25 มกราคม 2551 11:58 น.
แมวคราว
คราแผ่นดินสิ้นสุขถึงยุคเสื่อม
เมฆมะเมื่อมมืดดำครอบงำขาว
ถึงวันน้ำท่วมฟ้าปลากินดาว
และถึงคราวหม่นหมองเข้าครองเมือง
มองทางไหนไม่เห็นเว้นจุดด่าง
มันอ้างว้างหัวใจไปทุกเรื่อง
ขาดศีลธรรมค้ำจุนคนขุ่นเคือง
ล้วนก่อเรื่องชวนระอาน่าหนักใจ
บูชาเงินด้วยเห็นเป็นพระเจ้า
นับถือเขาใครรวยด้วยเลื่อมใส
พอเงินมาปัญญาขาดอนาถใจ
ใครต่อใครต่างนบนอบเพราะชอบเงิน
คนทำดีกลายเป็นโง่โถวิบัติ
ความซื่อสัตย์ลดน้อยพลอยขัดเขิน
โลกวัตถุรุดหน้าพาเพลิดเพลิน
ลืมจำเริญธรรมะน่าละอาย
คนขี้โกงขี้กินคนปลิ้นปลอก
คนกลับกลอกสับปลับกลับเฉิดฉาย
พวกโกงมากปากมันเกินบรรยาย
แพร่ขยายพันธุ์ล้นกว่าคนดี
พวกใจเหี้ยมอมหิตคิดปล้นชาติ
อบายอุบาทว์ล้ำรุกไปทุกที่
ลืมบุญคุณข้าวน้ำคอยย่ำยี
แรงเงินมีอัดเข้าไปใช้ก่อกรรม
กลิ่นเงินกล่อมคนเขลามาเข้าพวก
คอยกระซวกเรือนเราทุกเช้าค่ำ
ทั้งขายตัวขายชาติขาดศีลธรรม
ใครจะนำศีลส่องสู่ร่องรอย
อย่าท้อนะคนดี..ฉะนี้แล้ว
ฝากกลอนแก้วกรองว่า..เพื่อนอย่าถอย
ดูตัวอย่างทางไม่ดีมีกี่รอย
แล้วจึงค่อยเดินเลี่ยงอย่าเสี่ยงตาม
ใครจะชั่วเช่นไรช่างใจเขา
ตัวของเราทำแต่ดีอย่าผลีผลาม
จงเดินห่างหุบเหวอันเลวทราม
ประพฤติตามรอยบาทพระศาสดา
หมั่นทำดีเผื่อแผ่แก่มวลมนุษย์
สรรพสัตว์สูงสุดจึงควรค่า
อย่าปล่อยให้เสียทีที่ลืมตา
กำเนิดมาในถิ่น..แผ่นดินไทย.
.....
( ฝากให้เพื่อนๆชาวไทยโพเอ็มทุกคน
หมั่นทำดี คิดดี พูดดี..
ถึงแม้ว่าสังคมรอบข้างจะเป็นอย่างไร
ถึงแม้ว่าจะทำความดีอย่างเงียบๆไม่มีใครเห็น
หรือทำความดีแล้วได้รับสิ่งตรงกันข้ามคืนกลับมาบ้าง
แต่อย่าท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะทำความดีนะครับ...)
คิดถึงทุกคนเสมอครับ
แมวคราว..25 มกราคม 2551
25 ธันวาคม 2550 13:27 น.
แมวคราว
ยี่สิบห้าธันวามาถึงแล้ว
ล้วนพราวแพรวแสงสีใกล้ปีใหม่
ซานตาคลอสแบกถุงผ้ามาแต่ไกล
นำของขวัญมาให้เหมือนทุกปี
มองผืนฟ้ามืดมิดวันคริสต์มาส
มีดาวดาษดื่นไปในทุกที่
ฝากดวงใจผ่านลมหนาวคราวราตรี
ใครคนที่คิดถึงอยู่ยอดบูชา
อยู่ไหนหนอคนดีที่แสนรัก
ส่งใจภักดิ์ล้นปรี่นี้มาหา
เข้ากอดกราบอิงแนบแทบบาทา
หลั่งน้ำตาด้วยรักและภักดี
อยู่ภพไหนภูมิไหนขอได้พบ
และประสบแต่ความสุขในทุกที่
ขอติดตามทดแทนคุณฝุ่นธุลี
แม้นบุญมีปลื้มใจแสนได้แทนคุณ
คิดถึงสองมือน้อยคอยกล่อมเกลี้ยง
คิดถึงเสียงเจรจาพาอบอุ่น
คิดถึงความงามน้ำใจละไมละมุน
ยอดพระคุณอยู่เหนือเกล้าเนาแนบนาน
วางมาลัยเหนือโกศฐ์โปรดรับรู้
ถึงแม้อยู่แห่งไหนส่งใจผ่าน
มะลิหอมจัดหามากราบกราน
อฐิษฐานนึกเห็นหน้าน้ำตานอง
ยี่สิบห้าธันวามาถึงแล้ว
ส่งจิตแพร้วเพริศพราวฝากดาวผ่อง
หวังชาติหน้านำหนุนบุญคุ้มครอง
เป็นลูกของแม่จ๋า..อย่าคลาดกัน.
(รักและคิดถึงเสมอ..พระคุณของแม่อยู่เหนือหัวหนือกล้า..ไม่เคยลืม..)
6 ธันวาคม 2550 09:37 น.
แมวคราว
เที่ยวเมืองเหนือแสนสุขสมโต้ลมหนาว
เคียงข้างสาวแดนอัปสรแสนอ่อนหวาน
ถึงหนาวนี้หนาวไหนไม่หนาวนาน
มีนงคราญอิงแอบแนบหัวใจ
จอดรถไว้สุวรรณภูมิกลุ่มเที่ยวท่อง
มุ่งแดนทองแสนงามนามสดใส
แอร์เอเชียท่องทั่วถิ่นแผ่นดินไทย
ชั่วอึดใจบินบึ่งถึงเชียงราย
เที่ยวชมเพลินเดินเลาะลัดวัดร่องขุ่น
เหมือนเป็นบุญยลวัดงามยามแดดสาย
ทั้งหางหงส์เก็จแก้วดูแพรวพราย
เหมือนจะส่ายสะบัดดั้นขึ้นชั้นฟ้า
อีกตัวโบสถ์โรจน์งามอร่ามแอร่ม
ระยับแย้มกระหยักชายทั้งซ้ายขวา
วัดร่องขุ่นขุ่นแต่ชื่อเลื่องลือชา
นามสล่าเฉลิมชัยใสสกาว
จากร่องขุ่นถึงนางแลแค่บัดเดี๋ยว
รถพาเลี้ยวแล่นมาฝ่าลมหนาว
ถึงบ้านดำงามลึกลับระยับพราว
มีเรื่องราวเล่าขานบ้านสีนิล
นามถวัย์ดัชนีนี้ลือเลื่อง
ท่านฉลาดปราชญ์เปรื่องเรื่องงานศิลป์
สร้างบ้านดำมอบไว้ให้แผ่นดิน
ไม่สูญสิ้นภูมิปัญญาค่าควรไทย
จากบ้านดำท้องกิ่วด้วยหิวข้าว
ชวนสาวๆอีกเพื่อนยาหาช้าไม่
แวะมาเยือนเฮือนเต็มจันทร์นั่นเป็นไร
ได้อาศัยฝากท้องกินของลำ
สั่งน้ำผึ้งผสมมะนาวสาวเขาชอบ
ไก่ย่างกรอบเคล้าน้ำจิ้มพาอิ่มหนำ
อีกข้าวซอยชามโตโอ้ส้มตำ
เบียร์เย็นฉ่ำตราช้างช่วยล้างคอ
เจ้าของร้านเป็นทอมดี้มีอายุ
ล้วนบรรลุรุ่มรวยความสวยหล่อ
แสนเสียดายที่ทั้งคู่ไม่อยู่รอ
วันนี้หนออดถ่ายภาพโปรดทราบครับ
อิ่มอาหารเพื่อนไปส่งลงฝั่งท่า
ริมธาราแม่กกไหลให้อยากหลับ
อาข่าริเวอร์ริมน้ำงามระยับ
โงกหงุบหงับบ้างหยอกหมารอท่ารถ
สี่โมงเย็นกว่าๆรถมารับ
สัมภาระพร้อมกับเราทั้งหมด
เกาะโครงเหล็กยึดเหนี่ยวทางเลี้ยวลด
ขึ้นเขาคดคับคั่งฝรั่งไทย
อาข่าฮิลล์ถิ่นนามนี้งามนัก
ควรจักพาคนรักมาอาศัย
ถิ่นดอยฮางเพียงเห็นก็เย็นใจ
เรือนไม้ไผ่ธรรมชาติสะอาดตา
มีทิวเขาลดหลั่นในชั้นหมอก
งามเกินบอกรำพันกลั่นภาษา
ลมระรวยชวยชื่นรื่นอุรา
ละลานตาพรรณไม้ในพงพฤกษ์
ทั้งหนาวลมพรมพร่างกลางไพรเปลี่ยว
ใช่ดายเดียวอ้างว้างกลางดึก
ยินน้ำตกกกไพรไหลระทึก
หวานละมุนอุ่นลึกกรุ่นไอรัก
เดินลัดเลาะเกาะเกี่ยวเที่ยวห้วยแก้ว
ช่างพราวแพรวประกายน้ำยิ่งงามหนัก
แดดทอรุ้งพุ่งประกายเฉิดฉายนัก
เหมือนทายทักเราอยู่มิรู้แล้ว
ลงจากดอยชั่วคราวหนาวจนสั่น
ขึ้นรถพลันผ่านลิ่วเป็นทิวแถว
ล้วนปลูกชาเป็นไร่ไปสุดแนว
ถึงจุดหมายเราแล้วที่ปางช้าง
นั่งเรือข้ามอีกฟากมาจากท่า
เห็นข้างหน้าไม่ไกลมากจากเรือจ้าง
บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรติดรายทาง
ล้านเป็นปางช้างเชื่องต่อเนื่องกัน
เจ้าหนึ่งงวงสองงาล้วนน่ารัก
มาหยุดพักรอคนจ้างริมทางนั่น
นักท่องเที่ยวขี่ชมสมใจพลัน
ต่อรองกันในราคาว่าไม่แพง
แล้วพากันขึ้นช้างย่างเลาะลัด
บ้างก็จัดหากล้วยอ้อยร้อยเป็นแผง
ป้อนช้างด้วยเมตตาศรัทธาแรง
มีคนแย่งชิมอ้อย..อร่อยจัง
ช้างพาเดินเลียบทุ่งมุ่งลงไร่
ตัดเข้าไปริมแม่น้ำงามสะพรั่ง
คชสารลุยวารีมีพลัง
คนก็นั่งชี้ชมสมฤทัย
ลงจากช้างก็ต้องล่องเรือต่อ
บ้างบ่นรอหนาวหน้าอยากมาใหม่
ถึงอีกแล้วบ่อน้ำร้อนได้หย่อนใจ
ที่ผาเสริฐสดใสอุ่นใจครัน
บ่อน้ำร้อนแห่งนี้มีน้ำแร่
มีแต่ที่ดีแท้เป็นแม่นมั่น
เห็นตะกร้าใส่ไข่ดีใจกัน
ซื้อมาพลันลงน้ำแร่แช่สุกดี
อาบน้ำเสร็จกินส้มตำซ้ำไก่ย่าง
ปลาเผาหอมเคียงข้างช่างสุขขี
ซื้อไปตุนบนดอยเราช่างเข้าที
อิ่มพอดีรถมารับกลับขึ้นดอย
แวะไร่ชาบ้านเขาเจ้าของรถ
ลองยกซดน้ำชามาชิมหน่อย
กลิ่นหอมกรุ่นกล่อมกลม
ช่วยอุดหนุนชาวดอยด้วยปรีดา
ขึ้นถึงอาข่าฮิลล์ก็รินเหล้า
ดูดดื่มเคล้านางแก้วที่แนวป่า
ชวนชมม่านราตรีมีดารา
กระพริบตาหยอกเอินเกินรำพัน
ร้องเพลงดาวลูกไก่ในยามดึก
กล่อมไพรพฤกษ์เอ่ยเอื้อนเหมือนดั่งฝัน
ดาวระยิบวิบวับลับลงพลัน
สบตากันแล้วยิ้มแสนอิ่มใจ
จนรุ่งสางสว่างฟ้าอีกคราหนึ่ง
ยังคำนึงแสนปลื้มหาลืมไม่
อาข่าฮิลล์โบกมือลาอย่างอาลัย
ต้องกลับไปก่อนหนาให้อาวรณ์
ขอขอบคุณธรรมชาติสะอาดแสน
ขอบคุณแดนพฤกษ์ไพรใจทอดถอน
มีโอกาสคราวหน้ามาแน่นอน
ลาไปก่อนอาข่าฮิลล์..ถิ่นดอยฮาง.
(อาข่าฮิลล์..28พย.-1ธค.2550)
19 พฤศจิกายน 2550 15:21 น.
แมวคราว
ถ้าเขียนกลอนสร้างสรรค์แล้วมันเหนื่อย
ขอเขียนกลอนเรื่อยเปื่อยดีกว่าไหม..
สังคมเน่าเฟอะฟะช่างปะไร
เป็นเรื่องเขาเรื่องใครใช่เรื่องตัว
ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์คงหมดเรื่อง
นี่มานั่งฝันเฟื่องให้ปวดหัว
ฝันให้โลกสวยใสไม่หมองมัว
เลยเจ็บตัวโดนด่าน่าน้อยใจ
หรือจะเขียนเพ้อพร่ำแนวน้ำเน่า
แบบที่เอาหูไปนาตาไปไร่
เขียนเพ้อเจ้อเอามันตะบันไป
ได้ภูมิใจไปวันวัน..ฉันนักกลอน
เขียนเจื้อยแจ้วเจรจาว่าฉันเก่ง
เขียนบรรเลงเรื่องรักในอักษร
หรือลอกเลียนเขาบ้างเป็นบางตอน
แล้วมานอนมานั่งฟังคำชม
เขียนแบบไร้อุดมการณ์งานขยะ
ดีกว่าจะเขียนสร้างสรรค์มันขื่นขม
ปล่อยสังคมจอมปลอมให้จ่อมจม
เมื่อนิยมกันว่างามก็ตามใจ
มานั่งนึกตรึกตรองมองงานเก่า
ถามใจเราถี่ถ้วนควรหรือไม่
หากทั้งหมดถูกเผาในเตาไฟ
คนเสียใจคือคนด่า..หรือว่าเรา..
ถ้าเขียนกลอนสร้างสรรค์แล้วมันเหนื่อย
ต้องเขียนกลอนเรื่อยเปื่อยแนวน้ำเน่า
บอกตัวเองแน่แน่ว..อย่างแผ่วเบา
กลอนน้ำเน่า..เก็บที่บ้าน..ไว้อ่านเอง...
9 พฤศจิกายน 2550 12:33 น.
แมวคราว
แล้วจะได้เห็นกันในวันนี้
หลังจากที่หลีกหลบไม่พบหน้า
หลังเรื่องราวร้อนร้ายคลี่คลายมา
หลังเย็นชาหมางเมินเดินสวนทาง
เตรียมรอยยิ้มพิมพ์ใจเอาไปด้วย
ยิ้มสวยๆอย่างมิตรไม่คิดหมาง
อาจขลุกขลักเคอะเขินเกินอำพราง
เปิดใจวางทุกสิ่งด้วยจริงใจ
แม้ไม่มีดอกไม้ให้สักช่อ
แต่จะขอสรรค์สร้างทางสดใส
และคงนอนตาหลับยามกลับไป
ไม่ปล่อยให้บางอย่างยังค้างคา
ที่ผ่านมาให้ผ่านไปไม่ขุ่นข้อง
คุยกันอย่างพี่น้องไม่ถือสา
เข้าใจผิดพร้อมเข้าใจใหม่อีกครา
อ่านแววตาเถิดจะเห็นเป็นเช่นไร
แล้วจะได้เห็นกันในวันนี้
ในวันที่หันหน้ามามองใหม่
ยื่นมือมาให้จับพร้อมปรับใจ
น่าจะคุยกันได้...ตั้งนานแล้ว..(นะ)
เขียนให้ความรู้สึกดีๆบางอย่าง...กับคนบางคน..
และสิ่งดีๆอีกหลายอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้..
และนับแต่นี้เป็นต้นไป...
9 พย. 255