11 ตุลาคม 2548 20:45 น.

ณ บ้านกลอนไทย

แดดเช้า

อยากเขียนคำทำนองของความรัก
ประสานสมัครสามัคคีสโมสร
กลั่นสิ่งดีที่พร่างพรายไหลสู่กลอน
กรองคำวอนอ่อนละมุนมาคุ้นเคย

อยากอ่านกลอนซ่อนความท่ามความรัก
ท่วมแน่นหนักจุดยืนอันชื่นเผย
หอมน้ำคำฉ่ำหวานงานรำเพย
กรุ่นคำเอ่ยปลอบจิตคิดใคร่ครวญ

อยากเห็นรักรู้จักกันคนฝันสวย
รินระรวยสายธารหว่านใจหวน
เอื้อไมตรีจากใจใสทบทวน
ซ้องกระบวนอุ่นคล้องกรองสิ่งจริง

อยากได้ยินพิณเพลงบรรเลงคำ
อักษรร่ายเริงรำคำงามยิ่ง
จากสัมผัสศรัทธามาไหวติง
และหยุดนิ่งดวงจิตพินิจความ

อยากสัมผัสชัดแรงแห่งชีวิต
รอยลิขิตขีดฝันมั่นคำถาม
เค้นคำตอบปลอบขวัญวันงามงาม
ประคองข้ามฝันใฝ่ไปด้วยกัน

อยากลิ้มรสมธุรวาทสะอาดหอม
อันโอบอ้อมเกสรอักษรสวรรค์
สร้างเจตน์จินตนาการทุกวารวัน
เพื่อหมายมั่นสบตาคราใจท้อ

อยากเขียนกลอนวอนคำล้ำรู้สึก
แผ่ระลึกมิตรภาพตราบฟ้าก่อ
ทุกคำเขียนเจียระไนนัยฝันทอ
ถักเพื่อต่อจุดประกายไฟอารมณ์

ทุกปรารถนา... ว่าวอนบ้านกลอนไทย
ขอให้ใจสบสันติสติข่ม
เพื่อภาพงามความดีที่สังคม
พร้อมสร้างสมสู่มิ่งมิตร ... นิมิตงาม.				
11 ตุลาคม 2548 00:10 น.

รอยเปื้อนที่ลบไม่ออก

แดดเช้า

เด็กน้อย
ค่อยค่อยขีดเขียนภาพใส
เป็นบ้าน เป็นท้องฟ้า กว้างไกล
เป็นต้นไม้ใหญ่ใหญ่ในเขาชัน

ดินสอเปื้อนมือ
จับถือกำแน่นตั้งใจมั่น
ดีใจ ปลื้มใจ รำพัน
รอยฝันทาบวาดรอยใจ

ดินสอกุด
เธอหยุดวาดภาพผันไขว่
มีดคมเหลาลงบรรจงไว้
หมายให้ดินสอแหลมคม

แม่ผ่านมาเห็น
ตกใจแทบเต้น ... ดุข่ม
มีดพลาดบาดมือลึกจม
เลือดไหลเป็นปมในใจ

แม่ตีมือหนูน้อย
น้ำตาตกผล็อยผล็อยถามไถ่
แม่จ๋า ... หนูผิดอะไร
ภาพวาดใสใส ตั้งใจทำ

รอยเปื้อนบนกระดาษ
รอยวาดลบได้ไร้รอยจ้ำ
แต่รอยผิดพลาดบาดแผลจำ
หนูน้อยชอกช้ำตรึงตรา

เลือดไหลผ่านกระดาษ
ภาพวาดเปื้อนแดงเปรอะพร่า
สะอื้นยืนปาดน้ำตา
แผลเจ็บปวดปร่า ... ใครลบ.				
10 ตุลาคม 2548 10:03 น.

กระจกเงา

แดดเช้า

ใครสักคน ... ยลกระจกสะทกจิต
โอ้คงผิดกระจกปดความสดใส
หน้าหม่นหมองของฉันนั่นหรือไร
กระจกคงหลอกไว้ให้ใจตรม

ใครคนนั้น ... พลันทุบกระจกทิ้ง
คงไม่ใช่ความจริงสิ่งขื่นขม
แล้วควานหากระจกใหม่ให้ตนชม
เพื่อจะข่มกระจกเก่าที่ร้าวไป

กระจกใหม่ ... ใสใสได้แจ่มแจ้ง
ใจยังแย้งไยหมองหม่นจนหวั่นไหว
ทุบกระจกอีกครั้งยังหวังใจ
กระจกใหม่คงคืนความชื่นชม

ทุบกระจกหลายอันพลันร้าวแตก
ดวงใจแหลกกระจายเจ็บหนักขม
ส่องกระจกบานไหนใจยังตรม
ทุกกระจกล้วนข่มสะสมร้าว

กระจกใหม่กี่ใบได้ทิ้งแล้ว
ใบหน้ายังส่อแววหมองเกินกล่าว
ไขความจริง ... อิงซ่อนวอนเรื่องราว
อ้อนกระจกช่วยล้างคาวทุกคราวไป

กระจกคงลงความเห็นเป็นความจริง
ใจยังวิ่งวุ่นวายคล้ายหวั่นไหว
โทษกระจกหรือปรับตน ... ยามจนใจ
จึงผ่องใสโดยแท้ ... แค่ตัวตน

ใครคนหนึ่ง ... เริ่มซึ้งค่าคุณกระจก
หวั่นสะทกแล้วแก้ไขไม่สับสน
ริ้วรอยย่นปนแปลกแยกอดทน
ค่อยค่อยค้นคิดแก้และป้องกัน

ใครคนนั้น ... วันนี้จึงมีหวัง
พอประทังพัฒนากว่าถึงฝัน
มีชีวิตจิตจ่อต่อปัจจุบัน
พร้อมสร้างสรรค์แก้ไขในสิ่งจริง.				
10 ตุลาคม 2548 08:14 น.

ถึงเธอ ... อัลมิตรา

แดดเช้า

เธอบอกว่า .. ผ่านมาค่าชีวิต
พบถูกผิดหลากหลายกรายให้เห็น
ถ้าจะถามเธอเป็นใคร ... เธอไม่เป็น
มิใช่เร้นซ่อนไว้เพียงใจตน

เธอบอกว่า ... ไม่เคยพบเธอคือใคร
สมมติแห่งห้วงนัยไม่สับสน
"อัลมิตรา" เกิดดับ กับเปลือกปน
ทุกสิ่งหม่นผ่านไป ไม่หวนคืน

เธอบอกว่า ... ผ่านมาถ้าถามหา
"อัลมิตรา" เพียงชื่อหรือสิ่งอื่น
ลมหายใจไหลเข้าออกบอกจุดยืน
ถึงกาลกลืนชีพร่วงไม่ห่วงใย

เธอบอกว่า ... ตัวตนที่ค้นพบ
เพียงเงากลบเพียงผ่านอ่านคำใบ้
ณ กาลนี้ที่ทวนทบบรรจบใจ
จริงเพียงใดสิ่งจริงย่อมอิงความ

"มิตรภาพตราบสิ้น ดิน และ ฟ้า"
เป็นคำกล้ายืนยันมั่นคำถาม
หลอมตัวตนคนจริงเทิดสิ่งงาม
เผยทุกท่ามกาลช่วงท่วงทำนอง

ฉันสบตาคราเธอยิ้มอิ่มเอิบสุข
ปลดเปลื้องทุกข์ปัญหาครามัวหมอง
กระทบร้าวเรื่องราวคราวใครมอง
หรือเธอต้องรับผิดชอบระบอบใด

เผยแววกล้ามุ่งหมายท้าทายทัก
ฉันรู้จักแล้วซึ้งตรึงใจใฝ่
"อัลมิตรา" ตราตรึงซึ้งห้วงใน
เกินที่ใจบรรยายขยายคำ

ฉันจึงบอกรักเธอ... "อัลมิตรา"
ที่เปรยมาใช่เผลอแล้วเพ้อพร่ำ
แต่ตัวตนคนจริงสิ่งสื่อนำ
ค่าย่อมล้ำกว่าสิ่งอื่น ... ยื่นให้เธอ.				
8 ตุลาคม 2548 18:55 น.

ร่ำรู้สึก ... บันทึกกลอน

แดดเช้า

ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน ... ผ่านรู้สึก
ล้วงเบื้องลึกควักใจใฝ่ฝันเขียน
แล้วหยุดนิ่งอิงซ่อนวอนคำเพียร
ดิ่งลงเจียรถ้อยคำลึกล้ำดี

ฉันเขียนกลอนวอนใจให้รู้สึก
ล้วงสำนึกตรึกค่าท้าศักดิ์ศรี
จากศรัทธามาทวนทบทุกนาที
มิใช่เพื่อระบายหนีความช้ำตรม

กลั่นหัวใจไหวไหว ... ไกวรู้สึก
ตกผลึกแต่ละด้าน ทั้งหวานขม
หมาย "สื่อสาร" งานความคิด ให้ติชม
มิหวังข่มเก่งกาจเป็นปราชญ์ไกร

กรองถ้อยคำแต่ละคำ ... ร่ำรู้สึก
สะท้อนทบระลึกตรึกตรองไตร่
จาก ตัวตน ค้นหาขั้ว จากหัวใจ
แสวงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ... ให้วงวรรณ

ฉันมิอาจเอื้อมค่าว่าเก่งนัก
มิอาจรักคำเกินจิตคิดใฝ่ฝัน
เพียงรู้จักตระหนักสัมผัส จัดคำครัน
และเลือกสรรคุณค่า ... มาสื่อกลอน

ฉันมิอาจเปรียบค่าชัดจัดระดับ
สดับรับ ณ ปัจจุบัน วรรณอักษร
เคลื่อนทุกคิดสถิตมั่นฝันทุกตอน
ละเอียดอ่อนเพียงพอละออคำ

ฉันมิอาจสรุปค่าบทกวี
เพียงหน้าที่เข้าใจในคำพร่ำ
คุณค่าบทประพันธ์คือฝันนำ
มิใช่กรอบกรงค้ำ ... หรือคำคล้อง

ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน สื่อสัมผัส
สิ่งรับรู้ สิ่งแจ่มชัด สิ่งขัดข้อง
นำเสนอจังหวะสัมผัส จัดทำนอง
สอดคล้องจองดนตรีดีดสีนัย

ฉันคงค่าบทกวีที่ตัวบท
มิใช่กฎเกณฑ์อื่นเพื่อลื่นไหล
กฎแห่งฝัน กฎแห่งคิด กฎแห่งใจ
เหนือกฎใด เหนือกรอบครอบขอบความคิด

ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน วันวารร่ำ
อยากให้คำใคร่ครวญล้วนศักดิ์สิทธิ์
ร่ำทุกบทชดเชยเผยทุกทิศ
สื่อชีวิตลึกล้ำ ... ทุกคำกลอน

ลับมุมมองคล้องโลกยามโศก-สุข
พิศชื่น-ทุกข์รุก-รับกับอักษร
หลอมชีวิตติดพันกลั่นคำวอน
เสกคำพรกรองวจีอย่างที่เป็น

นับวันกลอนกล่อมเกลาเหลาดวงจิต
เจียรประดิษฐ์มุมมองกรองคิดเห็น
แง่ชีวิตงามจิตใจใสร่มเย็น
ส่วนหนึ่งเร้นลึกซ่อนย่อมอ่อนเบา

ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน เติบการคิด
วิญญาณจิตพัฒนาล้างบ้าเขลา
หลอมสติตริตรองมองแสง-เงา
ชัดเพียงเข้าใจชีวิต ... ตามคิดกลอน.				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแดดเช้า
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดดเช้า