2 กุมภาพันธ์ 2551 21:14 น.
แมนมะเนคะยอง
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต จะคิดเศร้า
เหมือนตัวเรา คิดตาม ไม่ถามถึง
แม้นคิดออก ตัวเรา เฝ้ารำพึง
แต่คงยัง ไม่ถึง ซึ่งตัวตน
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต คิดสุขสรรค์
ดั่งสวรรค์ บรรชา นานนาหน
คิดหนอคิด สุขจัง ประดังพล
แต่แปลกคน ที่ว่าสุข กลับทุข์ตรม
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต คิดคิดว่าง
ดั่งตะราง ว่างนักโทษ ไว้โดดข่ม
ที่ว่าว่าง กลับไม่ร้าง ดั่งคำคม
ว่างว่างลม แต่ปาก ยากเข้าใจ
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต คิดคิดโกรธ
มีพิโรธ ร้อนแรง ไฟแสร้งใส่
ร้อนร้อนร้อน ดังช้อนแสง แห่งอุทัย
ลาดโลมใจ ให้ร้อน บ่อนฤดี
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต คิดคิดหลง
วงวนลง ในจิต สนิทสี
เนื้อเดียวกัน แยกไม่ออก บอกไม่มี
สนิทแนบ แอบฤดี หนียังไง
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต ว่าคิดโลภ
ดั่งนกโฉบ บินล่า ปลาฝูงใหญ่
ไม่รู้อิ่ม ชิมรสลิศ บรรเจิดใจ
ยากถอดให้ ตัวรส หมดหมดลง
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต คิดไม่รู้
มัวงงอยู่ กับอาการ พาลให้หลง
ที่ว่าโกรธ ว่าโลภ โอบรอบองค์
ลองพิจลง ตรงหน้า ว่าอย่างไร
โอ้หล่ะหนอ จิตหนอจิต ไงจะรู้
ก็ลองดู แค่มอง ส่องใจไหว
ผัสสะกระ ทบจิต ก็คิดไป
ธรรมดาไซร์ โลกนี้ เค้ามีกัน
2 กุมภาพันธ์ 2551 20:57 น.
แมนมะเนคะยอง
ท่านอาจจริง ใจเล่า ใครจะรู้
เพียงมองดู ไม่เห็น ดังเช่นหมาย
เพียงมองดู อย่างนี้ มีแต่ตาย
เพียงมองชาย สายตา ว่าบ้าบอ
เพียงมองดู ตัดสิน ว่ามิใช่
เพียงมองไป ไม่รอบ ไม่ชอบหนอ
เพียงมองเห็น มิตรึกตรอง ลำพองคอ
แล้วด่าทอ ด้วยคำ พร่ำในใจ
เพียงมองผ่าน ม่านตา อันพร่านัก
ยากจะหัก หั่นฝากั้น บั่นลงได้
มองเพียงด้าน เดียวสอง มิผ่องใจ
มองลงไป ให้รอบ ขอบจิตรา
มองฉันใด แล้วใคร่ จะถูกต้อง
ขอเพียงมอง ให้เห็น เช่นดังว่า
พิจาณาไป มองไป ใกล้มรรคา
แล้วชีวา จะไร้ ภัยพจญ...