8 พฤษภาคม 2546 04:50 น.
แม่มดน้อยค่ะ
"เ ร า จ ะ พ บ เ จ อ กั น . . . ใ น วั น ด อ ก ไ ม้ บ า น"
เธอร้องไห้ทำไม
น้ำอุ่นหยุดเสียงสะอื้นพลางยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่กำลังไหล เมื่อได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง เธอเหลียวมองรอบตัว แต่ก็ไม่เจอใคร จึงคิดไปว่าเธอคงจะหูฝาดไปเท่านั้น
อย่าร้องไห้ไปเลยนะ
เสียงนั้นยังเป็นเสียงเดิมที่เธอได้ยินครั้งแรก เธอจึงรู้ว่าไม่ใช่แค่หูฝาดไปแน่ๆ แต่มีคนพูดกับเธอจริงๆ
ใครหน่ะ ออกมานะ
น้ำอุ่นเป็นฝ่ายพูดบ้าง เธอหันไปมองรอบๆ ตัวของเธออย่างระแวง แต่ก็ไม่พบใครเลย เพราะที่นี่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง มีแค่ต้นไม้ใบหญ้าและนกตัวเล็กๆ เท่านั้น
ถ้าไม่ออกมาจะร้องไห้จริงๆนะ. . .
เธอไม่ได้แค่ขู่แต่ส่งเสียงร้องลั่นออกมาจริงๆ ด้วย
พอแล้วๆ. . .ฉันอยู่นี่ มองขึ้นมาบนต้นไม้ซิ
น้ำอุ่นทำตามคำสั่งของเสียงนั้น และเธอก็มองเห็นที่มาของเสียงจริงๆ เป็นเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ ในชุดสีขาวสะอาดตา ดวงตากลมโตสีครามคล้ายท้องฟ้า ปากเล็กแดงคล้ายเด็กผู้หญิงค่อยๆ เผยเป็นรอยยิ้มให้กับเธอ
วันนี้มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอ
เขาถามเมื่อกระโดดลงจากต้นไม้และมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
เธอรู้ได้ไง ว่าฉันไม่สบายใจ
น้ำอุ่นถามอย่างแปลกใจ
เพราะเธอจะมาที่นี่ทุกครั้งที่เธอรู้สึกไม่สบายใจ มาร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ และเหม่อมองก้อนเมฆที่นี่เป็นประจำ
เธอรู้ได้ยังไง
น้ำอุ่นยังไม่ลดความสงสัย
เพราะฉันจะมาอยู่ที่นี่ทุกครั้งในเวลาที่ฉันมีความสุข
น้ำอุ่นก้มหน้า น้ำตาซึมอยู่ตรงขอบตาของเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
แต่ฉันไม่เคยมีความสุขเลย
ทำไมเธอจะไม่มีล่ะ เธอไม่เคยมองสิ่งที่อยู่รอบตัวของเธอด้วยรอยยิ้มต่างหาก
น้ำอุ่นจ้องหน้าเขา ไม่เข้าใจในคำพูดเท่าไร
ไปกับฉันซิ ฉันจะทำให้เธอเห็นว่าโลกใบนี้มีแต่รอยยิ้ม เธอจะได้หยุดร้องไห้เสียที
เขาไม่ได้รอฟังคำตอบจากเธอ กลับคว้าข้อมือเล็กๆ วิ่งไปตามทุ่งหญ้า ดอกไม้หลากสีต่างพากันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมไปทั่วพื้นที่โล่งกว้างสีเขียว เขาเก็บดอกไม้ดอกเล็กๆ ยื่นให้เธอ ก่อนจะพูดกับเธอว่า
เวลาที่เธอยิ้ม ใบหน้าของเธอจะสดใสและสวยงามเหมือนดอกไม้ดอกนี้
เธอยิ้มให้กับคำพูดของเขา และเขาเองก็ยิ้มให้กับเธอเช่นกัน มิตรภาพจากคนแปลกหน้าได้เริ่มต้นขึ้น ทั้งสองคนเดินเล่นกันในทุ่งหญ้าที่คล้ายกับดินแดนของความฝัน สายลมที่พัดผ่านหน้าเธอทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังบินอยู่เหนือก้อนเมฆที่เธอชอบมองดูอยู่บ่อยๆ เธอมาที่นี่หลายครั้งและดูเหมือนจะเป็นบ้านอีกหลังของเธอ แต่เธอไม่เคยเห็นความสวยงามของที่นี่เลย จนวันนี้เธอรู้สึกหลงรักที่นี่ น้ำตาที่เปื้อนแก้มเหือดแห้งไปจนมองไม่เห็นแม้แต่คราบน้ำตา ใบหน้าแดงระเรื่อเพราะแสงแดดทำให้เธอดูน่ารักมากขึ้นในสายตาของเขา ทั้งสองคนเดินจูงมือพูดคุยกันจนตะวันลาลับขอบฟ้า. . .และการจากลาของเขาสองคนก็กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้วยเช่นกัน
เธอควรจะกลับบ้านได้แล้วนะ
เขาเอ่ยขึ้นเมื่อพาเธอมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเดิม และเห็นว่าเวลาล่วงเลยมามากแล้ว
แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก
เธอรู้สึกไม่อยากจากเขาไปวันนี้เลย มันเหมือนเวลาของความสุขได้จากเธอไปด้วย
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันคงไม่ได้มาที่นี่อีกนาน
เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงเเผ่วเบา
นานแค่ไหน. . .
เธอถามเขา
นานแสนนาน. . .
น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ฟังคำตอบของเขา เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเสียใจขนาดนี้ ความผูกพันที่เกิดขึ้นเพียงแค่ ไม่กี่ชั่วโมง มันทำให้เธอเป็นอาลัยอาวรเขาได้มากขนาดนี้เลยเหรอ แต่สำหรับเขาแล้วเขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความผูกพันที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ความผูกพันระหว่างเขาและเธอเกิดขึ้นนานกว่านี้
เธอร้องไห้ทำไมน้ำอุ่น
เขาพูดก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ อย่างอ่อนโยน
สัญญากับฉันได้มั้ย. . .ถ้าเธอกลับมาที่นี่. . .เธอจะไม่ร้องไห้อีก
เขาพูดพร้อมกับยื่นแขนมาจับไหล่ของเธอไว้ทั้งสองข้าง
ได้. . .ฉันสัญญา. . .
คำพูดที่ใช้เวลาชั่งใจไม่นานนักถูกพูดออกมาอย่างหนักแน่น พร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
และเธอต้องให้สัญญากับฉันด้วยว่าเราจะกลับมาพบกันอีก
เธอพูดและยื่นนิ้วก้อยเรียวเล็กขึ้นมาเขาจึงยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวไว้ ก่อนจะล้วงมือไปในกระเป๋าหยิบอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง
เราจะมาเจอกันที่นี่อีกครั้ง ในวันดอกไม้บาน
เขาพูดพร้อมกับยื่นเมล็ดดอกไม้ในมือให้เธอ มันมีขนาดเล็กไม่ต่างจากเมล็ดถั่ว และเขาก็เก็บอีกเมล็ดหนึ่งไว้กับตัวของเขา
ดอกไม้ทั้งสองดอกจะบานพร้อมกัน
เขาบอกเธอ
ฉันจะทำให้ดอกไม้ บานเร็วๆ แล้วเรากลับมาเจอกันตรงนี้นะ
เธอพูดก่อนจะวิ่งออกไปจากทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้าเนียนใส แต่ไม่ทันไรเธอต้องหยุดเท้าเหมือนลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง
เธอชื่ออะไรนะ
เธอตะโกนถามชื่อเขา
เมฆ เรียกฉันว่า เมฆ
เธอยิ้มให้เขาอีกครั้งและวิ่งออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับมามองเขาอีก. . .
4 พฤษภาคม 2546 04:20 น.
แม่มดน้อยค่ะ
ต้ น ไ ม้ สี ช ม พู ข อ ง ฉั น
เช้าวันนี้ฉันมองเห็นความสุขลอยฟุ้งกระจายอยู่เต็มห้องนอนเล็กๆของฉัน เพียงแค่ฉันนึกถึงใครคนหนึ่งและเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างเรา. . .ฉันแอบคิดไปว่า หากห้องนอนเล็กลงกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว ความสุขคงจะบินชนกันให้วุ่นไปหมด. . .
แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กปลุกให้ฉันลุกจากเตียงอุ่น และเดินไปยังระเบียงห้อง พูดคุยกับต้นกระบองเพชรต้นเล็กเหมือนทุกๆ เช้าฉันยื่นมือไปแตะหนามอ่อนๆ ของต้นกระบองเพชรต้นเดิม เพื่อให้รับรู้ถึงความสุขที่ฉันมี
ฉันเชื่อว่าต้นไม้ที่ฉันรักต้นนี้จะสัมผัสได้ถึงความรักและความสุขที่มีในตัวของฉัน เพราะฉันคิดเสมอว่าต้นไม้ต้นนี้คือเพื่อนของฉัน ไม่ว่าฉันจะหัวเราะ หรือร้องไห้ ต้นไม้ต้นนี้จะอยู่เป็นเพื่อนฉัน และรับฟังฉันเสมอในทุก ๆ เรื่อง แม้กระทั่งเรื่องที่ฉันไม่สามารถจะเล่าให้ใครฟังได้
ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้. . . ฉันอยากจะเข้มแข็งให้ได้เพียงสักครึ่งหนึ่งของต้นกระบองเพชร
ทุกครั้งที่ฉันยิ้มหรือหัวเราะ. . . ฉันอยากจะให้ต้นกระบองเพชรต้นนี้รับรู้ถึงความสุขใจของฉัน
และในวันนี้. . .ฉันอยากจะให้ความรักของฉันและเขามั่นคงและงดงามเช่นเดียวกับต้น กระบองเพชรต้นนี้. . . .
ฉันจะเติมความคิดถึง ความห่วงใยและความรู้สึกดีๆ ให้กับความรักของเรา เช่นเดียวกับที่ฉันรดน้ำใส่ปุ๋ยต้นกระบองเพชรของฉัน
ตอนนี้ฉันไม่ได้มีหัวใจเพียงแค่ดวงเดียวแล้วที่จะต้องดูแล แต่ฉันยังมีหัวใจดวงเล็กๆ อีกหนึ่งดวงที่จะต้องคอยเฝ้าทะนุถนอมด้วยความรักของฉัน. . .ฉันจะประคับประคองความรักของเราให้เติมโตและงอกงามยิ่งกว่าต้นไม้ใดๆ ทั้งหมดบนโลกใบนี้. . . ต้ น ไ ม้ สี ช ม พู ข อ ง ฉั น
*********************************************************************************************