24 พฤษภาคม 2553 12:50 น.
แทนคุณแทนไท
เธออยู่ ณ หนใดในโลกนี้
ความคิดถึง ยังมีอยู่ใช่ไหม
จำบางคน ได้บ้างหรืออย่างไร
ขณะนี้ บางใจ คิดถึงเธอ
อายุสิบหกปีที่รู้จัก
เธอสอนให้รู้รัก สลักเสมอ
ทั้งความ ชื่น ทั้ง ขื่น ช้ำร่ำละเมอ
ก่อนเราเจอคนที่ต่างดีงาม
ข่าวว่าเธอวันนี้เป็นคุณแม่
สมบูรณ์แท้ สุขล้ำไร้คำถาม
พบแล้วซึ่งโลกที่เคยนิยาม
นั่นคือความ รักแท้ ฉันแน่ใจ
ฉันก็พบเธอคนหนึ่งซึ่งประจักษ์
ทำให้เชื่อว่ารัก จักผลิใหม่
รอยหม่นมัวได้หายกระจายไกล
แอบยิ้มกับเยาว์วัยที่ล่วงเลย
ฉันอยู่นี่ขณะที่เธออยู่ไหน
มิสำคัญอะไรใช่ไหมเอ่ย
นั่นคือวันเวลาที่ลับเลย
เมื่อเราเริ่มคุ้นเคย กับความจริง
แล้วเราต่างก็มีคู่ชีวิต
แปลกจากเคยนึกคิดในทุกสิ่ง
นางฟ้า ของฉันก็เพราพริ้ง
เป็นเจ้าหญิง ยิ่งกว่าในนิยาย
ฉันกับเธอ ยังคิดถึงกันอยู่ไหม
เรามิควรถามไถ่ให้เสียหาย
ภรรยา ฉันคิดถึง เขามากมาย
และคงคล้าย เธอคิด ถึง สามี
ถึงรักเราไม่ใช่รักคู่ชีวิต
งดงามแค่ความนึกคิดอันริบหรี่
เป็นรักแท้ รักหนึ่งซึ่งเคยมี
ต่างจากรักวันนี้ที่เราเป็น
เก็บเอาส่วนรู้สึกลึกลึกไว้
ซาบซึ้งกับความหมายที่ได้เห็น
ผ่านไปหลาย ร้อนหนาว ทุกเช้าเย็น
คอยตอกย้ำทุกประเด็น ให้เข้าใจ
เราอยู่ ณ หนใดในโลกนี้
ความคิดถึง ยังมีอยู่ที่ไหน
ความทรงจำจะเลือนหาย กระจายไกล
เป็นความ โชคร้ายที่แสนดี
แทนคุณแทนไท / พระจันทร์ที่ ๒๔ พฤษภาค์ ๕๓
21 เมษายน 2553 17:51 น.
แทนคุณแทนไท
...๑...
เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งมาพึงปลอบ
จากข่ายขอบมอบความนัยใช้ใจเผย
ถึงจะซ้ำ คำอ้างอย่างที่เคย
วอนอย่าเพิ่งเฉยเมย เคยผูกพันธ์
...๒...
อยากเทคแคร์ดูแลใจไม่ให้ห่าง
เกรงความรักจักจางเพราะห่างนั้น
หากใกล้กายเหมือนใจเราใกล้กัน
คงได้นอน...เสพย์ฝันกันทั้งคืน
...๓...
นั่นคือความฝันชื่น ณ คืนหนาว
ทั้งที่ทุกย่างก้าวยังขมขื่น
เธอคือฟืนไฟฝันของวันคืน
ที่อุ่นความ ขื่นขืน อันทรมา
...๔...
จึงผูกสร้อยร้อยกวีนี้มามอบ
ขอบคุณทุกปลุกปลอบยามปวดปร่า
ยินดีนักมีรักเธอ มาพันธนา
เป็นของขวัญชั้นฟ้าอันพร่าพราย
...๕...
แม้วันนั้นผันผ่านมานานนัก
แต่ความรักแรกเอ่ยมิเคยหาย
ฝันไหนจักตกพลัดกระจัดกระจาย
แต่เธอยังพริ้งพรายทุกหมายรอ
...๖...
เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งมาพึงปลอบ
จากข่ายขอบความในใจล้นอ่อ
รู้ค่า รัก จากปากอาจไม่พอ
ขอบคุณที่ ยังรอ กันต่อไป
พระพุธที่ ๒๑ เมษายน ๕๓ / แทนคุณแทนไท
16 มกราคม 2553 11:29 น.
แทนคุณแทนไท
อะไร! หล่นหายในสายน้ำ
ฤดูกาลชื่นฉ่ำ ไม่กล้ำใกล้
รอยร่าง พร่างแผ่ว แล้วเลือนไป
หัวใจ สั่นไหว ทำไมนา
ความคิด กลัดกลุ้ม รุม รุก รัด
อัตคัต งดงามเป็นนักหนา
"เธอ" คือความฝันอันมายา
มาเสี้ยมส่วนปรารถนา ให้เข้าใจ
ความรัก "บานอยู่" ในสายลม
พร้อยพรม อารมณ์ความคิดใคร่
วางความ จริงไว้ ในอาลัย
เหลือเพียง ชิดใกล้ ในทรงจำ
ลอยแล้ว ลอยหาย กับสายฝน
น้ำตาเธอรินหล่น ปนฝนช้ำ
ธุลีเศร้า เหงาเหงา และเงียบงำ
เตือนย้ำ ความเศร้าโศก ที่เรามี
ลาแล้ว เลือดเนื้อให้เชื้อสาย
หัวใจ ล่มสลาย ไม่เหลือที่-
-สัมผัสส่วนความสุขที่เคยดี
ต่อแต่นี้ คงมี แต่อาลัย
นกเหงา...
คืนนี้ มิรู้เจ้า ไปอยู่ไหน
บนสวรรค์ ชั้นฟ้าประดาใด
ขอให้ นอนหลับ ให้สบาย
อะไร! หล่นหายในสายน้ำ
ฤดูกาลชื่นฉ่ำ ไม่กล้ำใกล้
รอยร่าง พร่างแผ่ว แล้วเลือนไป
น้ำตา บ่าไหล ทำไมนา
ด้วยอาลัยยิ่ง พ่อเฒ่า ขาว ชูพันธ์ : ๗ มกราคม ๕๓
:ขนอม นครศรีธรรมราช/แทนคุณแทนไท
5 มกราคม 2553 09:47 น.
แทนคุณแทนไท
วรรคใจที่ ๙ ๑๐ ๙
ณ ริมฝั่ง นนนที
มหาชนวารี กำลังบ่าไหล
ค่อนค่ำ ย่ำอรุโณทัย
วะวิบไว ไกลใกล้ ...คล้ายคล้ายกัน
ไม่แตกต่าง
บนระยะห่าง ตรงหว่างเวิ้งนั่น
ท่ามอึกทึก ลึกล่วง ห้วงปัจจุบัน
บัดพลัน ก็เงียบงัน ในฉับดล
อุ่น! พิรุณ ก็หยาดไหล
ท้น พ้นชลนัยน์ ไยพลัดหล่น
ปริ่มว่าจะขาดใจ ยังไงพิกล
ไม่อายคน ก็น่าอาย ผักตบชวา
วูบวาบ
อารมณ์สันดาป กับอะไรหว่า
ในกระบวนส่วนนึก ลึกไปในจินตนา
บื้อใบ้ บ้อบ้า มิรู้ว่า คืออะไร
เลือนพร่า
บนเรือนปรารถนา อ้...ย ห่า ชักเอาใหญ่
เกียรติศักดิ์ชักปนเปื้อนหทัย
นานนานไป กระไรจึ่งหนัก ชักกลัว
นั่น!! กระสากำลังว่ายทวนน้ำ
ฮึ!! มัจฉากำลัง ชื่นฉ่ำ กับปีกใหม่
เรือหางยาว กำลังกางใบ
โอ โน่นอะไร ออ รถยนต์กำลังวิ่งไล่ จับปลา
อัสสุชน
ช่างสัปดล คิดแข่งกับหยดฟ้า
แค่น้ำใจ ของเทพเทวดา
นัยน์ก็เบลอพร่า แทบว่าไม่เห็นอะไร
ณ ริมฝั่ง นนนที
มหาชนวารี กำลังบ่าไหล
ค่อนค่ำ ย่ำอรุโณทัย
เฮ้อ!! เมื่อไร กุ้งน้อยจะกินปลา
สังฆยนา/แทนคุณแทนไท
27 ธันวาคม 2552 16:14 น.
แทนคุณแทนไท
๑...
ฉันถาม "ความผิดหวัง" เมื่อสั่งว่า
ไยคิดกล้า ทำลายขายศักดิ์หญิง
เธอตอบคำ ย้ำหนัก ถึงรักจริง
ก็ไม่ยอมถูกทิ้ง เหมือนสิ่งทราม
๒...
ฉันถามถึง "ความโกรธ" ไยโหดนัก
เธอว่ารัก ยิ่งมากก็ยากห้าม
สุดหักแค้นเมื่อแน่นนัยดั่งไฟลาม
แล้วปล่อยให้ใครหยามตามใจคิด
๓...
ฉันถามหา "ความงาม" ของอดีต
ไยคั่นขีดกีดขวางอย่างถือสิทธิ
ทั้งที่เราต่างอิสรา ในชีวิต
เธอว่าคิดอย่างนั้น ฉันไม่เป็น
๔...
ฉันถามว่า "ความเศร้า" ยังเศร้าไหม
เปล่าประโยชน์จะเศร้าใจให้ใครเห็น
มันถูกซอนซ่อนไว้ใต้ประเด็น
หลังเธอเป็นผู้แพ้ นับแต่นั้น
๕...
ฉันถามถึง "ศรัทธา" ที่เคยสร้าง
เธอเยาะพลางกางแดแผลแห่งฝัน
มันคือบททดสอบ ขอบใจมัน
ต่อนี้นั้น ฉันศรัทธาแต่ตัวเอง
๖...
สิ้นเสียงพลันฉันนั้นเริ่มรู้ว่า
คำถามที่ถามมา เหมือนข้าเก่ง
ไม่ได้เป็นคำถามอย่างนักเลง
เสมือนฉันข่มเหง คนพ่ายแพ้
๗...
เริ่มนอบรับกับคำที่เธอตอบ
กับข่ายขอบกรอบกั้นวันเธอแย่
วิธีรักษ์ความช้ำที่กล้ำแด
กับโซ่แส้ วันเวลาอันน่าชัง
๘...
ฉันเลิกถามถึงความฝันของวันพรุ่ง
เพราะเห็นทุ่งซากเศษสมเพษหวัง
เธอไม่เหลือริ้วอดีตที่หวีดดัง
มันป่นแหลกแตกปัง เกินสั่งใจ
๙...
ฉันย้อนถามสำนึกลึกลึกว่า
แสงระวีที่รอท่านะวันใหม่
จะเปลี่ยน สีสรรค์ไปหรือไม่
เธอไม่ตอบสิ่งใด ให้ไหวติง
๑๐...
ความผิดหวังของเธอฉันสิ้นหวัง
คิดปลงในอนิจังของบางสิ่ง
คำพระว่าอย่าถือมั่น มันไม่จริง
ทุกส่วนสิ่งเป็นเพียงแต่สมมุติ
............................................
บทส่งใจ...
บ่อยครั้งที่ฉันรู้สึกแย้งกิเลสในใจ
เมื่อความผิดหวังมาเยือน
ไยเธอจักต้องแสดงถึงความ คิดแค้น ชิงชัง
แหละแทบว่าไม่เคยเหลือส่วนประสงค์ดีอยู่เลยเช่นนั้นหรือ....
ยิ่งสงสัย ฉันยิ่งถาม
แหละเธอไม่เคยปฏิเสธที่จะตอบความฉัน
ตอบทั้งรู้ ว่ามิอาจทำให้ฉันสิ้นสงสัยได้ก็ตาม
นับวันคำถามฉันยิ่งบ่อย แต่เธอยังคงตอบอยู่เสมอๆ...
ฉันเพียงแต่ฟังเสียงเธอ
จนบางขณะคิดชังเธอว่า หัวใจเธอช่างกระด้างนัก....
ถ้าไม่วันนี้ วันที่สะดุดกับคำตอบสุดท้ายของเธอ
ด้วยเสียงอันสั่นเครือ ฉันศรัทธาแต่ตัวเอง
ฉันคงไม่หยุดถาม และพิศให้ลึกลงไปในความเจ็บปวดภายใต้แววตานั่น....
ฉันเข้าใจเธอแล้ว....
ทุกความเป็นไป มีวิธีจัดการและรับมือกับความเจ็บปวดที่ต่างกัน....
ฉันเขลาเอง
แค่เสียใจ และขออภัยนะคงไม่พอ บทกวีนี้เพื่อเธอ
สังฆยนา ธันวาคม ๕๒ / แทนคุณแทนไท