30 มีนาคม 2549 23:11 น.
แดดเช้า
อยากเขียนกลอนอ่อนหวานซ่านซึ้งบ้าง
ได้แต่ค้างปลายปากกาหาความฝัน
จะเขียนกลอนเหงาเหงาเศร้ากดดัน
ก็ตีบตันเขียนไม่ออกต้องลอกเลียน
อยากทำซึ้งหึงหวงห่วงใยรัก
ก็อึกอักมองฟ้ามาขีดเขียน
เป็นเมฆฟุ้งคุ้งแควแล้ววาดเวียน
จุดเปลวเทียนนั่งนึกค่อยตรึกเอา
ต้องจุดธูปลูบกระดาษวาดภาพฝัน
ให้ตัวสั่นงันงกเป็นเจ้าเข้า
เชิญศิลปินทรงวิญญาณบันดาลเงา
ค่อยค่อยเกลากลอนหวามให้งามคำ
อยากเขียนกลอนซ่อนนัยให้คนหนึ่ง
ก็นั่งอึ้งอึดอัดผลัดเช้าค่ำ
กว่าจะได้อารมณ์ประสมนำ
ต้องกลืนกล้ำค่อยประดิษฐ์คิดร้อยเรียง
ลองปล่อยวางอย่างเข้าใจในกลอนนั้น
ค่อยค่อยกลั่นจากจิตคิดน้ำเสียง
โสตประสาทวาดจินตนาการสานสำเนียง
หลั่งถ้อยเพียงจากใจ ... รู้ให้จริง
วางความอยากฝากไว้ในอากาศ
บรรจงวาดความตั้งใจอันใหญ่ยิ่ง
จึงจรดปลายปากกามาอ้างอิง
อาบฝันผิงดวงดาวพราวอักษรา
กลอนจะหวานเหงาเศร้าเข้าใจโลก
จะสุขโศกย่อมกลั่นสรรคุณค่า
ความจริงใจไหลหลั่งพรั่งพรูมา
สื่อภาษาจะซึ้งตรึงทุกคำ
คือความหมาย "ทางสายกลาง" วางถักถ้อย
กรองคำร้อยเพียงคำรักจากใจร่ำ
ใช่ภาษาเปลือกปลอมหลอมกระทำ
มายานำฉาบฉวยงานสวยเพลิน
ไม่สามารถสื่อสารงานความคิด
รู้สึกติดตีบตันงงงันเงิ่น
ฟุ้งคำเพ้อเฟ้อความหมายมากมายเกิน
เรื่องไม่เดินดังใจ ... ทำไงดี?
อยากเขียนกลอนอ่อนไหวใช้ใจเขียน
อย่านั่งเทียนวนวาดพลาดทุกที่
ตั้งสติ สมาธิไว้ให้เข้าที
หลั่งรู้สึกเปี่ยมปรี่ปล่อยออกมา
เป็นคำตอบมอบให้ใจอยากเขียน
จะร่ำเรียนร้อยกรองคล้องคุณค่า
"ทางสายกลาง" วางบท จรดปากกา
ปล่อยใจพาร่ำรู้สึกจารึกกลอน.
30 มีนาคม 2549 11:25 น.
แดดเช้า
ลมดึกบาดแทบขาดใจในค่ำนี้
แว่วดนตรีแทรกลึกนึกหวาดหวั่น
หลอนสายตาระยับจับใจครัน
หวนอกสั่นกลัวนักข่มหักใจ
ราตรีนี้แววตานั้นคงพริ้มหลับ
หรือฝันดับห่างเหินเกินร่ำไห้
เขาอาจเมินเดินจากพรากกันไกล
ฝันถึงใครหรือเปล่า ... เรากังวล
สารพัดจัดแต่งเรื่องเปลืองสมอง
ใจร่ำร้องโหยหาบ้าสับสน
ก็แค่ใครผ่านไปเพียงหนึ่งคน
ไม่หลุดพ้นความคิดถึงตรึงบาดใจ
จะข้ามฟ้าราตรียามนี้แล้ว
ดาวหยอกแววเย้าว่าบ้าใช่ไหม
มานั่งคิดครวญเพ้อเก้อทำไม
ปล่อยลมให้บาดร้าวหนาวราตรี
จะฝืนหลับดับทุกสิ่งผ่านคืนค่ำ
ยังคงย้ำแววตาหลอนมานี่
เหวย ... หัวใจไม่พักไม่รักดี
จะร้องไห้กี่ทีจึงหลับลง
ลมดึกบาดแทบขาดใจในค่ำนี้
แสงขาววาวทอสีมาไล่ส่ง
มัวนั่งเหงากับเงาเลือนเหมือนงุนงง
ใจหนอหลงกับฝันอันไม่มี.
27 มีนาคม 2549 20:32 น.
แดดเช้า
เพราะพลัดหลงในดงกลอนบ้านกลอนรัก
ได้รู้จักรสกานท์สารภาษา
หลงรักถ้อยร้อยเรียงเพียงผ่านตา
อยากสื่อนัยวาจามาทักทาย
จัดอันดับประทับใจในบ้านนี้
อาจจะดีเพียง "ส่วนตน" ค้นความหมาย
ด้วยสาระประดับประดามาบรรยาย
ได้แนวคิดมากมายในวงวรรณ
คมคำลึกตรึกตรึงซึ้งสาระ
อักษระน้ำเสียงเคียงสร้างสรรค์
คุณ "เพิ่มบุญ" หนุนเนื่องเรื่องสัมพันธ์
สะท้อนภาพสาระครันทุกวรรคตอน
"มารแมงมุม" แมงมุมขยุ้มคิด
รื่นคำคิดครบคำคมบ่มคำสอน
คุณ "ส่องหล้า" ส่องใจในคำกลอน
"เชษฐภัทร วิสัยจร" ซ่อนสาระ
"นัทนิตย์" ประดิษฐ์คำล้ำลึกถ้อย
"มือ ไหม้พาย" เรียงร้อยอักขระ
หมอ "วฤก" ตรึกคำล้ำวาทะ
ชื่นธรรมะ "พี่ดอกแก้ว" กลั่นร้อยกรอง
ชอบสำนวน "ม้าก้านกล้วย" ช่วยรับรู้
"plaing_piu" ผู้ซ่อนนัยคล้ายคันฉ่อง
ทั้งหมดนี้ที่สายตากวาดมามอง
ล้วนชอบใจสอดคล้องเป็นส่วนตน
หาใช่การลำดับกับเกณฑ์กฎ
บันทึกบทบันดาลใจให้คลายหม่น
อ่านโวหารกานท์กลอนของทุกคน
ล้วนช่วยดลแนวคิดคำคมคาย
อาจคิดเห็นไม่เหมือนใครอย่าได้เคือง
กลอนประเทืองปัญญามาส่องฉาย
เป็นตัวอย่างยกมาอธิบาย
ล้วนหลากหลายสาระนัยในบ้านกลอน.
26 มีนาคม 2549 08:20 น.
แดดเช้า
เส้นสายทองของขอบฟ้าจรดน้ำ
ลาคืนค่ำคลายหนาวดาวดับแสง
น้ำแทรกซับซอกดินหินแหลมแทง
เกลากล่อมคมขัดแย้งจนเกลี้ยงกลม
ขีดรอยรักสลักใจไม่เคยหลุด
แม้หินทรุดตามน้ำกระหน่ำถม
รอยขีดคำพร่ำเพ้อเผลอฝากลม
วาดคำคมบนรอยทรายยังหายไป
เส้นสายทองของขอบฟ้าจรดน้ำ
กรองลำนำบรรเลงบทเพลงใหม่
"ความคิดถึง" ตรึงแนบแทบขาดใจ
หนอทำไมมิเลือนเหมือน ร อ ย ท ร า ย.
25 มีนาคม 2549 13:25 น.
แดดเช้า
เที่ยวบ้านกลอนซ่อนน้ำตาลหวานยิ่งนัก
กำซาบรักคร่ำครวญอบอวลร่ำ
น้ำตาลหวานซ่านตรึงซึ้งน้ำคำ
อยากเรียงนำ ระดับน้ำตาล ให้อ่านกัน
ตามมุมมองของฉันเท่านั้นนะ
ไม่ใช่การเกณฑ์กะจะเลือกสรร
ลำดับตามความชอบใจใคร่ผูกพัน
ใช่จะมั่นยึดเป็นหลักน่าหนักใจ
หวานน้ำความน้ำคำฉ่ำโวหาร
กลั่นกลอนกานท์กรองบทรสอ่อนไหว
คือคนหนึ่งซึ้งสัมผัส "ทัดหทัย"
น้ำตาลหวานสดใสใส่ลงตัว
หวานอันดับที่สองลองลิ้มรส
ทุกถ้อยบทค่อยละเมียดละเอียดทั่ว
คือ "แม่จิตร" วิจิตรถักรักพันพัว
หวานสุดขั้วใจสั่นเกินบรรยาย
ระดับน้ำตาลหวานนัก "นางสาวใบไม้"
พลิ้วคำไหวเทียบงามซ่านความหมาย
เสียงชะอ้อนอ่อนละมุนกรุ่นกำจาย
ใบไม้คล้ายโบกไกวไหวตามลม
"สีน้ำฟ้า" น้ำฟ้าครามแห่งความรัก
ร้อยถ้อยทักเคียงค่ามาสร้างสม
หวานพอปลิวพลิ้วไหวใสชื่นชม
อ่านแล้วข่มโศกเศร้าเบาบางลง
"แทนคุณแทนไท" หนุ่มหนึ่งโรแมนติก
อารมณ์กิ๊กซ่อนนัยน่าใหลหลง
กรองสัมผัสคัดสรรอย่างบรรจง
สื่อรับส่งเรื่องรักอ่านพักใจ
คุณ "ยังเยาว์" เกลากล่อมกลอนขับขาน
พอประสมประสานน้ำตาลใส่
คล้องจังหวะ จะโคน ลงความนัย
ลงตัวได้พอดีไม่มีเลือน
"บินเดี่ยวหมื่นลี้" นี่คงซุ่มตกหลุมรัก
หล่นจมปลักดงน้ำตาลใครหวานเหมือน
นกติดหล่มเสน่หาตั้งหน้าเบือน
บินสู่เรือนรังรักทุกหลักกลอน
"อัลมิตรา" กวีสาวเจ้าของบ้าน
สร้างผลงานตราตรึงซึ้งนัยซ่อน
หวานคำพ้อต่อคำรักปักใจรอน
วาบหวามอ่อนละไมในคำกานท์
คำเธอสวย "เพรง พเยีย" เชียร์ขาดใจ
ระยิบไหวระยับพราวดั่งดาวหวาน
เธอประดิษฐ์คิดค้นสร้างผลงาน
หลงคำปานเคลิ้มเคลิบเอิบอวลนัก
ยังหลงรัก "เพียงพลิ้ว" คำปลิวไหว
กระทบใจเหมาะจังหวะจะแน่นหนัก
ร่ำอารมณ์ผสมผสานหวานคำรัก
ตั้งใจถักถ้อยงามยามร้อยกรอง
เพียงคัดสรรส่วนตัวใช่เกณฑ์หลัก
หากใครรักนิยมใครไม่ขัดข้อง
บทกวีอยู่ที่ใจตามใครมอง
ใครจะปองบทใดตามใจคุณ
อย่าเคืองขัดเลยนะหากผ่านตา
ก็ขออย่าถือเป็นเรื่องให้เคืองขุ่น
ระดับน้ำตาล หวานล้ำมาค้ำจุน
ให้บ้านนี้อบอุ่นอวลคำรัก.