26 ธันวาคม 2549 18:33 น.
แมงกุ๊ดจี่
แสงดวงดาวดาษดื่นในคื่นค่ำ
หนาวเย็นฉ่ำน้ำค้างพราวพร่างฟ้า
งามวิไลหนึ่งราตรีซึ่งมีค่า
มากเกินกว่า...ราตรีใดที่ใจเจอ....
อยากฝาก "คำขอบคุณ" คนไกล
ความห่วงใย...ส่งไปให้เสมอ
แม้เราไม่มีวันได้พบเธอ
เพียงเสนอ...ความห่วงใยจากใจจริง...
ขอขอบคุณ...ช่วงเวลานำมาพบ
เหมือนได้คบคนรู้ใจใคร่สุงสิง
หลงวาดภาพหวังไว้ใคร่แอบอิง
อยากพักพิง...เคียงคู่อยู่นิรันดร์....
ขอขอบคุณ...มืออุ่นอุ่นคุณยื่นให้
เป็นสายใย...เพื่อถักทอต่อความฝัน
ให้คนหัวใจสลายหายหวาดหวั่น
สิ้นสุดพลัน...ความเศร้าเคยเข้าครอง...
ขอขอบคุณ...ในถ้อยเรียงร้อยมา
เหมือนรักษาคนเคยหม่นหมอง
ทุกอักษรร้อยเรียงมาค่าดั่งทอง
มาประคอง...ใจสาหัสได้หยัดยืน...
ขอขอบคุณ...ณ วันนี้สิ่งที่มอบ
ที่เคยปลอบด้วยใจไม่เคยฝืน
เป็นแรงใจคอยปลุกเพื่อลุกยืน
ไม่สะอื้น...กับอดีตคอยกรีดใจ...
ก่อนนั้นเมื่อคราเศร้านั่งเหงาหงอย
มีคนคอย...ปลอบมอบความสดใส
คอยเติมเต็มดั่งเช่นเป็นอุ่นไอ
ยามหวั่นไหว...มีถ้อยคำนำมาวาง...
ณ วันนี้ หัวใจฟื้นคืนชีวิต
ในดวงจิต...วันนี้...ไม่อ้างว้าง
ก่อนนั้นเคยล่องลอยปล่อยตามทาง
ใจบอบบาง...วันนี้แกร่งอย่างเคย....
ขอบคุณ...คุณคนของความคิดถึง
แสนตราตรึง...หัวใจใคร่เฉลย
ขอบคุณ...คุณไม่เคยจะละเลย
ปล่อยนิ่งเฉย...ให้เศร้าเหงาเดียวดาย...
เพียงเห็นอักษรวางไว้ให้คิดถึง
หัวใจหนึ่งรุ้มร้อนก็ผ่อนคลาย
ขอบคุณถ้อยละมุนคุณทั้งหลาย
แสนมีความหมาย...ภายในใจนี้...
ขอบคุณบ้านกลอนไทยให้ไออุ่น
พบความคุ้นเคย...จากมิตรจิตสุขี
อ่านข้อความเรียงร้อยถ้อยวจี
อารมณ์ดี...ทั้งวัน...ฉันสำราญใจ...อิอิ
16 ธันวาคม 2549 15:15 น.
แมงกุ๊ดจี่
ฝังรอยรักสลักมั่น
เฝ้าผูกพันธ์ฝันสดใส
ระยะทางใช่ห่างไกล
สองใจรู้อยู่ใกล้กัน...
เหมือนรักเรานั้นซึมลึก
แม้รู้สึกอย่างกับฝัน
แม้หนทางมาขวางกั้น
ไม่เคยหวั่นหรืออ่อนแอ..
เหมือนยาวนานวันผ่านพ้น
ยังรักล้นใจแน่วแน่
ยังคงมั่นไม่ผันแปร
มอบรักแท้ไว้แด่เธอ...
เมื่อครา"พานพบสบรัก"
ผูกสมัครใจใฝ่เพ้อ
ความคิดถึงนำบำเรอ
อยากมีเธอเคียงคู่กัน...
รับความรู้สึกนึกคิด
ดวงจิตเพ้อหลงคงมั่น
เมื่อสองฤดีหวังมีกัน
เธอและฉันมั่นห่วงหา
ถ้อยร้อยเรียงสำเนียงรัก
แน่นหนักคำมั่นสัญญา
จะรอพิสูจน์ที่พูดมา
จะใช้เวลามาตัดสิน...
"เป็นคำมั่นจากชายอกสามศอก
ไม่คิดหลอกผู้ใดใฝ่เฉลย"
เป็นข้อความหนึ่งใครนะเปรย
หรือเพียงเอ่ย...บอกเพื่อหลอกลวง...
16 ธันวาคม 2549 12:02 น.
แมงกุ๊ดจี่
ก่อนนั้นในดวงจิตคิดว่างเปล่า
ไม่เคยหนาวปวดร้าวแม้คราวไหน?
อุปสรรคหนักแม้เสี่ยงมากเพียงใด
มิหวั่นไหวก้าวไปต่ออย่างทรนง...
แต่เมื่อใจหลงไปในทางรัก
ไม่แน่นหนักดวงจิตคิดลุ่มหลง
หัวใจแกร่งพ่ายแพ้อ่อนแอลง
สิ่งประสงค์สะดุดหยุดลงพลัน...
ลืมอุดมการณ์หัวใจวางไว้แล้ว
คงไม่แคล้วหยุดนิ่งสิ่งเคยฝัน
ความคิดเราเก่าก่อนตอนมุ่งมั่น
มาไหวหวั่นด้วยคารมคมคำ...
เหมือนพบใครสักคนทนตามหา
เหมือนเวลาบรรเลงในเพรงกรรม
เหมือนหัวใจเราพร้อมยอมถลำ
เหมือนเราอยากจดจำเป็นตำนาน...
7 ธันวาคม 2549 13:14 น.
แมงกุ๊ดจี่
เพียงหวั่นไหว...
คิดมากไป...เพราะกลัวหัวใจเจ็บ
ไม่อยากปวดร้าวและหนาวเหน็บ
จึงทนเก็บ...ความรู้สึกให้ลึกสุด...
พอหวั่นไหว...
ค้นคำตอบเหตุใดใจสะดุด
คิดหวาดกลัวอกหักพบรักคุด
เราจึงหยุด...ไม่ไปต่อขอลาร้าง...
พบหวั่นไหว...
เมื่อคิดรักคนไกล...ใจเคว้งคว้าง
ต้องกำหนดขีดเส้นเว้นช่องว่าง
เลือกระหว่าง...ความจริงหรือสิ่งฝัน...
เพราะหวั่นไหว...
ในหัวใจ...มากมีหลากสีสัน
เหมือนหัวใจได้รับของกำนัล
เป็นรางวัล...มาปลอบเพื่อตอบแทน...
หวั่นไหวหรือไหวหวั่น...
หัวใจฉัน...ทำไม? ไร้แบบแผน
ใยจึงกลัวเรื่องพบคบเป็นแฟน
คงหวงแหน...ชีวิตโสดโปรดเข้าใจ....อิอิ
6 ธันวาคม 2549 08:24 น.
แมงกุ๊ดจี่
มิตรภาพข้ามฟ้าไกลจากใจหนึ่ง
แสนซาบซึ้ง...ไมตรีที่พี่มอบ
ยามอ่อนล้าท้อถอยพี่คอยปลอบ
เป็นคำตอบ...พิสูจน์คำพูดใด...
เมื่อเจ็บร้าวดวงจิตคิดท้อถอย
พี่ - พี่คอย...ปลอบว่าอย่าหวั่นไหว
ให้น้องน้อยเชื่อมั่นบากบั่นไป
ถึงหลักชัย...ชีวิตลิขิตเดิน...
มี"พี่สาวคนสวย"ช่วยบรรเทา
ยามทุกข์เศร้า...เคียงข้างมิห่างเหิน
เพียงกริ๊งเดียวโทรมาพาเพลิดเพลิน
หยอกหัวเอิน...แบ่งปันสุขทุกข์เจือจาง...
พบ"พี่สาวคนดี"มีน้ำใจ
อบอุ่นใน...ถ้อยคำจำนรรจ์วาง
เห็นอักษรเหมือนเงาที่เบาบาง
คอยห่มอยู่รอบข้างอย่างห่วงใย...
เมื่อพานพบ"พี่สาวจ๋า"ที่น่ารัก
เหมือนเป็นหลักยึดมั่นมิหวั่นไหว
พบปัญหาพ่ายแพ้ยากแก้ไข
พี่คนไกล...ส่งแรงใจให้ทุกครา...
แล้วเปิดใจเพื่อคบพบมิตรใหม่
คนเสียงใส...พี่สาวที่ห่วงหา
พบพี่สาวมากเสน่ห์แสนเฮฮา
หลงเข้าตา..."น้องสาวจ๋า" เข้าแล้วไง... คริ ๆๆ
เหมือนได้รับของฝากจากเวลา
น้องสาวจ๋า...ขอบคุณ...จากหัวใจ
จะรักษาความพันผูกที่ปลูกไว้
ด้วยหัวใจ....คงมั่นขอสัญญา...