่งต่อข้อความที่ได้รับmail จากศุภนิมิตรค่ะ
น้ำใจคงไม่เหือดหาย
เรียน ผู้มีจิตเมตตา
ขอขอบคุณท่านที่ให้ความอนุเคราะห์และสนับสนุนมูลนิธิศุภนิมิตฯ มาโดยตลอด
ทางมูลนิธิฯ ขอรบกวนเวลาอันมีค่าของท่านเพียง 1 นาที เพื่ออ่านเรื่องราวด้านล่าง และฝากส่งต่อให้เพื่อนๆ ของท่าน
เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ ให้ชาวพม่าอีกกว่า 2 ล้านชีวิต ที่กำลังประสบภัยพิบัติอย่างหนักจากพายุไซโคลน นาร์กีส ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงกว่าเหตุการณ์คลื่นยักษ์ สึนามิ เมื่อปี 2547
ขณะนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นหนึ่งในเพียง 4 องค์กร ที่ได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสหภาพพม่าได้
จึงขอวิงวอนท่าน โปรดแบ่งปันน้ำใจ และยื่นมือให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเป็นอันดับแรก
ด้วยความเคารพอย่างสูง
มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
โปรดช่วยเหลือด่วน http://www.worldvision.or.th/make_donation.html
23 มกราคม 2551 11:36 น.
แม่มดใจร้าย
ถ้าไม่ช่วย อีกไม่เกิน 3 เดือน วัดพระบาทน้ำพุต้องปิดลง !!!
Posted by warunya , ผู้อ่าน : 11 , 10:58:31 น.
พิมพ์หน้านี้
ถ้าไม่ช่วย อีกไม่เกิน 3 เดือน วัดพระบาทน้ำพุต้องปิดลง !!!
ถ้าไม่ช่วย อีกไม่เกิน 3 เดือน วัดพระบาทน้ำพุต้องปิดลง !!!
ทุกText Box: คนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระ บาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี
ที่มีหลวงพ่ออลงกตเป็นเจ้าอาวาส
ซึ่งท่านได้อุทิศตัวช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็ก กำพร้ามาสิบกว่าปีแล้ว
ทั้งๆที่ท่านมี พร้อมทุกอย่าง
จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านวิศวกรจากออสเตรเลีย
แต่ท่านก็เสีย สละได้ เพียงเพราะท่านเห็นว่า
ผู้ป่วยโรค เอดส์นั้นไร้ที่พึ่งจริงๆ
ขนาดบางคนพอพ่อ แม่รู้ว่าติดเชื้อเอดส์
ยังรังเกียจและ ทอดทิ้งลูกของตัวเองได้เลย หลวงพ่อท่านเห็นว่า
ถ้าท่านไม่ช่วยพวกเขาเหล่านี้
ท่านก็ ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้ ทุกวันนี้
ที่วัดมีผู้ป่วยและเด็ก กำพร้าที่หลวงพ่อต้องคอยดูแลรวมถึงพนักงานและอาสาสมัคร
ราวหนึ่งพันคน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณสามล้านกว่า บาท
แต่ยอดบริจาคกลับน้อยลงเนื่องจาก สภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
เห็นว่าลดลงเหลือ เพียงเดือนละสองแสนบาทเอง
ส่วนรัฐบาลก็ ช่วยเหลือเพียงเดือนละหนึ่งแสนบาทเท่านั้น
เคยโทรไปถามที่วัดเกี่ยวกับสถานะ ทางการเงิน พนักงานก็บอกว่า
รายรับเท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุก วัน
ค่ายารักษาหรือเพิ่มภูมิต้านทานก็แสน จะแพง
แถมผู้ป่วยก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ทางวัดจะไม่รับก็ไม่ได้
เนื่องจากมีคนพา ผู้บ่วยมาทิ้งไว้ที่หน้าประตูวัดเสมอ
ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีทางไป
ที่วัดก็เมตตาช่วยเหลือแม้กระทั่งคนชราและเด็กที่คนใน ครอบครัวเสียชีวิตเพราะเอดส์
แล้วไม่มีใคร ดูแล
ตอนนี้ ต้องมีการส่งผู้ป่วยที่อาการดีแล้วและพอมีฐานะกลับบ้านบ้าง แล้ว
และอีกสามเดือนอาจต้องปิดตัว ลง!!!!!!
หลวงพ่อเองต้องลงมาบิณฑบาตรที่ กรุงเทพฯทุกสัปดาห์
ต้องไปหลายที่ต่อ หนึ่งวัน
เพราะรอคนไปช่วยเหลือถึงวัดไม่ ไหว เห็นแล้วก็เหนื่อยแทนจริงๆ
เมืองไทยมีผู้ติดชื้อเอดส์มากเป็นอันดับสี่ของโลก แล้ว
และแนวโน้มก็มีมากขึ้น เรื่อยๆ
สวนทางกับอายุของผู้ที่ ติดเชื้อเอดส์ซึ่งกลับกลายเป็นว่าอายุน้อยลงทุกที
อยากให้พวกเราเข้าใจว่า
เรื่องนี้เป็นปัญหาของประเทศชาติ และเป็นเรื่องของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกัน
พวกเราสามารถช่วยได้หลายรูปแบบ
ขณะนี้หลวงพ่อท่านมารับบริจาคทุกวันเสาร์
ตั้งแต่ 8.30 น. -10.00 น. ที่สวนลุมไนท์บาร์ซาร์
ข้างๆอาคารบีอีซี เทโร สามารถบริจาคเป็นเงิน (ดีที่สุด), ยา, ผ้าอ้อม, สำลี,
ของอุปโภคบริโภคต่างๆ, หนังสือ, เสื้อผ้า ฯลฯ
หรือบริจาคผ่านธนาคารให้ กับ ' กองทุนอาทรประชานาถ '
ถ้าสามารถทำ เป็นรายเดือนได้จะดีมาก รายละเอียดของเบอร์บัญชีมีดังนี้
ธ.กรุงเทพฯ สาขาลพบุรี 289-0-84697-1
ธ.ทหารไทย สาขาลพบุรี 304-2-41277-9
ธ.กสิกรไทย สาขาถนนสุร สงคราม 174-2-39000-0
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาลพบุรี 579-2-33730-7
ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาลพบุรี 111-1-47300-7
ธ.นครหลวงไทย สาขาลพบุรี 340-2-14976-0
ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานางเลิ้ง 000-2- 12022-0
และสุดท้ายที่พวกเราสามารถช่วยได้เดี๋ยวนี้ คือ การบอกต่อถึงเรื่องนี้
และช่วยส่งเมล์นี้ไปให้คนที่รู้จักทุกๆคน
อ่านบทความนี้แล้วก็เลยมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า...
ถึงเวลาหรือยัง.. ที่เราจะช่วยพวกเขา ฉันไม่เคยปฏิเสธที่จะช่วยพวกเขาทุกครั้งที่มีคนเอ่ยปากชวน และบริจาคตามตู้ที่เห็น เงินเพียงเล็กน้อยที่เราหยิบยื่นอาจไม่มากมาย แต่มันทำให้เขาอยู่ได้..
ฉันจึงตั้งคำถามว่า..
ถึงเวลาหรือยัง.. ที่เราจะช่วยเขา
14 พฤศจิกายน 2550 20:56 น.
แม่มดใจร้าย
จากวันนั้นที่ฉันได้ลงเรื่องราวเกี่ยวกับการให้บริการของสองธนาคาร เรื่องราวแปลกประหลาดเกิดขึ้นได้เสมอบนโลกแห่งนี้
หลังจากที่ฉันได้ลงเรื่องราวเพื่อเล่าสู่กันฟังแล้ว และเหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ ตามที่ฉันได้แจ้งให้ทราบว่า ฉันได้รับการโอนเงินคืนจากบัตรเครดิต และฉันก็ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับโครงการศุภนิมิตร รวมถึง โครงการ ccf และมูลนิธิของศิริราชพยาบาล เป็นที่เรียบร้อย ชีวิตฉันเข้าสู่ภาวะปกติ
เรื่องเกิดขึ้น หลังจากที่ฉันว่างมากเลยเข้ามาอ่านเรื่องของตัวเองใหม่ และพบว่า คุณเอกพล ได้เข้ามาอ่านเรื่องของฉันโดยบังเอิญ และให้เบอร์ติดต่อไว้ ฉันได้ติดต่อคุณเอกพล และแจ้งว่าเรื่องทุกอย่างจบไปแล้ว ฉันให้ข้อมูลกับคุณเอกพลเท่าที่พอจะจำได้
วันนี้ฉันเข้ามาอ่านเรื่องราวของตัวเองใหม่ พบว่าเรื่องของฉันได้ถูกคุณเอกพล แจ้งให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบทราบ เพื่อปรับปรุงการให้บริการอย่างน้อยฉันก็ได้พบว่า สิ่งที่ฉันทำไปได้รับการรับทราบจากผู้บริหารธนาคาร และนำไปชี้แจงให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรู้
ขอบคุณสำหรับผู้บริหารทุกท่านที่รับทราบปัญหา
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board5466.html#
31 ตุลาคม 2550 11:25 น.
แม่มดใจร้าย
สิ่งนี้นับว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย..
วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่บัตรเครดิต..สอบถามว่ามีการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตบ้างหรือไม่ รายการเกิดเมื่อวานนี้ตอนเวลาดึก..
ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการสั่งซื้อจากประเทศไทยไปยังประเทศเกาหลี..หรือสั่งซื้อจากเกาหลีมายังประเทศไทย จำนวนเงินที่ได้รับแจ้งคือเป็นเงินเกาหลีประมาณสามแสนวอน..คิดเป็นเงินไทยประมาณสามหมื่นกว่าบาท ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งมา
จะว่าโชคดีก็คงเป็นได้..เนื่องจากบัตรใบนี้ไม่ได้ถูกใช้มานานมากแล้ว จึงเป็นที่ผิดสังเกตุของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล และแถมจำนวนเงินที่ถูกใช้ก็สูงมากกว่าปกติที่เคยใช้..
บัตรใบนี้จึงถูกอายัดเรียบร้อยแล้ว..
เฮ่อ! จะว่าไปแล้วช่วงนี้มีปัญหากับบัตรบ๊อยบ่อย พึ่งเคลียร์จบไปจากความผิดพลาดของตัวเอง..ผ่านมาได้ไม่นานเกิดโดนขโมยก๊อปบัตรไปใช้เรียบร้อยแล้ว
แต่หนนี้นับว่าบุญที่ทำยังคงพอมีอยู่ จึงทำให้เจ้าหน้าที่พบความผิดสังเกตุที่เกิดขึ้นเสียก่อน..
ไม่เช่นนั้นแล้ว..มิอาจรู้ได้ว่าฉันจะต้องปวดหัวกับปัญหานี้อีกนานแค่ไหน..
ขอบคุณ..ผลบุญที่ทำไว้
ขอบคุณ..เจ้าหน้าที่บัตรเครดิตที่ตรวจพบความผิดปกติ
สำหรับท่านที่ใช้บัตรเครดิต..ระวังไว้หน่อยก็ดีค่ะ
เนื่องจากข่าวจำพวกนี้มีบ่อยมาก ๆ ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องเจอ
ผลสุดท้ายอะไรที่คิดว่าไม่ ก็ต้องเจอจนได้..
7 ตุลาคม 2550 16:50 น.
แม่มดใจร้าย
ความผิดพลาดอันเกิดจากการโอนเงินผิดพลาดของฉัน นำมาซึ่งความวุ่นวาย..
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 ฉันได้โอนเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย และจากแบงค์ของทางธนาคารเองเพื่อไปชำระค่าบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย ให้น้องคนหนึ่ง เป็นจำนวนสองรายการ ยอดเงินของการโอนคือ 600.-บาท และ 700.-บาท แต่เมื่อดำเนินการโอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้องได้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่บัตรเครดิต และได้รับแจ้งว่ายังไม่มีรายการเข้ามา..
ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ฉันทำรายการผิดพลาดเอง เพราะแทนที่จะกดรหัสบัตรเครดิต ฉันกลับไปกดเลขที่บัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นบัญชีกระแสรายวันเข้า วันนั้นฉันได้ไปดำเนินการติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารทหารไทย และได้รับการแนะนำว่า ให้ไปติดต่อธนาคารที่ฉันโอนเงินไปให้เพื่อให้เขาดำเนินการโอนเงินคืน..
และน้องก็ได้ติดต่อกับทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ธนาคารทหารไทย ซึ่งได้ดำเนินการรับเรื่องไว้และบอกให้รอ...
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ฉันไปเช็คยอดเงินตลอดว่ามีการโอนกลับมาหรือไม่ ปรากฎว่าไม่มีรายการใดเกิดขึ้น ฉันติดต่อกลับไปที่ธนาคารใหม่ เจ้าหน้าที่หนุ่มรับโทรศัพท์ฉัน โดยมีฉันเล่ารายละเอียดให้ฟังทั้งหมด ความผิดพลาดครั้งที่สองของฉันคือไม่จำชื่อผู้รับโทรศัพท์ และไม่ได้ถามน้องว่าได้ติดต่อกับใครให้ฉัน แต่เมื่อมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ที่ 1558 เจ้าหน้าที่ที่รับสายบอกกลับฉันว่า คุณ...ได้รับเรื่องไว้แล้ว และบอกให้ฉันรออีก 1 สัปดาห์..
ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ ฉันโทรกลับไปใหม่ ความผิดพลาดครั้งที่สามเกิดขึ้นจากฉันที่ไม่จดจำวันที่ และไม่จดจำชื่อคนรับโทรศัพท์ เพราะว่าฉันโทรไปเพื่อติดต่อคุณ...โดยตรง เจ้าหน้าที่บอกกลับมาว่า คุณ....ไปทานข้าว ให้ฝากเบอร์ไว้แล้วจะให้โทรกลับ..
ผ่านไปสองวันเงียบไม่มีวี่แววว่าคุณ...จะโทรกลับ ฉันโทรกลับไปใหม่เพื่อติดต่อคุณ.... เจ้าหน้าที่บอกว่าคุณ....ติดสาย อีกสิบนาทีโทรกลับ..
เวลาผ่านไปเช่นเคย ไม่มีเสียงนกที่ไหนโทรกลับหาฉัน ฉันดำเนินการติดต่อเจ้าหน้าที่ทางธนาคารใหม่..
2 ตุลาคม 2550 ฉันได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจนได้คุยกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งคุณ...ฉันเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เจ้าหน้าที่แนะนำฉันว่าให้ฉันไปดำเนินการแจ้งความ ฉันบ่นกับเจ้าหน้าที่คนนั้นไปนานทีเดียวว่าทำไม ไม่แนะนำฉันตั้งแต่วันแรก ทำไมปล่อยให้เวลาผ่านมาเกือบหนึ่งเดือน..
3 ตุลาคม 2550 ฉันเดินขึ้นโรงพักเพื่อไปดำเนินการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับขำตัวเองกับน้องว่าเงินแค่นี้ ฉันต้องขึ้นมาแจ้งความเลยหรือ ได้หลักฐานเป็นที่เรียบร้อย ฉันดำเนินการส่งหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารคนเดิม... เวลาผ่านไปไม่นานฉันได้รับทราบข้อมูลว่า เงินจำนวนที่ฉันได้ทำการโอนผิดพลาดไปนั้น ถูกโอนไปให้กับทางบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว...
เจ้าหน้าที่คนนั้นก็รับฟังคำบ่นของฉันไปนานทีเดียวว่า ธนาคารคุณทำงานแบบนี้หรือ คุณรับเรื่องฉันไปถ้าไม่รู้ น่าจะแนะนำให้ฉันถามผู้รู้ แต่นี่คุณปล่อยให้เรื่องผ่านมาหนึ่งเดือน โดยการให้ฉันรอ.....
4 ตุลาคม 2550 วันนี้ฉันติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์ เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งฟัง พร้อมถามว่าฉันจะทำอย่างไรได้บ้าง เจ้าหน้าที่แนะนำให้ฉันเขียนเรื่องเพื่อเล่าให้ ดร.เอกพล ณ สงขลา เจ้าหน้าที่บอกว่าท่านจะอ่านข้อมูลตลอด แต่ฉันไม่สามารถที่จะหาได้ว่าฉันควรจะเขียนที่ไหน...
วันนี้อีกเช่นกัน ฉันติดต่อทางบัตรเครดิตของธนาคารกรุงไทยโดยตรง เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องฉันชื่อ คุณปภังกร ฉันเล่ารายละเอียดให้คุณปภังกรฟังทั้งหมด คุณปภังกรบอกให้ฉันรอสายและเช็คข้อมูลให้ฉัน พร้อมกลับมาบอกว่าพบรายการแล้วไม่รู้ว่าจะตรงกันหรือไม่ เธอบอกเลขที่บัญชีมา ซึ่งเป็นเลขที่บัญชีของฉัน เธอแนะนำฉันว่ามีสองกรณีที่จะทำได้คือให้โอนเงินเข้าบัตรเครดิตของน้อง หรือโอนกลับเข้าบัญชีของฉัน ซึ่งกรณีหลังฉันจะต้องให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทหารไทยดำเนินการให้ ฉันบอกเธอกลับไปว่า หนึ่งเดือนที่ผ่านมาคุณแนะนำพี่ได้หรือไม่ว่าพี่ควรจะติดต่อใคร เธอบอกต่อว่าถ้างั้นก็เป็นกรณีแรก ฉันถามไปว่าโอนเข้าบัตรเครดิตฉันได้หรือไม่ เพราะฉันก็มีบัตรเครดิตกลับทางธนาคาร รวมถึงมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารด้วยเช่นกัน เธอบอกว่าได้และให้ฉันส่งหลักฐานการโอนเงินที่ผิดพลาดไปให้ หลังจากฉันส่งเอกสารให้เธอเรียบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปไม่นาน เธอโทรเข้ามือถือฉันเพื่อบอกว่าได้รับเอกสารแล้ว และดำเนินการให้แล้ว ซึ่งจะมีผลอีกสามวัน
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉันมองเห็นถึงความแตกต่างของเจ้าหน้าที่ทั้งสองธนาคารอย่างเห็นได้ชัด
1 วันกับ 1เดือนที่ฉันได้รับการปฏิบัติ คิดว่าชีวิตวุ่น ๆ คงจะจบเสียที บอกตัวเองว่าเงินที่ได้กลับมานี้ฉันจะโอนเข้าบัญชีให้เด็กด้อยโอกาส...
ขอบคุณเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตกรุงไทย คุณปภังกร ที่ให้คำแนะนำและความช่วยเหลือภายในหนึ่งวัน
ขอบคุณ คุณวัชรา เจ้าหน้าที่ธนาคารทหารไทยที่รับฟังข้อมูลจากฉัน และให้ข้อมูลกลับมา
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารทหารไทยที่รับเรื่องฉันไว้...