10 มีนาคม 2550 04:02 น.

มือที่ยื่นเข้ามา

แดนไกล ไลบีเรีย



ในวันที่ท้องฟ้าดูมืดหม่น
พายุฝนโถมซัดกระหน่ำใส่
ในเวลาที่รอบข้างไม่มีใคร
ร้างไร้เปล่าเปลี่ยว...เดียวดาย

ลำพัง  อาจจะใช่....ลำพัง
หมดหวัง  อาจจะเพราะเหนื่อยหน่าย
กับภาวะกำลังเผชิญอันตราย
คล้ายคล้ายกำลังจมในเถื่อนธาร

เรี่ยวแรงที่แฝงไว้ไม่มีแล้ว
พลังแผ่วด้วยใจไม่อาจหาญ
ไม่สามารถยืนหยัดอย่างทัดทาน
ทรมาน ทรมานเต็มหัวใจ

ขณะที่กำลังจมใต้ปัญหา
ก็รู้ว่ามีมือยื่นมาใกล้
เอ๊ะนั่นมือใครนั่น...นั่นมือใคร
ยื่นมือฉุดฉันไว้ให้ขึ้นมา

ทำให้ฉันเห็นหวังอีกครั้งใหม่
และทำให้ฉันเห็นทางตรงข้างหน้า
ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้า
เหมือนว่าจางหายในทันที

และพลังที่หมดกลับมีใหม่
กำลังใจที่นิดน้อยค่อยล้นปรี่
เรี่ยวแรงเท่าที่ฉันเคยมี
กลับทวีหลั่งล้นจนเต็มใจ





คือ...มือนั้น......
ที่ให้ฉันได้พบชีวิตใหม่
ทำให้ฉันรู้ว่ายังมีใคร
ที่ยังคอยห่วงใย....ทุกเวลา

				
7 มีนาคม 2550 23:11 น.

ไอทีวี เสรีแห่งมวลชน

แดนไกล ไลบีเรีย



(๖ มีนาคม ๒๕๕๐   ครม. มีมติสั่งปิดไอทีวี)

ฟ้าลั่นฟ้าสนั่นครึ้ม........................เมฆครวญ
พายุเศรษฐกิจผันผวน....................กร่างเศร้า
กระทบสื่อแห่งมวล-.....................ชนเอนก  อนันต์แฮ
จึ่งฤทธิ์เงินซาบเข้า........................โกฏิล้านปรับมิพอ

มติ ครม. ประกาศก้อง..................ไอที  วีเฮย
ต้องปิดเพราะข้อคดี......................สั่งฟ้อง
หยุดแพร่ทางทีวี............................สักชั่ว  คราวนา
ต่างพนักงานร่ำร้อง.......................เนื่องไร้กรุณา

ประชาชนทุกผู้..............................ชาวไทย
ฟังข่าวต่างมิพอใจ.........................มติแพ้
กราดเกรี้ยวกู่ก้องไกล....................ทั้งภพ  ไทยนอ
ทวงกลับประชาเสรีแท้..................ใช่แม้นของใคร

“ไอทีวีจักต้อง................................หยัดอยู่”
ไทยเถิดช่วยรวมพลังสู้..................ประกาศกล้า
เอาสื่อแห่งมวลหมู่........................ประชาชาติ  กลับคืน
เคียงคู่ประชาไทยทั่วหล้า..............อย่าให้สลายสูญ




(๗ มีนาคม ๒๕๕๐ ครม. มีแถลงการณ์ยกเลิกคำสั่งปิดไอทีวี)

“ขอโทษ” รัฐบาลกล่าวชี้.............แก่ประชา
ในท่ามความปรีดา.........................กู่ก้อง
มวลชนชนะด้วยวิญญาณ์...............แห่งสื่อ  มวลชน
รอยหยดน้ำตาหลั่งร้อง...................ซาบซึ้งยินดี

เสรีแห่งดอกไม้..............................มวลชน
ยืนหยัดอย่างทานทน.....................อีกครั้ง
ชาวไทยทุกแห่งหน.......................ปลื้มปลาบ  ใจนา
อิสระแห่งชนจะอยู่ยั้ง....................ตราบหล้าโลกสลาย

				
7 มีนาคม 2550 00:04 น.

อาลัย...ไอทีวี

แดนไกล ไลบีเรีย



ฟ้าลั่นฟ้าสนั่นครึ้ม.....................เมฆรวน
พายุเศรษฐกิจผันผวน.................กร่างเศร้า
กระทบสื่อแห่งมวล-..................ชนเอนก  อนันต์แฮ
จึ่งฤทธิ์เงินซาบเข้า......................โกฏิล้านปรับมิพอ

มติ ค.ร.ม. ประกาศก้อง..............ไอที  วีเฮย
ต้องปิดเพื่อรอคดี.........................ยกฟ้อง
หยุดแพร่ทางทีวี...........................สักชั่ว  คราวนา
ต่างพนักงานร่ำร้อง......................เนื่องไร้กรุณา

ประชาชนทุกผู้..............................นามไผท
ฟังข่าวต่างมิพอใจ.........................มติแพ้
กราดเกรี้ยวกู่ก้องไกล....................ทั่วภพ  ไทยนอ
ทวงกลับประชาเสรีแท้..................ใช่แม้นของใคร

ไอทีวีจักต้อง..................................หยัดอยู่
ไทยเถิดช่วยรวมพลังสู้..................ประกาศกล้า
เอาสื่อแห่งมวลหมู่........................ประชาชาติ  กลับคืน
เคียงคู่ประชาไทยทั่วหล้า..............อย่าให้สลายสูญ


				
5 มีนาคม 2550 18:22 น.

สวรรค์มาร

แดนไกล ไลบีเรีย



สวรรค์มาร


เพลงพิศวาสแว่วเวิ้ง.......................ระเริงสวรรค์
ทวยเทพเสพย์สุขสันต์...................เล่นชู้
เริงศึกรุกโรมรัน............................เสียสติ
ดีชั่วพิเคราะห์บ่รู้...........................เนื่องด้วยกิเลสงำ

แสนสรวงสวรรค์ระส่ำร้อน..........กิเลสเบียน
แหลกล่มทั้งมณเทียร....................เทพไท้
ทวยเทพแหวกว่ายเวียน................ตามวัฏ  จักรกรรม
แผ่นภพสรวงสวรรค์จึ่งไร้............เทพสิ้นมลายสูญ

อสูรจึงเกลือกกลิ้ง.........................เต็มสวรรค์
มารหมู่ประจญประจัญ.................ศึกหล้า
เริงรบขบเคี่ยวพัลวัน.....................ดุเดือด
สวรรค์จึ่งไร้ผู้กล้า.........................ศึกท้าด้วยธรรม

ฟ้าจึ่งดำมืดคล้าย............................นรกานต์
ล้วนเทพสัตว์สันดาน....................ชั่วช้า
อีกล้วนเหล่าอสุรมาร....................เหี้ยมโหด
ชิงช่วงแผ่นสรวงหล้า...................แย่งฟ้าแย่งสวรรค์

ศึกมารระบาดลั่นแล้ว..................โลกา  มนุษย์เอย
แลเหล่ามวลมนุษา.......................พรั่นเร้น
หมู่มารยิ่งกระทำต่ำช้า.................เข้าข่ม  มนุษย์เฮย
ยิ่งหนักยิ่งเครียดเค้น....................ซาบเข้าพฤติกรรม

มนุษย์จึ่งกระทำต่ำช้า...................เช่นมาร  กระทำนอ
ฝังลึกถึงสันดาน...........................จิตร้าย
เริงร่าแต่สาธารณ์..........................สิ่งต่ำ
ละเลงสาดเปรอะป้าย...................แปดเปื้อนสิ่งแขยง

รุนแรงตามจิตร้าย........................คิดครอง
จึงใฝ่สูงใฝ่ปอง............................โลกหล้า
ก่อเกิดศึกประชาผยอง.................ทั่วโลก
หวังใหญ่เป็นหัวหน้า..................ใหญ่ด้วยอบายกรรม

หมู่มารยังเล่นลิ้น.........................เล่ห์ลวง
หลอกล่อประชาปวง...................เท็จปลิ้น
ประชาจึ่งซาบทรวง....................จำจด  กันมา
มนุษย์จึ่งรู้เล่นลิ้น........................หลอกเร้นเพื่อนผอง

ครรลองพระพุทธสิ้น.....................แหลกสลาย
ธรรมมะถูกทำลาย..........................กร่อนกร้าน
คำสอนแค่คำนิยาย..........................หลอกโลก
ธรรมมะจึ่งถูกค้าน..........................ว่าไร้สำคัญ

พญามารเหินเหาะฟ้า......................กลับสวรรค์
แลโลกโศกจาบัลย์..........................ถล่มหล้า
ถึงคราวยุคสมัยบรร-.......................ลัยโลก  แล้วนอ
โลกถล่มจมใต้ฟ้า............................สนั่นเกรี้ยวกลางสวรรค์.


				
4 มีนาคม 2550 02:54 น.

นิทานราตรี

แดนไกล ไลบีเรีย




(โคลงสี่สุภาพ)

อาทิตย์ลาลับแล้ว....................ลงรอน
วิหคผกบินจร..........................ลับฟ้า
สิ้นแสงแห่งทินกร...................พลบค่ำ  แล้วนอ
สรรพสิ่งเงียบเชียบช้า..............ตื่นเพี้ยงภาพภวังค์

ภพประหนึ่งดั่งฟ้า...................มืดหาว
รัตติโชตินานยาว.....................หลับเร้น
แฝงภัยผ่านลมหนาว................ขมขื่น
ฟ้ามืดจึ่งชี้เน้น.........................ค่ำนี้พิโรธหนอ

เหล่าอสรพิษสิ้น.....................ทั้งหลาย
แฝงซึ่งอันตราย......................ไป่ถ้วน
ความกลัวเกลื่อนภพพราย.......ยามค่ำ  นี้นา
เดือนดับพยับแสงล้วน............ประหลาดฟ้าน่าสะพรึง


(อินทรวิเชียรฉันท์)

เสียงร้องระงมหวน
ณ พิภพก็ตังตึง
กราดเกรี้ยวคระครวญขึง
นิศะนี้สงบหรือ

อีกลมก็พัดโหม
พยุโครมระบัดฮือ
ฟ้าลั่นสนั่นอื้อ
ประทะหล้า ณ ราตรี

(กาพย์ฉบัง ๑๖)

ค่ำมืดเมฆหม่นราคี
ยามราตรีนี้
ใดจึงน่ากลัวหนักหนา

แลลอดตลอดพสุธา
เกลื่อนด้วยเหล่าพญา-
ล้วนอสรพิษฤทธิ์ร้าย

ฟ้าคลั่งดั่งฟ้าจะทลาย
แผ่นพื้นพิภพพราย
ดูเหมือนจะพังลงครืน

กว่ากาลจะพ้นค่ำคืน
กว่าพ้นขมขื่น
ต้องทนเหน็บหนาวเท่าไร


(กลอนสุภาพ)

ผ่านกลางคืนคืนนี้ช่างนานนัก
ไยไม่มีรอยยิ้มทักจากดาวใส
มีแต่ลมพายุถลามาแต่ไกล
มีแต่ภัยแฝงเร้นเยียบเย็นกาย

คมไอหนาวบาดลึกเข้าถึงเนื้อ
ความมืดแทรกเจ็บเหลือจะต้านหาย
ความกลัวเข้าครอบงำย้ำอันตราย
ความเดียวดายซึมซาบอาบทั้งฟ้า

วอนขอหวังจากฟ้าคราเช้าใหม่
ขอเพียงไออุ่นเอื้อมาเกื้อข้า
ขอมีเพียงพลังแสงแห่งทิวา
เปลี่ยนคืนค่ำที่ทรมาน์ชีวานี้

ข้าจะรอจนกว่าอรุณรุ่ง
จะฉายรุ้งเป็นแสงใสให้ล้นปรี่
ข้าจะรอจนทุกวินาที
จะพ้นผ่านราตรีที่เลวร้าย

จะยังเต็มเปี่ยมหวังความเชื่อมั่น
ว่ายังมีดวงตะวันทอแสงฉาย
ค่ำคืนนี้อาจเงียบงันและอันตราย
แต่สุดท้ายเราก็จะชนะมัน


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดนไกล ไลบีเรีย