4 มีนาคม 2553 14:39 น.
แม่มดใจร้าย
ขำขันกับคำสิทธิ์..
มีคนคิดเอ่ยอ้างสิทธิ์ของผม
ฉันสับสนในสิทธิ์คิดอ้างเอ่ย
เอ่ยปากถามสิทธิ์คุณไฉนเลย
ไยไม่เคยคิดถึงสิทธิ์ผู้ใดกัน
ฤๅประชาธิปไตยในกำมือ
คุณฉันถือต่างสิทธิ์ที่คิดนั่น
สิทธิ์ของคุณหืออือทุกสิ่งอัน
ส่วนสิทธิ์ฉันนิ่งงันอันเป็นไป
แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่สั้น
สิทธิ์คุณนั้นอ้างอิงทุกสิ่งได้
ฉันถือสิทธิ์ตัดทิ้งด้วยกรรไกร
หรือตะไบให้กุดพุดโธ่เอ๋ย
2 มีนาคม 2553 20:22 น.
แม่มดใจร้าย
เถอะเธอจ๋าเปิดกว้างทางความคิด
เรื่องถูกผิดคิดได้ใช่น่าขำ
เหมือนโบราณกาลก่อนบอกควรจำ
ใช่กระทำเพียงตัวโตอย่างเดียว
ทำเรื่องผิดคิดได้ใครใคร่ว่า
ช่างเถอะหนาปล่อยเขาอย่ายุ่งเกี่ยว
แต่ทำผิดถูกท้วงอย่าหงุดเงี้ยว
มาโกรธเกรี้ยวโมโหทำโกรธา
แล้วยกเอาพวกพ้องมาจวกย่ำ
กระหน่ำคนทักท้วงจนเสียท่า
เป็นพวกบ่อนทำลายให้ระอา
นี่หรือหนาประชาธิปไตย
เพียงแอบอ้างขายผ้าเอาหน้ารอด
ส่งสายตาสอดส่ายแล้วบอกใช่
ฉันนี่หนากลุ่มประชาธิปไตย
เธอหาใช่จึงไล่ให้ลุกฮือ
เถอะเธอจ๋าเปิดกว้างทางความคิด
สิ่งใดผิดรู้ได้มิใช่หรือ
เขาทักท้วงทวงสิทธิ์ผิดใดฤๅ
หรือนั่นคือสิทธิ์ใช้ไม่ได้กัน
1 มีนาคม 2553 20:18 น.
แม่มดใจร้าย
แสนรอนราวนอนร้าวให้หนาวอก
ใจตระหนกละเมอเรื่องเพ้อฝัน
ทั้งสุขเศร้าคละเคล้าเข้าปนกัน
เป็นกลอนฝันเพ้อพกให้ตกใจ
ทั้งอกหักรักคุดหัวกุดเน่า
เอามาเคล้าปนกันเป็นเรื่องใหม่
โน่นก็ชอบนี่ก็รักน่าหนักใจ
แต่หาใช่เรื่องจริงอิงนิยาย
แค่เดินผ่านหมาเห่าใบตองแห้ง
ก็อาจแปลงเรื่องราวเอามาขาย
เป็นคำกลอนตามใจอย่างสบาย
คำง่ายง่ายเขียนไปตามใจตน
คอยฝึกฝนภาษาหาเรื่องเขียน
อาจบางครั้งก็เลียนจนสับสน
สมองฝ่อเจอเรื่องทับให้อับจน
จึงพาตนหลีกลี้หนีหน้าไกล
กลัวโดนด่าเอาว่าภาษาเน่า
ก็ตัวเราหาใช่กวีใหญ่
ขีดเขียนกลอนไปตามอำเภอใจ
หาใช่แข่งกับผู้ใดนอกจากตน