25 พฤศจิกายน 2554 23:09 น.
แทนคุณแทนไท
ตายไปแล้วกวี
ไม่มี นรกสวรรค์
ฤๅ เทวดาลงทัณฑ์
ปิดกั้น กันโชคชะตากรรม
อินทร์ พรหม ยม-เทพ นฤมิตร
ซาตาน ความคิด และความฝัน
เนิ่นช้า ไปแล้วในนิรันดร์
ความอัศจรรย์ พร่าเลือน
เดือนดับ ลับไปในความมืด
ยืดยาว ก้าว-ถอย ลอยเลื่อน
มิทันไร ผ่านไปมิถึงเดือน
ดาวที่เกลื่อนจะลับ ดับลง
อักษร สุนทร สะท้อนภาพ
หทัย ไยหยาบ - ผิดหลง
ถ้อยคำ ลำนำใดยืนยง
ปลิดปลง ลอยเคว้ง เพลงความตาย
ดนตรี ปีศาจ ประสาทโสท
ใดนิโรจน์ ไหม้หมางจางหาย
หัวเราะ เยาะเย้าเขาไว้
กลับกลาย หัวเราะเยาะเย้ยตัว
กวีตาย
ในหญิง-ในชาย ในเมียผัว
ในมืด ในความหม่นมัว
ในยิ้มหัว ในสวรรค์ ชั้นนรก
ในนั้น มีอัปสรฟ้อนเล็บ
หนาวเหน็บ เจ็บในใจ สกปรก
สะเทือน สะท้อน สะท้านสะทก
กระดก กระเดือกกลืน ฝืนอารมณ์
ภาพฝัน พลันหาย แดดสายแล้ว
แมลงวันปีกแก้ว เจี้ยวข่ม
อึงอื้อ อยู่ในอาจม
ชื่นชม ขนมเน่าเบาปัญญา
เดียรฉาน อ่านธรรมนำบัณฑิต
วิปริต ยึดติดในมิจฉา
กิ้งกือ สาปแช่งเทวดา
เห็นผีห่า ว่านางฟ้า จากชั้นสรวง
คำภีร์ คำสอน คำศาสตร์
มนุษย์ชาติจับใส่เอาไหถ่วง
ปูปลา เต่าเหี้ย ประดาปวง
ลับ-ลวง ดิ้นด่าว ร้าวรน
คนสัตว์ ชัดแล้วไม่แตกต่าง
คางคก อึ่งอ่าง พองขน
ขึ้นวอ ขึ้นเวร เวียนวน
ควายทน ควายเทียม มันก็ควาย
สายน้ำ ไหลแล้วไม่หวนกลับ
ไปกับ ความสุขที่หล่นหาย
เมืองนี้ หนอช่างอันตราย
เบี่ยงบ่าย หน่ายแท้ยอมแพ้ใจ
ปราถนาสิ่งใดหนอที่รัก
ฉันจัก ทำให้ถ้าทำได้
ก่อนที่ ฉันจะ มิมีอะไร
แม้แต่หัวใจที่ไหวติง
ฉันพบบัณฑิต ขี้ครอก
ปัญญาชน กระจอก สะดิดดิ้ง
คนแก่เฒ่า เพราะเกิดนานเป็นอาจินต์
เหลือบริ้น กินขี้ บี้บาปบุญ
เธอจะไป อยู่ไหนหนอเพื่อนรัก
เถอะนอน หนุนตัก พักสักอุ่น
พรุ่งนี้ แน่แล้วโลกทารุณ
ปล่อยใจที่ว้าวุ่น ให้ฉันนะ
เช้าแล้วตื่นมารับแดดเช้า
กับน้ำตาดวงดาว ผู้เสียสละ
สิ้นเสรี และมี พันธะ
ชะตากรรม ชนะ ความต้องการ
ฉันจะรับ ฉันจะรัก ฉันจะอยู่
กับทุกข์ความชั่วครู่ ชั่วขาน
มิรู้ว่าจะกี่ ชั่วนาน
จักบนบาน ศาลเตี้ย เหี้ยอะไร
กวีตายเมื่อครู่
แต่นกรู้ แสกแสกจนเข้าไส้
คนนี้ก็ละม้าย คนนั้นก็ละไม
แต่จัญไร ได้ไม่ได้ต่างกัน
ตายไปแล้วกวี
ไม่มี นรกสวรรค์
นางฟ้า กับซาตานนั้น
กำลัง เมามัน มันนะมึง
อินทร์ พรหม ยม-เทพ นฤมิตร
ไร้ที่ สถิงสถิตย์ให้คิดขึ้ง
จะถม ที่ว่างดาวดึง
ร่ายมนต์ตรึง ดึงภูตเปรตกิเลศชั่ว
เดือนดับ ลับไปในความมืด
พรหมจรรย์ ถูกขึงพืดและยิ้มหัว
ข่มขืน ความกล้าในความกลัว
มอมมัว ด้วยอบาย อุบายเดิม
อักษร สุนทร สะท้อนภาพ
เนิบนาบ ราบเรื่อย มิริเริ่ม
กากี กุลี ช่างหยดเยิ้ม
สเปิมร์ม สปีชี่ อมีบ้า
มดปลวก แลเหลือบริ้น
เปิดสำนักหากินทุกถิ่นท่า
สูตรเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา
เอาอนาคตข้างหน้า มาคำนวณ
กวีตาย
ไร้ภาค ไร้กายไปทุกส่วน
ลืมที ลืมท่า ลืมกระบวน
ใดในนั้น ล้วนล้วน ไม่เคยมี
......................................................
พระศุกร์ที่ ๒๕ พฤศจิกาย์ ๕๔ / แทนคุณแทนไท