29 สิงหาคม 2550 18:27 น.
แม่มดใจร้าย
บนชาน ณ ลานกลอน
ยามร้าวรอนสะท้อนฝัน
บทนี้ถึงบทนั้น
ตามแต่ฝันที่แตกต่าง
บางทีมีเรื่องเล่า
แสนปวดร้าวมิอำพราง
จากคนที่ผ่านทาง
ยามอ้างว้างเดินผ่านมา
ได้พบมวลหมู่มิตร
ให้พิชิตความแข็งกล้า
ยามทุกข์โถมหลั่งมา
ล้วนล้นค่าคำปลอบใจ
บางคราวยามเราสุข
เพื่อนก็สุขและสดใส
แบ่งปันรอยยิ้มไป
ให้สู่ใจใครหลายคน
บางครั้งอาจผิดแผก
และแตกแยกเป็นบางหน
ตามแต่ใจของตน
ที่สับสนปนเปไป
แต่สิ่งไม่แตกต่าง
ยามอ้างว้างหนทางไหน
มุ่งสู่ลานกลอนไทย
ฝากกลอนไว้ให้มวลชน
28 สิงหาคม 2550 07:02 น.
แม่มดใจร้าย
เมื่อความหลังครั้งก่อนมาปิดกั้น
ให้ไกลกันเกินฝันจะชิดใกล้
จึงต้องหลีกหลบทางต่างกันไป
อย่าอาลัยเมื่อใจจะอำลา
ด้วยเป็นเพียงชาตินี้ได้เกิดพบ
ได้เพียงสบเนตรกันเท่านั้นหนา
มิได้เกิดมาเป็นคู่ชีวา
จึงต้องลาจากไกลไปจากกัน
หากว่าแม้กรรมใดที่ได้ก่อ
ที่เคยต่อสานกันในวันนั้น
ในวันนี้ขอจบลบจากกัน
อย่าผูกพันซึ่งกันอีกต่อไป
23 สิงหาคม 2550 20:50 น.
แม่มดใจร้าย
เพราะมีคนใจร้ายคอยถากถาง
ใจบอบบางดวงนี้จึ่งเสนอ
ขอเถอะนะคำลวงจากใจเธอ
อย่ามาเผลอบอกให้ได้ช้ำตรม
ขอเพียงใจดวงนี้ได้หยุดพัก
หยุดตระหนักถึงรักที่ขื่นขม
อย่ามาบอกเยาะเย้ยให้ระทม
ฤๅ ไม่เคยตรมใจในน้ำตา
หากว่าเธอมิเคยจะอ่อนไหว
และมิใช่หัวใจฉันไร้ค่า
เพียงแต่วันสองเราที่ผ่านมา
เปล่าอุราเพราะว่ารักข้างเดียว
20 สิงหาคม 2550 21:16 น.
แม่มดใจร้าย
จิตรกรเอกผู้เสกสรร
ก็คือฉันนั่นไงมิตรสหาย
ชอบใส่ร้ายป้ายสีด้านทำลาย
ให้ไมตรีมากมายไร้ด้านดี
จิตรกรเอกผู้เสกสรร
ก็คือฉันนั่นไงเล่าน้องพี่
ความสัมพันธ์ที่เคยจะมากมี
สิ้นสุดทีไม่ต้องมาดีกัน
จิตรกรเอกผู้เสกสรร
ก็คือฉันผู้สร้างภาพแห่งฝัน
สร้างภาพหรูดูดีในทุกวัน
แต่ใจนั้นเชือดเฉือนลองเยือนสิ
10 สิงหาคม 2550 19:22 น.
แม่มดใจร้าย
แอบลักลอบปลอบกวีมีความหมาย
แต่เบื่อหน่ายกลอนแสลงแทงใจเหลือ
กลอนหวานเลี่ยนน่าเอียนมีเหลือเฟือ
อยากได้กลอนที่เจือรสร้อนแรง
คงต้องเปิดตำราดูตามสูตร
อย่าได้พูดสิ่งใดให้แสลง
อันกวีมีนัยใช่เคลือบแคลง
มิได้แฝงเจตร้ายในจำนงค์
ฉันเป็นเพียงคนเขียนตามความหมาย
มิอาจกลายเป็นกวีที่สูงส่ง
เขียนกลอนตามความคิดจิตจำนงค์
เนื่องจากหลงรักเจ้านามกวี