17 ธันวาคม 2550 20:04 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ห้องขังจินตนาการ
กระจกหม่น ฉากผ้าม่าน บานหน้าต่าง
โคมไฟ ไสวสว่าง ข้างฝาห้อง
โต๊ะหนังสือ บทกวีที่เกลื่อนกอง
จ้องมองแต่ละอย่างอย่างเยียบเย็น
ปากกา ดินสอ ไม้บรรทัด
วางไว้ กระจายกระจัด เท่าที่เห็น
เท่านี้ เท่าที่มี เท่าที่เป็น
ยากซ่อนเร้นสิ่งใดไว้ในห้องนี้
หน้าต่างก็ปิดตายมาหลายเดือน
คราบเปื้อนเปรอะเลอะดินสอสี
ร่องรอยภาพบนฝาผนัง ยังคงมี
เป็นภาพเด็กวิ่งหนีปีศาจร้าย
ธุลีฝุ่นนิ่งนิ่ง บางเบา
เพียงเป่าค่อยค่อยก็พลอยสลาย
ท้องฟ้าฟ่องฝุ่นฟุ้งกระจาย
กลายคล้ายดวงดาวพราวระยับ
ตุ๊กตาเริงระบำที่หัวเตียง
ดนตรีประสานเสียง กล่อมเพลงหลับ
ตุ๊กตาหมุน - เดินเกินกว่านับ
ไขลานดับหมุนใหม่อีกหลายครั้ง
.....................................................
.....................................................
.....................................................
.....................................................
เป็นห้องแห่งกาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
ที่ยังเปี่ยมวี่แววแห่งความหลัง
ประตูไม้แอดเอียด เสียดเสียงดัง
โอ!!! ข้าเรียกว่า ...ห้องขังจินตนาการ...
.....................................................
.....................................................
.....................................................
.....................................................
ได้เวลาเสียแล้ว.....ห้องของข้า.....
ห้องขังฯ แสนหรรษาสนุกสนาน
เพียงข้าจากห้องนี้ไป...หรอก ไม่นาน
ข้าจะกลับมาเบิกบาน....ในห้องเดิม.......
6 ธันวาคม 2550 22:02 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
แปดสิบพรรษาอาศิรวาท
เฉลิมรัฐจักเรศหมิ้ง........................เหล่าประชา ไทยเอย
ฉลองแปดสิบพระชันษา................กษัตริย์เจ้า
สมโภชพระทรงสถา-.....................พรสถิต
เป็นกษัตริย์ฉัตรคุ้มเกล้า.................ปกหล้าฟ้าสยามฯ
ทั่วคามเขตไพร่ฟ้า...........................ยินดี
เอมสุขเพราะพระบารมี...................นเรศไท้
เกษมสวัสดิ์ราชธานี.........................ภูมิถิ่น ไทยเอย
ธ ดั่งร่มไทรไม้.................................ร่มฟ้าประชานิกรฯ
บวรสวัสดิ์รัชเรื้อง............................นวสมัย
อดุลยเดชองค์นเรศไทย...................สฤษฎ์สร้าง
ขจัดเหตุอวเภทภัย............................ไทยสุข เกษมแฮ
สยามรัฐพิพัฒน์สล้าง........................เปี่ยมล้นพระบารมีฯ
ชื่นฤดี ดั่งฉ่ำฟ้า.................................พรายฝน
ธ เปรียบหยาดพิรุณชล.....................ก่อเกื้อ
เสริมสุขทุกดวงกมล..........................ทวยราษฎร์
เพียงหยดหยาดทิพยเอื้อ.....................ไพร่ฟ้าชีวาสราญฯ
โครงการแสนล้านเพื่อ........................ปวงประชา
พระดำริแนวปรัชญา...........................ชีพใช้
พอเพียงเพื่อชีวา..................................อนาคต กาลแล
อยู่อย่างพึ่งตนได้..................................ไป่ไร้ไป่แคลนฯ
แสนซึ้งถึงพระกรุณเอื้อ........................อารี
จอมกษัตริย์พิพัฒน์บดี..........................เดชไท้
เหล่าพสกต่างชีพพลี.............................เถกิงเกียรติ
ขอพระทรงสุขเกษมไซร้.......................อดิหล้าแผ่นดินสยามฯ
จารึกพระนามเกริกฟ้า...........................องค์ภูมิพล
เกียรติสถิตโลกยินยล.............................แซ่ซ้อง
ราชันแห่งปวงชน...................................ฤดิพสก ไทยแล
สิโลกพระยศอ่าก้อง................................ตราบฟ้านิรันดร์สมัยฯ
5 ธันวาคม 2550 19:54 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
๏ เกริกพระเกียรติพ่อหลวงของปวงราษฎร์
สยามชาติร่มเย็นเป็นสุขี
ทวยชาวไทยได้พึ่งพาพระบารมี
แห่งจอมเกล้าเจ้าจักรีภูมิพล
ธ มุ่งมั่นแก้ไขภัยฝนแล้ง
ขจัดเภทเหตุร้ายแรงทุกแห่งหน
น้ำพระทัยใสชื่นรื่นกมล
ประดุจฝนหล่นรินชุ่มถิ่นไทย
หมื่นโครงการงานสร้างเสริมเศรษฐกิจ
ต่อชีวิตชาวชนบทให้สดใส
ทรงตรากตรำทำงานมุ่งการณ์ไกล
แม้เหนื่อยหนักสักเพียงใดไท้ทรงทน
เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตนได้
รู้จักพอชีพใช้ไม่ขัดสน
รู้อดออมสินทรัพย์เผื่ออับจน
พระภูมิพลดำรัสแนวปรัชญา
คือเอกองค์อัครศิลปิน
ปราชญ์แห่งศิลป์สืบสานงานภาษา
เปี่ยมล้นพระอัจฉริยะพระปรีชา
คีตกานท์กังวานหล้าปรากฏไกล
ธ เรียงถ้อยร้อยกรองกวีศิลป์
เกียรติระบิลงานวรรณกรรมนำสมัย
บทเพลงเพราะเสนาะศัพท์ซึ้งจับใจ
ก้องเกียรติไกรในจังหวะกวีกานท์
๏ แปดสิบปีพระทรงชนมพรรษา
แปดสิบปีทั่วหล้าเกษมศานต์
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ใต้ร่มโพธิสมภารแห่งบารมี
เทียนพรชัยไสวสว่างทั่วทั้งหล้า
เบิกพรฟ้าเจ้าแผ่นดินพระปิ่นศรี
ทวยราษฎร์กราบบังคมคัลอัญชุลี
เทิดสดุดีน้อมพลีกาย ถวายพระพร.
2 ธันวาคม 2550 23:00 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
บทเพ้อพร่ำในค่ำหนาว
ลมหนาว......
พัดอ่อนอ่อนอยู่นานยาวหลายคราวค่ำ
ไล้ลมลิ้วผิวเนื้อต้องเนื้อช้ำ
แหละหัวใจเจ็บประจำอยู่นานนัก
จึงลมหนาวคราวก่อนย้อนความว่า
ใครคือคนที่ข้าเคยรู้จัก
ใครที่ข้าปรารถนาจะทายทัก
และใครใดที่ข้ารัก ข้าคุ้นเคย
วันเวลาเก่าเก่ายังย้อนย้ำ
ความรู้สึกหวนคำเคยเอื้อนเอ่ย
บทความรักกำหนดบทลงเอย
ใต้ความเฉยช้าช้าของอารมณ์
อาจไม่ทันรู้สึก ทันนึกคิด
จึงความรักกระชากชีวิตให้ติดหล่ม
แหละแม้แต่หยาดหนาวที่ร้าวลม
ยังมิอาจห้อมห่มให้อุ่นไอ
ในค่ำหนาว คืนนั้น
คนรักของความผูกพัน เขาไปไหน
เพียงที่ข้าเคลิ้มอยู่ครู่อึดใจ
ใคร เล่าใคร ..............มาพรากเธอ
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เป็นบทเพ้อพร่ำในค่ำหนาว
อาจปีนี้นานยาว จึงหนาวเก้อ
แหงนหน้ามองท้องฟ้าพร่า, ละเมอ
คงเหลือเพียงเสียงพร่ำเพ้อ ถึงเธอเท่านั้น......
26 พฤศจิกายน 2550 00:54 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
อยู่อย่างยิ่งใหญ่
๏ก่อกำเนิดจากเมล็ดอันนิ่มอ่อน
แล้วทบซ้อนผลิใบเขียวใสสด
แตกกิ่งกอต่อกิ่งก้านหยัดระชด
จากบทการกำหนดของเวลา
หยั่งรากลึกชอนไชใต้ดินลึก
แผ่ผนึกทุกก้อนดินไว้แน่นหนา
ผลัดแพใบซ้อนสนิทขึ้นปิดฟ้า
ผ่อนไอแดดแผดจ้ามารำไร
กว่าจะยืนเป็นต้นอย่างตอนนี้
กว่าจะผลิเต็มที่เป็นไม้ใหญ่
อย่าง “สุขุม” “เงียบง่าย” “ค่อยเป็นไป”
ต่อการเปลี่ยนเวียนไหวไม่แน่นอน
๏มิใช่เรื่องง่าย...เลยเพื่อนเอ๋ย
กว่าผลิผ่านการคุ้ยเคยของวารก่อน
ฝังอดีตใดเล่าเจ้าอาวรณ์
แลอดีตใดทอนการเปลี่ยนแปลง
หากเพื่อน “อยาก” ยิ่งใหญ่......
อยากเติบโตถึงวัยหัวใจแกร่ง
ขึ้นยืนหยัดทัดทานทุกต้านแรง
เข้มแข็งไม่พรั่น ไม่หวั่นกลัว
เพื่อนต้อง “สุขุม” และ “นุ่มลึก”
“เงียบง่าย” ในรู้สึกถ้วนทั่ว
“ค่อยเป็นค่อยไป” ค่อยใหญ่ตัว
ผ่านเวลาอันชืดมัว – ต้องผ่านนาน
๏ขอให้เพื่อนเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่
กี่กาลนานเท่าไรที่ล่วงผ่าน
จึงกล้าน้อยค่อยเติญใหญ่ผลิใบบาน
และแตกกอต่อก้าน หยั่งรากลึก !!!.....