16 กุมภาพันธ์ 2554 19:13 น.
แมงกุ๊ดจี่
"การปรากฏตัวของคนหนึ่งคน อาจเปลี่ยนชีวิตคนอีกคนไปตลอดกาล"
อากาศวันนี้ดีฉันนั่งจิบกาแฟอยู่ระเบียงบริเวณร้านกาแฟที่มีอยู่ในปั๊มที่พักระหว่างเดินทางบนถนนสายมิตรภาพ แดดไม่แรงทำให้การมองออกไปนอกกระจกบานใสพาให้อารมณ์สุนทรีไม่น้อย แต่สายตากลับไปสะดุดกับรถเบนซ์สีบรอนซ์เงินคันงามและมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อขั้นเทพเป็นเจ้าของเปิดประตูลงมา เขากำลังเดินเข้ามาในร้าน ผู้ชายคนนี้ดูมีเสน่ห์ด้วยหน้าตาบุคลิกแล้วนับว่าเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมครบครันมากด้วย option ที่สาวๆ ต้องกรี๊ดกร๊าด ฉันแอบมองชายหนุ่มขณะที่กำลังสั่งกาแฟ ท่วงท่าที่สุขุมนุ่มนวล ประเมินอายุแล้วคงจะราวราว 35 up สายตาของฉันแอบตามไปส่งเขาจนถึงโต๊ะ ฉันก็ผู้หญิงคนหนึ่งที่แสนธรรมดาจะไม่หวั่นไหวได้ไงเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ครบครัน (อาวุธครบมือ ก๊าก) อยู่ตรงหน้าแล้วจะไม่มองเพื่อชื่นชม แต่บุพเพคงไม่อาละวาดให้พบรักกับคนระดับนี้ได้หรอกนะ ยิ่งมองก็ยิ่งหวั่นไหวเป็นไปเองโดยไม่รู้ตัว 555
ฉันหยิบมือถือที่ซื้อกล้องแล้วทางร้านเขาแถมโทรศัพท์มา (555..) เพื่อแอบถ่ายนายแบบที่อยู่ในระยะห่างพอสมควร แม้แต่ท่านั่งของเขาก็ยังคงเป็นหนุ่มที่สุขมนุ่มนวล (น่าสงสัยเนาะ ว่าแอ๊บป่าวคริ ๆ) ยิ่งมอง ใจสาวๆ แบบฉันก็แทบละลาย
กดไปหลายชอตเหมือนกัน มีภาพด้านข้างและด้านหลัง ที่บ่งบอกถึงบุคลิกลักษณะของหนุ่มหล่อมาดเท่ห์ และสมาร์ทมากมาย ไม่เห็นหน้าไม่เป็นไร เพราะผ่านมาตรฐานของฉันอยู่ในขั้น ที่หล่อขั้นเทพหน้าตี๋แอบเกาหลีมาก ๆ ตื่น ๆ ตื่นได้แล้ววริน...555
บ่ายวันนี้ฉันจัดการงานเสร็จสิ้นแล้ว ปิดงบเรียบร้อย เฮ้ย! เสร็จซะที
ว่าง ๆ เลยไปอัพเดทสถานการณ์ของประชากรโลกซะหน่อยว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว ฉันไม่ได้ออนไลน์นานมากแล้วนะเนี๊ย เกือบเดือนเชียว โห...เขาไปถึงยุคอวกาศกันหรือยังนะ ฉันรีบล็อคอินรหัสเข้าระบบเครือข่ายเพื่อไปอัพเดทความเคลื่อนไหวล่าสุด หากอยากรู้เรื่องเพื่อนๆ ว่าไปทำอะไร ที่ไหนอย่างไร ต้องไปที่ เฟสบุ๊คเท่านั้น เพราะที่แห่งนี้มีคำตอบ สนองความอยากรู้ของฉันได้ไม่มากก็น้อยล่ะหน่า
ในเฟสบุ๊คทุกคนมีโปรไฟล์ส่วนตัว แต่สำหรับฉันไม่คิดเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดใด ไม่ใช่ว่าเพื่อทำตัวให้ลึกลับน่าค้นหา หรือให้ท้าทาย เพราะสำหรับโลกออนไลน์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเผยตัวตนของเราให้เป็นสาธารณะ ความสัมพันธ์ถูกกำหนดไว้ให้เป็น"ความสัมพันธ์แบบเปิด" หลายคนอาจสงสัยเพราะมันขัดกับโปรไฟล์ที่ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสูง แต่ไม่เป็นไรหากมีโอกาสฉันจะอธิบายให้เข้าใจเพียงออนไลน์ตรงเวลา ตรงใจ
ชื่อผู้ใช้ถูกกำหนดไว้ว่า "วริน" เป็นอักษรย่อภาษาอังกฤษซึ่งมีนัยยะของมันที่รู้เพียงแค่ไม่กี่คน ไม่กี่คนของฉันก็แค่สองอ่ะนะไม่เกินนี้ อิอิ สเตตัสถูกตั้งค่าความรู้สึกในขณะนั้น ในขณะที่เป็นตอนที่ฉันรู้สึกแห้งแล้งในหัวใจ และในความรู้สึกเหลือเกิน ค่าสถานะถูกตั้งไว้ด้วยประโยคที่แสนธรรมดา "ความรัก ความรัก หายไป" เพราะนั้นเป็นความรู้สึกจริงแต่ยากอธิบายให้เข้าใจ
วันนี้ได้ฤกษ์เปลี่ยนสเตตัสใหม่ซะที "ความรัก ความรัก หายไป" ฉันถอนหายยาว ๆ เมื่ออ่านสเตตัสที่กำหนดไว้ก่อนนี้ คงถึงเวลาเปลี่ยนมันแล้วสินะ ช่างเถอะถ้าฉันจะไม่รู้จักความรักอีกต่อไป หรือจะไม่มีโอกาสได้เจอมันอีกกับใครหรืออะไร ฉันก็จะไม่เสียใจ เพราะฉันได้รู้คุณค่าว่ารักเป็นยังไง...และได้เรียนรู้มันบ้างแล้ว ความรักจะต้องการอะไรอีก นอกจากความปรารถนาดีให้กัน...
ฉันจึงไปกำหนดประโยคใหม่ว่า "เพียงพบพาน เพื่อผ่านภพ" ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมันมีความหมายอยู่ในตัวเอง หลังจากอัพสถานะใหม่ฉันจึงท่องไปตามโปรไฟล์ต่าง ๆ ของเพื่อน ๆ เพื่อดูสถานของแต่ละคนว่ากำลังอยู่ในโหมดไหน?
คอมเม้นปลอบใจใครได้ ให้กำลังใจใครได้ ก็เม้นไป คนส่วนใหญ่เหมือนมีสเตตัสเป็นที่ระบายอารมณ์ของตัวเองไปแล้ว อ่านสเตตัสหลายคนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไปทางอารมณ์เศร้ามากกว่า มีไม่กี่คนที่ยังสนุกสนานลั้นลา ตามอุปนิสัยส่วนตัวของเขาเอง
ฉันคลิกกลับมาที่หน้าส่วนตัวของตัวเอง แล้วอัพเดทรูปจากมือถือลงในกระดานส่วนตัวเป็นรูปของหนุ่มเพียบพร้อมที่ถ่ายไว้ เมื่อสองสัปดาห์ผ่านมาแล้ว มีจำนวน สี่รูป เป็นรูปด้านข้างทั้งหมด... แล้วตั้งชื่ออัลบั้มว่า "เทพบุตรของใครกันนะ" ในขณะอัพเดทรูป ได้มีข้อความเข้ามาในกล่องข้อความ ระบบแจ้งเตือนว่าได้ข้อความจาก "ภวัตร นามสกุลขอสงวน"
เอาอีกแล้วผู้ชายคนนี้ เขาต้องการอะไรจากฉันนะ
เขา : "คุณพบใครมาหรือครับ พบแล้วพรากเป็นเรื่องธรรมดา หรือคุณว่าไง?"
ฉัน : "โลกนี้มีคนมากมาย ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ผ่านมาเพื่ออะไร? คุณหาคำตอบได้มั้ยละค่ะ"
ฉันไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยว่าเขาต้องการอะไร เป็นโรคจิตหรือเปล่านะ เอ...อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันบางคนที่อยากจะอำให้ผวาเผื่อฉันจะเลือดผล่านพวกนี้ยังไม่เลิกยังจะตอบกับมาอีก
เขา : "การพบกันผมว่ากรรมเป็นตัวกำหนดให้ได้พบ เป็นบ่วงคล้องไว้เพื่อให้ได้มาพบกัน"
ฉัน : "คุณระลึกชาติได้หรือคะ"
ฉันตอบแบบกวนไปไม่ได้จริงจังอะไรในคำถามและคำตอบที่ส่งกลับไป เอาอะไรกับโลกไซเบอร์
แต่เขาก็ยังตอบกลับมาอีกอะไรนะผู้ชายคนนี้ น่ารำคาญจริง
เขา : "ไม่หรอกครับ ถ้าระลึกชาติได้ผมคงไม่นั่งเล่นเฟสบุ๊คหรอกครับ 555"
ฉัน : "อึ่มมมมมมมมมมมมม...ค่ะ โอเค.นะ"
เขา : "คุณครับ ผมชอบภาพที่คุณอัพเดทวันนี้มากเลยครับ"
ฉัน : "ค่ะ ขอบคุณ ฉันถ่ายด้วยความบังเอิญ"
อ่านจบฉันก็พลางคิดในใจว่าผู้ชายคนนี้คงเป็นเกย์ 555 ที่ชอบภาพผู้ชายเจ้าสำอางค์ที่ฉันแอบถ่ายมาอิอิ... ฉันชักรำคาญผู้ชายคนนี้แล้ว หงุดหงิดแบบอธิบายไม่ได้หงุดหงิดทำไมนะ ทำให้ฉันอยากรู้ข้อมูลของเขาบ้าง ฉันไล่หาดูรายชื่อเพื่อนเพื่อหาชื่อ "ภวัตร นามสกุลขอสงวน" ก็อดขำไม่ได้คนไรมีนามสกุล "ขอสงวน" จะอะไรก็ช่างไม่จำเป็นต้องสนใจ ที่ทำให้คลิกดูเพื่อนคนนี้เพราะข้อความของเขาในกล่องข้อความทำให้อยากรู้ว่าใคร อะไร ทำไม ต้องการอะไร? ผู้ชายคนนี้ไม่มีรูปที่แสดงว่ามีรูปร่างรูปสมบัติหล่อมากหรือน้อย เขาใช้รูปรถเบนซ์สีบรอนซ์เงิน C180 แทนภาพถ่ายตัวเอง ทำให้ฉันคิดไปว่าเขาคงจะคลั่งรถบนวิถีไฮโซ แต่ทุกคนก็คงมีสิทธิ์ฝันสินะ ต่อไปก็ดูข้อมูลส่วนตัว จากโปรไฟล์ทำให้รู้เพียงว่าเขาเป็นเพศชาย อืม.. สเตตัสบนเฟสบุ๊คของเขาอ่านแล้วก็งงดี "ปล่อย วันนี้เธอแค่ปล่อย........" ทำให้คิดไปว่าคงปลงสังขาร อะไรประมาณนั้น 555 จากที่โต้ตอบสนทนาผ่านกล่องข้อความฉันคิดว่าผู้ชายคนนี้แปลกประหลาด และสัณนิฐานไปไกลว่าเขาอาจเป็นโรคจิตที่แฝงตัวในโลกไซเบอร์ หรือเขาอาจมีอะไรในใจ แต่ไม่ใช่ธุระของฉันที่จะต้องไปสนใจว่าเขาเป็นอะไรและค้นหาความเป็นตัวตนของเขา ทำให้ต้องจบการสนทนาไว้เพียงเท่านั้น เพราะรู้สึกว่าอันตรายกำลังจะมาถึงตัว ในโลกไซเบอร์เราไว้ใจใครได้ รู้หน้าบางทียังไม่ไม่รู้ใจเลย เอาอะไรมากกับโลกเสมือนจริง
ภวัตรยิ้มกรุ่มกริ่มมุมปากอย่างอารมณ์ดี ระคนดีใจ และแปลกใจ
เพราะรูปที่หญิงสาวนามผู้ใช้ "วริน" อัพเดทนั่นเป็นรูปของเขา
"เพียงพบพาน เพื่อผ่านภพ" พรหมลิขิตมักเล่นตลกกับคนเราเสมอสินะ เขาบ่นกับตัวเอง...
แบบว่า "วริน" ไม่จะบาย เฮ้ย มะกรูดไม่ค่อยสบายดิ 555 แบบเร่งด่วน เพิ่งจะฟื้นจากไข้รุมค่ะ สมองเบลอนิด ๆ นะคะ อากาศแปรปรวนรักษาสุขภาพกันนะคะ ฝนตกอากาศหนาวเดี๋ยวเป็นหวัดกันนะคะ
9 กุมภาพันธ์ 2554 21:31 น.
แมงกุ๊ดจี่
วิวัฒนาการที่ทันสมัยด้วยระบบเน็ตเวิร์คย่อโลกให้เล็กลง
ทำให้การสื่อสารสะดวกและรวดเร็ว ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีหลากหลายรูปแบบให้ใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้เวลาว่างจากกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อใช้วิวัฒนาการที่ทันสมัยนี้แทบจะทุกวัน ก่อนที่ผมจะเข้านอนเพื่อคอมเม้นในเพจที่กำลังนิยมกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ อย่างเฟสบุ๊ค ทุกคนมีสเตตัส เพื่อแสดงสถานะในแต่ละช่วงเวลา ความรู้สึก บอกถึงความเคลื่อนไหวของภาวะจิตใจ ที่กำลังย่ำแย่ หรือร่าเริง บันเทิง ฯลฯ
เธอผู้หญิงที่ผมแอดเพราะชอบสถานะของเธอเข้า จะด้วยเหตุผลอะไรผมไม่สนใจ ผมไปสะดุดกับสเตตัส ที่เธอเขียนว่า "ความรัก ความรัก หายไป" ผมแปลกใจและคิดอยู่กับประโยค ที่เธอกำหนดไว้ ปกติผมไม่เคยจะสนใจหรอกว่าใครจะตั้งสถานะตัวเองยังไง ทำไม ?
แต่วันนี้ผมรู้สึกเศร้า ๆ ในความรู้สึก ผมอกหักจากสาวเภสัชฯ ที่เธอมีแต่ความมั่นใจในตัวเอง คิดและตัดสินใจโดยไม่สนใจว่าใครจะ แคร์เธอ หรือเธอจะแคร์ใคร เธอสลัดรักผมเพื่อมีคนใหม่เหตุผลเพราะผมไม่มีเวลา อาการผมจึงรู้สึกห่อเหี่ยวในรู้สึกอย่างประหลาด พออ่านสถานะของเธอคนนั้น ในเฟสบุ๊คเข้า ผมก็เข้าใจว่าความรักผมหายไปกับสาวเภสัชฯ แสนสวยที่คบกันมานาน
ทำไมผมจึงอยากรู้ว่าอาการของเธอจะเหมือนผมไหม? และอาการของผมใช่อาการของความรักหายไปมั้ย? ทำให้ผมอยากรู้คำตอบ คนอกหัก มักจะหาคนที่เข้าใจกัน หัวอกเดียวกัน เพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้นว่ามีคนเข้าใจ...
ผมไม่รอช้า รีบทักทายเธอบนกระดานสนทนาในขณะที่เธอกำลังออนไลน์
ผม : "ความรักไปไหนครับ"
เธอ : "ยังคงอยู่ ไม่ได้ไปไหนค่ะ"
มันยิ่งทำให้ ผม งง และสนใจคำตอบของเธอ หรือที่ประกาศเพียงเรียกร้องความสนใจ ทำให้ผมผิดหวังว่าจะเจอคนเข้าใจแต่กลับไม่ ผมไม่ยอมหรอกถ้าเธอจะมาหลอกความรู้สึกกันแบบนี้ ทั้งที่ความเป็นจริงเธอไม่รู้เรื่องกับความรู้สึกผมเลย แต่ผมกลับไม่ชอบใจกับคำตอบของเธอทำให้ผมต้องเป็นคนเริ่มต้นแชทกับเธอผ่านโปรแกรมแชทที่มาพร้อมกับเว็บบราวเซอร์ของเฟสบุ๊ค
ผม : "สวัสดีครับ อยากรู้จักครับ"
เธอ : "สวัสดีค่ะ ฉันกำลัง Busy"
แล้วเธอก็เงียบไป ทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดกับสิ่งที่เธอพิมพ์กลับมา...แล้วเธอก็ไม่ตอบกลับอีกเลย ผ่านไปหลายวันเธอยังคงใช้ประโยคเดิมบนสเตตัสของเธอ ผมก็ยังไม่หายจากอาการที่เป็น ยังคิดถึงสาวเภสัชฯ ที่เธอหักอกผมไป... ทำไมผมจะต้องอกหักด้วยในเมื่อผมมีพร้อมทุกอย่าง รูปสมบัติที่หล่อขั้นเทพแอบเกาหลีหน้าตี๋หน่อย ๆ การงานมั่นคงดี เบนซ์ก็มีขับ ทำไมผมจะต้องแคร์ ผมไม่ได้ยกย่องสรรพคุณหนุ่มเพียบพร้อมของตัวเองเกินไปหรอก เพราะมันคือเรื่องจริง
ผมอ่านทวนสเตตัสของเธอหลายรอบแล้วเวลานี้ "ความรัก ความรัก หายไป" ผมติดอยู่กับประโยคนี้ของเธอ มันทำให้ผมยากรู้เรื่องของเธอ อยากรู้ว่าประโยคนั้นมันมีความนัยอะไรกันแน่ ความรักหายไปไหน หรือเธอจะอกหักเหมือนผม ผมยังไม่วายจะหาเพื่อนร่วมเส้นทางอกหักของตัวเอง เวลาแบบนี้มันช่างรู้สึก โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนเสียจริง ลูกผู้ชายแบบผม ไม่กินเหล้าเที่ยวผับเวลาอกหักแบบนี้ไม่จำเป็นต้องดื่มเพื่อลืม..
ความค้างคาใจกับประโยคบนสเตตัสของผู้หญิงคนนั้น ทำให้อยากรู้อยากเห็นภาวะใจของเธอว่าจะเหมือนกันไหม ผมจึงส่งข้อความถึงเธอ เพื่อทำความรู้จักและตั้งคำถามเพื่อให้เธอได้ตอบกลับมา...
"ความรักสวยงาม แล้วทำไม? คุณช่างกล้าทำหล่นหาย ผมภวัตรครับ"
ผมเฝ้ารอคอยการตอบของเธอเป็นสัปดาห์กว่าเธอจะตอบกลับมา ผมเข้าเฟสบุ๊คแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อรออ่านคำตอบของคำถามที่ผมถามเธอไป อย่างน้อยช่วงเวลาแบบนี้ก็ทำให้ผมเลิกคิดเจ็บปวดชั่วครา แต่หันมากระวนกระวายกับการรอการตอบกลับของหญิงสาวไร้ตัวตนบนไซเบอร์....
และแล้วผมก็ได้รับการตอบกลับมา ผมรู้สึกว่ายาวนานมากกับคำตอบของเธอ
"ความรักสวยงามจริง สวยจนไม่กล้าทำหล่นหาย วรินค่ะ"
ผมกระหยิ่มใจที่ทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว ผมรู้จักชื่อเธอ "วริน" ผมจึงตอบกลับไปและคุยกันอยู่หลายรอบ
ผม : "ความรักสวยงาม แสดงว่าความรักคุณไม่ได้หายไปไหน ใช่ไหมครับ"
เธอ : "ฉันเคยเห็น เคยเจอความรัก และรู้ว่าสวยงามมาก และยิ่งสวยงามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจ็บปวดเท่านั้น"
ผม : "คุณอกหัก ผิดหวังจากความรักงั้นหรือ ?"
เธอ : "ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้อกหัก เพียงแต่เก็บไว้ดีเกินไปเสียจนหลงลืมแล้วว่าเก็บไว้ตรงไหนของหัวใจ"
ผม : "คุณเคยอกหักมาแล้ว และผิดหวังมาแล้ว แล้วทำไมความรักเพิ่งมาหายเอาตอนนี้ละครับ"
เธอ : "คนเราย่อมรู้ใจตัวเองมากกว่าใคร คุณว่าจริงไหม? ฉันรักใครไม่เป็น...โอเค. คุณคงหมดคำถามแล้วนะ"
เธอตัดบทผมเสียแล้วผมจึงหยุดการสนทนาผ่านกล่องข้อความเพียงเท่านั้น
แต่ผมแอดเธอผ่านโปรแกรมแชท MSN ผมเริ่มสนใจในผู้หญิงไร้ตัวตนและ อาจไร้หัวใจเพื่อรักใคร ทำให้ผมคิดแทนเธอ พร้อม ๆ กับคิดถึงเรื่องตัวเอง ความรักของเธอคงจะเจ็บปวดมากหรืออาจเข็ดขยาดกับรัก
หญิงสาวจ้องหน้าจอ...
แล้วบ่นพรึมพรำ "ผู้ชายไรมาหลอกถามเรื่องความรักตรู โรคจิตป่าวว่ะ"
แล้วเธอก็กลุ้มทำงานที่กองตรงหน้า
ขอไปคิดภาคต่อก่อนนะ อิอิ