15 กรกฎาคม 2550 02:18 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ขณะหนึ่งฉันยืนตรงพื้นกว้าง
ขอบข้างทางท้องถนนคนขวักไขว่
รถราวิ่งมวลฝุ่นคลุ้งก็ฟุ้งไกล
ทอดตาไปเบื้องหน้า พร่าพริบพริบ
ขณะหนึ่งจึงรู้สึกลึกลึกว่า
ท่ามเวลาเคลื่อนไหวใจย่างหยิบ
ก่อเกิดเป็นจินตนาการอันนานลิบ
จากนับสิบภาพทรงจำจำเนียรกาล
ขณะหนึ่งเราเอ๋ยเคยเป็นเด็ก
ตัวเล็กเล็กซื่อใสใจอ่อนหวาน
ร่าเริงยิ้มแย้มแก้มบาน
วิ่งเล่นเพ่นพ่านอยู่ข้างทาง
เฮ้ยมึง มึงเล่นอะไรกันวะ
อ๋อกูจะแข่งขันปั่นลูกข่าง
เหวยเหวย ไอ้ห่าอย่ายืนกาง
กูจะขว้างลูกข่างทอย รีบถอยไป
บนข้างทางขณะหนึ่งยังซึ้งซาบ
กับภาพพผองเราทั้งเก่าใหม่
เคยร่วมก๊วนซุกซนปีนต้นไม้
ตามวัยไร้เดียงสาประสาซน
หากแต่ว่า –
วันเวลาย่อมผ่านกาลห้วงหน
เมื่อวันหนึ่งขณะหนึ่งซึ่งตัวตน
เติบโตจนเป็นผู้ใหญ่ไปเสียแล้ว
ขณะนั้นจึงไร้ซึ่งใสซื่อ
เสียงเซ็งแซ่อึงอื้อกลับเบาแผ่ว
เพียงผ่านยาวนานช่วงที่จ้วงแจว
ดวงตาใสแป๋วก็เสื่อมวัย
เหนือคิ้วริ้วรอยเริ่มหยาบกร้าน
ตามวันตามวารผ่านสมัย
สัมผัสผิดเพี้ยนเปลี่ยนไป
สมองไร้รอยหยักที่ขดรอย
ไร้เรี่ยวแรงวิ่งเล่นเพ่นพ่าน
ความสดใสเบิกบานพาลถดถอย
เพื่อนเราผองรักตัวน้อยน้อย
ฉันยังคอย ยังคอย ทุกเวลา
เพียงชั่วขณะหนึ่ง –
ขณะซึ่งฉันมองทาง ลางเลือนพร่า
อาจดูเหมือนไม่สดใส – ในแววตา
ฉันมองทางข้างหน้า พร่าลางเลือน
ขณะหนึ่งฉันยืนตรงพื้นกว้าง
เพียงแตกต่างจากเริ่มแรก แปลกเฝื่อน
หนึ่งเด็กน้อยวัยชราเข้ามาเยือน
พร้อมทักทายกับผองเพื่อน กันอีกครั้ง
12 กรกฎาคม 2550 22:28 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ฤาเพราะโลกไร้ซึ่งสันติภาพ
โลกของเราไร้ซึ่งสันติภาพ
เต็มไปด้วยเขรอะคราบคำสาปแช่ง
ไฟสงครามดาลเดือดเลือดอาบแดง
สิ้นซึ่งแสงส่องสว่างกลางใจผู้คน
จึงโลกนี้ไม่มีซึ่งคุณธรรม
จึงโลกระส่ำต่ำช้าโกลาหล
คมมีดดาบคราบเลือดเชือดชีพชน
แสนสับสนวุ่นวายน่าหน่ายนัก
จึงครอบครัวแตกแยกจนแปลกบ้าน
จึงไร้ซึ่งสมัครสมานอันแน่นหนัก
จึงโลกเราไม่เหลือเยื่อใยรัก
และไร้ซึ่งที่พึ่งพักให้หัวใจ
แหละ...โลกจึงแล้งไร้ในรอยยิ้ม
แล้งสายตาพรายพริ้มอันอ่อนไหว
จึงโลกขาดการทักถาม ความห่วงใย
จึงโลกไร้มิตรภาพตราบฟ้าดิน
...................................................
...................................................
...................................................
...................................................
หากแต่โลกเต็มไปด้วยสงครามเถื่อน
เชิงฉันท์เพื่อนเลือนหายไปหมดสิ้น
แม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อก่อราคิน
จนเป็นเรื่องชาชินไปเสียแล้ว.........
อาจเป็นเพราะโลกเราไร้ซึ่งสันติภาพ
จึงกำซาบเสียงสงครามมาหวามแว่ว
มือจับมือ หากแต่ปืนยังยืนแนว
เตรียมมือพร้อมแน่แน่วแล้วลั่นไก.........
...................................................
...................................................
...................................................
...................................................
ฤาเพราะ, โลกของเราไร้ซึ่งสันติภาพ.....
จึงเขรอะคราบสาปสงครามความมอดไหม้
แท้ -สันติภาพ- อันหยิบยื่นจากหัวใจ
มันฤาจะมีอยู่จริงไหม ในจักรวาล........