24 มีนาคม 2553 13:56 น.
แก้วประเสริฐ
ฟ้าเพียงดิน (๑๐)
ชายหนุ่มรีบยกมือปิดปากทันที แต่น้ำยังเล็ดลอดออกมาจนได้ เขารีบกล่าวขอโทษหญิงสาวทันที
“ขอโทษครับคุณพิมพ์ ไอ้เจ้ากานต์เขาใส่ร้ายผมมากครับ แหม๋ๆๆเหล้าหวานเพราะคุณรินให้ แต่ก็คง
จะจริงดังมันกล่าวหรอกครับ ด้วยคนสวยเช่นคุณนั้นแม้เหล้าจะเผื่อนขมก็ยังหวานได้อีกนะครับ”
“แน๊ะๆๆนี่ต่อหน้าต่อตานะโว้ยไอ้หนก การจีบกันไม่จำเป็นต้องมาแสดงออดอ้อนกันตอนนี้หรอก”
“มึงเฉยๆๆเถอะนะเรื่องของกู คนนอกอย่าเสือกโว้ย”
“ก็มันจริงนี่หว่า กูแทบจะอาเจียนไปกับมึงเชียวไม่ใช่หวานนะโว้ย แต่มันเอียนว๊ะ นี่ขนาดวันแรกที่
มึงเจอคุณพิมพ์นะ หากลับหลังมึงจะไปขนาดไหนกันกูไม่สงสัยเลยว่าทำไมพวกแอร์โฮสเตรทเขาถึงโทร
มาหามึงเสมอๆนะ ดีนะที่มึงไม่ใช่คนเจ้าชู้แค่ไก่แจ้ไม่ใช่ไก่โต้ง มิฉะนั้นป่านนี้ลูกหมาออกเป็นครอกๆ
เลยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วชายหนุ่มก็หัวร่องอหายทันที
“ไอ้กานต์นะมึงทั้งชมทั้งด่าเชียวนะโว้ยพวก น่าถีบจริงๆ จริงไหมครับคุณพิมพ์” หนุ่มกนกได้โอกาส
อ้อนออดทันที
“เพียงแค่ได้ยินคุณทั้งสองพูดแบบนี้ เหมือนโจ๊กที่แสดงในละครไม่ผิดเชียวค่ะ หากไปแสดงบนเวที
คนคงจะฮ่าเต็มโรงเชียวล่ะค่ะ“ แล้วหล่อนก็ยกมือปิดปากหัวร่อเบาๆ
“หรือครับไอ้กานต์เพียงเห็นหน้ามันไม่ต้องกล่าวก็ทำให้คนดูหัวร่อได้แล้วล่ะครับคุณพิมพ์”
“ใช่ซิใบหน้ากูมันทะเล้นอยู่แล้วแต่ดีอย่างไม่เป็นหน้าผีอย่างมึงหรอกโว้ยไอ้หนก”
“มึงจะบ้าหรือไอ้กานต์ กูหรือหน้าผี แม้แต่พระเอกบางคนยังสู้กูไม่ได้เลยนี่พูดถึงหนังฝรั่งนะโว้ย”
“เออๆ...กูเข้าใจเพราะหน้ามึงพระเอกนิโกรไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ” ชายหนุ่มตอบทันควัน
“ ไอ้ๆๆๆๆๆคุณกานต์ครับผมถึงหน้าอย่างไรก็เป็นพระเอกนะขอรับท่าน ดีกว่าไปเป็นคนรับใช้เช่นมึง
นะไอ้ห่า........” หนุ่มกนกกล่าวย้อนทันที
“เออช่างเถอะหน้าอะไรก็ช่าง รีบๆแดกไปเถอะนี่ก็เย็นมากแล้ว แล้วเรื่องไปทะเลนั้น มึงอย่าลืมชวน
คุณพิมพ์ไปด้วยนะโว้ย”
ชายหนุ่มกล่าวต่อหน้าคนทั้งสอง ทำให้คนทั้งสองต้องหันหน้ามองกัน ได้โอกาสนายกนกทันที
“คุณพิมพ์ครับ อาทิตย์นี้ไปเที่ยวทะเลนะครับ สวยๆน้ำใสแจ๋ว ธรรมชาติรอบข้างงดงามติดเขา อากาศสดชื่น
มากครับที่ระยองแค่นี้เอง” หนุ่มกนกเอ่ยชวนทันที
“คุณพิมพ์ คนเรานี่แปลกนะครับสิ่งที่เห็นกับไม่พูดแต่สิ่งไม่เห็นกลับกล่าวเป็นตุเป็นตะไปเชียว”
“ทำไมจะไม่เห็นนะ กูไปเที่ยวทะเลบ่อยๆพาฝรั่งมันไปเที่ยวนะ มึงเสียอีกไปเรียนไปเที่ยวเมืองนอกหาได้
กลับมาเมืองไทยจะไปรู้อะไร ไอ้หอกหัก”
“แต่ที่ไปนี่มันบ้านพักอากาศของกูนะโว้ย”
“เออใช่กูไม่เถียง แต่ว่ามันย่อมเปลี่ยนแปลงไปนี่นา” หนุ่มกนกไม่ยอมแพ้
“งั้นมึงเก่งนั่งเทียนก็เก่งว๊ะ กูยอมแพ้” ชายหนุ่มตอบ
แล้วไอ้หนกก็หันไปออดอ้อนหญิงสาวทันที หญิงสาวได้ยินเช่นนี้ก็หันหน้ามาขออนุญาตต่อชายหนุ่มทันที
“ว่าไงค่ะคุณชาย จะอนุญาตให้ดิฉันไปด้วยหรือเปล่าล่ะค่ะ”
“สำหรับคุณพิมพ์ ผมพร้อมจะอนุญาตเสมอๆแหละครับ ทั้งสวยทั้งเก่งการงานด้วยมีหรือคนอย่างผมจะ
ไม่ยินยอม”
กล่าวจบหันหน้าไปทางเพื่อนทันที ชายหนุ่มชื่อกนกได้ฟังก็บังเกิดตาเขียวปัดทันที
“ทำไมต้องไปขออนุญาตมันด้วยล่ะครับคุณพิมพ์ มันไม่ได้ทำงานกับคุณสักหน่อยหัวหนงหัวหน้าก็ยังไม่ได้
เป็นนี่ครับ”
หนุ่มกนกกล่าวขณะหันหน้าไปทางหญิงสาว
“ไม่ได้ซิค่ะคุณกนก เพราะว่าอีกไม่เท่าไหร่เขาก็มาเป็นหัวหน้าโดยตรงพิมพ์แล้วนี่นา และต้องทำหน้าที่
เลขาส่วนตัวของคุณชายด้วย”
“ใช่ครับคุณพิมพ์ แต่ว่ามันตอนนี้ยังเป็นแค่คนนอกนี่นา และการไปเที่ยวของเราหาได้เกี่ยวข้องกับมันไม่”
ชายหนุ่มกนกกล่าว
“หากมันไม่อนุญาตหรือคิดร้ายประการใดคุณบอกผมได้เลยนะครับ ผมจะเล่นงานมันเอง” กล่าวจบพลาง
แอ่นอกยืดทันที
“ครับคุณกนกผู้ยิ่งใหญ่ เชิญครับคุณพิมพ์ เดี๋ยวไอ้หนกมันเตะผมหากไม่อนุญาต อิอิ “
“ถ้าหากคุณชายอนุญาต เป็นอันตกลงค่ะ พิมพ์จะได้เตรียมตัวแต่สงสัยจะไปแค่คนเดียวกระมัง แต่ขอให้
คุณชายช่วยดูแลพิมพ์ด้วยนะค่ะ”
“ผมเองรับอาสาครับไม่ต้องให้ไอ้กานต์มันดูแลหรอกครับคุณพิมพ์ ไอ้กานต์มันยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้”
หนุ่มกนกกล่าว
“เดี๋ยวคุณจะอันตรายมาก ด้วยได้ข่าวว่าลูกสาวพวกคุณหญิงคุณนายเพื่อนแม่มันจะพาลูกสาวไปด้วย ทุกๆคน
จ้องตัวมันเหมือนอาหารอันโอชะครับคุณพิมพ์ อาจจะเข้าใจผิดผมรับหน้าที่ดูแลเอง”
“นั่นซิครับคุณพิมพ์ ผมเองกลุ้มใจจะห้ามคุณแม่หรือก็ไม่ได้เกรงใจท่าน ส่วนท่านเองหรือก็ปฏิเสธไม่ได้
เช่นเดียวกันด้วยเป็นก๊วนเดียวกัน ผมยังจะหาทางออกไม่ได้เลย สงสัยงานนี้ผมเองจะแกนๆไปล่ะ ส่วนไอ้หนก
มันมีคุณคอยดูแลให้ก็ดีไป หาใช่ว่าผมจะรังเกียจนะครับกลัว พวกยายหน้าม้า ยายหน้าเต้าหู้ ยายหน้าไข่เจียวมัน
จะหึงคุณคิดไม่ดีกับคุณได้ครับ”
ชายหนุ่มกล่าวแล้วทำใบหน้าให้เศร้าสร้อย ดังกับคนจะใกล้ตายเสียให้ได้ ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งเฮือกเมื่อ
ปรากฏมีสิ่งหนึ่งมากระทบสีข้างเขา เมื่อมองไปเห็นเป็นขวดโซดากระแทกชายโครงเขาเบาๆ ให้นึกว่าเป็นเท้า
ของไอ้หนกไปเสียอีก
“ไอ้กานต์มึงจะมากไปแล้ว ทำหน้าทำตายังกับคนจะตายโหงตายห่าเชียวนะมึง ไม่นึกถึงหัวอกกูบ้างเลยนะ
เพื่อน นี่กูอุตส่าห์ปกป้องคนของมึงให้อย่างดีที่สุดเท่าชีวิตนะโว้ย”
“เออขอบใจมากว๊ะ ที่ดูแลคุณพิมพ์ หากคุณพิมพ์เสียใจเมื่อไหร่มึงดูฤทธิ์กูซะ เมื่อสมัยเรียนหนังสือใครล่ะ
ว๊ะที่นำหน้าชกต่อยกับต่างคณะ ถึงมึงจะเป็นมวยได้แชมป์มาก็ตาม แต่เวลาต่อสู้จริงๆไม่เป็นสับปะรดเลย”
“ก็มันไม่ได้ต่อสู้ตัวต่อตัวนี่นา มันมาแบบตัวใครตัวมันโว้ย เออมึงเก่งที่ปราบพวกมันราบคาบกูเองก็สงสัย
เหมือนกันว่า แม่ไม้มวยไทย กังฟู คาราเต้และก็ยูโด มึงแอบไปเรียนมาจากไหนว่าจะถามมึงก็พอดีมึงไปต่าง-
-ประเทศเสียก่อน” ชายหนุ่มกนกขมวดคิ้วสงสัย
“กูฝึกไม่เท่าไหร่หรอกว๊ะ กูแอบไปฝึกไม่ให้คุณพ่อคุณแม่รู้ ออกจากมหา’ลัยก็ไปฝึก มวยไทยกูฝึกที่ค่าย
ศรีโสธร กังฟู คาราเต้ ยูโดที่สมาคม ส่วนกังฟู คาราเต้ ยูโดกูก็ได้สายนิดๆหน่อยแค่สายดำเท่านั้นเองว๊ะ”
ชายหนุ่มเอ่ยให้เพื่อนฟัง
“ไหนๆๆๆ?????....มึงพูดให้กูฟังใหม่อีกทีว๊ะ” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมนั่งเตะไปยังร่างชายหนุ่มทันที
แต่แล้วมันก็สะดุ้งโหยงเมื่อเจอท่อนแขนรับไว้ พร้อมมีการถีบใส่ยังหน้าอกมันกระเด็นไปทันที หนุ่มกนก
หัวร่อก๊าก
“เออๆๆกูเชื่อมึงแล้วล่ะว๊ะ นี่ขนาดทดลองนึกว่ามึงเป็นแมงโม้เสียอีก”
เอาล่ะแล้วมึงจะออกเดินทางไปเมื่อไหร่ล่ะว๊ะ กูจะได้แจ้งให้เพื่อนๆไม่กี่คนของเราให้มันเตรียมตัวไว้ก่อน
แต่สงสัยมันจะพาเมียมันไปด้วย ยิ่งไอ้รุจน์มันกลัวเมียมันยิ่งกว่าแม่มันเสียอีก” หนุ่มกนกกล่าว
“อาทิตย์หน้าแหละว๊ะ เพราะหลังจากนั้นมากูก็ต้องเข้าบริษัททำหน้าที่แทนพ่อกู”
กล่าวจบชายหนุ่มก็หันไปทางหญิงสาวทันที
“อย่างไรฝากให้คุณพิมพ์แนะนำผมด้วยนะครับ ด้วยผมยังไม่รู้จักชื่อหัวหน้าผู้จัดการใหญ่ฝ่ายต่างๆเลยครับ”
“ค่ะๆๆแล้วพิมพ์จะจัดประชุมอีกครั้งหนึ่งที่คุณมารับงาน” หญิงสาวเอ่ย
“ถ้าเช่นนั้นก็ดีซิครับผมจะไปช้าแต่ให้ทันเข้าประชุม เพื่อให้คุณแจ้งแก่ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายก่อนนะครับ แล้วแจ้ง
ว่าให้ทำรายงานรายรับรายจ่ายทั้งหมดมามอบให้ด้วยในที่ประชุมนะครับ เพื่อผมจะได้ศึกษาไว้ครับ”
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ
“ค่ะวันจันทร์นี้พิมพ์จะกำหนดประชุมและแจ้งให้เขาทราบเพื่อเตรียมตัวหลักฐานต่างๆไว้ให้คุณ และจะ
แจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าก่อนค่ะ”
หญิงสาวกล่าวตอบชายหนุ่มทันที พร้อมทั้งกล่าวขอตัวแก่ชายหนุ่มทั้งสองด้วยเวลามันจวนจะมืดค่ำแล้วเพื่อ
ไปจัดทำธุระบางประการของหล่อนที่คั่งค้างไว้
“ครับเชิญเถอะครับ เดี๋ยวพวกผมก็จะกลับเหมือนกันครับ”ชายหนุ่มทั้งสองกล่าวพร้อมๆกัน
หลังจากนั้นหญิงสาวก็ยกมือไหว้ทั้งสองแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างในบ้าน เพื่อไปลาแม่แย้มเจ้าของบ้านก่อนจะ
กลับ เหลือแต่หนุ่มทั้งสองต่างก็ยังร่วมดื่มและต่างก็ชวนกันกลับหากหญิงสาวออกเดินทางพ้นรั้วบ้านไปแล้ว
ครั้นหญิงสาวก้าวลงบันไดแล้วขี่จักรยานพ้นหายไปทางแนวทางคดเคี้ยวตามสวน เขาทั้งสองก็ลุกขึ้นเดิน
เข้าไปข้างในทันที ครั้นเห็นแม่แย้มกำลังนอนเล่นอยู่บนตั้งที่วางไว้มียายแจ่มกำลังนวดขาให้อยู่ ก็ต่างค้อมตัว
เข้าไปหาแล้วยกมือไหว้กล่าวลาทันที
“แม่ๆผมเห็นจะต้องกลับแล้วล่ะครับ ด้วยมืดแล้วเดี๋ยวขับรถลำบาก” หนุ่มกานต์เอ่ยขึ้น
แม่แย้มก็ลุกขึ้นนั่งทันที ชายหนุ่มทั้งสองเข้าไปกราบบนตัก หญิงวัยกลางคนค่อนข้างชราก็ยกมือลูบบนศีรษะ
หนุ่มทั้งสองทันทีแล้วเอ่ยว่า
“แล้วพ่อกานต์พ่อหนกจะมาอีกเมื่อไหร่ล่ะแม่จะได้เตรียมเข้าเตรียมของไว้ให้จ๊ะ”
“ไม่ต้องลำบากแม่หรอกครับ ผมมาเมื่อไหร่เอาแน่ไม่ได้ ผมมาก็จะซื้อมาเองแหละครับ แม่ระวังเนื้อระวังตัว
ด้วยครับ ผมเป็นห่วงแม่มากครับ
“คงไม่มีอะไรหรอกทางนี้มีพ่อม่วงกับแม่แจ่มค่อยเป็นหูเป็นตาให้แม่อยู่แล้ว งานทั้งหมดพ่อม่วงแม่แจ่มก็
จัดการดูแลไม่เคยขาด”
“ป้าแจ่มผมฝากแม่ผมด้วยนะครับ “ ชายหนุ่มหันไปทางยายแจ่มทันที
“คุณชายไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ ท่านมีบุญคุณแก่พี่ม่วงและดิฉันมามากเหลือเกิน”
“นี่บัตรผมและหมายเลขโทรศัพท์ให้ไว้เผื่อว่าเกิดสิ่งใดกับแม่ผมก็ให้รีบโทรด่วนทันทีนะป้า”
ชายหนุ่มเอ่ย ป้าแจ่มก็ยื่นมือมารับเป็นการ์ดนามบัตรสองใบ ใบหนึ่งให้แม่แจ่มอีกใบหนึ่งมอบให้แม่แย้มไว้หาก
ต้องการจะเรียกเขา
“ผมจะมาทันทีหากได้รับโทรศัพท์จ๊ะแม่ งั้นผมกับไอ้หนกขอลากลับก่อนนะครับวันหน้าค่อยจะมาอีก”
“เจริญสุขเถิดลูก ระมัดระวังเนื้อตัวด้วยนะ ขับรถไม่ต้องเร็วมากนะลูกทานเหล้าอาจจะใจร้อนจ๊ะ”
หญิงวัยกลางคนอดเป็นห่วงไม่ได้
“ครับๆ ไม่เร็วหรอกครับผมรู้ตัวดีครับ งั้นผมไปล่ะครับแม่”
ชายหนุ่มกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นพร้อมกนก แล้วเดินทางลงบันไดหน้าบ้านทันที แม่แย้มกับยายแจ่มก็มายืนส่งอยู่
ด้วย ครั้นชายหนุ่มแลไปที่โต๊ะที่ตั้งไว้ด้วยขวดเหล้าและโซดา เหล้ายังไม่หมด ก็แจ้งให้นายม่วงทราบว่าจะกลับ
แล้ว และแจ้งให้นายม่วงตามเขามาด้วย ครั้นถึงที่รถแล้วชายหนุ่มก็เปิดประตูหลังนำเหล้ามาให้อีกหนึ่งขวด
แล้วกล่าวว่า
“ตาม่วง ขวดนี้ไว้ทานวันหลังนะ ผมกลับก่อนล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“ขอรับคุณชาย แล้วเมื่อไหร่จะมาอีกล่ะขอรับ”
“ยังไม่แน่เลย มาแล้วก็จะรู้เองแหละฝากแม่แย้มไว้ด้วยนะตาม่วง”
“โอ้ยๆไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมกลางคืนกับแจ่มมันนอนอยู่หน้าห้องคุณนายอยู่แล้วขอรับ”
“ถ้าแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย ไปล่ะพ่อม่วง”
“ผมก็ลากลับด้วยนะครับ” ชายหนุ่มกนกกล่าวเช่นกัน
“ระวังหน่อยนะครับถนนยังไม่ค่อยจะดี บางที่มีขรุขระบ้างขอรับ”
“ครับผมจะระวังไว้ ไปล่ะ”
กล่าวแล้วชายหนุ่มทั้งสองก็ขึ้นรถสตาร์ทรถออกไปจากบ้านทันที
ครั้นขับมาได้สักพักหนึ่งเมื่อออกจากถนนซอยมาถึงถนนใหญ่
ชายหนุ่มก็เร่งความเร็วทันทีเล่นเอาเพื่อนถึงกับร้องลั่น
“เฮ้ยๆๆๆเบาๆหน่อยนะโว้ยนี่มันเมืองไทยไม่ใช่ต่างประเทศนะ”
“เออกูรู้โว้ย มึงไม่ต้องห่วงหรอก”
ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่าไหร่นัก ด้วยบนถนนหลังจากออกจากตัวเมืองนนท์ถนนก็ว่างรถ ดังนั้นชายหนุ่มก็เร่ง
เร่งรถเร็วทันที ไม่นานนักเขาก็มาถึงบ้านเจ้าหนกเพื่อนรัก หลังจากส่งมันแล้วมันเรียกให้มานั่งถองเหล้าต่อแต่
ไม่ยอมไม่ล่ะจะต้องรีบกลับบ้านแล้วล่ะ มีงานจะต้องทำอีก แล้วก็สตาร์ทรถออกไปทันที
เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านเขานำรถไปจอดเก็บยังโรงรถเรียบร้อยแล้วก็ค่อยๆเดินทอดน่องลัดเลาะมาทางหลัง
ตึกใหญ่ทันที เมื่อเดินผ่านต้นไม้มายังบ้านเล็กของเขา ชายหนุ่มก็ต้องพลันชะงักร่างทันทีพร้อมทั้งเข้าแอบยัง
หลังต้นไม้ เมื่อเขาได้ยินเสียงโหวกเหวกดังขึ้นจากเหล่า บรรดาลูกสาวคุณหญิงคุณนายกับรปภ.ที่เฝ้าบ้านอยู่
เมื่อได้ยินเสียงดังลั่น...........
* แก้วประเสริฐ. *
23 มีนาคม 2553 15:18 น.
แก้วประเสริฐ
ฟ้าเพียงดิน (๙)
ชายหนุ่มมองทั้งสองสามารถเข้ากันได้อย่างรวดเร็วรู้สึกต่างสนิทสนมกันยิ่งนัก ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม
พลางนึกในใจว่า อันคำโบราณกล่าวไว้ไม่ผิดเลยว่า
“ คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา”
อันที่จริงเพื่อนคนนี้ก็ใช่ว่าจะด้อยในความรูปหล่อก็หาไม่ บรรดาแอร์โฮสเตรทต่างพากันหลงใหลเกือบ
ทั้งสิ้น แต่เจ้ากนกมันหาได้สนใจไม่ มันกล่าวไว้ว่าเป็นโสดนั้นดี สามารถไปไหนมาไหนได้คล่องตัว
ไม่อยากหาห่วงมาคล้องคอมันเหมือนหมาที่ถูกจูงไป
ถ้าจะจริงของมันแล้วพลอยคิดไปถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่น่าสงสารนัก ใบหน้ารูปไข่ค่อนข้างกลม
แก้มสองข้างบุ๋มเป็นรอยเห็นได้ชัด ผมยาวที่ถูกมัดบ้างถักเป็นเปีย บ้างรวบแล้วมัดเป็นพวงเดียวกัน
ป้ายมาข้างด้านหน้าของหล่อน ใบหน้าหาสิ่งแต่งเติมด้วยเครื่องสำองค์ไม่มีเลยด้วย
ความสวยแบบธรรมชาตินี่เองทำให้ความงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง
ชายหนุ่มซึ่งเป็นคนที่ชอบในสิ่งที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เขาก็พลอยนึกถึงสาวๆในต่างประเทศ
ในระหว่างศึกษาและท่องเที่ยวไปในอเมริกายุโรป บรรดาสาวพอแรกเริ่มเป็นสาวก็ล้วนต่างน่าตาสวยๆ
แต่ก็ใช้เครื่องสำอางเสริมใบหน้าอีกแทบทั้งสิ้น เป็นเกือบทุกๆคน บางคนใบหน้าตกกระตั้งแต่สาวๆแต่
บางคนก็ไม่เป็น และแก่เร็วเสียด้วยพออายุย่างเข้ายี่สิบสามสิบร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไป
ผิวหนังก็หยาบกร้านเป็นรอยตกกระหาที่จะแนบเนียนเหมือนสาวชาวเอเชียไม่ได้เลย
จะเป็นด้วยดินฟ้าอากาศที่สร้างไว้ให้ก็ได้ ฉะนั้นพวกหล่อนจึงชอบอาบแดดกันนั่นเอง
เขาสะบัดศีรษะเบาๆเพื่อขจัดสิ่งเหล่านี้ออกไป พร้อมกล่าวกับคุณพิมพ์และเพื่อนว่า
“ขอโทษนะเพื่อนและคุณพิมพ์ ผมขอพักผ่อนหน่อย ด้วยไม่ได้นอนหนุนตักแม่มานานแสนนานแล้ว”
พอกล่าวจบก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักแม่แย้มทันทีแสร้งเป็นหลับในตาแต่ความคิดอ่านของเขากลับหวนไป
ยังบ้านหลังน้อยที่เขารัก ป่านฉะนี้สาวใบหน้าน่ารักจะทำอย่างไรบ้าง
ฝ่ายแม่แย้มเมื่อเห็นลูกชายที่หล่อนเลี้ยงดูมาทำเหมือนเด็กๆสำหรับเธอ ก็ยกมือพลางลูบไล้ไปบนใบหน้า
ย้อนนึกอดีตเก่าๆ เด็กคนนี้หล่อนเองเลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะอยู่อบรมสั่งสอนสิ่งต่างๆจนเติบใหญ่ ไม่คิดเลย
ว่าตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศร่างกายจะใหญ่โตเช่นนี้ไปได้ผิดพ่อผิดแม่ไปหมด จนกระทั่งเด็กคนนี้เรียก
หล่อนว่าแม่มาตั้งจำความได้มาตลอดไม่เคยห่างกันเลยไปไหนไปด้วยกันเสมอ
แต่พอไปเรียนต่อยังต่างประเทศหล่อนถึงได้กลับมายังสวนเมืองนนท์
ทุกๆคืนหลังจากสวดมนต์ไหว้พระหล่อนจะขออำนาจคุณพระรัตนตรัยให้ช่วยปกปักรักษาชายหนุ่มตลอดมา
มิเคยขาด ถึงจะไม่ใช่ลูกของตัวก็เหมือนลูกของตัวเอง ดังนั้นหล่อนจึงมอบความรักทั้งหมดให้แก่ชายหนุ่ม
จนหมดไม่เหลือไว้เลย ในระหว่างการเลี้ยงดูเด็กคนนี้มีคนมาชอบพอแกก็หลายๆคนล้วนแล้วแต่ฐานะดีหาใช่คน
ขี้ริ้วขี้เหล่แต่ประการใด หล่อนเองก็หาใช่ไม่สวยจัดได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่งหล่อนและคุณอัศวโรจน์เป็นลูกพี่
ลูกน้องกัน ดังนั้นชายหนุ่มที่นอนบนตักแกนี้จึงมีสายเลือดเหมือนกัน
สมบัติพัสถานในสวนนี้แกได้ทำมรดกไว้แล้วมอบให้ชายหนุ่มเพียงผู้เดียวโดยไปจ้างทนายความไว้เป็นพิเศษ
ด้วยแกครองโสดหาญาติอื่นอีกไม่ ฉะนั้นความรักทั้งหมดจึงมอบให้แก่ชายหนุ่มนี้ แต่ชายหนุ่มที่นอนนี้ก็หาได้
สร้างความผิดหวังให้แก่แกไม่เลย เชื่อฟังอยู่ในคำสั่งแก่เสมอจนไปต่างประเทศพึ่งกลับมาทำตัวเสมอต้นเสมอ
ปลาย เรียกแก่ว่าแม่ทุกๆคำพูด พลางมือก็เสยผมบนศีรษะชายหนุ่มขยี้เบาๆลูบไล้ไปตามใบหน้าด้วยรอยยิ้ม
แสดงความภาคภูมิใจต่อชายหนุ่มนัก
การกระทำนี้หาได้รอดพ้นจากสายตาหญิงสาวไม่ แม้แต่เจ้ากนกก็ไม่กล้าที่จะเรียกเพื่อนให้ขึ้นมาร่วมกิน
เหล้าด้วยกัน จึงหันไปคุยกับคุณพิมพ์ต่อไป
“คุณพิมพ์ครับ...คุณดูซิไอ้กานต์มันออเซาะแม่มันจังน่าถีบนะคุณ”
หญิงสาวยิ้มแล้วเอ่ยว่า
“อ้าวคุณก็เขาเป็นแม่ลูกกันนี่นา นานๆจะเจอกันสักทีก็เป็นอย่างนี้แหละ สังเกตว่าคุณกานต์จะรักแม่แกคนนี้
มากเสียด้วยนะ”
“เห็นมันเคยพูดเหมือนกันว่า มันมีแม่สองคนรักทั้งคู่ ตอนแรกผมนึกว่าพ่อมันมีเมียน้อยเสียอีก ครั้นมาทราบ
และได้มาสวนนี้ตอนสมัยเรียนมหา’ลัยกับมันนั่นแหละถึงได้รู้ว่าเป็นแม่นมมันเอง แต่เขาเป็นญาติกันนะครับ”
“หรือค่ะ พิมพ์เองก็พึ่งรู้ ตอนแรกคิดว่าป้าแย้มก็เป็นโสดตัวคนเดียวไม่มีญาติ ยังสงสัยเลยว่าทำไมเนื้อที่สวน
ก็มีมากแต่กลับซื้อที่เพิ่มเติมมากแทบจะมากกว่าใครๆในแถบนี้เสียอีก” หญิงสาวกล่าว
“พิมพ์มองดูสภาพคนทั้งสองช่างน่ารักบริสุทธิ์จริงๆนะค่ะ เอ....คุณกานต์เรียนจบอะไรมาหรือค่ะคุณกนก”
“มันเรียนเก่งจริงๆนะครับคุณพิมพ์ จบสองอย่างเลยล่ะ ด้านวิศวกรรมและฝ่ายธุรกิจรวมถึงการปกครองด้วย
แถมมันยังได้รับประกาศนียบัตรเกียรตินิยมมาเสริมอีกด้วยซิ” ชายหนุ่มกล่าว
“ถ้าอย่างงั้นก็จบปริญญาเอกทั้งคู่ซิค่ะ”
“ครับมันได้ปริญญาเอกและเกียรตินิยมทั้งคู่ แต่นิสัยมันแปลกๆไม่ค่อยเหมือนใครหรอก ผู้หญิงฝรั่งติดมัน
เกลียวแต่มันคบแค่เพื่อนเท่านั้นหาได้เป็นหลักใดๆไม่ บ้างยั่วมันต่างๆนาๆ ตอนที่ผมไปเยี่ยมมันหลังจากบินไป
ถึงได้เวลาพักผ่อนสองวัน ก็เลยแวะไปที่บ้านพักมันที่พ่อมันซื้อไว้ให้อยู่ ขนาดหญิงฝรั่งมันปล้ำมันสวยทั้งสวย
มาก แต่มันกลับไล่ให้ออกจากบ้านไป ทำให้สาวนั้นโมโหใหญ่ หอบเสื้อผ้าหนีไปแทบไม่ทันพอดีผมไปเจอเข้า
พอดีเลยครับ” หนุ่มกนกกล่าวตอบ
“และมันก็ชอบแต่งตัวบ้าๆบอๆเสียด้วย มันจึงเข้ากับพวกพั้งได้ พวกนิโกรมันก็เข้าไปเที่ยวบาร์นิโกรได้ด้วย
ทุกๆคนรักมันหมด มันจึงอยู่บ้านได้สบายๆโดยไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องขโมยของในบ้านเลย เพราะมัน
เป็นพวกกับนิโกร คุณก็รู้ว่ามันร้ายขนาดไหนยังยอมมันเลยล่ะ” ชายหนุ่มกนกแจ้งให้หล่อนทราบทันที
“นับว่าแปลกนะคุณ ปกติคนมีเงินระดับนี้น่าจะวางตัวมากกว่านะ พิมพ์เห็นมามากขนาดมีเงินไม่เท่าไหร่
แต่งตัวโก้วางอำนาจจนน่าหมั่นไส้เลย” หญิงสาวเอ่ย
“คุณยังไม่รู้อะไรคุณพิมพ์ ตอนมันกลับมาแขกเหรื่อนั่งรถแต่งตัวประชันความร่ำรวยกัน มันแต่งตัวอย่างไร
คุณพิมพ์ลองบอกให้ผมฟังหน่อยครับมันแต่งตัวอย่างไร” ชายหนุ่มกนกหัวร่อเบาๆ
“ไม่รู้ซิค่ะ พิมพ์ไม่ได้ไปในงานด้วยท่านผู้บริหารใหญ่ก็บอกให้ไปแต่พิมพ์บอกว่าทางเข้าบ้านอยู่ในสวนลึก
อันตรายมาก ท่านจึงอนุญาตให้ค่ะ”
“มันไปที่บ้านผมแม่บ้านดูแลบ้านบอกว่า มันไปเอาเสื้อผ้าผมที่ขาดๆเก่าผมใส่เล่นด้วยรักเสื้อกางเกงทั้งสองมากแต่มันเก่าๆมาก มันไปเอามาใส่แล้วทิ้งเสื้อผ้ามันไว้ที่นั่น
แล้วลากรองเท้าฟองน้ำมาถึงงาน รปภ. ไม่ยอมให้มันเข้ามาในงานเลย”
กล่าวจบชายหนุ่มก็หัวร่อดังลั่นจนแม่แย้มหันไปมองตาเขียวทันที นั่นแหละเจ้ากนกถึงยกมือไหว้ขอโทษเบาๆ
แม่แย้มก็ฟังชายหนุ่มกล่าวกับหนูพิมพ์ด้วยความสนใจเช่นกัน แต่ที่ทำตาเขียวเพราะชายหนุ่มกนกหัวร่อดังไป
กลัวจะทำให้ลูกของตัวที่นอนอยู่คุดคู้เหมือนเด็กๆจะตื่นขึ้นมา
แล้วแม่แย้มก็ขอร้องให้ชายหนุ่มเล่าต่อพลางกล่าวว่า
“ แม่ก็อยากจะรู้เหมือนกันแต่พ่อกนกพูดเบาๆหน่อย เดี๋ยวลูกกานต์จะตื่นตกใจจ๊ะ” หญิงค่อนข้างชราเอ่ยขึ้น
“ครับแม่” แล้วชายหนุ่มก็เล่าต่อทันที มันแต่งตัวเหมือนคนบ้าๆ นั่งรถแท็กซี่ผ่าเข้ามากลางงานเล่นเอา
บรรดาเพื่อนคุณพ่อมันและคุณหญิงคุณนายทั้งหลายตระหนกไปตามๆกัน มันทำเป็นไม่สนใจก้าวลงจากรถแล้ว
จ่ายเงิน มันจะเดินเข้าไปในบ้าน หากคุณแม่มันไม่เรียกก่อนมันคงไม่เข้ามา คุณเอ๋ย หัวมันฟูเสื้อผ้าเก่าๆลากรอง
เท้าแตะฟองน้ำเดินไปหาคุณหญิงแม่มัน ยกมือไหว้แล้วเดินไปหาคุณพ่อมันกอด
เล่นเอาคนในงานตลึงกันไปหมด ผมอยู่ยืนคุยกับเพื่อนๆแต่ทุกๆคนรู้นิสัยมันดีต่างอมยิ้มไปตามๆกัน
แต่พวกคุณหญิงคุณนายพาลูกสาวมาเพื่อจะคิดใคร่ผูกพันใจมัน ต่างอ้าปากค้างไปตามๆกัน
ไม่แค่อย่างนั้นนะคุณมันยังพาคุณพ่อมันออกมาเต้นจังหวะลาตินอเมริกันอีกด้วย คราวนี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่มัน
ก็พากันเต้นกันใหญ่ ทำเอาพวกคุณหญิงคุณนายทั้งหลายเหมือนตกกระไดพลอยโจน
รวมทั้งลูกสาวๆทั้งหลาย พากันเข้าร่วมด้วยเลย ทำเอาพวกผมหัวร่อกันใหญ่
ไอ้พวกผมรวมทั้งผมด้วยก็หาทางได้โอกาสก็ได้รู้จักพวกหล่อนๆ ที่ทำไปนั้นต้องการทราบความจริงว่า
เรื่องราวเป็นอย่างไรถึงได้รู้ได้ยิน สาวๆพวกนั้นมันก็เรียนจบจากมหา’ลัยเดียวกัน แต่ต่างคณะกันครับ
ตอนเรียนกันอยู่นั้น พวกสาวๆนั้นเรียกไอ้กานต์ว่า “ ไอ้ตี๋หน้าจืด “ มันโมโหใหญ่จนทุกวันนี้ไอ้กานต์มันก็ไม่ลืมเลยครับ เมื่อเล่าจบทำเอาคุณพิมพ์และแม่แย้มต่างหัวร่อร่วนๆไปตามๆกัน
พอพวกลูกคุณหญิงคุณนายมาหามัน มันไม่สนใจเลยจนคุณแม่มันต้องขอร้องนั่นแหละมันถึงจะเข้าไปพูด
ด้วย หากคุณไม่เชื่อผม คุณพิมพ์ลองเรียกไอ้กานต์ซิว่า “ ไอ้ตี๋หน้าจืด” ซิครับ ชายหนุ่มเล่าจบก็หัวร่อใหญ่
“จ๊ะบ้าหรือคุณเขาเป็นเจ้านายพิมพ์นะ เดี๋ยวเขาโกรธพิมพ์ก็แย่ซิ” หญิงสาวหันไปค้อนวงใหญ่
“ผมว่าสำหรับแม่คงไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะมันพูดให้พวกผมฟังเสมอๆครับ”
แม่แย้มได้ยินก็หัวร่อแต่ไม่ได้กล่าวอะไร พลางหันไปลูบแก้มชายหนุ่มเบาๆ
ทันใดนั้นร่างของชายหนุ่มชื่อกนกก็กระเด็นไปติดซี่ลูกกรงดังโครมทันที เล่นเอาชายหนุ่มชื่อกนกร้องลั่น
บ้านทันที
“ไอ้เห้????....หรือไม่จริงว๊ะ ไอ้ห่ากูนึกว่ามึงนอนหลับไปเสียอีก” กล่าวจบพร้อมหัวร่อ
ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมยกมือทั้งสองลูบเสยผมให้เรียบร้อย หันไปไหว้แม่แย้มทันที
“กานต์ขอโทษแม่นะ ไอ้ห่านี้เล่าซะหมดเปลือกเลยล่ะแม่” ชายหนุ่มกล่าว
“ไม่เป็นไรนี่ลูก สนุกดีซะอีก” แม่แย้มเอ่ยขึ้น
“สำหรับแม่ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอายคุณพิมพ์เขา ไอ้ห่านี้เสือกเล่าซะหมดทีตอนดีๆไม่เล่า สมควรแล้ว”
“ตอนไหนว๊ะที่มึงบอกว่าดี ส่วนใหญ่ระยำทั้งนั้น” หนุ่มกนกกล่าว
“อ้าวก็ตอนที่กูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเล่าทำไมไม่เล่าด้วยล่ะว๊ะ” ชายหนุ่มเถียง
“อ้อๆๆ????....นี่หรือดีของมึงมันก็ไอ้สัปปะรังเคคล้ายๆกันแหละว๊ะ” หนุ่มกนกเถียง
“เออๆๆใช่แต่ไม่เหมือนเดิมหรอกโว้ย”
“พอๆๆเถอะลูกทั้งสอง ทะเลาะยังกับเด็กๆไปได้” แม่แย้มกล่าวแล้วหัวร่อที่เห็นเถียงกันเรื่องนิดๆเท่านั้น
“เอามึงไม่ต้องไปจีบคุณพิมพ์ให้มากไปหรอก มาๆๆรินเหล้าให้กูหน่อยโว้ย” ชายหนุ่มกล่าว
เล่นเอาชายหนุ่มชื่อกนกใบหน้าเจื่อนๆไปทันที
“เดี๋ยวพิมพ์รินให้ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวกล่าวขึ้นพลางหยิบขวดเหล้านำน้ำแข็งใส่แก้วทันที
“ไม่ต้องหรอกครับคุณพิมพ์ ผมจะให้ไอ้หนกมันรินให้ครับ โทษฐานปากหมา”
“มาๆๆเอามาครับคุณพิมพ์ แล้วอย่าเสือกบ่นอีกล่ะ คราวนี้กูเอาเหล้าสาดหน้ามึงแน่ๆ” กล่าวจบก็หยิบ
เหล้าและแก้วใส่น้ำแข็งมา พร้อมเทเหล้าเกือบครึ่งแก้วพร้อมรินโซดาใส่ทันที เล่นเอาหนุ่มกานต์นัยน์ตา
เหลือกทันที
“เฮ้ยๆๆๆ!!!!....มึวางยากูหรือว๊ะไอ้เห้....”
“แน๊ะๆๆไอ้ห่านี่ กูรินให้แล้วเสือกบ่นอีก” พร้อมหนุ่มกนกก็รินเหล้าในแก้วใส่ลงแก้วตัวเองพร้อมผสม
โซดาทั้งสองแก้ว แล้วยื่นส่งให้ชายหนุ่มทันที
“ยังงี้ซิว๊ะถึงได้รักกันจริงนึกว่ามึงจะมอมกูเสียอีก”
“ไอ้เห้...ทำดีเสือกจะไม่ได้ดีซะแล้วซิ อนาถใจกูจริงๆนะ” แล้วหนุ่มกนกก็ยกเหล้าดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
“ทีนี้มึงบ้างล่ะเมื่อกี้นี้ถีบกูไม่ไว้หน้าสาวๆเลย หากไม่หมดกูลุกขึ้นเตะมึงแน่ๆโว้ย” หนุ่มกนกกล่าวพร้อม
ลุกขึ้นยืน ครั้นชายหนุ่มเห็นดังนั้นจำใจยกขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว แล้วพอวางลง คุณพิมพ์ก็หยิบแก้วทั้งสองมา
จัดการผสมให้ใหม่แล้วไปวาง ที่เบื้องหน้าหนุ่มทั้งสองพลางอมยิ้ม หล่อนคิดในใจว่าทั้งสองคนนี้ช่างรักใคร่กัน
จริงหนอ หล่อนเห็นมามากๆแล้วไม่เหมือนคู่นี้ที่หยอกกันแรงๆก็ไม่ถือสาโกรธกันเลย
แม่แย้มก็ลุกขึ้นบอกว่าเดี๋ยวจะไปหากับแกล้มให้ยายแจ่มทำเพิ่มอีก ชายหนุ่มยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วเอ่ยว่า
“ไม่ต้องหรอกแม่ แค่นี้ก็พอแล้วนี่ก็จวนจะมืดค่ำแล้วเดี๋ยวก็คงจะกลับหรอก แหม๋แม่ครับเหล้าแก้วนี้หวาน
อร่อยหอมหวนจริงๆนะครับแม่” กล่าวเสร็จใบหน้าหันไปทางแม่แย้มแต่สายตามองไปยังเพื่อนดูอาการมัน
“แม่ๆๆๆไอ้ห่ากานต์โกหกหน้าด้านๆเลยแม่ มันยังไม่ได้จิบเหล้าแก้วที่คุณพิมพ์รินให้เลย เสือกรู้ว่าหวาน
หอมแล้ว”
“อ้าวก็จริงๆนี่หว่า กูเห็นมึงจิบไปยิ้มหวานทางคุณพิมพ์กูก็รู้ว่า เหล้าคงหวานหอมนะซิโว้ยไอ้เห้...”
คราวนี้เหล้าที่ยกขึ้นดื่มของหนุ่มกนกก็เกิดอาการสำลักพรวดทันที...........
* แก้วประเสริฐ.*
22 มีนาคม 2553 14:52 น.
แก้วประเสริฐ
ฟ้าเพียงดิน (๘)
ครั้นหญิงสาวได้ยินเช่นนั้น ก็ปิดปากหัวร่อ เสียงลอดออกมาจนร่างงอทันที ส่วนเจ้ากนกหรือ
ก็ง้างเท้าทันที หวังจะถีบชายหนุ่มที่หักหน้าเขาต่อหน้าหญิงสาวนั้น พลางงอเข่าแล้วยืดออกไป
แต่แล้วก็ต้องชะงักลดพลังการถีบทันที พลันวางเท้ายืดบนผืนเสื่อทันที เมื่อได้ยินชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“ช้าๆๆ???....ไอ้หนกมึงจะถีบกูหรือไหงถึงทำเช่นนี้ ช่างไร้มารยาทจริงๆนะ ต่อหน้าสุภาพสตรี
ยังทำได้ถึงเพียงนี้หาก ลับหลังจะมิยิ่งไปกว่านี้อีกหรือ จริงไหมครับคุณพิมพ์”
แน๊ะๆๆดูมันเสือกหาพวกช่วยเสียอีก น่าถีบจริงไอ้เห้นี่ แต่กลับกล่าวว่า
“เปล่าหรอกเพื่อนที่แสนจะรักที่สุดในโลก เพียงแต่มดมันกัดใต้หัวเข่านะสะดุ้งไปเท่านั้นเลยจำ
ต้องยืดขาออกเพื่อตบและเกามันเองจ๊ะเพื่อนที่รักขอรับ”
“ข้ออ้างนะซิไอ้หนก.....” ชายหนุ่มรู้ทันกล่าว
“ไหนๆๆลองเข้ามาดูใกล้ซิจะพ่อทูนหัวทูนเกล้า ช่วยจับมดให้หน่อยนะ” กนกกล่าวแล้วแกล้ง
ยกมือขึ้นเกาใต้หัวเข่าทันที
“มัดกัดผมจริงๆนะครับคุณพิมพ์ อย่าไปเชื่อไอ้จอมกระล่อนเลยมันแกล้งผม ปกติผมเองสุภาพ
เรียบร้อยจะตายไปครับ” กนกเอ่ยแก่หญิงสาวทันที
“กูไม่หลงคารมมึงหรอกไอ้หนก คุณพิมพ์ครับกรุณาเป็นตัวแทนผมหน่อยซิครับไปดูว่ามีมดจริงๆ
ดังที่ไอ้หนกมันพูดหรือเปล่า” แล้วชายหนุ่มก็หันหน้ามาทางหญิงสาวพร้อมพยักหน้าให้หล่อนเข้าไป
ช่วยดู ครั้นหญิงสาวได้ยินคำสั่งเช่นนั้น ในใจคิดว่าต่อไปเขานี้แหละจะเป็นเจ้านายหล่อนในอีกหนึ่ง
เดือนข้างหน้า ครั้นจะไม่ทำตามก็ดูกระไร จึงเขยิบตัวลุกยองๆเข้าไปหากนกทันที
“ไหนค่ะ ขอพิมพ์ดูให้หน่อยว่ามดมันกัด จะได้ทายาให้ค่ะ” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวล้วงกระเป๋ากางเกง
หยิบยาหม่องออกมาด้วย
“ไม่เป็นไรแล้วครับหายแล้วล่ะ ที่ผมให้ไอ้กานต์มันเข้ามาดูเพื่อจะเข่ามันครับคุณพิมพ์เลยแกล้งมันครับ”
หญิงสาวชะงักหัวร่อคิกๆๆๆทันที ทั้งๆที่หล่อนรู้แล้วว่าไม่มีมดอะไรหรอก แต่เพื่อตามใจเจ้านายในอนาคต
นั่นเอง เลยผสมโรงไปด้วย
“น่าๆๆๆให้พิมพ์ดูหน่อยนะค่ะ ประเดี๋ยวคุณชายจะว่าไม่ทำตามคำสั่ง ด้วยอีกเดือนหน้านี้เขาจะเป็นเจ้านาย
พิมพ์แล้ว นะค่ะให้พิมพ์ดูหน่อยนิดเดียวแหละค่ะ” หญิงสาวกล่าวอ้อนวอนชายหนุ่มชื่อกนกทันที
พลางหล่อนนึกในใจว่าชายทั้งสองนี้รูปร่างหล่อเหลาทั้งคู่เพียงแต่ว่าคุณชายนั้นรู้สึกว่าจะได้เปรียบมากกว่า
เท่านั้นเอง
ครั้นกนกได้ยินเช่นนั้นกลัวหล่อนจะเสียใจที่อุสส่าห์ขอร้องถึงสองครั้ง จึงกล่าวว่า
“ถ้าอย่างนั้น....รบกวนคุณผู้หญิงหน่อยก็แล้วกันครับ “ พูดพลางถลกขากางเกงให้สูงขึ้นเลยหัวเข่า เห็นเป็น
รอยแดงๆ ที่จริงนั้นเกิดจากเขาเกามันอย่างแรงเพื่อสร้างสถานการณ์เท่านั้น
“โอ้แดงมากเชียวเลยค่ะ งั้นพิมพ์จะทายาหม่องให้นะค่ะ ทางสวนนี้ทุกๆคนจะพกยาหม่องไว้ประจำตัวด้วย
มีมดต่างๆแยะกัดเจ็บ ยิ่งมดตะนอยด้วยแล้วทั้งเจ็บปวดทั้งคันด้วยล่ะค่ะ” หญิงสาวเอ่ย พร้อมป้ายยาหมองทา
ไปตรงรอยเป็นแดงๆ แต่หาได้มีจุดมดกัดใดไม่
เมื่อชายหนุ่มกานต์เห็นโอกาสดีเช่นนั้น ก็เอ่ยขึ้นว่า
“คุณพิมพ์ครับ ช่วยดูแลรักษามันหน่อยนะครับมันจะตายหรือเปล่า สงสัยพิษมันจะลามเข้าสู่หัวใจกระมัง
อีกอย่างหนึ่งฝากมันไว้ด้วยนะครับ ผมจะเข้าไปดูแม่แย้มสักหน่อย ขอตัวก่อนนะครับ” ไม่พูดเปล่าชายหนุ่ม
ยืนขึ้นแล้วก้าวเดินเข้าข้างในทันที ด้วยปล่อยโอกาสให้ไอ้หนกมันได้อยู่สองต่อสองกับพิมพ์ตามที่เขาวางแผน
ไว้ ที่เขากล่าวให้มันตลกนั้นก็ด้วยเหตุต้องการสร้างความสนิทสนมระหว่างกันและกันเท่านั้น พลางอมยิ้มหัวร่อ
ในใจ เมื่อก้าวพ้นทั้งสองไปแล้วเขาก็เดินตรงไปลงกระไดหลังบ้านเพื่อเข้าไปยังสวนเพื่อชมผลไม้ เห็นตาม่วง
กำลังกินเหล้าของเขาอยู่ใต้ถุนคนเดียว จึงเลี่ยงๆไปตาม่วงครั้นแลเห็นเขาจะเอ่ยปากขึ้นถาม แต่เขายกนิ้วชี้ไป
ที่ปากเสมือนส่งสัญญาณว่าอย่างเอ่ยไป นั่นเองถึงได้ชะงักคำพูด แต่ไม่วายลุกขึ้นเดินมาหาเขา ชายหนุ่มชี้ไป
ทางในสวน ครั้นตาม่วงทราบก็จะเดินตามไปด้วย ชายหนุ่มรีบสั่นหน้าทำกิริยาบอกว่าให้ไปกินเหล้าต่อเถอะ
แล้วร่างชายหนุ่มก็รีบเดินเข้าไปยังสวนทันที แต่บรรดาหมาต่างๆก็วิ่งพรูเข้ามาเขายกมือลูบหัวมันแล้วเดินต่อ
บัดนี้เขามีผู้ร่วมทางด้วยแล้ว จึงเดินไปพลางถลกขากางเกงให้สั้นแล้วพับมันเลยหัวเข่า พลางดินทอดน่องไป
ชมผลไม้ที่กำลังออกผลแต่ยังเล็กนัก มีทั้งมังคุด มะม่วง น้อยหน่า ส้ม ทุเรียน มะกรูด มะนาว มะดัน ฯลฯ
ล้วนแล้วออกผลเป็นพวงๆห้อยระย้า อากาศก็สดชื่นนัก เขาเดินลึกๆเข้าไปตามด้วยหมาที่วิ่งนำหน้าและ
ตามหลังมา ได้ยินเสียงนกร้องจับใจยิ่งนัก เขาเดินลอดกิ่งไม้บ้าง กระโดดข้ามท้องร่องบ้าง ลึกๆเข้าไปจนไป
พบขอนไม้ที่ทำเป็นที่นั่ง พลางมองดูเห็นเป็นรอยมันๆสงสัยตาม่วงใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนหลังจากทำงานเสร็จ
หากจะเดินให้รอบเห็นจะไม่ไหวด้วยบริเวณสวนกว้างขวางมากนักนับสิบสามสิบไร่เห็นจะได้ เมื่อตอน
หนุ่มเคยได้ยินแม่แย้มเอ่ยขึ้น แต่ตอนนี้เห็นไกลไปอีกสงสัยแม่แย้มจะซื้อเพิ่มเติมไว้อีกกระมัง สักพักหนึ่ง
เมื่อลมโชยผ่านมาชายหนุ่มได้กลิ่นหอมของดอกไม้ หอมเย็นคล้ายกลิ่นกุหลาบลอยมากระทบจมูกเขา จึงรีบ
ลุกขึ้นเดินไปเพื่อค้นหา ครั้นกระโดดข้ามท้องร่องไปอีกไม่มากนักก็เจอร่องของเหล่าดอกไม้ต่างๆที่ปลูกไว้
ที่เขาได้กลิ่นนั้นคือดอกกุหลาบมอญนั่นเอง กำลังออกดอกบานสะพรั่ง แต่ละร่องปลูกไว้เป็นทิวแถวไปทั่ว
แต่ละร่องหนึ่งปลูกกุหลาบที่หอม และไม่หอมสีสันสวยงามนัก มีสีชมพู แดง เหลือง ขาวและสีผสมกันบ้าง
แต่ที่ห่างไกลนั้นเห็นคนงานหลายๆคนกำลังพรวนดินดูแลอยู่ นอกจากกุหลาบแล้วก็มี ร่องเบญจมาศ ร่อง
ดาวเรือง ร่องสร้อยทอง มะลิ ฯลฯ เป็นบริเวณที่ปลูกเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ทั้งสิ้น เขาเดินตรงไปหาคนงาน
ที่กำลังง่วนอยู่กับงาน ครั้นชายหนุ่มไปถึง พวกคนงานพากันแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มรูปร่างสง่างามเหตุใดจึง
เข้ามายังภายในสวนได้ แต่ไม่สนใจเขาเท่าใดนัก
ชายหนุ่มจึงไปถามคนงานที่เป็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งทันที
“คุณน้า บรรดาดอกไม้เหล่านี้จะเก็บไปขายที่ไหนหรือครับ”
“คุณ???....เป็นใครหรือถึงได้มาเดินในสวนนี้ได้จ๊ะ” หญิงวัยกลางคนถาม
“อ้อ...ผมเองชื่อกานต์ครับ เป็นลูกแม่แย้ม พึ่งจะออกจากบ้านมาเที่ยวครับ”
ครั้นคนงานทั้งหลายได้รับฟังเช่นนั้น ต่างก็รีบนั่งยองๆยกมือไหว้ชายหนุ่มทันที
“ขอโทษค่ะ พวกเรานึกว่าเป็นหนุ่มจากสวนโน้น ถึงไม่ได้ต้อนรับคุณชาย ไม่นึกว่าเป็นลูกของคุณนายแย้ม
เห็นคุณนายอยู่ตัวคนเดียวเอง พวกดิฉันเป็นคนงานในสวนนี้เจ้าค่ะ”
“อ้อๆ.....ไม่เป็นไรหรอกทำตัวตามสบายก็แล้วกันนะ อย่าคิดอะไรมากไปเลยผมนานๆจะมาเที่ยวสักที แต่
ระยะไม่มาเสียหลายๆปีทีเดียว แล้วดอกไม้ผลไม้ทั้งหลายเหล่านี้จะเก็บไปขายที่ตลาดเมืองนนทฯหรือ”
“เปล่าหรอกเจ้าค่ะ จะมีคนมาเก็บเองในตอนเช้าๆพวกเขาจะนำลูกน้องมาเก็บ โดยมีตาม่วงคอยตรวจสอบ
แล้วเก็บเงินเจ้าค่ะ” หญิงวัยกลางคนตอบ
“อย่างงั้นหรือ นั่นซินึกว่าพวกเราเก็บไปขายเองเสียอีก ก่อนนั้นที่ฉันมาถนนยังไม่มีถึงหน้าบ้านเวลาจะ
ไปไหนก็อาศัยคลองไปทางเรือ” ชายหนุ่มกล่าว
“เจ้าค่ะก่อนนั้นพวกเราอาศัยทางเรือทั้งสิ้น แต่หลวงท่านตัดถนนผ่านมาทางนี้พอดีเลยทำให้สะดวกขึ้นเจ้าค่ะ”
“อือมๆๆๆ.......ดีจริงนะเวลาขนส่งจะได้สะดวกยิ่งขึ้น”
“เจ้าค่ะ”
“อ้าวแล้วพวกเธอล่ะอาศัยอยู่ในที่นี้หรือ”
“เจ้าค่ะ ตาม่วงแก่ปลูกเรือนแถวไว้ปลายสวนไว้หลายๆหลังให้พวกเราอาศัยอยู่จะได้ทำงานทัน พวกเรามา
จากต่างจังหวัดทั้งหมดเจ้าค่ะ” หญิงกลางคนตอบด้วยความนอบน้อม
“อ้าวๆๆแล้วคนงานต่างมีลูกมีหลานกันหรือเปล่าล่ะ”
“มีเจ้าค่ะ คุณนายให้ตาม่วงคอยควบคุมดูและและรับผิดชอบการเรียน ที่อยู่ไม่ไกลนัก โดยออกค่าใช้จ่ายให้
ทั้งหมด ตลอดจนเงินเดือนที่พวกเรารับ ตาม่วงแกควบคุมดูแลการเงินและจะนำมาจ่ายให้ ส่วนค่าเล่าเรียนคุณนาย
ท่านตั้งรายหัวไว้ให้ค่ารถค่าเรือค่าอาหารแก่เด็กๆตลอดค่าเล่าเรียนเสื้อผ้าทั้งหมดเจ้าค่ะ”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ อ้อแล้วอาหารการกินล่ะ” ชายหนุ่มถาม
“อาหารคุณนายท่านซื้อข้าวยกกระสอบไว้ให้พวกเราใช้หุงกินด้วยกัน ส่วนอาหารนั้นพวกเราต่างแบ่งกันไป
ซื้อตลาดในเมืองมา ต่างคนต่างซื้อแต่เวลากินข้าวกัน คุณนายบอกว่าให้มากินร่วมๆกันอย่าได้แยกกันกิน ดังนั้น
ต่างคนเมื่อทำอาหารก็จะยกมาร่วมกัน แล้วกินด้วยกันเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ให้คิดในใจว่า แม่แย้มช่างชาญฉลาดนัก ด้วยสร้างความสามัคคีในหมู่เหล่าคนงานไว้
ตลอดจนความซื่อสัตย์อีกด้วย ดังนั้นชายหนุ่มจึงกล่าวว่า
“เดี๋ยวคุณน้าช่วยตัดดอกกุหลาบมอญให้สักหน่อยซิจ๊ะ”
“ได้เจ้าค่ะ” แล้วหญิงกลางคนก็หันไปทางชายหนุ่มที่รู้สึกว่าจะเข้าวัยรุ่นพลางร้องตะโกนแจ้งทันที
สักประเดี๋ยวเดียว เด็กหนุ่มคนนั้นก็หอบเอาดอกกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมมาให้กอบใหญ่ทีเดียว
ชายหนุ่มมองดูก็บอกว่า ให้ช่วยลิดใบและหนามออกด้วย เหลือเพียงใบอ่อนๆเท่านั้นนะ
แล้วถามเด็กหนุ่มว่า
“ชื่ออะไรหรือ”
“กระผมชื่อจ้อยขอรับนายท่าน” เด็กหนุ่มตอบ
“อืมมๆหน่วยก้านแข็งแรงดีนี่ แล้วไม่เรียนหนังสือหรือ
“เรียนจบแล้วขอรับตามหลักสูตร แต่ไม่เรียนต่อเพื่อต้องการทดแทนพระคุณคุณนายขอรับ”
“อ้าวเป็นอย่างงั้นไป ทำไมถึงไม่เรียนต่อเล่า แม่แย้มย่อมส่งเสียให้เรียนนี่นา”
“ขอรับผมทราบ แต่ว่าทางบ้านผมมีน้องๆหลายคน เกรงใจแม่ใหญ่ขอรับ จึงแจ้งแก่ท่านว่าขอเพียงเท่านี้พอ
ให้ส่งน้องๆเรียนเถอะ ด้วยรายได้ท่านแม่ใหญ่ก็มีไม่มากถึงแม้จะตัวคนเดียวก็ตาม แต่คนงานและเด็กแยะที่แม่
ใหญ่อุปการะ กระผมถึงได้มาช่วยแรงงานพ่อแม่ที่ได้รับความกรุณาจากแม่ใหญ่
ก็ถือว่าเป็นพระคุณอย่างสูงแล้วขอรับ”
แม่เรานี่มีรายจ่ายมากจริงๆแต่รายได้การขายผลไม้และดอกไม้จะพอหรือ หากเราได้ทำงานก็จะแบ่งรายได้มา
ไม่ให้แม่แย้มรู้หรอก แต่จะแกล้งขอดูบัญชีธนาคารแล้วโอนเงินมาให้ดีกว่า ชายหนุ่มนึกในใจ
เอาล่ะทำงานกันต่อไปเถอะผมจะกลับแล้ว ทุกๆคนต่างยกมือไหว้ชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มรีบหอบดอกไม้ที่
คนงานห่อให้ด้วยใบตองกันหนามถึงแม้จะลิดไปแล้วพร้อมกับตัดก้านให้สมดุลกับการนำพาไปอีก
ทำให้ชายหนุ่มไม่ต้องสั่งอีก แสดงถึงการรู้งานของคนงานดีและนี่ก็สมควรแก่เวลาแล้วที่จะกลับไปเขาให้
โอกาสแก่หนุ่มสาวที่เขาคิดไว้
เมื่อผละจากคนงานแล้วชายหนุ่มก็เดินไปตามร่องสวนลัดเลาะหลบแสงแดดเข้าสู่ร่มไม้ทันที ด้วยบริเวณร่อง
ที่ปลูกบรรดาดอกไม้นั้นล้วนอยู่ในที่กลางแจ้งทั้งสิ้น จะมีบางแห่งที่ต้นไม้ไม่ค่อยชอบแดดแรงก็จะถูกปิดบังด้วย
หลังคาที่มุงด้วยผ้าพลาสติกเป็นรูเล็กๆป้องกันตัวแมลงได้อีกด้วย เหล่าลูกน้องบรรดาหมาทั้งหลายเหมือนมันจะรู้
ก็นำหน้ากระโดดท้องร่องพาชายหนุ่มกลับบ้านทันที
ครั้นเมื่อล้างเท้าด้านหลังบ้านแล้วเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามายังชานเรือน แลเห็นแม่แย้มนั่งเป็นเพื่อนเจ้าหนก
พร้อมกับหญิงสาวด้วย ครั้นแม่แย้มหันไปแลเห็นเท่านั้นก็เอ่ยทันที
“ไปไหนมาหรือลูก แม่ออกมาเห็นหายไป ครั้นถามตาม่วง มันบอกว่าไปเดินสวนพร้อมกับพวกหมาทั้งหลาย
ครั้นจะตามไป ลูกก็ไม่ยอมขอไปคนเดียว นานแล้วซินะที่เมื่อก่อนนี้ชอบสมัยลูกยังเด็กๆนะ เป็นไงเปลี่ยนแปลง
กว้างขวางกว่าเดิมคงจะเหนื่อยกินน้ำก่อนนะ” แล้วหญิงชราก็ยกแก้วน้ำส่งให้ชายหนุ่มทันที
“ขอบคุณครับแม่ กว้างขวางจริงๆไม่เหมือนเดิมเลยล่ะ”
“อ้อ...แม่ซื้อเพิ่มอีกสิบไร่กว่าๆจ๊ะ” หญิงชราตอบ
“นั่นซิเล่นเอาเสียเหนื่อย เห็นปลูกผลไม้และดอกไม้มามาก เลยเอามาฝากแม่ ไอ้หนก และคุณพิมพ์ด้วย”
“สำหรับแม่ไม่ต้องหรอกขอบใจ ในเมื่อลูกนำมาให้ ปกติยายแจ่มเขาจะไปเก็บมาประดับแจกันให้แม่อยู่
แล้วเป็นประจำล่ะ”
“แหม๋..ดีจังจ๊ะแม่สดชื่นหายเมาเชียวล่ะ ไปคุยกับพวกคนงานเขาด้วย” แล้วมองไปที่ขวดเหล้าพลางกล่าว
ขึ้นว่า
“เฮ้ยๆ....ยังไม่หมดหรือกูเตรียมมาหลายๆขวดนะโว้ย สงสัยยัดห่าไม่ลงมัวแต่ยัดห่าน้ำลายเพลินกระมัง”
เล่นเอาแม่แย้มหัวร่อก๊าก ส่วนหญิงสาวหน้าม้วนอายไปทีเดียว
“เห็นไหมแม่ คุณพิมพ์ มันว่าผมไว้ ที่แท้มันไปหาพวกมันบรรดาหมาทั้งหลาย มันเก่งนะคุณพิมพ์คุยกับ
หมารู้เรื่อง”
“มึงพูดอย่างนี้ยกเว้นคุณแม่คุณพิมพ์ มึงก็เป็นหมาเหมือนกันแหละว้า ฟังกูพูดรู้เรื่องโว้ย” ชายหนุ่มย้อน
“แต่กูปากมันสั้นๆ ไม่ยาวเหมือนมึงหูก็ไม่กางเหมือนมึงนี่หว่า จึงดูเหมือนคนหน่อยส่วนมึงนะ อิอิ หน้า
ก็ยาว ปากก็ยาว หูก็กางเหมือนไอ้ด่างไม่ผิดเลยล่ะ หากไม่เชื่อมึงลงไปดูซิว๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ”..............
* แก้วประเสริฐ. *
21 มีนาคม 2553 16:05 น.
แก้วประเสริฐ
ฟ้าเพียงดิน (๗)
ยามชายหนุ่มเจ้าของบ้านเดินออกจากห้องน้ำก้าวลงมาชั้นล่าง ครั้นมองไปยังชายหนุ่มนามพีระกานต์
เขาก็ร้องลั่นทันใด
“ เฮ้ยๆ???...ไอ้ห่ากานต์ไหนว่าจะมาแดกกันที่นี่นี่หว่า ไปไหนของที่มึงนำมายังไม่ให้ยายพริ้งจัดการอีก?
“ใครบอกมึงว่ากูจะมาแดกที่นี่ล่ะไอ้หนก กูจะมาชวนมึงไปแดกในสวนกับกู เรื่องโทรบอกเพื่อนๆกูไม่ได้
โทรไปบอกใครทั้งนั้นแหละโว้ย....
หนุ่มชื่อกนกเกาหัวหยิ๊กๆๆ....
“แล้วเสือกไม่บอกแต่แรก กูนึกว่ามึงจะมาแดกกันที่นี่เสียอีก งั้นมึงคอยกูแต่งตัวก่อนนะโว้ย รอแป๊บเดียว
ว่าแล้วไอ้หนกก็ก้าวย้อนกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง
พอมันลงมามันแต่งตัวเสียโก้ กลิ่นน้ำหอมฟุ้งไปทั่วๆห้องเชียว
“มึงไม่ต้องเสือกแต่งตัวเสียโก้แบบนี้ก็ได้นี่หว่า แหม๋กางเกงเอยเสื้อผ้าเอยกลีบโง้งเชียวนะมึง”
“แล้วมันหนักกระบาลมึงหรือ ปกติกูก็แต่งแบบนี้เวลาออกจากบ้านทุกๆทีแหละว๊ะ”
“เอาล่ะโว้ย!!!....ไปๆๆๆกันเถอะเดี๋ยวนี้ นี่มันบ่ายโมงกว่าๆแล้วล่ะ”
ครั้นแล้วหนุ่มทั้งสองก็เดินออกจากบ้านพร้อมทั้งหิ้วของพะรุงพะรังเดินกันไป ไอ้หนกมันยังไปตะโกนสั่ง
“แม่พริ้งๆๆ...ดูบ้านด้วยนะไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่....”
“จ๊ะๆคุณชาย” เสียงดังลอดออกมาจากห้องครัวไม่ต้องล๊อกประตูนะ ล๊อกประตูหน้าประตูบ้านก็พอฉันเอา
กุญแจมาด้วยแล้ว”
“เหมือนเดิมจ้าคุณชาย”
แล้วทั้งสองก็เดินไปที่รถของชายหนุ่มกานต์ทันใด แล้วสตาร์ทรถออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วจน
เพื่อนเขาถึงกับห้ามปรามไว้
“ไอ้ห่าๆ....ไม่ต้องรีบร้อนนักหรอกเดี๋ยวก็ไปแดกกับยมบาลหรอก มึงบอกว่าจะไปแดกกันที่สวน
นะสวนไหนหรือว๊ะ”
“เดี๋ยวมึงก็รู้หรอกน่า เสือกถามอยู่ได้เดี๋ยวโดนถีบหรอก”
“ฮั่นแน่ๆ...ขับรถยังถีบกูได้หรือ “
“ทำไมจะไม่ได้โว้ยรถกูมันอัตโนมัตินี่หว่าตีนกูยังว่างข้างหนึ่ง”
ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆรถก็มาถึงเมืองนนทบุรี เขาเลี้ยวผ่านเลี้ยววงเวียนริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับรถแล้วเลี้ยว
ซ้ายมือทันที สักครู่ใหญ่ๆก็เข้าซอยวกไปวกมา จนไอ้หนกชักสงสัย
“กูนับดูมึงวกไปหลายวกจริงๆนะไอ้กานต์”
“อ้าวก็มันอยู่ในสวนนี่นา แต่นี่ดีนะเดี๋ยวนี้เป็นถนนถึงหน้าบ้านแล้ว มิฉะนั้นกูต้องพามึงแต่งตัวซะโก้รองเท้า
มันปล๊าบแบบนี้ ฮึๆๆย่ำโคลนกันสนุกเลยโว้ย ฮ่าๆๆๆ”
“เดี๋ยวพ่อตบกระบาลซะเลยไอ้ห่า กูก็ลืมไปว่ามึงจะพามาสวนจริงๆ กูนึกว่าสวนสยามซะอีก”
ชายหนุ่มไม่ตอบแล้วเลี้ยวขวามือก็ขับตรงมายังบ้านติดถนน พลางกล่าวว่า
“เฮ้ยมึงไปเปิดประตูรั้วหน่อยโว้ย กูจะเอารถเข้าไปว๊ะ”
ไอ้หนกไม่พูดอะไรเปิดประตูรถแล้ว เดินไปเปิดประตูรั้วบ้านทันที แต่ทันใดหมาประมาณห้าหกตัวก็วิ่งมาเห่า
ดังขรม ไอ้หนกรีบวิ่งมาขึ้นรถทันที พลางร้องด่าทันที
“ไอ้ห่าเสือกไม่บอกว่ามีหมาซะด้วย ตัวใหญ่ๆเสียด้วย ไหมล่ะจะให้พระเอกโดนหมากัดซะแล้ว มันพูดไป
หัวร่อไป
“มึงน่าจะรู้นะโว้ยสวนทุกๆสวนนะเขาเลี้ยงหมาไว้ทุกๆสวนแหละเพื่อป้องกันคนขโมยเก็บผลไม้ว๊ะ”
“ก็กูไม่เคยอยู่สวนนี่นา”
“แล้วมึงจำไม่ได้เลยหรือว๊ะ หรือแกล้งถามเมื่อสมัยเราเรียนมหา’ลัยมึงกับพวกเราก็เคยมาติวกันที่นี่นี่นา”
“เออๆๆๆ....กูลืมไปแล้วว๊ะ มันพูดพร้อมกับเกาหัวแล้วนึกออก”
สักครู่เมื่อชายหนุ่มบีบแตรรถสองสามครั้ง ก็มีชายกลางคนรูปร่างแข็งแรงวิ่งเหยาะๆออกมาทันที ครั้นเห็นเป็น
ชายหนุ่มพลางยกมือไหว้ พร้อมทั้งไล่หมาทั้งหมดให้กลับไป ชายหนุ่มก็ขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านสอง
ชั้นเรือนไทยทันที
“ใครมาหรือพ่อม่วง เสียงหญิงชราร้องถาม”
“คุณชายกานต์มาขอรับ” นายม่วงรายงาน
“เหรอะๆๆๆ” บัดดลแม่แย้มก็รีบมายืนรับหน้าชานเรือนทันที
ครั้นชายหนุ่มปิดเครื่องแล้วก้าวนำหน้าไอ้หนกเดินออกจากรถทันที พร้อมถือของพะรุงพะรังเดินขึ้นมาบน
เรือนพร้อมเพื่อน พลางวางของลงแล้วยกมือไหว้หญิงชราทันที แล้วหันไปทางไอ้หนก ซึ่งชายหนุ่มยังไม่ทันเอ่ย
ปากมันก็รีบกล่าวทันที
“สวัสดีครับแม่ จำผมได้ไหมครับ”
“มึงไม่ต้องเสือกถามแบบนี้หรอกโว้ยกี่ปีมาแล้วมึงก็ไม่เคยมาอีกเลยนับแต่เราเรียน ไอ้ห่า แม่กูจะจำมึงได้หรือ”
“มารยาทโว้ยไอ้เห้” ไอ้หนกย้อนตอบ
หญิงวัยชรากล่าวแล้วเข้ากอดชายหนุ่มทันทีเมื่อทั้งสองขึ้นมาบนเรือนแล้ว
“ มาเยี่ยมแม่หรือลูก อ้อๆๆๆนั่นคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นพ่อกนกใช่ไหมหรือว่าจำผิดไป”
คราวนี้ไอ้หนกหันมาถีบชายหนุ่มทันที พร้อมหัวร่อลั่น
“ไหนๆๆไอ้ห่า ว่าแม่จำกูไม่ได้คนหล่อๆอย่างกูหรือจะจำไม่ได้ฮ่าๆๆๆๆ...” มันได้ทีหัวร่อลั่นบ้าน
เข้ามาข้างในก่อนเถอะลูกๆ
“นั่นซื้อของอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะนะ????......” แม่แย้มถาม
“ลูกว่าจะมาทานเหล้ากับไอ้หนกมันจ๊ะแม่ แล้วซื้อของที่แม่ชอบมาฝากไว้ด้วย ส่วนอาหารเป็นของสำเร็จ
และของสดไว้ให้แม่ทำอาหารกินภายหลังจ้า” กล่าวแล้วเขาก็จูบแม่แย้มทันที
“อิจฉาโว้ย อิจฉาจัง” เสียงไอ้หนกร้องลั่น
“ไอ้เห้ๆแม่ลูกเขารักกันนะโว้ยนี่ขนาดกูจูบแม่กูนะอิอิ” แล้วชายหนุ่มก็หัวร่อ
“แม่แจ่มๆๆๆ อยู่ไหนหรือ” เสียงแม่แย้มเรียก
“อยู่เจ้าค่ะ” พลางร่างหญิงกลางคนก็ก้าวขึ้นบันไดมา
“แม่แจ่มเอาของไปใส่จานไว้แกล้มเหล้า แล้วออกไปซื้อโซดาน้ำแข็งให้พ่อม่วงรีบไปรีบกลับมานะเอา
รถเครื่องไปนะจะได้เร็ว” พูดพลางหันมาทางชายหนุ่มทันที
“ แล้วพ่อกานต์จะทานกันตรงไหลล่ะ”
“ผมว่าตรงระเบียงชานดีกว่าครับแม่ ด้วยจะได้บรรยากาศ อ้อๆ...เดี๋ยวจะแม่ให้คนไปตามคุณพิมพ์ผกาให้
ด้วยนะว่าผมมาขอเชิญหน่อยนะแม่” ชายหนุ่มกล่าว
คราวนี้เล่นเอาแม่แย้มงุนงงทันที
“แล้วลูกรู้จักแม่พิมพ์อย่างไรหรือในเมื่อเขามาลูกยังนอนอยู่นี่นา”
“เดี๋ยวแม่ก็รู้เองแหละจ้าแม่ “ ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้
พลางแม่แย้มตะโกนบอกแม่แจ่มตามหลังไปอีกว่าให้พ่อม่วงไปเชิญหนูพิมพ์มาหาฉันหน่อยด้วย
“เจ้าค่ะ” เสียงแม่แจ่มขานตอบ
“แม่ๆบอกว่าลูกชายคุณอัศวโรจน์สำนักงานใหญ่อัศวราชิน ขอพบด้วยนะแม่” ชายหนุ่มกล่าว
“ได้ยินไหมแม่แจ่มที่คุณชายบอกเมื่อกี้นี้นะ” แม่แย้มกำชับ
“ได้ยินเจ้าค่ะ จะไปบอกเองเจ้าค่า ส่วนพี่ม่วงนั้นให้ไปซื้อของอย่างเดียวเดี๋ยวแจ่มจะขี่จักรยานไปตามเจ้าค่ะ”
“จ๊ะขอบใจมาก ให้เร็วๆหน่อยนะ” แม่แย้มกำชับ
ใครว๊ะไอ้กานต์????....คุณพิมพ์ผกานะ เออช่างเถอะกูที่นำมึงมาที่นี่จะให้มึงรู้จักกันไว้ ฮ่าๆๆหากมึงเห็นล่ะเฮ้ยมึง
จะลืมไม่ลงเชียวล่ะ กูคิดจะหาคู่ให้มึงล่ะโว้ย เห็นมึง เป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมา กูถึงไม่ชวนพวกเรามานะซิ”
“ไอ้ห่าทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่ชักไม่ใช่พ่อสื่อเอาไปแดกก่อนนะโว้ย” พูดจบมันหัวร่อด้วยความชอบใจ
“กูไม่เป็นสมภาคแดกไก่วัดหรอกโว้ย หล่อนเป็นถึงเลขานุการส่วนตัวของคุณพ่อด้วย กูจะทำได้หรือไอ้เห้...”
“ในเมื่อมึงติดต่อให้กู กูเชื่อมึงแล้วจะทำตัวไม่เจ้าชู้อีกต่อไปกูเชื่อตามึงว๊ะคนอย่างมึงถ้าไม่ดีจริงไม่ติดต่อให้
ใครๆหรอก กูรู้นิสัยมึงว๊ะ” ชายหนุ่มชื่อกนกกล่าวขึ้น
หลังจากแม่แจ่มนำเอาอาหารใส่จานพร้อมช้อนส้อมมาวางยังบริเวณพื้นชานเรือนพร้อมปูเสื่อจันทบูรณ์ให้
เพียงแค่ขาดโซดาน้ำแข็งเท่านั้นที่สามีไปซื้อยังไม่มา หล่อนก็รีบลงไปปั่นจักรยานไปตามหนูพิมพ์ทันที
สักประเดี๋ยวเดียวนายม่วงก็กลับมาพร้อมนำน้ำแข็งไปใส่กระติกน้ำพร้อมที่เปิดโซดาพร้อมแก้วมาให้ชายหนุ่ม
ทั้งสองทันที พลางกล่าวว่า
“ผมจะอยู่ใต้ถุนไม่ไปไหนหากคุณชายต้องการอะไรเรียกได้ทันทีนะขอรับ”
“ขอบใจพ่อม่วงมากจ๊ะ แบ่งไปทานบ้างไหมล่ะ อ้อในรถมีอีกนะเดี๋ยวฉันจะไปหยิบให้ “ ว่าแล้วชายหนุ่มก็
ก้าวลงบันไดมาพร้อมติดตามด้วยนายม่วง บรรดาหมาต่างๆเมื่อเห็นชายหนุ่มต่างก็พากันมาแสดงความดีใจทันที
ชายหนุ่มก้มตัวลูบหัวมันทุกๆตัว แล้วไปเปิดรถนำเอาเหล้าฝรั่งมาให้นายม่วงหนึ่งขวด แล้วกล่าวว่า
“โซดาน้ำแข็งแบ่งไปได้เลยนะไปเอาที่ข้างบนแหละ”
ชายกลางคนยกมือไหว้ทันที พลางกล่าวว่า
“ไม่เป็นไรขอรับ เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อเอาเอง ไม่รบกวนคุณชายหรอก แค่นี้ก็ถือว่าเป็นพระคุณยิ่งนักที่ได้
มีโอกาสทานเหล้าฝรั่งกับเขาบ้าง ส่วนใหญ่แล้วยี่สิบแปดขอรับ “ชายกลางคนกล่าวตอบ
“ไปล่ะตามสบายนะพ่อม่วง เดี๋ยวไอ้เห้มันจะบ่นเอายิ่งปากมันหมาด้วย”
“เฮ้ยๆๆๆใครว๊ะว่ากูปากหมา ชักมากไปจะเรียกกูปากสุนัขกูจะไม่ว่าอะไรเลย” เสียงดังมาจากบนบ้าน
เล่นเอาแม่แย้มหัวร่อร่า เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองรักกันนัก
“เห็นไหมพ่อม่วง หูมันเสือกได้ยินเราพูดอีก บอกแล้วว่าปากมันและหูพอๆกันแหละ ไปล่ะตามสบายนะ”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ก้าวขึ้นไปเห็นแม่แย้มกำลังคุยกับไอ้หนกอยู่
“ฮ่าๆๆๆวันนี้ตัวเห้....มันนั่งพับเพียบแปลกจริงโว้ย????.......”
คราวนี้ไอ้หนกหันมาพร้อมยกมือไหว้หญิงชราทันที
“แม่ๆๆๆฟังไอ้เห้...มันพูดซิ นิสัยมันระยำจริงๆนะแม่ไม่รู้จักมารยาทเสียเลยเสียแรงไปเรียนเมืองนอกเมืองนา
มาเอานิสัยฝรั่งมาใช้เน๊อะแม่”
“ผมเองเป็นกัปตันมือสองเวลาไปเมืองมันผมพูดภาษาไทยตลอดมันฟังได้ก็ฟังฟังไม่ได้ก็ช่างหัวมันจ๊ะแม่ ไม่
จำเป็นจะไม่พูดภาษามันหรอก”
“ไอ้ห่าๆๆๆ......ได้ทีขี่แพะไล่เชียวนะมึง ฟ้องแม่กูเดี๋ยวเถอะแม่กูไม่อยู่โดนถีบแน่ๆ” ชายหนุ่มหันไปด่ามัน
ทันที ทำเอาแม่แย้มหัวร่องอหายทันที
“เอาๆๆๆตามสบายกันนะ แม่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะจะได้ไม่ขัดคอลูกๆ “
“จ๊ะแม่ตามสบายเถอะ” ชายหนุ่มทั้งสองกล่าวพร้อมๆกัน
พอลับหลังชายหนุ่มก็รินเหล้าแจกกันแล้วยกขึ้นชนแก้วแล้วต่างๆก็คุยกัน เสียงหัวร่อดังลั่นอาศัยเป็นสวนจึงไม่
รบกวนชาวบ้าน เวลาผ่านไปนาน จนกระทั่งแม่แย้มจูงหญิงสาวเข้ามา ทั้งสองจึงหยุดด่ากัน แล้วต่างหันไปมอง
ครั้นหญิงสาวแลเห็นชายหนุ่ม ก็รีบก้มตัวนั่งยกมือไหว้แล้วกล่าวว่า
“ขออภัยค่ะที่มาช้าทำให้คุณชายรอนาน ที่จริงจะไม่มาแล้วด้วยพึ่งกลับจากงานมาได้ไม่เท่าใดนัก แต่แม่แจ่ม
บอกว่าเป็นคุณชายมาถึงได้รีบมายังไม่ทันแต่งเนื้อแต่งตัวเลย มาแบบชาวสวนเลยล่ะค่ะ”
“มาแบบนี้แหละดีแล้วล่ะคุณพิมพ์จะได้กันเอง อ้อนี้ชื่อ กนก อิศรางกูร ณ ปากหมาครับคุณพิมพ์”
ชายหนุ่มแนะนำเพื่อนของตัวเองทันที เล่นเอาเพื่อนถึงกับยิ้มแล้วรีบหุบปากทันทีเมื่อได้ยินมันเอ่ยนามสกุลของมัน
“ ณ อิศรางกูร ครับคุณพิมพ์ มันปากสุนักข์อย่าถือสาอะไรนะครับคนมันมองๆดูคล้ายๆกันเพราะเวลาผมเข้ามา
เพื่อนมันต้อนรับกันเป็นพรวนว่าพวกมันมาแล้วครับ”
เล่นเอาหญิงสาวถึงกับยกมือปิดปากทันทีเกรงเสียงหัวร่อจะลอดออกมาเมื่อเห็น เพื่อนคุณกานต์เอ่ยเช่นนี้
“อย่าถือสามันเลยครับก็คงจะเหมือนมันว่าแหละครับคุณพิมพ์ด้วยมันจำผมได้
ด้วยคุ้นเคยกับมันตั้งแต่มันยังเล็กนัก แต่คุณดูซิครับปากหูมันทำไมมันจึงไปทางหมานัก เหตุใดเป็นคนแท้ๆ
แต่ไหงกับเหมือนพวกไอ้แต้มไอ้แดงไอ้ดำไอ้ขาวและไอ้ด่างก็ไม่รู้ ไอ้หนกมันนั่งยกมือไหว้พวกนี้พอผมห้าม
มันและได้กลิ่นไอ้หนก มันจึงเข้าไปเลียปากไอ้หนก ฉนั้นปากมันจึงปากคล้ายหมาๆนั่นแหละครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยตอบทันควัน.............
* แก้วประเสริฐ.*
20 มีนาคม 2553 18:16 น.
แก้วประเสริฐ
ฟ้าเพียงดิน (๖)
ชายหนุ่มฟังการประชุมด้วยทีท่าสนใจแต่มิได้กล่าวประการใด พลางนึกในใจว่าคุณพ่อ
ช่างละเอียดรอบคอบมาก พลางตรวจรายการต่างๆบนหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามรางานของ
หัวหน้าฝ่ายต่างๆ พลันได้ยินคุณพ่อกล่าวว่า
“คุณองอาจ แล้วรายงานด้านต่างประเทศของประเทศเกาหลีที่มีหนังสือแจ้งมาว่าให้ทาง
เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เพียงผู้เดียว ตอนนี้งานไปถึงไหนแล้ว ขอทราบด้วย”
“เรียนท่านผู้บริหารใหญ่ บัดนี้ทางเราได้ติดต่อไปเรียบร้อยแล้วตามที่ท่านผู้บริหารแจ้ง
แต่ทว่า ทางบริษัทเขาอยากจะมาดูสถานที่ประกอบการโดยทำเป็นหนังสือแจ้งมาจะส่งคนมา
ดูกิจการในราวอาทิตย์หน้า วันอันแท้จริงจะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง ที่ยังมิได้รายงานไว้
ด้วยยังไม่ได้คำตอบอันแน่นอนเท่านั้นครับ” ฝ่ายต่างประเทศรายงานด้วยวาจาทันที
“หากเป็นเช่นนั้นก็ให้คุณองอาจต้อนรับและให้ไปดูสถานที่จะใช้ประกอบรถยนต์ตลอดจน
สาขาที่เปิดไว้ในกรุงเทพฯซึ่งทางเราได้จัดสร้างไว้เรียบร้อย หากได้รับรายงานจากบริษัทแม่เมื่อใด
ก็ให้รีบรายงานโดยด่วนด้วยนะ” คุณอัศวโรจน์แจ้งให้ทราบ
“ครับ!!!!.....หากทางเราได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนก็จะเปิดและรีบเร่งขยายงานออกต่าง
จังหวัดทันที ด้วยได้แจ้งให้คุณกฤษณะแจ้งไปยังบรรดาสาขาของเราให้จัดการสาขาและเตรียมการ
โฆษณาไว้แล้วครับ”
“แต่ถ้าหากฝ่ายเกาหลีขัดข้องอย่างไร ผมเองได้รับแจ้งมาว่าทางญี่ปุ่นก็สนใจงานทางเราด้วยคุณ
เห็นเป็นประการใดล่ะคุณองอาจ”
“แต่ถ้าหากทางญี่ปุ่นซึ่งก็ทำกิจการเดียวกันก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ด้วยผมและคุณกฤษณะ
ได้เปิดสาขาในนามของบริษัทเราสำรองไว้แล้วให้เป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแลด้านนี้ไว้แล้วครับท่าน ตามราย
งานที่แจ้งไว้ในรายงานทางคอมฯครับท่าน” ผู้จัดการทั้งสองฝ่ายตอบ
“แล้วด้านคุณกฤษณะเล่า การขายด้านเครื่องอุปกรณ์ ส่วน ลิฟต์ผมตรวจดูไม่เห็นเดินหน้าไป
แต่อย่างใดเลย”
“ทางด้านอุปกรณ์ด้านอื่นๆตลอดลีฟท์ถึงไม่ได้เพิ่มจากยอดเดิมนั้น แต่ไม่ได้ลดลงทุกอย่าง
ด้วยขณะนี้เกิดเหตุการณ์ภายในบ้านเมืองอยู่จึงชะงักไปครับท่าน ผมคิดว่าหากบ้านเมืองสงบ
คงจะได้ขายลิฟต์และอุปกรณ์ตลอดเครื่องอุปโภคบริโภคได้มากขึ้น ระยะนี้ได้โฆษณษาไปเรื่อยๆ
เพียงแต่เพลาๆไปบ้าง แต่เราได้เสริมทางด้านต่างประเทศไว้รอรับแล้วครับท่าน อีกประการหนึ่ง
ด้วยบรรดาการก่อสร้างต่างๆได้หยุดชะงักไปก่อน คงอีกไม่นาน ด้วยมีออเดอร์สั่งของมาแล้วครับท่าน”
“จริงซินะ เหตุการณ์บ้านเมืองเรากำลังวุ่นวาย ทั้งทางด้านในประเทศและต่างประเทศ แต่ขอให้พวก
เรารักษายอดการจำหน่ายและการผลิตไว้ตามรายการต่างๆไว้ ส่วนราคานั้นควรจะให้ชะลอๆไปพลางๆก่อน
ให้ผู้จัดการสาขาทั้งหลายทราบด้วยนะ เพียงให้รีบเร่งหายอดจำหน่ายไว้ให้มากๆไว้ก่อน ส่วนบริษัทใดที่ยัง
ต้องการก็ให้รีบจัดการให้เสร็จโดยเร็วด้วย”คุณ อัศวโรจน์แจ้ง
“คุณยุพาล่ะด้านการจำหน่ายต่างที่คุณทำรายงานมานั้น เห็นควรลดอัตราลงเสียบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับ
เหตุการณ์บ้านเมืองลงมาหน่อยนะ แล้วแจ้งให้ฝ่ายการขายแจ้งไปยังบรรดาสาขาต่างๆทั้งในและนอกด้วยนะ”
“เจ้าค่ะ แล้วท่านจะให้ลดประมาณสักเท่าไหร่ดีล่ะท่าน”
“ผมเห็นว่าควรจะลดสักหนึ่งเปอรเซ็นต์หรือสองเป็นตามลักษณ์ของสินค้าก็แล้วกัน”
“เจ้าค่ะจะได้แจ้งให้ฝ่ายการขายทราบโดยด่วนเจ้าค่ะ”
“อ้อแล้วทางด้านบุคลากรล่ะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพิ่มลดเท่าไหร่ คุณจารุวรรณ”
“อัตรากำลังบุคลากรนั้นหยุดรับการสมัคร เพียงรอการเปิดรับสมัครที่อาจจะเปิดการขายจากต่างประเทศจาก
คุณองอาจไว้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการปลดคนงานตามสภาพเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่เจ้าค่ะ”
คุณจารุวรรณกล่าวรายงาน
“ใช่แล้วสมควรเป็นแบบนั้นด้วยสภาพเหตุการณ์เราต้องตรึกตรองกันให้รอบคอบให้สอดคล้องกันและกัน
และด้านคุณ เบญจมาศล่ะ งานฝ่ายบัญชีเป็นอย่างไรบ้าง”
“ด้านการเงินนั้นยังอยู่ในสภาพคล่องตัว ด้านในและต่างประเทศยังอยู่ในสภาพเดิมแต่เค้าว่าอาจจะลดลง
บ้างเล็กน้อยเจ้าค่ะ” ฝ่ายบัญชีกล่าวรายงาน
“อ้อยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ เจ้ากานต์ลูกชายผมเองขออัตรา หนึ่งอัตรา เพื่อเวลาเขาเข้ามาบริหารงานแทนผม
คือหน้าที่เลขานุการส่วนตัว ให้คุณนำเอกสารที่ผมจะมอบให้คุณนี้ไปแต่งตั้งได้เลยนะ กินตำแหน่งผู้ตรวจการ
พิเศษประจำบริษัทสามารถตรวจสอบทุกๆฝ่ายได้ แต่ตอนนี้ยังไม่เข้าทำงานเขาจะทำรายงานส่งทางบ้านเขาให้
เขากินเงินเดือนๆละ ห้าหมื่นบาทไปก่อน เบิกจ่ายตั้งแต่เดือนนี้ไปเลยด้วย” คุณอัศวโรจน์กล่าว
“เจ้าค่ะดิฉันจะรีบดำเนินการโดยด่วนเจ้าค่ะ”
แล้วผู้จัดการฝ่ายบุคลากรก็ลุกจากเก้าอี้เดินเข้ามาน้อมกายลงแล้วรับเอกสารจากมือผู้บริหารใหญ่ทันที
พร้อมก็เดินกลับไปนั่งโต๊ะตามเดิม
“คุณพิมพ์ผกาให้จัดทำรายงานประชุมทั้งหมดรีบส่งผมโดยด่วนด้วยนะ”
“เจ้าค่ะ” หญิงสาวชื่อพิมพ์ผกาตอบอย่างนอบน้อม พลางเงยหน้า แล้วหล่อนก็สะดุ้ง ไม่ใช่เพียงแต่หล่อน
เท่านั้นชายหนุ่มก็สะดุ้งเช่นเดียวกัน ด้วยเขาเพียงแต่หลับตาฟังการสั่งงานการประชุมต่างๆจากคุณพ่อและหัน
ไปมองผู้จัดการฝ่ายต่างๆจดจำไว้ แต่หาได้สังเกตว่าที่เบื้องหลังท่านมีหญิงสาวนั่งโต๊ะเคียงคู่ท่านอยู่
ด้วยหล่อนมัวแต่กำลังจดรายงานต่างๆไว้ พร้อมกำลังบันทึกลงในคอมพิวเตอร์อยู่จึงไม่ได้และเห็นใบหน้า
พลันชายหนุ่มนึกถึงแม่แย้มขึ้นทันที ระหว่างที่เขาหลับไปและตื่นแต่เพียงแย้มนัยน์ตามองดูเห็นหล่อนเพียง
ไม่นานนักแต่เขาจำได้ ไม่นึกว่าหล่อนจะมาเป็นเลขานุการของบิดาเขา
ทั้งสองเมื่อสบตากันก็ต่างคนต่างคิดไปต่างๆนาๆทันที หญิงสาวก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่หล่อนแลเห็นนอนอยู่
บ้านโซฟานั้นจะเป็นถึงลูกชายคนเดียวของท่านบริหารใหญ่เจ้าของแห่งบริษัทที่หล่อนทำงานอยู่
ด้านชายหนุ่มก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า หล่อนจะเป็นคนดูแลแม่แย้มที่เขารักดุจดั่งแม่ตัวเองในระหว่างเขาไปต่าง
ประเทศและซื้อของมาฝากแม่เขาเป็นประจำอีกด้วยจะเป็นเลขานุการของพ่อไป ทำให้ทั้งสองตลึงงันทำให้คุณ
อัศวโรจน์สงสัย แต่ไม่กล่าวประการใด
เจ้าของบริษัทและผู้บริหารใหญ่พลางกล่าวในที่ประชุมว่า ในเมื่อผมอ่านรายงานจากท่านและเซฟไว้เรียบร้อย
แล้ว หากทุกๆคนมีปัญหาใดขัดข้องอย่างไรให้รีบรายงานผมโดยด่วนด้วย ถ้าไม่มีก็ขอปิดประชุมก่อน อ้อๆๆ
ลูกชายผมจะเข้ามาบริหารในบริษัทนี้อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฉะนั้นเขาก็คือผมหากผิดพลาดอย่างไรก็ตักเตือนเขา
ด้วยถือว่าเป็นลูกหลานของท่านๆก็แล้วกัน
ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้ไปทางผู้จัดการฝ่ายทั้งห้าทันที บรรดาฝ่ายทั้งหลายก็ยืนขึ้นแล้ว
รับไหว้ตอบ ต่างคิดในใจว่านี่หรือจะมาเป็นหัวหน้าพวกเขาอายุก็ยังไม่มากนักแต่ต่างคิดไปต่างๆนาๆแล้วก็
นั่งลงดังเดิม ครั้นได้ยินผู้บริหารใหญ่สั่งกล่าวปิดประชุมก็ลุกขึ้นน้อมกายคาราวะทันทีแล้วต่างก็ค่อยๆทยอย
กันเดินออกจากนอกที่ประชุม คงเหลือเพียงคุณอัศวโรจน์ ชายหนุ่ม และหญิงสาวเท่านั้น
“นี่เจ้าค่ะ แผ่นดิสท์ของแต่ละฝ่ายได้บันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันหกแผ่น ห้าแผ่นเป็นรายงานของหัว
หน้าฝ่าย อีกแผ่นหนึ่งเป็นประชุมด้วยวาจาเจ้าค่ะ” แล้วหญิงสาวก็น้อมกายยื่นส่งให้แก่คุณอัศวโรจน์ทันที
ถอยหลังไปยืนรอคำสั่งต่อไป
“ฉันสังเกตว่าเธอกับลูกฉันเหมือนจะรู้จักกันมาก่อนแล้วใช่ไหมพิมพ์ผกา”
“ไม่รู้จักกันเจ้าค่ะ แต่เคยเห็นเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบ
“อ้าวๆๆ???....แล้วเจอกันที่ไหนล่ะ” บิดาพีระกานต์ถามด้วยความสงสัย
“พบเห็นเขานอนหลับที่บ้านป้าแย้มเจ้าค่ะ ระหว่างดิฉันนำขนมไปมอบให้ป้าแย้มเจ้าค่ะ”
“แล้วคุยกันด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“เปล่าเจ้าค่ะ เมื่อเห็นป้าแย้มมีลูกชายมาหาซึ่งดิฉันก็สงสัยเหมือนกันด้วยทราบว่าป้าแย้มไม่ได้แต่งงาน
จนป่านนี้จะมีลูกชายได้อย่างไรเหมือนกันเจ้าค่ะ”
คราวนี้คุณอัศวโรจน์รู้ทันทีว่าหลังจากไอ้กานต์มันหายหัวไปไหน ตามที่คุณหญิงภรรยากล่าวว่ากานต์
มันจะไปธุระ แต่เร่งให้กลับบ้านเร็วๆ พลางหันหน้ามาทางชายหนุ่มทันที
“บอกพ่อซิเจ้ากานต์ว่าที่คุณพิมพ์ผกาแจ้งมาจริงหรือเปล่า เห็นแม่บอกว่าไปธุระที่แท้ไปหาแม่แย้มหรือ”
“ครับคุณพ่อ ผมเองเห็นทราบว่าทางคุณพ่อคุณแม่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้านเลย แวะไปเยี่ยมแม่แย้มหน่อย”
“เออให้มันได้อย่างนี้ซิ มันช่างเหมือนพ่อจริงๆนะ”
“ฮ่าๆๆๆๆไอ้กานต์นะไอ้กานต์ ไม่เบาความคิดอ่านกว้างไกลนัก” แล้วชายกลางคนก็หัวร่อลั่นทันที
แล้วชายปลายวัยชราก็กอดคอเจ้าลูกชายเดินออกจากห้องประชุมทันที
หญิงสาวก็เดินตามหลังคิดไปต่างๆนาๆด้วยคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันในลักษณะแบบนี้
“ครั้นถึงประตูก็ลดมือออกจากคอของชายหนุ่มแล้วหันไปถามว่า แล้วแกจะไม่ไปเดินชมฝ่ายต่างๆบ้าง
หรือจะได้รู้จักห้องต่างๆเวลามาทำงานนะ”
“อีกหนึ่งเดือนล่ะคุณพ่อ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมเห็นจะขอตัวไปหาไอ้หนกมันหน่อยด้วยจะปรึกษากันว่าจะ
ไปเที่ยวทะเล ด้วยมันจะบินไปยุโรปในอาทิตย์จะถึงนี้แล้ว”
“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพ่อแม่จะตามไปด้วย เจ้าล่ะจะเอาใครๆไปบ้างล่ะ “
“ก็เพื่อนๆและเมียมันเท่านั้นครับคุณพ่อเอาคนที่สนิทๆไป ไม่อยากให้เอิกเกริกนัก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
แล้วคุณอัศวโรจน์ก็หันหลังกลับไปถามหญิงสาวทันที
“ หนูไปเที่ยวทะเลด้วยกันไหมล่ะนำแม่แย้มไปด้วยนะบอกพี่เค้าว่าฉันเองคิดถึง ไอ้กานต์มันคงอยากให้ไปร่วมด้วยนะ บอกแม่แย้มเห็นคงจะไปด้วยหรอกจะได้สั่งให้เขาจัดการทำความสะอาดบ้านพักไว้หรือหนูจะเอา
พ่อแม่ไปด้วยก็ไม่ขัดข้องนะ”
“ดูก่อนเจ้าค่ะแต่จะบอกแก่ป้าแย้มให้ทราบเจ้าค่ะ” หญิงสาวกล่าวตอบ
“คุณพิมพ์ผกาขอเชิญด้วยนะครับ แล้วบอกแม่แย้มว่าผมต้องการให้ไปด้วย แม่แย้มต้องไปแน่นอนล่ะ”
“เจ้าค่ะคุณชาย” หญิงสาวกล่าวตอบ
ครั้นพอเดินพ้นหน้าห้องก็แจ้งให้หญิงสาวที่น้อมคาราวะให้กลับไปทำงานหน้าที่เดิมได้แล้ว พร้อม
คุณอัศวโรจน์ก็แยกทางกับชายหนุ่มเพื่อเข้าไปยังห้องทำงานซ้ายมือที่ติดกับห้องประชุมใหญ่พร้อมหญิงสาวทันที
หลังจากแยกทางกลับบิดาแล้ว ชายหนุ่มก็เดินระเหยไปเรื่อยๆลงลิฟท์มาแล้ว เดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ
ด้วยยังเห็นเวลามีอีกมากนัก เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จำชายหนุ่มได้ดีและเห็นเขาเดินเข้าไปยังที่ประชุมหน่วย
ประชาสัมพันธ์ทั้งหมดก็รีบออกมายกมือไหว้ชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มหัวร่อพลางบอกว่า
“ขอบคุณทุกๆคนครับ เดี๋ยวผมจะกลับเดี๋ยวนี้ทำตัวตามสบายเถอะ” กล่าวจบชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าผ่าน
หน้าประตูใหญ่ ฝ่ายพนักงานรปภ.ก็ทำความเคารพ ชายหนุ่มทันที แล้วเขาก็รีบเดินไปที่รถแล้วสตาร์ทรถออก
จากบริษัทหากนกด้วยนัดหมายกันไว้ก่อนแล้ว
เมื่อชายหนุ่มขับรถมาถึงซอยชิดลมก็แวะซื้ออาหารต่างๆแล้วเดินเข้าไปในบ้านเพื่อน เห็นไอ้หนกกำลังง่วน
อยู่กับต้นไม้ เขาแอบไปยืนไม่ให้มันรู้ตัว พอได้จังหวะก็เตะตูดมันทันที เสียงดังป๊าบ จอบเล็กๆในมือมันกระเด็น
หลุดมือทันที หัวคะมำทิ่มไปยังกระถางต้นไม้ เสียงมันด่าสนั่นลั่น
“ใครว่ะไอ้ห่า???....เดี๋ยวเถอะกูจะเอาคืน” พลางหันมายกมือตั้งท่ามวยการ์ดทันที เมื่อสมัยมันยังเรียนหนังสือ
มันเคยชกมวยนักเรียนได้แชมป์รุ่นมาแล้ว แต่พอมันเห็นชายหนุ่มเท่านั้น ก็รีบปล่อยมือทั้งสองลงทันที
“ไอ้เห้?...กูนึกว่าใครเสือกเตะกูเสียหัวทิ่มนี่กูว่าจะเอาคืนซะหน่อย” ว่าพลางก็ก้าวย่างสามขุมเข้าหาชายหนุ่ม
ทันใด ชายหนุ่มหัวร่อก๊าก
“มาๆๆไอ้หนก มึงดูซิว่านี่อะไรในมือกู “ แล้วชายหนุ่มก็ยกกล่องใส่เหล่าฝรั่งอย่างดีขึ้นทำท่ารับหากไอ้หนกเตะเขาจริงๆด้วยมือขวา ส่วนมือขวาถือถุงใส่บรรดาอาหารต่างยกขึ้นด้วย
ไอ้หนกชะงักพรืดพลางหัวร่อลั่นกูก็แกล้งขู่มึงยังงั้นแหลว้าอ้ายเห้.....ไปๆๆมึงเข้าไปในบ้านบอกแม่บ้านกู
ให้เตรียมไว้เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนแล้ว
“อ้าวไอ้เห้?...มึงไม่เรียกพวกเรามากินด้วยกันหรือว๊ะ กูได้ยินไอ้รุจน์มันโทรมาหากูว่าจะมาหากลุ้มใจมันว๊ะ
มึงโทรไปบอกมันก็แล้วกันพวกเรานะโว้ยอย่าให้มันเสือกพาเมียมาด้วยเดี๋ยวไม่สนุกว๊ะ” พูดแล้วกนกก็เดินเข้าบ้านตรงไปยังห้องน้ำทันที.........
* แก้วประเสริฐ. *