13 มีนาคม 2548 22:36 น.

กลอนหวาน

แก้ว กรุงเก่า

อยากเขียนกลอนหวานหวานให้อ่านเล่น
หาประเด็นถูกใจยังไม่ได้
จะนั่งนอนเล่นเล่าก็เปล่าดาย
เสียเชิงชายเชี่ยวชาญชำนาญกลอน

บรรจงจับแก้วใสเลือกใบสวย
รินใส่ด้วยน้ำอำพันอันหวานอ่อน
รินน้ำสิงห์ซ่าทุกหยาดไม่ขาดตอน
แดดอ่อนอ่อนตอนบ่ายสบายใจ

จึงจัดแจงก่อนเมา...มะพร้าวคั้น
ชอบหวานมันแยกหัวหางจัดวางไว้
แป้งข้าวเหนียวยกมาอย่าร่ำไร
นวดเข้าไปกับน้ำร้อนก่อนปั้นกลม

เม็ดที่หนึ่ง...ว่าความตามท้องเรื่อง
เข้าในเมืองเดินผ่านร้านขนม
เม็ดที่สอง...กลิ่นหอมหวนลอยทวนลม
จึงหยุดดมประสาซื่อไม่ซื้อกิน

เม็ดที่สาม...เจ้าของร้านคนพาลเขลา
จึงว่าเจ้าไม่ซื้อขนมแต่ดมกลิ่น
เม็ดที่สี่...ต้องจ่ายตังค์เหมือนนั่งกิน
เมื่อได้ยินตกใจไม่มีตังค์

เม็ดที่ห้า...โชคร้ายเขาไล่จับ
โทษถึงกับจำจองในห้องขัง
เม็ดที่หก...โชคดีมีคนฟัง
ด้วยเขานั่งสังเกตุดูเหตุการณ์

เม็ดที่เจ็ด...คนนั่งฟังหยิบตังค์ให้
บอกเอาไปละลายน้ำสักสามขัน
เม็ดที่แปด...เป็นค่าขนมที่ต้มกัน
เจ้าของร้านงงงันด้วยงกเงิน

เม็ดที่เก้า...ภรรยามาสะกิด
บอกพี่ทิดอย่าช้าทำท่าเขิน
ให้รีบรีบปั้นแป้งเดี๋ยวแห้งเกิน
อย่ามัวเพลินจิบน้ำสีอำพัน

ปั้นแป้งเสร็จยกไปให้ยอดรัก
แล้วนั่งพักรอท่าหน้าครัวนั่น
กลิ่นหอมกรุ่นลอยมาตรงหน้าพลัน
นัวเนียกันหน้าครัว....ชิมบัวลอย				
13 มีนาคม 2548 11:09 น.

ในฝัน

แก้ว กรุงเก่า

สายลมเย็นยามบ่ายพัดคลายร้อน
เอนหลังนอนพิงคันนาหลับตาฝัน
สงบเงียบแอบนอนตอนกลางวัน
เป็นของขวัญปลอบใจให้ตัวเอง

ในโลกแห่งความจริงแม้ยิ่งใหญ่
กลับอ่อนไหวเหมือนไร้ค่า...ใครว่าเก่ง
พวกเพื่อนฝูงยกย่องให้ใจนักเลง
กลับกลัวเกรงภรรยาเป็นอาจิณ

น่าเสียดายชายไทยใจไม่กล้า
ชาติอาชาตกม้าตายอายเขาสิ้น
ได้แต่ก้มหน้าสู้มองดูดิน
ใครได้ยินพูดไม่อายได้แต่งง

แต่...ในโลกแห่งความฝันอันยิ่งใหญ่
ที่ชายไทยคนหนึ่งพึงประสงค์
มีสาวงามแนบกายคลายพะวง
ความเหงาคงพลิกฟื้นเป็นชื่นชม

บทอัศจรรย์...

ได้อิงแอบแนบกายคงคลายร้อน
หอมอ่อนอ่อนนางแย้มที่แซมผม
เหมือนใจเราลอยไปกับสายลม
แล้วตกจมหายไปในสายชล

กลายเป็นเรือลำน้อยลอยเล่นน้ำ
คลื่นกระหน่ำเกือบล่มไปก็หลายหน
ผ่านเกาะแก่งเรียงรายราวค่ายกล
หลงเวียนวนลอยลำในถ้ำธาร.....

บทอัศจรรย์กว่า...

...แอบไปเมาที่ไหนนะ...ไอ้แก่
ถ้าพบแม่..จะรับขวัญด้วยสันขวาน
เสียงให้พรตอนบ่ายไม่ได้การ
เธอเป็นมารแม้ในฝันที่ฉันมี				
26 กุมภาพันธ์ 2548 17:20 น.

ข้างกองฟาง

แก้ว กรุงเก่า

ไอหมอกเย็นเป็นละอองเหนือท้องทุ่ง
แสงใกล้รุ่งจับฟ้าปลายหน้าหนาว
สงบนิ่งนั่งมองละอองดาว
วูบวับวาวก่อนดับหายลับไป

ไก่ขันรับรุ่งเช้าดุเหว่าร้อง
ยังเหม่อมองดวงจันทร์จนวันใหม่
ใช่เพียงจันทร์บนฟ้าที่ลาไกล
จันทร์ในใจที่ขัารักก็จากจร

หรือเธอหลงเริงไปกับใครเขา
ลืมสัญญาสองเราแต่เก่าก่อน
ลืมรสรักสิ้นหมดลืมบทกลอน
ที่กล่อมนอนก่อนนิทรา....สุดอาลัย

กลิ่นกองฟางกรุ่นแกมกลิ่นแก้มสาว
สองดวงใจดุจดวงดาวสว่างไสว
ในความมืดกลับกระจ่างอยู่ข้างใน
หลอมดวงใจรักครองสองชีวี

ข้างกองฟางอุ่นไอสายไยรัก
นอนหนุนตักดูดาวตกอ้อมอกพี่
กรุ่นกลิ่นแก้มแกมกลิ่นฟางต่างรู้ดี
รักที่มีมอบให้กันนั้นงดงาม

ดอกจานอวดสีส้มรับลมอุ่น
ใต้แสงแห่งรุ่งอรุณเหลืองอร่าม
ลมพัดพลิ้วดอกใบแกว่งไกวตาม
เหมือนทวงถามสัญญาวันลาไกล

ที่กองฟางข้างต้นจาน ณ กาลนี้
ยังคงมีความรักจักมอบให้
ต้องไออุ่นเลยลืมตานึกว่าใคร
เอ็งไปนอนไกลไกลเลย...ไอ้มอม				
25 กุมภาพันธ์ 2548 22:56 น.

รำพึง

แก้ว กรุงเก่า

ลองนึกย้อนวันวานที่ผ่านพ้น
สู้สร้างตนแต่ต้นทางอย่างเหมาะสม
ทนอาบเหงื่อทำงานผิวกร้านลม
จนพุงกลมวัยย่างเข้ากลางคน

มีความสุขตามประสาคนห้าสิบ
ไม่งุบงิบร่านราคะอกุศล
อาจมีบ้างบางวาระสัปดน
ประสาคนมีกรรมธรรมดา

มีความฝันมีความสุขปนทุกข์บ้าง
ใช้ยามว่างกับต้นไม้ใจหรรษา
ชอบดื่มบ้างตอนเย็นเย็นพอเป็นยา
ก่อนจะหยิบปากกามาเขียนกลอน

วันเวลาผ่านไปไม่หยุดนิ่ง
ทำทุกสิ่งเป็นธรรมตามคำสอน
ชีวิตคนขึ้นลงเป็นวงจร
ยามนั่งนอนมีเมตตาเป็นอารมณ์

แค่พอมีพอกินพอเหลือเก็บ
ไว้ยามเจ็บป่วยไข้ไม่ขื่นขม
วันนี้เราหยัดยืนเขาชื่นชม
วันหน้าล้มอย่าลดหมดแรงใจ

เพราะห่วงไยมิตรสหายหลายหลายท่าน
จึงเขียนมารำพันด้วยหวั่นไหว
อย่าเหมือนว่าวเริงลมฝนบนฟ้าไกล
หลงเริงใจวิ่งเข้าหาชะตากรรม				
5 กุมภาพันธ์ 2548 23:34 น.

นิทานเรื่องเก่า

แก้ว กรุงเก่า

อาจจะเป็นเรื่องเก่ามาเล่าใหม่
อยากจะให้หลานนั่งฟังสักหน่อย
อย่าเพ่งเบื่อเดี๋ยวลุงกางมุ้งคอย
เจ้าตัวน้อยมานั่งหน้าอย่าร่ำไร

ในนิทานเรื่องนี้มีอยู่ว่า
พ่อให้ลูกไปหากิ่งไม้ไผ่
ได้กิ่งไม้ให้ลูกรักหักทันใด
แต่ละกิ่งหักได้ไม่เหนื่อยแรง

ครั้นพอรวบรวมทำเป็นกำมัด
เหมือนรวมใจแน่นขนัดหลายแขนง
พยายามหักไม้แทบหมดแรง
มันแข็งแกร่ง...สามัคคีแบบนี้ไง

แต่บ้านเมืองเรานั้นทุกวันนี้
สวมหน้ากากหลากสีมาครอบใส่
ใครจะยากใครจะจนไม่สนใจ
ต่างตัวใครตัวมันแย่งกันครอง

ใครพวกมากลากขูดแทบตูดด้าน
ได้ทำงานดีดีไม่มีสอง
พวกเส้นเอ็นเส้นใหญ่เขาไล่จอง
พอได้ช่องเสียบกลางเส้นทางลัด

พวกคนพาลผลาญสุขทุกหย่อมหญ้า
จะถามหาสามัคคีมีจำกัด
วันนี้กิ่งพาลแกร่งแขนงมัด
จะกำจัดหมดได้...ทำไงดี				
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ว กรุงเก่า