16 พฤศจิกายน 2551 23:59 น.
แมวเหลือง
เจ็บกว่าเก่าร้อยเท่าพันทวี
ด้วยวจีคนดีที่อาจหาญ
ต้องให้ฉันลุกล้มและซมซาน
ลงกราบกรานวานไหว้ใช่ไหมเธอ
ปากก็พร่ำก็บ่นคือคนรัก
ได้เพียงสักกี่ครั้งก็พลั้งเผลอ
เหมือนเป็นคนฝันซ้อนนอนละเมอ
โทรเบอร์ฉันสุดท้ายตั้งหลายที
เคยมีเยื่อมีใยไปไหนหมด
เคยนั่งรถพาไปตั้งหลายที่
เธอมีฉันคนเดียวหรือเดี๋ยวนี้
เธอยังมีคนอื่นให้ชื่นชม
ทำอย่างนี้ก็มีแต่แตกหัก
ทำความรักของฉันให้มันขม
เคยทั้งกล่อมทั้งเกลี้ยงเลี้ยงจนกลม
ตอนนี้ซมเป็นซางจะปางตาย
กุหลาบดอกสุดท้ายให้เมื่อไหร่
สีอะไรที่ไหนใครมาขาย
ญาติของฉันคนไหนหัวใจวาย
ใครเป็นฝ่ายรักก่อนช่วยย้อนจำ
ตอบไม่ได้สักข้อไม่ห่อเหี่ยว
ทำปากเบี้ยวไปมาไม่น่าขำ
ฉันซื้อเสื้อสีขาวหรือเทาดำ
ที่ชะอำฉันทำอะไรไป
นึกไม่ออกสักอย่าง..ให้อ่างแตก
เสื้อตัวแรกสีอะไรฉันใส่ไหม
ก๋วยเตี๋ยวเรือจัดจ้านร้านอะไร
เพื่อนคนไหนที่ไม่ใส่แว่นตา
ถามอะไรถามเปล่าก็เท่านั้น
ตะบี้ตะบันถามไปก็ใช่ว่า
มีอะไรเหลือไว้ในปัญญา
ว่าแต่ว่า..เมื่อวานอ่านอะไร
แล้วเธอยังมีหน้ามาด่าฉัน
พูดจนฟันหน้าหลุดจะหยุดไหม
ถามซักถามไซ้ถามไปทำไม
อยากกรี๊ดใส่ให้ละล่องตกคลองคู
เธอต้องมีคนใหม่ใช่แน่แน่
มีแม้แต่สำลีที่ปิดหู
มาด่ามาอ้างข้างข้างคูคู
อย่าให้รู้..นะว่าใคร..จะไปยำ
10 พฤศจิกายน 2551 19:12 น.
แมวเหลือง
ล่องไปเรื่อยเหนื่อยไหมใจของเจ้า
เขาไม่เอาเข้าเขตด้วยเหตุผล
จะกลับบ้านไม่พร้อมยอมจำนน
จะกลับตนกลับใจก็ไม่ทำ
มีทรัพย์สินนับว่ามหาศาล
ไม่มีบ้านแท้จริงยิ่งน่าขำ
อยากให้คนทั้งหมดได้จดจำ
ตกระกำมั่งคั่งก็ยังมี
ถึงชาตินี้ครอบครัวไม่กลัวหมด
แต่ต้องอด..สูแท้..ได้แต่หนี
มีเกียรติใดฝังไว้ในปฐพี
มากกว่าที่ฝังร่างในต่างแดน
แม้จะต้องแร้นแค้นแผ่นดินยืน
ยังเต้นตื่นโฟนอินไม่สิ้นแผน
สิ้นตรอกแล้วหรือไรคนใจแคลน
จึงเฝ้าคับเฝ้าแค้น..อยู่แดนไกล
9 พฤศจิกายน 2551 04:33 น.
แมวเหลือง
บ้านของฉันหลังนี้มีแมวเหลือง
ตัวเขื่องเขื่องเชื่องบ้างเป็นบางหน
ชอบเกลือกกลิ้งนอนหงายคล้ายคล้ายคน
หน้ามนมนขนไม่ฟูดูมอมแมม
กลางคืนชอบสู่รู้หาคู่ตบ
เรื่องกัดขบรบชนะอย่ามาแหยม
หลายครั้งแย่แผลเฟะเละเป็นแยม
มาซ่อมแซมนอนซมตัวกลมเชียว
ดัดจริตผิดอาหารพาลไม่กิน
ไม่ชินลิ้นผินหน้านะแมวเหมียว
ใครเก็บล้างล่ะนั่นฉันไม่เกี่ยว
ไม่แลเหลียวหน้าเริดเชิดออกไป
แต่ยังเป็นดวงกมลคนในบ้าน
แม้สังขารดูใกล้ไปเกิดใหม่
โผล่มาเป็นครั้งคราวก็เข้าใจ
เอาอะไรกับเรื่องแมวเหลืองลาย
7 พฤศจิกายน 2551 11:51 น.
แมวเหลือง
บรรจงเย็บเหน็บแนมแซมประดิด
ประดอยนิดติดกลีบเป็นจีบสวย
ไล่ลดหลั่นชั้นช่อเป็นกอกรวย
บนหยวกกล้วยแบนกลมเหมาะสมงาม
แต่งแต้มด้วยมาลานานากลิ่น
รวยระรินหอมดินถิ่นสยาม
จันทร์เต็มดวงห้วงน้ำดูวาววาม
เป็นฤกษ์ยามกระทงจะลงลอย
น้ำเอ่อท้นล้นปริ่มตรงริมฝั่ง
ดาวสุกปลั่งฝั่งฟ้าดูน่าสอย
ช่างงามจนล้นค่าที่มาคอย
กอบหิ่งห้อยลอยอยู่มาดูไฟ
กายกระทบอบไล้ด้วยไอหญ้า
ลมหนาวพาเหน็บจิตจากทิศไหน
โหมไฟรักกระพือด้วยหรือไร
จึงอยากให้เธออยู่เป็นคู่ลอย
กระทงนี้เต็มปรี่เท่าที่ได้
เท่าที่ใจให้หมดไม่ถดถอย
จุดเทียนรักปักกลางระหว่างคอย
จุดธูปน้อยปักข้างระหว่างรอ
อธิษฐานเธอมาชะตาร่วม
มาหลอมรวมดวงมานเพื่อสานต่อ
บุญเก็บเก่าเราไซร้คงไม่พอ
เธอไม่ง้อ..กระทง..จึงหลงทาง