6 สิงหาคม 2546 19:40 น.
แก้ว กรุงเก่า
(กาพย์ฉบัง 16)
๑. มีแกงเผ็ดชนิดหนึ่ง เป็นที่กล่าวถึง
ตั้งชื่อไว้อย่างน่ากิน
๒. เรียก แกงสับนก เคยยิน ชาวบ้านร้านถิ่น
ได้กินเป็นที่แปลกใจ
๓. ปลาเล็กปลาน้อยสับไว้ เหยาะน้ำปลาใส่
หมักให้ปลารสชาติดี
๔. ปั้นเป็นลูกชิ้นก็มี บ้างกลมบ้างรี
ตามแต่แม่ครัวต้องการ
๕. แล้วนึ่งหรือต้มไม่นาน สุกพอประมาณ
อย่าให้เละไม่เข้าที
๖. จัดเตรียมเครื่องปรุงต้องมี พริกแกงอย่างดี
กะทิ กะปิ น้ำปลา
๗. กระชายใบโหระพา ผักสดนำมา
มะเขือหรือถั่วฝักยาว
๘. ตอนแกงไม่มากเรื่องราว กะทิคั้นขาว
ลงเคี่ยวกระทั่งแตกมัน
๙. พริกแกงลงผัดทันควัน กลิ่นหอมไหมนั่น
น้ำปลาน้ำตาลใส่ไป
๑๐. ชิมรสดูเป็นอย่างไร ปรุงจนพอใจ
ไม่เค็มไม่หวานพอดี
๑๑. ใส่ผักลงผัดอีกที กะทิที่มี
จงใส่ลงไปอีกครา
๑๒. พอเดือดใส่โหระพา แล้วยกลงมา
ตักแจกกินกันทันใด
๑๓. ชื่อ แกงสับนก ทำไม? ใช้เนื้อปลาใส่
แสร้งให้ว่าเป็นเนื้อนก
๑๔. โบราณท่านเล่นตลก แกล้งพูดโกหก
หลอกให้เด็กเชื่อหลงชิม
๑๕. แต่ครั้นพอได้ลองลิ้ม รสเนื้อนุ่มนิ่ม
กรุบกรุบกระดูกถูกใจ
๑๖. เหมือนเนื้อนกสับยังไง จึงตั้งชื่อให้
ว่า แกงสับนก นั่นแล
5 สิงหาคม 2546 20:12 น.
แก้ว กรุงเก่า
หอยขมแกงคั่วข้อย...........เคยกิน
รสอร่อยคุ้นลิ้น................หล้ายหลาย
ช้าพลูชะอมกลิ่น...............หอมกรุ่น
ข้าวสวยร้อนแถมท้าย.........มื้อนี้อิ่มนาน
๑. แกงคั่วหอยขม ตัวเกิดแต่ตม อร่อยเหลือใจ แม่ครัวนำมา
แกะเปลือกออกไป เหลือแต่เนื้อใน ขาวใสน่าทาน
๒. กะทิลงเคี่ยว พริกแกงหน่อยเดียว เคี่ยวไปไม่นาน พอให้แตกมัน
สูตรนั้นโบราณ แม่ครัวชำนาญ รสเลิศชิมดู
๓. ปรุงด้วยน้ำปลา อย่ามัวรอรา ใส่ใบช้าพลู แต่หากไม่โปรด
ขอโทษลองดู ใบยอมีอยู่ หรือยอดชะอม
๔. ทางภาคอิสาน ชอบรับประทาน แกงคั่วหอยขม จะตัดก้นออก
ด้วยมีดคมคม ใส่ยอดชะอม กับหน่อไม้ดอง
๕. ชื่นชอบทั่วไป กะทิไม่ใส่ ควรจำทำนอง แต่ใส่ข้าวเบือ (ข้าวเบือ=ข้าวคั่ว)
อร่อยเหลือพี่น้อง ไม่เชื่อท่านลอง จดจำทำดู
5 สิงหาคม 2546 19:17 น.
แก้ว กรุงเก่า
คืนจันทร์แรมเดือนดับลาลับเลื่อน
ฟ้าคงเหมือนใจพี่ที่หมองหม่น
ฟ้าไม่มีดวงเดือนมาเยือนยล
พี่เหมือนคนไร้เดือนมาเยือนใจ
เสียงหรีดหริ่งเรไรว่าไพเราะ
เหมือนยั่วเยาะเย้ยคนที่หม่นไหม้
เสียงลมโชยพัดผ่านก้านกิ่งใบ
เหมือนผีไพรโหยมาในราตรี
จะหลับนอนย้อนคิดจนติดขัด
นึกกระหวัดอยู่ในใจไม่ควรที่
ทนง้องอนจนอ่อนใจไม่ไยดี
ตัดไมตรีให้พี่ช้ำจนหนำใจ
ต้องกินแห้วจิ้มน้ำตาประสายาก
ระกำฝากมากับท้ออีกห่อใหญ่
ก่ายหน้าผากไขว้ขาทอดอาลัย
พรุ่งนี้ไปปิดบัญชีใช้หนี้เธอ
30 กรกฎาคม 2546 20:34 น.
แก้ว กรุงเก่า
แอบเก็บภาพนี้ไว้ที่ใต้หมอน
ยามจะนอนหยิบดูอยู่เสมอ
เป็นภาพสวยสดใส...ใครได้เจอ
จะพร่ำเพ้อหลงภาพประทับใจ
ช่างสมส่วนรูปทรงองค์ประกอบ
จิตรกรรู้รอบทันสมัย
ส่วนโค้งเว้าเข้าทีมีความนัย
มองครั้งใดใคร่ถวิลจินตนาการ
ม่านน้ำตกโปรยปรายกลางสายหมอก
คลื่นระลอกเคล้าละอองล่องลอยผ่าน
แลเห็นภาพพลิ้วไหวในสายธาร
สวยตระการงามสรรพภาพจับจินต์
เนินเขาคู่งามเด่นเห็นยอดเขา
ชะเงื้อมเงาอิ่มอาบดุจภาพศิลป์
มีร่องน้ำธารใสให้ดื่มกิน
ยามแล้งสิ้นน้ำหมดต้องอดทน
ที่เนินนั่นล้วนพรรณบุปผชาติ
งามผุดผาดลานตาน่าฉงน
ล้วนลึกลับซับซ้อนซ่อนซุกซน
ช่างน่าค้นน่าคิดน่าติดใจ
พาเคลิบเคลิ้มสุขใจจนใกล้หลับ
ซึ้งไปกับศิลป์ลีลาน่าหลงใหล
แม้ได้เห็นเป็นบุญตาไม่ว่าใคร
คิดมากไป...เดี๋ยวบาป...นี่ภาพวิว
25 กรกฎาคม 2546 22:26 น.
แก้ว กรุงเก่า
...วันเกิดคุณเวทย์.............พิเศษพิสุทธิ์
หนึ่งบุรุษวรรณกวี..........พิถีพิถัน
ร้อยรจน์กลอนจับจินต์....ประพิณประพันธ์
จงสุขสันต์พร้อมสรรพ.....ประดับประดา
รวยกุศลเพิ่มพูน.........จำรูญจำรัส
รวยสมบัติบารมี..........ประสีประสา
รวยสาวสวยปรนนิบัติ....ประพัทธ์ประภา
รวยปัญญานฤมิต...... พิจิตรพิจารณ์
ขออวยพรเป็นกลอนหัด.......สะบัดสะบิ้ง
จากใจจริงด้วยรัก...............สมัครสมาน
ให้สุขแสนสมจิต..................สฤษฏ์สราญ
ผองภัยพาลสารพัด..............สลัดสลาย...