พนมกรกราบลงหน้าองค์พระนำอุบะ...ถวายด้วยหมายมั่นน้อมดวงจิตแน่วแน่มิแปรผันจากนี้นั้น...เลิกแล้วจงแคล้วไป...ขอพี่นั้น...จงไปดีมีสุขเถิดรักบรรเจิดในครรลองอันผ่องใสมีคู่ครองภิรมย์เคียงสมใจจงหลีกไกลเส้นทางระหว่างเรา...ขอถอนคำอธิษฐานเมื่อกาลก่อนเคยวิงวอน...ขอเคียงเพียงแต่เขาวันเวลาล่วงผ่านเนินนานเนาว์จิตหมองเศร้า...เฝ้าเพ้อเสมอมา...ฤๅเป็นกรรมพันเกี่ยวจิตเหนี่ยวรั้งในบางครั้ง...คิดหวงคอยห่วงหาเหมือนต้องรอเฝ้าถวิลในวิญญาอาจสักครา...พานพบประสบกัน...พนมกรกราบลงหน้าองค์พระเป็นโมฆะรอยกรรมรอยคำนั้นลูกจักขอน้อมธรรมกระทำมั่นชั่วนิรันดร์...ถอนคำอธิษฐานเอย...ง่วงแล้วจบงี้แร่ะกันนะ ฮ่าๆปล.1 เคยอธิษฐานขอว่าหากเป็นคู่กันก็ขอให้ได้พบกันปล.2 วันเวลาผ่านไป ผู้คนผ่านเข้ามาและจากไปปล.3 ใครใครก็ไม่ใช่คนที่รอ เหมือนต้องรอ รอใครก็ไม่รู้ปล.4 ใครคนนั้นเขาจะรอเหมือนกันหรือเปล่านะ 5555
เหนื่อยเหลือเกิน อยากพัก ลงสักหน่อยทิ้งปลดปล่อย จิตท่อง เที่ยวล่องหนปลีกตัวจาก ภวังค์ หยุดกังวลคลายทุกข์ทน ปวดร้าว ทุกคราวคืน...ปิดเปลือกตา สนิท มิคิดหม่นทบทวนตน เห็นค่า อย่าสะอื้นพักผ่อนกาย อ่อนเพลีย เสียอย่าตื่นเลิกรื้อฟื้น เรื่องราว ปวดร้าวใด...อยากปิดตา ฝังร่าง อยู่อย่างนั้นเลือนคืนวัน รันทด มิสดใสขอหลบหลีก มิกล้า พบหน้าใครจะหลับไหล พักกาย ลงชั่วกาล...ปล.๑ ไม่อยากเห็นภาพใดแม้แต่ท้องฟ้าปล.๒ คงมีเพียงลมหายใจรวยรินปล.๓ ไม่มีเคยใคร มีรักแท้จริงใจ จะมองทางใดดูเคว้งคว้างว่างเปล่า....ปล.๔ ใจฉุ่มเย็น สดใส เมื่อได้รับการบอกบุญกฐินจิตก็ผ่องแผ้วขึ้นมา
ทบทวนซ้ำ หนหลัง รักครั้งก่อนใยอาวรณ์ โหยหา หรือว่าหลงเหตุผลใด ใจนั้น ยังมั่นคงรักจบลง ขาดสิ้น ถวิลใด...จงเข็ดหลาบ ความขม เคยชมชื่นยามสะอื้น เจ็บช้ำ เฝ้าร่ำไห้เขาหรือผิน มามอง จงตรองใจปล่อยผ่านไป รักลวง อย่าหวงเลย...อย่าได้คิด หวนคืน พบขื่นขมหยุดโง่งม ถอยห่าง แล้ววางเฉยปล่อยให้เขา ก่อกรรม ทำอย่างเคยวันหนึ่งเอย คงพบ ประสพเวร...ปล.๑ หยุดหลอกลวงกันซะทีเถอะ อย่าพยายามพูดให้ตัวเองดูดีอีกเลย ปล.๒ ใช่น้องดีเกินไป เราไม่เหมาะกันหรอกเพราะคุณนั้นตรงข้ามกับน้องปล.๓ สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน?เลือกทัศนาได้ตามสบายนะคะ ทบทวนแล้วอย่าเลยอย่ากลับมา ไปให้พ้น
หลงรักหนุ่มบ้านกลอนไปนอนฝันแสนอัศจรรย์...หัวใจข้างในนักเมื่ออ่านกลอนเรียงร้อยถ้อยสลักคล้ายศรปัก...ลงหว่างกลางฤดี...ฮี่ๆอ่านสำเนียงสำนวนพาป่วนปั่นหัวใจสั่นหวั่นไหวกระไรนี่คิดเข้าข้างตัวเองอย่างเปรมปรีดิ์ทุกวลีหมายถึงเราเข้าข้างตน....แอบรักหนุ่มบ้านกลอนเฝ้านอนฝันยังมุ่งมั่น...เพ้อพกคิดวกวนร้อยเรียงถ้อยแนบถึงเพียงหนึ่งคนเถอะสักหน...รู้ทีว่ามีใจ...คริๆจารอักษรอ้อนเอ่ยเฉลยถ้อยใจดวงน้อยแอบรักจักรู้ไหม?ติดตามอ่านบทกลอนทุกตอนไปอีกเมื่อใด...เขาจะรู้...รักอยู่นา....ฮ่าๆๆๆปล.ความรักมีง่าย แต่รักษายากเหลือเกิน
ได้ฟังคำ "บอกลา" น้ำตาไหลความหวั่นไหวปั่นทอนพาอ่อนแอเจ็บเกินรับโดยง่ายว่าพ่ายแพ้ยอมขี้แย...ร้องไห้ไม่อายใคร...ยิ่งรับฟังเหตุผลใจคนเปลี่ยนหัวใจเจียนจวนขาดพาหวาดไหวตีหน้าซื่อเอ่ยปากว่าอยากไปง่ายกระไร....ถ้อยคำที่ย้ำมา...คงไม่รู้...ว่าอีกใครหัวใจนั้นทนอดกลั้นเก็บงำทั้งน้ำตาแอบลอบมองผ่านเลยดูเฉยชาจึงรู้ว่า...สิ้นทางระหว่างเรา...ปรับอารมณ์ขมขื่นแล้วฝืนยิ้มน้ำตาปริ่มอกใจดุจไฟเผาคลายสะอื้นผ่อนลงเพื่อส่งเขาจบเรื่องเก่าเพียงกาลที่ผ่านผัน...ต่อแต่นี้...ฝังลงความทรงจำมิเตือนย้ำเรื่องราวในคราวนั้นเข็ดขยาดหวาดกลัวชั่วนิรันดร์กี่กัปล์กัลป์จงคลาดสิ้นวาสนา....ปล.๑ : ฟังเพลงแล้วอินเนอร์มาแบบเกินบรรยาย อิอิ ปล.๒ : บางครั้งก็ยากจะเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปล.๓ : มีคำถามมากมายที่อยากถามอยากได้คำตอบ แต่เพื่อให้ทุกอย่างดีที่สุด จึงเลือกไม่พูดอะไรออกมา...