23 ธันวาคม 2554 07:41 น.
แมงกุ๊ดจี่
ผมนั่งกดดูเบอร์โทร.ใน contact list ที่มีอยู่ในโทรศัพท์รุ่นล่าสุดที่นำสมัย
วันหยุดที่เงียบเหงาผมนั่งแง่วอยู่มุมทำงานภายในบ้าน
เพ่งอยู่กับหน้าจอคอมพ์ กับเวปบราวเซอร์ เช่น Facebook Thaipoem
kapook sanook pantip ฯลฯ ไม่มีอะไรน่าสนใจในเวลานี้
(มีไทยโพเอมด้วยนะ ฮ่าๆ)
ตอนนี้ผม...รู้สึก
อยากโทร.หาใครสักคน แต่ผมไม่รู้จะโทรไปหาใคร และไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นอะไร
อารมณ์เหงางั่นหรอ? ผมไม่เคยเป็นแบบนี้
ผมไล่ดูเบอร์ น้องส้ม น้องกิ๊ฟ น้องเตย น้องจิ๋ว น้องดิว น้องก้อย น้องฟ้า น้องเชอรี่....ฯลฯ
ไม่มีน้องคนไหน? ที่ผมอยากโทร.หาเลย
ผมอยากโทร.หาเธอคนหนึ่ง
แต่ผมไม่มีเบอร์ของเธอ อารมณ์แบบนี้ถ้าได้คุยกับเธอ
คงทำให้ชีวิตของผมตื่นเต้นไม่น้อย แต่มันจนด้วยเกล้าครับผมไม่มีเบอร์ของเธอ...
ในยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์คแบบนี้
ก็ยังทำให้ผมเหงายิ่งกว่าเดิมอีก เพราะมันทำให้ผมห่างเพื่อนออกไปทุกที
พอวันนี้ ผมต้องการเพื่อนสักคนกลายเป็นว่าไม่มีใครว่างสำหรับผมเลย
ผมคงอยู่ในโลกเสมือนนั้นมากเกินไป
ผมอยากรักผู้หญิงสักคน...
แต่นั่นมันเหมือนเป็นโจทย์ที่หาคำตอบไม่ได้นานมาแล้ว
เพราะผมไม่เคยคบใครได้นานสักคน
ผมรู้สึกเหมือนรอ...รอ...แล้วก็รอ...รอผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจริงๆ
เธออาจจะมีอยู่ในนิยายเท่านั้น
ผมอยากถามคุณๆ ทั้งหลายว่า...
"คุณมีใคร ที่เก็บไว้ให้ฝันหวานบ้างไหม?"
"ความฝัน" ใช่ฝันหวาน ฝันเพ้อ ฝันกลางวัน ฝันละเมอ
อาจเป็นเพียงจิตนาการ แต่ไม่ใช่ฝันเพ้อ จนต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับ
หรือเกินความเป็นจริงจนแยกไม่ออกว่าอะไรคืออะไร....
มันเป็นเพียงความรู้สึกหวานที่ติดอยู่ในใจทุกครั้งที่คิดถึงเขา...
ผมรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝัน...
การเปลี่ยนแปลง "คนแปลกหน้า" ให้เป็นคนของใจ เป็นอะไรที่เป็นไปได้
แต่สำหรับผมและเธอ คงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นไปได้...
เพราะผมไม่มีความกล้ามากพอที่จะเปลี่ยนแปลงให้มันเกิดขึ้น...
ความคิดที่ "ไม่กล้า"
มันทำให้ผมโยนโทรศัพท์รุ่นที่มีความเสถียรล้ำสมัยในยุคโซเซียล...
ดังปึกกกกกกกกกกก...ลงบนเบาะรถฝั่งตรงข้ามคนขับ
ผมทำไม? รู้สึกเหงาและอยากพบเธอ...
ความรุ่มร้อนในใจทำให้ผมต้องเอาธรรมะเข้าข่ม
"ถ้าหากผมกับเธอมีวาสนาต่อกัน บุพเพคงทำให้ผมและเธอได้ใช้เวลาร่วมกัน
เพื่อสร้างรอยกรรม ผูกพันกันในปางนี้" จริงๆ มันผิดวิสัยของสุภาพบุรุษแบบผม...
ที่จะคิดเหนี่ยวน้าวจิตใจเข้าหาพุทธวจนะ
ผมถอนหายใจเหือกยาว....
แล้วเคลื่อนรถหรูมุ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ถึงจุดหมายคือคอนโดน้องจิว อิอิ...
15 ธันวาคม 2554 21:49 น.
แมงกุ๊ดจี่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต...
นานมากแล้วนะ
ที่ลูกไม่ได้เขียนจดหมายถึงแม่..
นานเพราะแกล้งลืมแม่ไปชั่วขณะ T__T" น่าตีจังเนาะ คริคริ.
ก็ลูกไม่อยากให้แม่รู้ว่าลูกไม่สบายใจนี่โน๊ะ...
อยากกอดแม่จัง...
ถ้าได้อ้อมกอดจากแม่คงรู้สึกอบอุ่น ในวันหนาวเหน็บ
และรู้สึกมั่นคงมากกว่าที่กำลังเป็น...
ณ เวลานี้ความไม่ชัดเจนกับเรื่องราวบางอย่างทำให้ความเชื่อมั่น
ความมั่นใจที่เคยมีลดลง จะคิดจะตัดสินใจก็ไม่หนักแน่นอย่างควรจะเป็น...
วันนี้มาถึงทีไร...
เหมือนย้ำเตือนให้รู้ว่าปีเก่ากำลังจะผ่านไปอีกแล้ว...
ความรู้สึก...เหมือนปีนี้ผ่านไปไวมาก เพราะยังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง
เขาว่ากันว่า "เวลาของความสุขมักผ่านไปเร็ว"
ซึ่งตรงข้าม
ถ้าหากเป็น "เวลาแห่งความทุกข์กว่าจะผ่านพ้นช่างเนิ่นช้า"
ใช่แล้วคะแม่...
ปีกระต่ายเป็นปีทองของลูก
ลูกมีความสุข มีความหวัง มีเรื่องราวดีดี เกิดขึ้นมากมาย
ปีนี้ลูกค้นพบว่าชีวิตมีค่า การใช้ชีวิตแม้ว่าจะเป็นของยากแต่ทุกย่างก้าวนั้น
มีอะไรมากมายให้เราเรียนรู้ และยอมรับ ว่านั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมดาของโลก
ตั้งแต่วันที่รู้ว่าแม่จะไม่อยู่ด้วยมันเศร้า
แต่พอเวลาผ่านกลับทำให้ลูกเสียดายเวลา ที่เกือบสิบปีที่ลูกปล่อยให้ความเศร้า
และความทุกข์บดบังเรื่องราวดีดีที่ผ่านเข้าในทุกๆ นาทีแห่งชีวิต
ลูกน่าจะรู้ และค้นพบเร็วกว่านี้
ว่าในทุกลมหายเข้า-ออก นั้นมีค่ามาก...สำหรับเราและผู้คนรอบข้าง
ปีนี้ตลอดปีลูกค้นพบว่าทุกเวลาทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวนั้นทำลูกอยู่ได้อย่างมีความสุข
ทุกคน ทุกสิ่ง ที่อยู่รายล้อมสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ลูกยิ้มได้อย่างสดใส
หรืออาจเป็นเพราะประสบการณ์หล่อหลอมให้ลูกเติบโตทางความคิด
ทำให้มุมมอง การคิดวิเคราะห์สามารถมองมุมกลับ มองทุกอย่างรอบคอบขึ้น
พร้อมยอมรับในเหตุและผลที่เข้ามาให้เรียนรู้
ทุกวันนี้ลูกอยู่ได้อย่างมีความสุขอาจเศร้าบ้างเวลาคิดถึงแม่...
แต่ลูกรู้ว่า...
แม่อยู่เคียงข้างเสมอๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ลูกไปหาพ่อ...
ปีนี้พ่อดูแก่ไปมาก สุขภาพก็ไม่ค่อยดีแต่ก็ตามประสาคนแก่ล่วงตามวัย
เขาก็ดูแลพ่อดีนะ ดีจนลูกก็อดเกรงใจไม่ได้ คงเป็นบุญของพ่อที่เขารับช่วงดูแลพ่อต่อจากแม่
และดูแลได้ดี แม่ไม่ต้องห่วงพ่อหรอกนะ แต่พ่อกลับมาห่วงลูกแทน จริงๆ แล้วน่าจะดีใจ
ที่ลูกอยู่ได้อย่างมีความสุข อยู่ได้อย่างไม่ได้ผูกเวร หรือมีบ่วงใดใดมาคล้องไว้อยู่สบายอย่างตัวปลิว
แม่ไม่ต้องห่วงลูกแล้วนะคะ
ทุกย่างก้าวของลูกจะสง่างามเหมือนที่แม่เคยวาดไว้...
ลูกคิดถึงแม่ค่ะ ^___^
ดาวสวยฟ้าใส : อุ่นไอหนาว
๑๒.๑๒.๒๕๕๔:๐๐.๑๒.๐๙
8 ธันวาคม 2554 20:03 น.
แมงกุ๊ดจี่
ชีวิตวุ่นๆ ในสัปดาห์ก่อนสิ้นเดือน
ที่เมื่อก่อนสบายสบายแบบพี่เบิร์ดมานาน
แล้วสัปดาห์นี้งานมารุมมาตุ้มอะไรตอนนี้ว่ะเนี๊ย
ต้องหอบแฟ้มตามเจ้านายหยิกๆ ตรูเหนื่อยน๊าาา อิอิ
ถ้าบ่นแบบนี้ กิ๊กดร. ก็จะบอกว่า"บ่นทำไมคร๊าบบบบบ ไม่ได้เงินเดือนหรอคร๊าบบบบ" (ฮ่วยพ่อใหย๋นิ โย่วว) คำปลอบโยนของด๊อกเตอร์เป็นเริดจริงๆ เล่นเอาวารีรัตน์ออกแร็ฟโย่ววว แทนอาการเหวี่ยงรอบทิศได้ชะงักเลย
เข้าเรื่องดีกว่าเนาะ วารีรัตน์ถูกระบุชื่อให้เดินทางเข้ากทม. ในวันที่ 30 พย. 2554 เวลา 06.00 น. เจ้านายบอกว่าต้องไปนะ โอ่ยจะสิ้นปี จะให้ไปทำไมค่ะ เจ้านายจ๋า หนูเหนื่อยแล้วน๊า ขอหนูพักบ้าง อิอิ และทำไมหนูจะต้องเดินในวันนี้ วันที่ 30 ด้วย แง ๆ แต่ก็ไม่เป็นผลเจ้านายบอกว่าถ้าขัดคำสั่งมีความผิด 555 ไปก็ไปว่ะ
เดินทางถึง กทม. 17.00 น. เสียงโทรศัพท์คนบางแค แคร์บางคนบอกว่าจะพาไปทำบุญ ไปสวดมนต์แต่สุดท้ายเฮียบอกว่าไม่อัพเดท เขาไม่ได้จัดงานเขาเลื่อนออกไป อิอิ เอาแล้ว หลอกตรูอีกแว้วววว....แต่ก็ไม่เป็นไรผิดแผนอีกแล้วตรู
จากนั้นก็เดินทางออกไปหนองแขมเพื่อดูที่พักให้เด็กในสังกัดและไปดูสภาพ ที่เขาจะเยียวยา เห็นแล้วก็โอ้โห...ความเสียหายประมาณค่าไม่ได้ด้วยสายตาตี่ๆ ของวารีรัตน์ไม่ได้หรอกเนาะอิอิ
แต่เพลียจัดแล้วฮ่ะ อยากพักแล้วอยากเข้าที่พักแล้ว แต่ที่พักวารีรัตน์อยู่ใจกลางกทม. โอ้มายก๊อดนั่งรถอีกสองชั่วโมงวารีรัตน์เริ่มงอมแล้ว และจะงอแงแล้ว หนูจะนอนพักแล้วไม่ไหวแล้วคร่าาาาารุ่งเช้าวันที่ 1 ก็เข้ารับการดัดนิสัยเต็มวัน อ่อนล้าสมอง อ่อนล้าพลังงาน จะชาร์ตไงดีเนี๊ย เพื่อนตรูไม่มีใครว่างเลย ช่างเถอะตรูนอนเฝ้าห้องก็ได้ฟร่ะ แต่ขอบอกแอร์ก็ไม่เย็นฮือๆ ตื่นมาดึกๆ เหงื่อทั่วเลยวารีรัตน์ โอ้ยอะไรเนี๊ย...
วันที่ 2 มีภารกิจที่จะต้องทำอีกอย่าง พอภารกิจเสร็จเรียบร้อยวารีรัตน์รีบกระซิบพี่สาวร่วมห้อง เราซิ่งกันเถอะ อิอิ เราโดดร่มกันอิอิ ส่งสัญญาณเตรียมความพร้อมคนของพี่เขาก็มารับแล้วไปส่งของขวัญให้พี่รี วารีรัตน์เตรียมของขวัญที่สาวๆ ทวงออกอากาศกันพอดีได้โอกาสหิ้วกระเป๋าที่ถักไว้ด้วยรักนำมามอบให้แต่ละนาง
เสียงโทรศัพท์สายด่วนมากจากพัทยา...
พอรับสายก็บอกว่าเจ้หนูจะเอากระเป๋าไปส่ง ต้อนรับเลยเจ้แกไล่ค่ะ ใจร้าย555
ไล่ให้วารีรัตน์ไปลพบุรี หึจำไว้เลย คริคริ... ชวนไปด้วยก็ไม่ไปเชอะ !!! เลยชวนพี่สาวคนดี พี่สาวคนดีน่ารักจะไปด้วยกันเป็นเพื่อนกัน ก็ร่าเริงอะจิ มีคนไปด้วยแล้ว เย้ๆ
แต่นัด 19.00 น. โอเคจะรอ ก็เดินฆ่าเวลาตายไปหลายชั่วโมง สระผม ดื่มกาแฟ ตาก็จะปิดเพราะไม่ได้นอนสองคืนรวด อ่อนเพลียไปทั้งตัวเดินจะไม่ไหว แต่ก็รอ อิอิ รอบางคนยังรอได้มาตลอดชีวิต แค่เพียงสักนิดทำไม? วารีรัตน์จะทำไม่ได้ (แต่ก็เกือบหลุด 555 )
แต่ที่ทำให้เพลียเข้าไปอีกคือ หนูตกรถ รถคิวสุดท้ายออกไปแล้วเพราะรถติดทำให้การเดินทางไม่สะดวก พี่สาวคนดีเดินทางมาถึง 20.00 น. โอ้ม่ายยยยยยยยยยจริง กะจะไปซื้อตั๋วรอ รถออกไปแล้ว ฮ่าๆ สนุกแล้ว เอาไงกะชีวิตเนี๊ย...
พอพี่สาวคนดีมาถึง ก็เลยรีบบอกว่าตัวใครตัวมันแร่ะ กลับบ้านใครบ้านมัน
เอาไปของขวัญไม่ถือแระหนัก แล้วกลับบ้านนอนซะ อิอิ ตอนนั้นไม่อยากไปไหน? แล้ว เหนื่อยใจจะขาดแล้ว แต่พี่สาวคนดีก็น่ารักมากแก้ไขสถานการณ์แบบฉับไว ทันเหตุการณ์ ถ้ามีแรงตอนนั้นสงสัยจะเดินขึ้นแท็กซี่ไปแว้ววว
คนแรกที่พี่สาวคนดีคิดถึง เป็นเพื่อนที่ไม่เจอกันหกปี แต่สามารถมาแก้ไขสถานการณ์ได้ (พี่หมูเป็นเลิศ ฮีโร่ของหนู อิอิ) อีกประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อนพี่สาวคนดีก็มา วารีรัตน์กระโดดขึ้นรถได้ขอหลับก่อนเลยไม่ไหวแล้วอ่อนล้าไปทั้งตัว แล้วก็หลับไปกับความอ่อนเพลีย มาถึงลพบุรี ฮีโร่ของหนูก็พาตรงไปร้านพี่ยาแก้ปวดหัวใจ เด็กกำลังเก็บร้านแว้ววว ถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆๆ วารีรัตน์เดินเซลงจากรถเลย 555
พี่ยาแก้ปวดและน้องเฌอมาลย์ดริ้งรอแบบว่ากำลังได้ที่
ทำให้หายจากอาการปวดหัวและเครียดกับเรื่องเมื่อบ่าย อิอิ
คนนึงจิบเบียร์สิงห์ อีกคนกรึบรีฯ โอ้...ไม่น่าเชื่อว่าสองคนนี้จะซี้กันได้ขนาดนี้
คงเพราะชอบกันคนละแบบไม่มีใครแย่งใคร ก็เลยคบกันได้อย่างลงตัว แต่สองคนนี้เขาน่ารักนะคะ ทุกคนที่ไปแวะเวียนหาจะดูแลเป็นอย่างดีจนบ้างครั้งก็อดเกรงใจไม่ไดเลย พอไปถึงหย่อนก้นนั่งลงไม่ทันไร เหมือนมีสัญญาณเตือนภัยพี่หมูของนู๋ ถูกจัดแน่ชัวร์ 555 และมันก็เป็นอย่างที่คิด ฮีโร่ของนู๋ถูกสัมภาษณ์ทุกอย่างจนไม่รู้จะตอบไง ฮีโร่ได้แต่นั่งบิดไป บิดมา 555 น่าสงสารมาก ไม่น่าเลยไม่น่าหลวมตัวมาเลยพี่หมูคงคิดในใจแบบนี้ เพราะพี่เขาโสดด้วยอ่ะนะ แถมหน้าตาดี พ่วงด้วยหน้าที่การงานมั่นคงถาวร 555 หุ่นเท่ห์ สมาร์ท สูงฉลูดตูดปอด 555 ผู้ชายคนนี้สมบูรณ์แบบจ้า อิอิ แหมรู้งี้นู๋จีบเอาแร่ะ 555 แต่ยังติดเพลียอ่อนล้า เลยไม่ออกอาการตาวาว 555
ดึกมากแล้วตี 3 เราต้องไปสู่ฮีโร่ของหนูเข้าที่พักก่อน เพราะหนูเองไม่ไหวแร่ะเหมือนกันจ๊ะ หลังจากส่งฮีโร่ของหนูเสร็จเราก็ไปค้างที่บ้านน้องเฌอมาลย์ กลับก็หลับกันสนิทเลยจ้าด้วยอาการอ่อนเพลีย ให้พักผ่อนกันเต็มที่ พี่ยาแก้ปวดนัดเที่ยงจะมารับไปกินข้าวด้วยกัน และไปถ่ายรูปกับต้นทานตะวันแคะ 555
(แคะจริงๆ นะ) ทายสิเท้าใครเอ่ย???
ถ่ายรูปจนเหนื่อยเราก็ไปอ่างซับเหล็กเพื่อนนั่งรับลมเย็นๆ เอาบรรยากาศซะหน่อย เราสนุกสนานกับการถ่ายรูปตลอดทั้งวันเลย 555
ต้องขอโทษด้วยวันนี้ต้องรีบนอน อาการหวัดก็ยังไม่หาย
พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ไว้ค่อยมาเพิ่มรายละเอียดเนื้อหาให้ใหม่ทีหลังนะคะถ้ามีเวลา
ขอบคุณนะคะ พี่ยาแก้ปวด น้องเฌอมาลย์ และพี่สาวคนดี
สำหรับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นเสมอ ๆ ทุกครั้งที่พบกันมะกรูดจะเก็บ
ทุกความรู้สึกประทับประดับใจอย่างนี้เสมอไปค่ะ
ไหนๆ ก็ไหนๆ ได้ลงรูปแล้ว ก็ประกาศ!!!!!! มันตรงนี้แร่ะกันนะคะ
คือว่า "แมงกุ๊ดจี่" ไม่สวยแต่จนพร้อมรวยด้วยหนี้สิน รับสมัครชายหนุ่มโสด
สถานภาพโสดนะคะ (โฉดชั่วคราว แฟนเผลอไม่รับ)
ถ้าใครสนใจ ส่ง Resume อย่างละเอียดมาได้ที่(.........................)
ด่วนนะคะรับจำนวนแค่ 1 อัตราเท่านั้น คริคริ
ถ้าท่านติดต่อภายในเที่ยงคืนนี้ ท่านจะได้ของแถมพร้อมหนี้สินเพียบ 555