15 กรกฎาคม 2546 20:01 น.

วิพากษ์สังคม

แก้ว กรุงเก่า

หลายเหตุการณ์ผ่านระหว่างทางชีวิต
หลายความคิดหลายคำถามความสงสัย
หลายคำตอบที่เรา...ไม่เข้าใจ
ประมวลไว้ไม่รู้จบประสบการณ์

มีหลายสิ่งหลายอย่างบนทางเลือก
บางอย่างเปลือกบางอย่างเห็นเป็นแก่นสาร
บางอย่างดีบางอย่างด้อยค่อยพิจารณ์
อยู่ที่การเลือกดูจึงรู้ดี

อย่าใช้ความคิดเห็นเป็นเกณฑ์วัด
จริยธรรมชี้ชัดวัดถ้วนถี่
ประโยชน์เราเพียงนิดคิดอีกที
อาจเกิดมีผลเสียหายให้ส่วนรวม

สังคมทรามเพราะขาดความรับผิดชอบ
ละเลยกรอบ...จริยะ...จนหละหลวม
เห็นแก่ตัวเห็นแก่หน้าที่บ้าบวม
หน้ากากสวมใส่กันศีลธรรม์ไกล

ใช้กฎหมายโดยไม่สุจริต
ช่วยคนผิดซ้ำคนดีมีที่ไหน
กินสินบาตรคาดสินบนปล้นชาติไทย
รอเมื่อไรบาปกรรมจะตามทัน

ความเป็นธรรมชี้นำความถูกต้อง
ศีล-ธรรมครองความประพฤติต้องยึดมั่น
บุญกุศลสร้างด้วยร่วมช่วยกัน
ถึงวันนั้น...ชาติไทย...จะไพบูลย์				
14 กรกฎาคม 2546 19:21 น.

สัญญาใจ

แก้ว กรุงเก่า

สุรางคนางค์ 28
................................สุดที่รักจ๋า
เจ้ายอดชีวา	................มิ่งมิตรคนดี
ไม่อยากจากไป.............จึงได้รอรี
สุดเอ่ยวจี...................พี่ต้องลาไกล

................................เวลากระชั้น
ตาจ้องมองกัน.............มิเอ่ยคำใด
แทนคำอำลา.................ห่วงหาอาลัย
หยาดน้ำไสไส...............รินไหลออกมา

................................สัญญาจากใจ
มอบต่อกันไว้..............	ด้วยปรารถนา
รักกันมั่นคง	................ซื่อตรงวาจา
ตะวันจันทรา................พยานรักเรา

................................ณ สุดขอบฟ้า
ที่โค้งลงมา..................โอบกอดขุนเขา
เหมือนอ้อมแขนพี่.........ที่โอบกอดเจ้า
หวงห่วงนงเยาว์...........สุดหักอาลัย

.................................ยามคิดถึงกัน
จงมองดวงจันทร์.........บนฟากฟ้าไกล
รักฝากเดือนดาว...........สกาวสุกใส
โปรดนำความนัย............นี้ไปบอกนาง				
14 กรกฎาคม 2546 10:42 น.

อิจฉา

แก้ว กรุงเก่า

อิจฉานกอิจฉากาอิจฉาหมด
เศร้าสลดหดหู่ดูน่าขัน
ทั้งนกกามีคู่จู๋จี๋กัน
ทำไมฉันไร้คู่อยู่เดียวดาย

อิจฉาเดือนอิจฉาดาวที่พราวฟ้า
ส่องแสงมาเหมือนเย้ยกันเจ้าจันทร์ฉาย
เห็นเดือนดาวคู่กันทำฉันอาย
ไร้คู่กายเคียงเราจึงเศร้าตรม

เสียงลมพัดพริ้วมาอิจฉาไม้
เถาวัลย์ก่ายเกี่ยวพันฉันขื่นขม
ไม้มีเถาวัลย์เกี่ยวรักเกลียวกลม
เราระทมไร้เศษเสี้ยวรักเกี่ยวใจ

เห็นอะไรขวางตาอิจฉาสิ้น
ได้ยลยินคำหวานใครขานไข
ล้วนผิดหูผิดคำอยู่ร่ำไป
ช่างกระไร...หนอเรา...ไม่เข้าที				
9 กรกฎาคม 2546 20:34 น.

หวาน

แก้ว กรุงเก่า

เพลง...หวาน-โมทย์

อะไรอยู่ในรอยยิ้มมันสดใส
อะไรอยู่ในความหวานมันจับใจ
และในวันที่ดีนั้นมีอะไร

(สร้อย)  ****....หวานละมุนละไมอยู่ในทุกตอน
หวานทุกความรู้สึกไม่มีวันจางหายไป
และให้หัวใจ เก็บความหวานให้มันอยู่นานๆไว้

หวานละมุนละไมจากใจถึงใจ
เหมือนเป็นดังไออุ่นที่ส่งตรงไปหากัน
จะอยู่ใกล้ไกล   ให้ความหวานนั้นพูดแทนหัวใจ...****

ในวันที่มองดูฟ้ามันสดใส
ในวันที่มีหยาดฝนนั้นเป็นสาย
ไม่เคยมีวันใดที่ใจจะเหงา....(ซ้ำ****)

.................//-}*{- )..................

เสียงเพลงหวานแว่วมาเวลาค่ำ
ความทรงจำที่เลือนเหมือนเพิ่งผ่าน
วันที่ฝนจากฟ้ามาเนิ่นนาน
เส้นแห่งกาลเวลาที่พร่าเลือน

เคยหลงใหลรอคอยกับรอยยิ้ม
คำรักพิมพ์ตรึงใจหาใดเหมือน
ดอกรักบานกลางใจใต้แสงเดือน
บทเพลงเตือนหัวใจให้ร้าวราน

หวานรอยยิ้มสดใสจับใจนัก
หวานคำรักอ้อนวอนที่อ่อนหวาน
หวานความรักในหัวใจที่เบ่งบาน
เก็บความหวานให้นานไว้ในใจเรา

ทุกถ้อยคำที่บรรเลงในเพลงรัก
ใจประจักษ์วังเวงเป็นเพลงเศร้า
หลงคำหวานซานซมชมเพียงเงา
รักของเราไม่หวานซึ้งเท่าครึ่งเพลง

...{-\ ......?????....... ( -}....				
8 กรกฎาคม 2546 21:11 น.

พรุ่งนี้

แก้ว กรุงเก่า

เหมือน...ขอนไม้ใกล้ฝั่งรอฝังกลบ
เช่น.......ใกล้พลบของทิวาน่าใจหาย
เป็น.......ริ้วรอยชราร่างยามย่างกราย
คือ........ฝันร้ายของหนุ่มสาวที่เยาว์วัย

วันนี้แก่พรุ่งนี้ตายใครจะรู้
ทนเพื่ออยู่ อยู่เพื่อยล คนรุ่นใหม่
ทุกเวลานาทีที่ผ่านไป
พร้อมกับลมหายใจที่อ่อนแรง

มองเส้นทางสายเปลี่ยวเมื่อเหลียวหลัง
รอยเท้ายังไม่เลือนคล้ายเงื่อนแฝง
เป็นแนวทางเพื่อสรรสร้างอย่าคลางแคลง
อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครตาม

มองหนทางยาวไกลไปข้างหน้า
แม้อ่อนล้าท้อใจหรือใครห้าม
จะก้าวเดินสู้อุตส่าห์พยายาม
สานความงามร้อยรจน์บทกวี

ทุกย่างก้าวมั่นคงตรงและซื่อ
โดยยึดถือคุณธรรมนำวิถี
แฝงสัจจธรรมนำชีวิตให้คิดดี
เผื่อพรุ่งนี้...ไม่หายใจ...ไร้กังวล				
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ว กรุงเก่า