4 มกราคม 2549 07:30 น.
แดดเช้า
เก็บหนึ่งต้นดอกไม้ให้ปักลง
ณ ดินดงดุลค่ามหาศาล
หมั่นรดน้ำฉ่ำชื่นคืนผลงาน
เพื่อต้นกร้านแกร่งพอล้อแดดลม
ต้นดอกไม้ดอกน้อยค่อยเติบต่อ
ขยายกอแตกต้นบนดินถม
เผยดอกเล็กดอกน้อยค่อยผลิชม
ฝนจะข่มแข็งแรงท้าแรงร้อน
ภายใต้กิ่งไม้ใหญ่โหมใส่หัก
ดอกไม้ทักความปรวนเหมือนทวนสอน
แม้ติดดินดอกน้อยน้อยค่อยผลิวอน
เติบต้นย้อนกระแสกรรมกระหน่ำวน
เรียบง่ายงามตามชีวิตชะตาปลูก
ปรับตัวถูกตามขอบเขตแห่งเหตุผล
ไม่คิดหมายตะกายใหญ่เกินตน
จะดิ้นรนหนีเร้นเป็นไม่มี
เก็บหนึ่งต้นดอกไม้ให้ปักต้น
สักเดือนดลสวนน้อยน้อยค่อยสดสี
ผลิบานเบ่งเบิกรับกับไมตรี
แข็งแรงดีใช่ยิ่งใหญ่กว่าใครเลย.
26 ธันวาคม 2548 21:43 น.
แดดเช้า
มีเรื่องเล่าเก่าก่อนวอนเรื่องฝัน
ดวงตะวันงดงามความเฉิดฉาย
แผ่รัศมีคลี่ม่านฟ้ากระจ่างกระจาย
เจิดคมคลายหนาวซ่านผ่านมืดมน
ทานตะวันผันหน้ามาชื่นเชย
ยิ้มเปิดเผยผลิรักคลายหมองหม่น
จะกี่เช้าเงาดอกไม้ใฝ่อดทน
หวังพิศยลเยินยอดวงตะวัน
ตะวันร้อนยังอ่อนใจในเรื่องรัก
หลงใจทักหยาดน้ำค้างพร่างความฝัน
สะท้อนแสงเงาวนบนพฤกษ์พรรณ
โอบอ้อนหยาดน้ำนั้นมั่นชื่นชม
ร้อนเปลวแดดละลายน้ำระเหย
ตะวันเชยเพียงละอองของใจขม
ทานตะวันมั่นคงรักปักอารมณ์
กี่เช้ายังนิยมชมตะวัน
เล่าเรื่องราวรักร้อนซ้อนความหมาย
เหมือนทักทายปลอบจิตอย่าปิดกั้น
ตะวันรักหยาดน้ำค้างเท่าเท่ากัน
กับดอกไม้ชื่นชมมั่นตะวันงาม
เรื่องเก่าเก่าเล่าให้ได้หวนคิด
รักปกปิดไร้คำปลอบตอบคำถาม
เดียวดายด้วยเสนอใจในนิยาม
คอยติดตามสักคนค้นความนัย
หากไม่มีการสนองสอดคล้องรับ
หวนใจกลับเจ็บแปลบแอบร่ำไห้
ตะวันขอโอบน้ำค้างค้างยอดใจ
ทานตะวันมิเคยได้รับความรัก
นิทานเก่าเล่าใหม่ในครานี้
คือรู้สึกดีดีอันแน่นหนัก
ความสมดุลช่องว่างช่างห่างนัก
พร้อมรู้จักความเดียวดายรักฝ่ายเดียว.
19 ธันวาคม 2548 23:07 น.
แดดเช้า
เพียง ตอนนั้นฉันและเธอเผลอฝันใฝ่
เพียง หลงใหลในคำพร่ำเสมอ
เพียง ตกหลุมรุ่มร้อนอ้อนบำเรอ
เพียง ใจเธอแปรปรวนไม่หวนคืน
พอ กับรักปักใจในวันก่อน
พอ เกินย้อนระลึกนึกเจ็บฝืน
พอ สูญสลายคล้ายหัวใจไร้หลักยืน
พอ หยิบยื่นแล้วมิได้สิ่งใดแทน
เพียงพอ ที่จะรับรู้อยู่ร่มเย็น
เพียงพอ เห็นสิ่งอื่นอีกหมื่นแสน
เพียงพอ กับชีวิตเกินคิดแค้น
เพียงพอ ตั้งหลักแน่นนิ่งลำพัง
พอเพียง อิ่มอุ่นฝันกับวันใหม่
พอเพียง ได้ก้าวย่างอย่างมีหวัง
พอเพียง ทิ้งอดีตผิดพลาดพลั้ง
พอเพียง ฝังชังโกรธหมดโทษกัน
จึง เพียงยิ้มพริ้มเบิกบานสานความรัก
จึง พอทักความหวังดีที่เคยฝัน
จึง เพียงพอต่อบรรลุปัจจุบัน
จึง พอเพียงไม่หวั่นความหลังใด
เพียง มอบให้อภัยกัน ณ วันนี้
พอ กันทีอดีตเก่าเฝ้าหวนไห้
เพียงพอ จะทวนระลึกตรึกความใน
พอเพียง คืนหัวใจให้กลับมา.
19 ธันวาคม 2548 22:22 น.
แดดเช้า
ณ ลานกว้างห่างฝันต่างวันใส
มีสักใครเดียวดายคล้ายหมดหวัง
ร้อนเปลวแดดแสดแสงแผดแรงชัง
ร้ายยิ่งกว่าถูกกักขังในกรอบกรง
ความเดียวดายขังใจใครคนหนึ่ง
ไร้เงาซึ้งเขียวสดใสให้เดินหลง
เวิ้งว้างฟ้าไร้ค่ามาวาดวง
ขีดรอยเท้าวางลงรอยทางใด
จุดสายตาขอบฟ้ากว้างกว่ากว้าง
แต่เส้นห่างใกล้ตาค่ายิ่งใหญ่
ที่ถักทอก่อหวังดั่งทวงใจ
คือใบไม้ ใบนั้น เหมือนฝันวาง
เป็นหลักฐานหว่านทางระหว่างคิด
เปล่งชีวิตใกล้ใกล้ไม่เหินห่าง
จะได้พบพุ่มไม้ในหว่างทาง
ร่มเย็นสร้างใจอุ่นอย่างคุ้นเคย
เธอเป็นถึง ใบไม้ จุดใจหวัง
และเป็นดั่งร่องรอยค่อยผลิเผย
มีคุณค่ากว่าใบไม้ร่วงละเลย
เหมือนเธอเอ่ยความสดใสไม่ไกลกัน
จึงมีแรงเสาะค้นต้นไม้ใหญ่
สละใบเพื่อนำทางสร้างแรงฝัน
พริ้มใจคิดถึงจุดหมายป่ายฝ่าฟัน
สู่ถิ่นนั้นที่ต้นไม้ได้เติบตน
ณ ลานกว้างห่างไกลจุดใฝ่ฝัน
แต่ใบไม้ใบนั้นปลิดจากต้น
ปูเส้นทางพร่างฝันบันดาลดล
สักใครค้นหาจุดหมายไม่เหนื่อยใจ.
14 ธันวาคม 2548 08:24 น.
แดดเช้า
ใจของเธอลึกลงไปอยู่ไหนหรือ
เคยค้นรื้อขุดหามาดูไหม
ฤๅปล่อยสิ่งคลุมครอบสร้างกรอบใจ
บังใจไว้ไม่เห็นแม้เส้นรอย
กี่ขีดแผลดูแลใจบ้างไหมเล่า
ปล่อยกี่สุขกี่เศร้ากี่เหงาหงอย
ให้เร่งรุกทุกข์ช้ำน้ำตาปรอย
ใจลอยคล้อยคว้างฝันกี่วันคืน
กายหนึ่งกายหลายแผลกระทบทับ
รู้สึกรับหลากสัมผัสทั้งชื่น-ขื่น
ใจหนึ่งใจหนึ่งที่ที่กล้ำกลืน
ใจยังยืนถูกกระหน่ำซ้ำรอยใจ
พายุรักมักคลุมคุรุ่มร้อน
ทำใจอ่อนละลายว่ายเวียนไหล
เพลิงโกรธกริ้วปลิวปุดจุดเปลวไฟ
เผามอดไหม้เศษเขม่าร้อนเข้าตา
เงามืดมนวนวุ่นครุ่นหวั่นไหว
มัวเมาใจฟุ้งซ่านพาลเป็นบ้า
บังใจแท้แผลใจใครเยียวยา
รู้ไหมว่าใจลึกลึกผลึกเพชร
เพชรประกายฉายแวมแจ่มจรัส
ใจสัมผัสสิ่งบังใจให้ร้อนเผ็ด
บังแสงงามท่ามคุณค่าน้ำตาเล็ด
สะท้อนสะเก็ดหม่นไหม้หลายคืนวัน
เถิด ... เปิดใจไล่พายุปะทุคลั่ง
แล้วไหลหลั่งน้ำใจขับไหวหวั่น
ล้างลึกใจใสสะอาดปราศเงาควัน
ตั้งคงมั่นเพียรสู้อย่ารู้ท้อ
ใจของเธอลึกลงไปอยู่ไหนหรือ
ลองฝึกปรือใส่ใจบ้างไหมหนอ
กว่าเพชรแท้เผยจรัสชัดแววทอ
เธอเพียงพอกับสิ่งเป็นย่อมเย็นใจ.