31 ตุลาคม 2552 18:15 น.
แมงกุ๊ดจี่
ยังเหลือเพียงรอยจางเพราะห่างไกล
นานเท่าไหร่คอยเคียงแต่เพียงหนึ่ง
ความผูกพัน...ทรงค่าอย่างตราตรึง
นัยคำนึง...พร้อมเคียงเพียงหนึ่งชาย...
บนวิถี...ก้าวไปแม้นไหวหวั่น
บ้างโศกศัลย์บ้างเหงายามเปล่าดาย
เพียงผินมองดาวเดือนก็เลือนหาย
ได้ผ่อนคลาย "คิดถึง" ซึ่งบางใคร...
เดียวดายเหงาเจ็บหนาวคราวถวิล
ปล่อยดวงจินต์ปลิดปลิวลอยลิ่วไหว
ลมหนาวพลิ้วพัดโชยก็โหยไห้
อยากอยู่ใกล้...อิงกายแต่ชายเดียว...
เหลือหนึ่งใครเดินตามรอยความหลัง
เกินข้ามฝั่งความเหงาอันเปล่าเปลี่ยว
มิคลอนแคลนทรงจำย้ำแน่นเหนียว
ดุจเชือกเกลียว...ผูกพันอย่างมั่นคง...
ก็ตระหนัก...รักเป็น...เส้นขนาน
ถูกเพรงกาลแบ่งคั้นกั้นประสงค์
สักวันหนึ่ง "จำหยุด" สิ้นสุดลง
จินต์ดำรง...ตราบสิ้นดวงวิญญาณ....
23 ตุลาคม 2552 01:01 น.
แมงกุ๊ดจี่
คือความเหงาชั่วคราวเปรียบราวฝัน
คล้ายสัมพันธ์ลางเลือนจึงเลือนหาย
แค่บางครั้งแรงอ่อนเพียงผ่อนคลาย
แท้เปล่าดายปลายทางระหว่างเรา...
คนสองคนเพียงพบแล้วลบเลือน
ผ่านวันคืนเสมือนกลบเกลื่อนเหงา
ปล่อยหัวใจดับกระหายระบายเศร้า
ร่วมบรรเทาปลอบประโลมเร้าโรมใจ
ผ่านแล้วเลย...อย่าย้อนอาวรณ์ถึง
"รักหวานซึ้ง" นิยามความอ่อนไหว
ข้อตกลงแสนเสรีไม่มีใจ
รักมิเป็นของใครในความจริง...
10 ตุลาคม 2552 19:00 น.
แมงกุ๊ดจี่
ถ้อยใครหนอเคยบอกมาหลอกหลอน
พจน์พร่ำวอน...พร้อมเรียงสำเนียงส่ง
"โปรดช่วยเสริมแรงใจให้มั่นคง"
"รักซื่อตรง" มอบมั่นตราบนั้นมา....
ดั่งฝากถ้อยต่อหวังลืมหลังสิ้น
ปลอบดวงจินต์คนเศร้าเหงาผวา
เก็บรอยพจน์เรียงร้อยคอยส่งหา
ทรงคุณค่า...ต่อใจ...คนไกลวอน...
แม้รัก "เริ่มจากศูนย์" จะพูนเพิ่ม
แรงใจเสริม...จำหลักผ่านอักษร
ร่ายรู้สึกทั้งหมดเป็นบทกลอน
อยากถามย้อน...ใครกันมันโง่งม...
เพียงอยากลาจากไป...ก็ไปเถอะ
เรื่องเลอะเทอะผ่านมาเจ็บสาสม
ปล่อยรู้สึกเลือนหายเพียงสายลม
แม้นถูกคม...อดีตคอยกรีดเฉือน...
"ขอขอบคุณ" ที่ห่วงใยให้เสมอ
พอแล้วเธอ...รอยคำที่ย้ำเฉือน
นับจากนี้...ใจเจ็บเก็บไว้เตือน
อย่าฟั่นเฟือนรักใครคนไกลกัน...
แม้เจ็บทุกข์จนเศร้ารุมเร้าหา
เสียน้ำตา...อย่างไร...ก็ใจฉัน
วันไหนเห็นร้าวราญมองผ่านมัน
มองให้ขัน...เลิกห่วงหาเลิกอาลัย...