10 มีนาคม 2549 00:30 น.
แดดเช้า
เธอบอกว่า ...
ชีวิตร้างไร้ค่าใบไม้ร่วง
ปลิดขั้วก้านผ่านฝนหล่นทะลวง
เพื่อล่องล่วงลอยคว้างต่างเวลา
แดดลมเลียเสียใจไปวันหนึ่ง
ซบซากซึ่งซุกซ่อนกร่อนกลืนพร่า
สลายลงผงผุยฝุ่นฝอยทา
จางจมหายมลายค่า ... นะ ชีวิต
เธอบอกว่า ...
ผ่านเวลา ผ่านเหตุการณ์ ผ่านถูกผิด
ชีวิตเธอเหมือนใบไม้ใบน้อยนิด
มีเพียงสิทธิ์เสรีภาพเพียงนิดน้อย
ฉันซับน้ำตา ...
ความอ่อนล้าวันเก่าซ้อนเหงาหงอย
มิติเงื่อนเลือนลางห่างร่องรอย
สื่อทรงจำยังถักร้อยในหัวใจ
อย่างน้อย ...
หนึ่งริ้วรอยทุกเส้นหยักถักฝันใฝ่
ฉันบรรจงหลงรักทักทุกใบ
นำมาใส่กระจกครอบในกรอบนั้น
ใบไม้หนึ่งใบ ...
ใช่ถูกกรอบกาลเวลามาล้อมฝัน
หากถูกกรอบทรงจำล้ำค่าครัน
ครอบคลุมมั่นความหมายทุกลายงาม
เจ้าหญิงของฉัน ...
แม้เธอนั้นเป็นสาวน้อยถักถ้อยถาม
ค้นคำตอบปลอบใจในนิยาม
เผยนัยความหมายมิตรใช่นิดน้อย
ใบไม้หนึ่งใบ ...
ขอเก็บใส่กรอบเงาอย่าเหงาหงอย
สะท้อนแววเวิ้งฟ้าน้ำตาปรอย
มีเงาฉันตรึกรอยลึกในนั้น.
8 มีนาคม 2549 12:17 น.
แดดเช้า
ขวัญเจ้าเอย ... ขวัญเอย มาสู่องค์เอย
ขอเอื้อนเอ่ยปลอบปลุกยามทุกข์หมอง
ขวัญเจ้าเอย ... ขวัญเอย เคยประคอง
กลับสู่องค์เจ้าน้องนองน้ำตา
ขวัญเจ้าเอย ... ขวัญเอย มาสู่องค์เอย
ขวัญเจ้าเคยสถิตมั่น - หมองผวา
ปลิวลอยไปสู่แมกไม้ในฟากฟ้า
กลับเถอะมา ... สู่องค์ นะขวัญเอย
ขวัญเจ้าเอย ... เอ่ยปลอบมอบห่วงใย
อย่าหวั่นไหวเพียงผิดสักนิดเอ๋ย
ฟ้าสั่งเปรี้ยงเสียงดัง ... สะดุ้งเลย
ประคองเคยอย่าตกใจ ... นะขวัญน้อง
น้ำตาไหลใครหนอขอคอยซับ
เจ้าจงหลับทั้งน้ำตาอย่าหม่นหมอง
เพื่อเช้าใหม่ไสวสว่างทางทอทอง
อุ่นประคองหนาวคลายคลี่ราตรี
ขวัญเจ้าเอย ... ขวัญเอย มาสู่องค์เอย
พี่เอื้อนเอ่ยปลุกปลอบมอบบายศรี
แค่พลาดรักอกหักร้าว ... เพียงเท่านี้
ดวงใจที่แกร่งเข้มยังเต็มตรึง
ขวัญเจ้าเอย ... ขวัญเอย มาสู่องค์เอย
ดอกไม้เผยผลิบานหวังที่พึ่ง
ลมหายใจไหลเวียนกายลึกซึ้ง
มั่นเพียงหนึ่งตัวตน ... นะคนดี.
8 มีนาคม 2549 08:57 น.
แดดเช้า
ข้าง ข้างคูคูเกี่ยงก้าวก่าย
นอก รายเรียงหน้ายิ้มชื่น
สุก งอมแล้วช้ำกล้ำกลืน
ใส รื่นเริงร่าอกตรม
ข้าง กายกำลังใจล้นหลาม
ใน ความทรามชั่วขื่นขม
เป็น ภาพฉาบทาอาจม
โพรง ถมเท่าไรไม่พอ
ปลาร้าพันพฤกษ์ผนึกแน่น
ใบเหม็นสุดแสนปลาห่อ
คนทรามล้อมรอบรายรอ
สอพลอใบเหม็นเกินใจ
เริ่มรวนครวญคิดผิดทาง
รอบข้างคว้างเคว้งหวั่นไหว
ริดรอนโพรงลึกเร้นใน
รุดริเริ่มได้สร้างสัญญา
หากผมเป็นผู้นำชาติ
จะสามารถสร้างสรรค์คุณค่า
เอสเอ็นเอล อยากได้เลือกมา
ผมเท่านั้นไทยเดินหน้าอย่ากังวล
สักปีหนึ่งผ่านไปเมกะโปรเจ็กต์
งานใหญ่ไม่มีเล็กอย่าสับสน
ขอโอกาสผมเถิดนะ ... ประชาชน
ความยากจนจะหมดหายอดตาย
เสียดายอำนาจนั้น .................. พลันมลาย
เสียงก่นด่ากระจาย ................. ทั่วแคว้น
สู่มวลรากหญ้าราย .................. เจ็บปวด
สร้างสิ่งสั่งสมแค้น ................... คลั่งคลุ้มคุไฟ
ข้าง ข้างโวยวายโหวกเหวก
นอก เมฆหมอกหม่นปนควันไหม้
สุก ผลรอหล่นจากต้นไม้
ใส ฉาบเกรียมใจใครรู้
ข้าง นั้นข้างนี้ยังตีต่อ
ใน หนอนไชพอเกินกอบกู้
เป็น ไส้พรุนวุ่นวายไม่น่าดู
โพรง ยังอยู่ยิ่งโหวงโพรงลึก.
4 มีนาคม 2549 23:42 น.
แดดเช้า
ลงอาคมมนต์เงินให้เดินซ้าย
คนก็ย้ายบิดข้างทางซ้ายนั่น
โถมทุ่มเงินให้เดินขวามาประชัน
คนก็ดันไปทางขวาตามค่าเงิน
ทุนนิยมนิยมทุนวุ่นไปหมด
ให้ขึ้นรถมอบดอกไม้ยังไม่เขิน
ยกมือโบกโยกซ้ายขวาตั้งตาเพลิน
ให้หน้าเดินก็เดินตามอำนาจทุน
โอม มหาร่ำรวยช่วยรักหน่อย
อย่าให้ด้อยกว่าอีกฝ่ายให้เงินหนุน
มาเถอะมา ... มามอบมาขอบคุณ
กินผลบุญรากหญ้ามาตอบแทน
โอม เมตตาประชานิยมถมเงินทุ่ม
ใช้ให้คุ้มเลยนะเลือกขึ้นแท่น
หากได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ซื้อใจแฟน
คนเรือนแสนเลือกผมเป็นผู้นำ
ลงอาคมคารมข่มฝ่ายนั้น
มาถึงวันคว่ำบาตรหน้าหมองคว่ำ
รีบกราบกรานโปรดปรานเถิด ... อย่าจองกรรม
ช่วยลงสมัครเลือกตั้งย้ำ ... ตามกติกา
โอม ... เงินร่ำรวยช่วยให้ได้อำนาจ
ของในชาติขายทุกอย่างที่ขวางหน้า
ได้ครอบครองจับจองผองประชา
เป็นของข้าให้หมด ... โอม มหาร่ำรวย.
3 มีนาคม 2549 20:04 น.
แดดเช้า
กาลครั้งหนึ่งนางงามนาม "ประชาธิปไตย"
ผู้เป็นใหญ่ครอบครองปกป้องขวัญ
คือ "ประชาชน" คนไทยใจผูกพัน
รักนางมั่นถนอมคุ้มอุ้มชูชม
ทุกวิถีทาง ทุกย่างก้าว ทุกทางทิศ
มอบชีวิต มอบวิญญาณ ประคบประหงม
เสียเลือดเนื้อเพื่ออุทิศแม้จิตตรม
เคยขื่นขมเท่าไรไม่เคยท้อ
กาลครั้งหนึ่ง มีจอมโจรเล่ห์เหลี่ยมจัด
อยากผูกมัดนางงามตามตื๊อต่อ
ใช้อำนาจเงินตรามาสอพลอ
เพื่อยกยอครอบครองนางห่างประชา
ทุนนิยมถมเงินจนเพลินใช้
หลอกล่อได้นางชื่นเชยเปรยคุณค่า
สร้างกฎกรอบชอบธรรมเนิ่นนานมา
วาดมายาภาพซึ้งน่าตรึงใจ
หลอกประชาชนหลงเชื่อเหลือเกินนัก
จนหลวมตัวขนาดหนักยกนางให้
ถึงมือแล้วขยำขยี้ป่นปี้บรรลัย
หลงตัวใหญ่ครองนางอย่างไม่กลัว
ประชาชนคนไทยเริ่มไหวคิด
พร้อมอุทิศกายลงหลงเกลือกกลั้ว
ขอนางงามอร่ามทองอย่าหมองมัว
อย่าให้โจรชาติชั่วพัวพันนาง
โจรเจ้าเล่ห์เพทุบายขายเนื้อนุ่ม
หมายเงินทุ่มประชาธิปไตยให้หมองหมาง
เพื่ออำนาจยิ่งใหญ่เพื่อเส้นทาง
เพื่อจะย่างก้าวสู่หวังความมั่งมี
ประชาชนทนไม่ไหวใจฮึดต้าน
โจรหน้าด้านยังยิ้มอย่างอิ่มหมี
บอกว่าจะสละกายหมายกู้พลี
เพื่อนางนี้อยู่ในกรอบความชอบธรรม
ลิ้นสองแฉกแลกศรัทธาประชาชน
ยังสับสนความเป็นจริงยิ่งถลำ
เชื่อโจรพาลพาลพาพบระยำ
นางคงช้ำโจรข่มขืนขมขื่นใจ
กาลครั้งนี้มีเพียงเสียง "ประชาชน"
ฝ่าสับสนหม่นหมองพบผ่องใส
ฟ้าสีทองโลกของนางกระจ่างอำไพ
"ประชาธิปไตย" กลับคืนให้ชื่นชม.