สายฝนพร่างจำข่มอารมณ์หมอง พลิ้วละออง...เย็นชื่นย้ำขื่นขม เหลียวแลหาบางสิ่งกลับนิ่งตรม ทุกข์ระทม...จมล่วงดิ่งห้วงกาล... ย้อนเวลาทบทวนคิดหวนกลับ นิ่งสดับ...เรื่องราวทุกคราวผ่าน ดุจรอยกรรมปางบรรพ์มาบันดาล นำพบพาน...ร่วมก่อถักทอใจ... ก็ระหว่างร่วมทางมาห่างเหิน ยากจะเมินสิ้นลงความสงสัย มีสิ่งใดอะไรแน่! ผันแปรไป หรือเพราะใจสิ้นแล้วจึงแคล้วกัน... วาสนาน้องน้อยคงคล้อยเคลื่อน มาลืมเลือนรอยคำเคยย้ำขวัญ เมื่อวันนี้เจ็บช้ำ ในสัมพันธ์ พาหวาดหวั่น...กับกาลที่ผ่านมา... เจ็บเกินกล่าวรอยคำให้ช้ำหมอง ด้วยตริตรองแม้นหม่นหยุดค้นหา กอรปกุศล...เก็บงำ ทั้งน้ำตา เพราะรู้ว่า...หมดใจ "ในวันนี้" รู้! แล้วหนอ...หัวใจของใครนั้น ขาดสะบั้น...เยื่อใยรอยไมตรี หมดสิ้นแล้วรอยใดในวิถี นับแต่นี้พรากกันตราบวันวาย... ปล.๑ : รู้! ไม่มีอะไรต้องพูด ปล.๒ : รู้! อะไรในโลกล้วนไม่เที่ยงเป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์ ปล.๓ : รู้! ว่าอีกไม่นาน และก็จริงไม่ต้องกังวลนะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ปล.๔ : รู้! ไม่มีใครรับกรรมแทนกันได้ คุณก็รับในส่วนของคุณ และฉันก็เช่นกัน.
พรหมลิขิตขีดเส้นให้เป็นไป ปล่อยล่องไกลตามทางหวังสร้างฝัน วาดภาพไว้ได้พึงพิงแอบอิงกัน จวบถึงวัน...สิ้นสายลมหายใจ... แต่ทุกสิ่ง...เพียงภาพเกินทาบทอ หวาดหวั่นท้อ...รันทดมิสดใส ทุกหนทางปวดร้าวทุกคราวไป สุดทานไหว...รอยกรรมเคยทำมา... บทพิสูจน์ผ่านผันพาหวั่นไหว เจ็บทรวงในเกินรับประทับตรา ในครรลองวิโยคโศกอุรา เจ็บปวดพร่ากับกาลล่วงผ่านเลย... พรหมลิขิตขีดเขียนย่อมเปลี่ยนผัน พ้นผ่านวัน...ล่วงกาลให้ผ่านเฉย เรื่องราวช้ำทุกข์ทนมิบ่นเปรย เกินจักเอ่ยบอกเล่าความเศร้าใด... แม้ว่า... ชลเนตรไหลพรากต้องจากแล้ว มาคลาดแคล้วเหินห่างจำร้างไกล ด้วยรอยกรรมมาบั่นขวางกั้นไว้ บันดาลให้...โศกศัลย์เมื่อวันลา... What i got to do to make you love me? ปล."ความรัก" ไม่ว่าอย่างไร คนทุกคนย่อมรักตัวเองก่อนเสมอ แต่ยังไงก็ขอบคุณ แม้ว่าเป็นเพียงเวลาสั้นๆ ที่เราได้จับมือกัน Valentine ไม่มีจริง ฮือๆๆๆ เป็นบททดสอบของเบื้องบนให้ค้นหาหัวใจ ส่งผ่านมาให้ตัวฉันข้ามไป อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า "จะได้รู้ว่ารัก หรือแค่เหงา" ให้เห็นเงาสะท้อนหัวใจ...
มองจันทร์เพ็ญเด่นสง่ายามราตรี ดวงจิตนี้เงียบเหงาหมองเศร้าสร้อย ยลแสงจันทร์นวลตายิ่งพาคล้อย กอดร่างน้อยซบเซาเคล้าน้ำตา... ทำอย่างไร? หนทางหว่างชีวิต จักลิขิต...ต่อไปอย่างไรหนา ช่างรู้สึก ทดท้อ ทรมา เจ็บปวดพร่า ทุกก้าวเจ็บร้าวราญ... "เพราะชีวิตเป็นทุกข์เราจึงเห็นธรรมสว่างใส" Cr.ดังตฤณ
ปล่อยคิดถึงปลิวไปในอากาศ ด้วยหมายมาด...นำเสนอแด่เธอนั้น เพราะว่าคือหนึ่งเดียวอยากเกี่ยวพัน นับรอวัน...ได้พบประสบเจอ... ปล.ไม่มีอะไรแค่....นั่งทำงานแล้วมันเหงาๆ
๑.ยอมพ่ายแพ้แก่โลกอันโศกศัลย์ เลือนคืนวัน...แสนโศกวิโยคจิต ผาดผกผันเคว้งคว้างหว่างชีวิต ถูกลิขิต...พานพบประสบนัย...
ต้องยอมรับสับสนทุกข์ทนหนัก ได้ประจักษ์อ่อนแอสุดแก้ไข เหลียวแลใครมืดมิดสนิทใน คิดครวญใคร่...รอยกรรมธรรมดา...
นิ่งสดับปรับดูให้รู้เถิด เรื่องราวเกิด...วัฏฏะของชะตา ยังเวียนว่ายเกิดดับยอมรับหนา ช่วงเวลาหมุนเวียนมีเปลี่ยนผัน...
๒.เมื่อใดหมดสัญญากรรมเคยทำไว้ พลัดพรากไกล...เกินกลับมารับขวัญ กรรมคงปั่นรอยทางเหินห่างกัน เนิ่นนิรันดร์...กี่กัปล์เลือนลับรอย...
ตราบเท่าวัน รวยริน จวบสิ้นลม ให้สาสม...ทั้งหมดอย่าปลดปล่อย เพียงชาติเดียวเท่านั้นรอวันคล้อย จะรอคอย...วันสุดท้ายอย่าได้พาน...
ปัจจุบัน...นบน้อมยินยอมให้ พร้อมชดใช้...ด้วยจิตอธิษฐาน นับแต่นี้...คืนให้ครบทุกภพกาล อวสาน...สัญญากรรมเคยทำมา...
อโหสิ...จากอกหญิงทุกสิ่งแน่ หนทางแก้...ปั่นกรรมไม่นำพา เพียงชาตินี้ชาติเดียวอย่าเกี่ยวหา เลือนลับลา...ปลดปลงอสงไขย...
Who knew that I could be? So unexpectedly.
เมื่อตายสินะ เราจึงจะเลือนทุกสิ่งไป...