1 ธันวาคม 2553 21:48 น.
แก้วประเสริฐ
อทิสมานกาย ๓๕
ภายหลังกลับจากในเมืองแล้ว ชายหนุ่มก็แวะไปกราบหลวงพ่อทอง
เมื่อหลวงพ่อทองเห็นชายหนุ่ม ก็พลางหัวร่อ
เออ!!!!.....เมื่อคืนนั้นอาตมากำลังจำวัดอยู่ เห็นพวกเหล่าผีปีศาจมัน
ร้องครวญคร่ำ คล้ายๆจะอาละวาดกันในป่าช้า ก็มานั่งสวดมนต์ตั้งนาน
ชักเอ๊ะใจ ว่าเหตุใดๆ พวกมันจึงยังไม่ยอมสงบเสียทีจึงได้เข้าสมาธิตรวจดู
จึงรู้ว่าเป็นเจ้านั่นเอง ช่วยอนุเคราะห์คน เรื่องนี้อาตมาจะไม่พูดแต่นึกว่า
เจ้าทำบุญให้แก่พวกชาวบ้านได้ดีแล้วล่ะ...
ชายหนุ่มกราบหลวงพ่อว่า พวกนั้นมันกำเริบเสิบสานจนชาวบ้านไม่เป็น
อันจะทำมาหากินกันครับหลวงพ่อ จึงจำเป็นต้องกำจัดมันแต่ได้ไปตกลง
ขอพรจากท่านพระยายมไว้เรียบร้อยแล้วครับ
นั่นซิ....ต่อไปนี้จะได้สงบสุขเสียทีหากไม่มีคนปลุกที่อื่นๆมาก็ไม่เป็นไร
หรอก แต่ข้าเห็นการกระทำของเจ้าแล้วยากนักที่ใครๆจะทำได้ไม่มีใครปลุกนำ
มันขึ้นมาได้อีกแล้วล่ะ หลวงพ่อกล่าวขึ้น
แล้วนี่ไปในเมืองมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์หรือ???...หลวงพ่อถาม
ครับหลวงพ่อ ตั้งแต่มารับราชการยังไม่เคยเข้าไปตรวจดูเลย จึงอยากจะไป
ดูว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
อืมม!!!!....งานของเอ็งนั้นมันมีทั้งบุญและบาปนะ ทำอะไรๆก็ควรคิดให้
รอบคอบด้วยก็แล้วกัน เดี๋ยวนี้เอ็งเก่งกว่าข้าไปตั้งมากมายแล้วซินะ
ถึงอย่างไรผมก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่ออยู่ครับ จะไปเก่งกว่าอาจารย์ได้อย่างไร
หากไม่ได้หลวงพ่อแนะนำสั่งสอน ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดได้หรือไม่
นี่ผมแวะมากราบหลวงพ่อแล้วจะรีบกลับไป
ด้วยเย็นจะมืดอยู่แล้วครับ หลวงพ่อจะใช้อะไรผมก็บอกมาได้เลยนะครับ
พลางชายหนุ่มก็นำพวงมาลัยใส่พานถวายหลวงพ่อสามพวง
เพื่อสักการะบูชาครู
หลวงพ่อทองยื่นมือมารับพานดอกไม้ แล้วนำไปวางที่โต๊ะหมู่บูชา
พลางตอบว่า
เอ็งเป็นคนกตัญญูรู้คุณคน พระย่อมคุ้มครองเอ็งแหละ
ไม่ต้องห่วงอะไรกับหลวงพ่อหรอก หลวงพ่ออยู่ทางนี้สบายดีแล้ว
ข้า......คิดว่าจะตายก็ขอตายในผ้าเหลืองนี้ล่ะ เมื่อถึงวาระหมดอายุขัย
ไม่อยากไปยุ่งกับทางโลกนักหรอก ขอให้จำเริญๆนะนี่ก็มืดแล้ว
กลับไปเถอะ หากว่างๆก็มาเยี่ยมพ่อบ้างนะลูก หลวงพ่อทองกล่าว
ครับชาตินี้ผมจะไม่มีวันลืมหลวงพ่อได้หรอกครับ เป็นครูบาอาจารย์
คนแรกของผม ที่ได้ร่ำเรียนวิชาการต่างๆทางด้านนี้มาครับหลวงพ่อ
ชายหนุ่มกล่าวตอบ
ไปเถอะลูกป่านนี้พ่อแม่น้องสาวน้องชายเจ้าคงจะเป็นห่วงมาก
เขาจะได้สบายใจนะ ตอนนี้คงจะกังวลใจก่อนอยู่แล้วนา หลวงพ่อเอ่ยขึ้น
แล้วชายหนุ่มก็ก้มลงกราบลาหลวงพ่อทอง พลางหันหลังเดินลงกุฎีไป
ชายหนุ่มคิดหากไม่ได้หลวงพ่อองค์นี้เห็นทีการงานเขาคงจะยากมาก
เกินกว่าจะทำได้เสียด้วย นี่ดีนะได้ร่ำเรียนวิชาอาคมตลอดจนอักขระต่างๆ
จากท่านและพ่อแม่อีกทั้งยังได้รับการเรียนรู้จากเทพยดาไว้อีกด้วย
จึงมีวันนี้สำหรับเขา ก็รีบออกเดินทางกลับบ้านทันทีอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางกลับนั้นก็คิดวางแผนการต่างๆไว้ล่วงหน้าแล้ว
ว่าจะทำอย่างไรกันดี จึงรีบขี่รถกลับบ้านโดยไม่แวะที่ใดๆอีกเลย
สักพักก็ถึงหน้าบ้าน เจ้าชัยก็ออกมาเปิดประตูรั้วให้ชายหนุ่มยิ้มร่า
เขายิ้มพลางถามว่า น้องชัยไปช่วยพ่อแม่เรียนรู้อะไรได้บ้างล่ะ
เจ้าแกละหรือวีระชัย ที่ชายหนุ่มเรียกว่า ชัย เฉยๆ ก็ตอบว่า
ผมพยายามไม่ให้พ่อแม่ทำอะไรครับพี่ ทำทุกอย่างที่ท่านสอนผมไว้
เพียงให้ท่านสั่งว่าจะทำอะไรบ้างเท่านั้นเอง งานก็ไม่มีอะไรมากครับพี่
นอกนั้นผมทำคนเดียวครับ คิดว่าต่อไปจะไม่ต้องให้พ่อแม่เหนื่อยอีกแล้ว
ส่วนงานบ้านพี่ชบาก็จัดการเรียบร้อยแล้วครับพี่ แม่ได้แต่นั่งมองยังชมเลย
อ้อๆๆรถนั้นจอดไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ผมจะนำไปเก็บเอง พร้อมจูง
รถมอเตอร์ไซค์ หลังจากที่ชายหนุ่มลงมาแล้ว จูงไปเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน
ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก ต่อไปนี้เขาไม่มีห่วงอะไรอีกแล้วล่ะ
พลันกล่าวว่า หากเก็บเรียบร้อยแล้วขึ้นไปหาพี่ด้วยนะ พี่ซื้อของมาฝากด้วย
ครับพี่ เดี๋ยวผมขอเวลาไปให้อาหารหมูและรดน้ำต้นไม้สักหน่อยจะขึ้นไป
ชายหนุ่มล้างเท้าแล้วเดินขึ้นบันไดบ้าน ก็แลเห็นพ่อแม่และเจ้าชบานั่งคุย
สนทนากันอยู่ ก็เข้าไปกราบไหว้พ่อแม่ พลางกล่าวขึ้นว่า.......
ผมไปในเมืองมาครับและซื้อของมาฝากทุกๆคนด้วยล่ะ...
ชายหนุ่มกล่าวแล้วก็เดินเข้าไปนั่งร่วมวงด้วย
เออๆๆๆ....นางชบามันบอกข้าแล้วล่ะ แต่แม่เขาเป็นห่วงเจ้าพึ่งจะมา
หายบ่นนี่เองแหละที่เห็นกลับมาอย่างปลอดภัย
ก็ลูกเราไม่เคยเข้าเมืองตั้งแต่กลับมาเมื่อไหร่ล่ะแล้วใครๆก็ไม่รู้จัก ลูกเรา
อีกอย่างภายในเมืองก็เปลี่ยนไปมากนะพี่เชียร แม่เข็มตอบ
ชายหนุ่มพลันล้วงเอาของจากย่ามมา หยิบกางเกงขาสั้นและเสื้อสีน้ำเงินแก่ๆ
ที่พ่อชอบใส่ทำงานกับผ้าขาวม้าอย่างล่ะสอง ส่งให้พ่อของเขา พ่อเชียรก็ยิ้มใหญ่
กล่าวว่าผมเองก็ไม่รู้จะซื้ออะไรที่พ่อชอบ นึกได้ว่าเห็นพ่อชอบกางเกงแบบนี้ครับ
แล้วล้วงหยิบผ้าถุงสองถุงพร้อมเสื้อด้วยยื่นส่งให้แม่ ผมเห็นแม่ชอบเสื้อผ้าแบบนี้
หันไปทางน้องสาวพลางยื่นกล่องใส่ของให้แก่ชบา กล่าวว่าไม่รู้ว่าจะถูกใจ
หรือเปล่านะเรื่องของผู้หญิงสาวยุ่งยากจริงๆ เล่นเอาพี่ปวดหัวนึกๆตั้งนานแน๊ะ
ตอนเข้าไปซื้อเลือกของสาวๆพากันหัวร่อพี่ใหญ่เลยล่ะ ทำเอาพี่เขินไปจ๊ะ
ตอนแรกผมเดินเข้าไปในห้าง พวกยามจะไม่ให้เข้าไปในห้างฯ
ผมจึงต้องควักเงินออกมาฟ่อนใหญ่มันถึงยอมให้ผมเข้าไปครับ
แต่มันก็พยายามเดินตามผมตลอดเวลาครับ เหมือนว่าจะไม่ไว้ใจ
ด้วยผมแต่งกายแบบนี้ ทั้งมอซอสกปรกมากแล้วยัง แถมมีกลิ่นอีกด้วย
มันคงกลัวว่าผมจะมาขโมยของในห้างกระมัง แล้วชายหนุ่มก็หัวร่อเบาๆ
เขากล่าวกับพ่อแม่และทั้งหมดฟัง หญิงสาวรับมาแล้วก็ยกมือไหว้
พลางกล่าวคำขอบคุณพร้อมหยิบกล่องเข้าแนบทรวงอกหล่อนทันที
สักครู่หนึ่งเจ้าชัยก็เดินขึ้นมาบนบ้าน ชายหนุ่มก็กวักมือเรียกมัน
ให้มานั่งใกล้ๆกัน เมื่อมันเดินมานั่งเคียงข้างชายหนุ่มผู้พี่แล้ว
ชายหนุ่มก็ล้วงหยิบเสื้อเชิร์ตและกางเกงมาส่งให้ พลางกล่าวว่า
ไปลองใส่ดูซิพี่คำนวนไม่ค่อยถูกว่าจะเล็กไปหรือใหญ่ไปนะเจ้าชัย
เจ้าชัยก็นำเสื้อผ้ากางเกงทั้งหมดเข้าไปในห้อง แล้วเดินสวมกางเกง
ออกมาพร้อมใส่เสื้อด้วย พลางกล่าวว่า
พี่โชติเก่งจริงๆนะคำนวนขนาดได้ไม่พลาดเลย เจ้าชัยตอบ
ทำให้ชบาหันไปมองกล่องใส่ของหล่อน ก็อยากจะรู้พี่เขาซื้ออะไร
มาให้มั่งแต่ยังไม่กล้าเข้าไปเปลี่ยนเหมือนเจ้าชัยหรอก
เพียงได้แต่คลำไปๆคลำมาๆเท่านั้น เอง
จวบจนกระทั่งชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องของเขา
แล้วก็นำเอาเครื่องน้ำหอมต่างๆและของบางอย่างออกมาจากย่าม
ไปวางยังหน้ารูปบั้นแม่นางอัปสรและแม่นางอ้อยวิลาวัลย์
ส่วนของเจ้าแสงสีและสินชัยนั้นชายหนุ่มก็นำเสื้อผ้ามาฝาก
ให้ด้วย ยังไม่รู้เลยว่าจะถูกใจพวกเราหรือเปล่าเพราะไม่เคยซื้อ
พร้อมกล่าวว่า แม่นางทั้งสองและเจ้าแสงสีสินชัย
ของที่นำมาฝากแก่แม่นางและเจ้านะ ทดลองดูด้วยล่ะ???....
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ไปผลัดเสื้อผ้าใหม่ ส่วนของเก่า
ก็เก็บไว้ในถุงใบหนึ่งซ่อนไว้ คิดว่าอาจจะต้องใช้มันอีก
นำไปวางไว้ซอกตู้เสื้อผ้าทั้งหมด แล้วก้าวลงไปอาบน้ำ
ชำระกายที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง เหงื่อไคล เปอะเปื้อนฝากเขามา
ครั้นพ่อแม่มองเห็นก็ถามว่า เอ็งกินข้าวมาแล้วหรือยังลูก
ชายหนุ่มหันไปกล่าวว่าเรียบร้อยแล้วครับ ก่อนจะไปหาหลวงพ่อมา
ผมกินมาเรียบร้อยแล้วครับ ด้วยรู้ว่าทางบ้านคงกินกันเรียบร้อยแล้ว
ครั้นได้โอกาสเช่นนี้ สาวชบาก็ขอตัวไปห้องแม่ก่อนเพื่อจะทดลอง
สิ่งของที่พี่โชติซื้อออกมาให้ เมื่อเปิดกล่องออกก็ต๊กใจ ยกมือขึ้นกุมอก
ด้วยภายในนั้นมีเสื้อผ้าสวยๆงามๆทั้งกระโปรงและกางเกง แต่ที่สำคัญ
จนทำให้สาวชบาหน้าแดงกล่ำก็คือ เสื้อยกทรงขนาดไซค์เดียวกับหล่อน
และยังมีกางเกงในสีชมพูอย่างละสองตัวอีกด้วย ทำเอาหญิงสาวอายใหญ่
ทดลองนำมาสวมใส่ดูมันช่างเหมาะสมอะไรเช่นนี้ เข้ารูปเข้ารอยพอดีไม่
เล็กไม่ใหญ่ใส่แบบสบายๆเสียด้วย เนื้อผ้าหรือก็เนียนไม่เหมือนกับที่หล่อน
ตั้งแต่คืนชีพมาใส่เสียเลย ยิ่งคิดยิ่งอายใหญ่ ครั้นเมื่อทดลองหมดสิ้นแล้ว
พลางหมุนตัวไปรอบๆกระจกที่อยู่ภายในตู้เสื้อผ้า หล่อนเปลี่ยนไปคนละ
คนทีเดียว มันเป็นเสื้อผ้าของคนกรุงเทพฯแต่งนี่นา หาใช่แบบลูกทุ่งไม่ แต่
ทำไมพี่เขาถึงรู้ขนาดยกทรงและกางเกงในสิ่งนี่แหละทำให้ สาวชบางุนงงยิ่งนัก
หรือว่าพี่โชติจะเห็นส่วนสัดขนาดของหล่อนแล้วหรือ????......ยิ่งคิดยิ่งหน้าแดง
มากขึ้น หล่อนไม่กล้าแต่งตัวออกมาโชว์เช่นเจ้าชัยเลย เมื่อเก็บของซ่อนไว้แล้ว
ก็เดินออกมานั่งร่วมวงสนทนาฟังดู แต่ไม่กล้าสบสายตากับชายหนุ่มอีกเลย
ครั้นชายหนุ่มเมื่อหันมามองคิดจะถามว่าเป็นอย่างไรบ้างกับเสื้อผ้า แต่พอเห็น
ใบหน้าของน้องสาวที่ยังแดงระเรื่อๆอยู่ก็ทราบเหตุจึงไม่กล้าเอ่ยปากถามหล่อน
เพียงแต่หันไปร่วมคุยกับพ่อแม่ ต่างคนต่างสนทนากันในเรื่องราวต่างๆนาๆ
เกี่ยวกับชบาและเจ้าชัย นึกได้กล่าวว่าผมจะเรียกแค่ชบา ส่วนเจ้าแกละนั้น
ผมจะเรียกแค่ ชัย นะครับตามใจแกเถอะ ดีเหมือนกันเรียกง่ายๆดี
พ่อเชียรแม่เข็มเอ่ยขึ้น
บัดนี้พ่อแม่ได้ไปโอนชื่อเป็นน้องเจ้าไปหมดแล้ว เจ้าชบานั้นให้ชื่อว่า
ชบาไพร ส่วนเจ้าแกละนั้นให้ชื่อว่าวีระชัย ส่วนนามสกุลใช้ของพ่อเดิมไป
หากจะเปลี่ยน ข้ามาคิดทางอำเภอก็จะรู้ว่าครอบครัวเราเป็นใคร แต่เรื่อง
ทรัพสินสมบัตินั้นไม่ต้องห่วงหรอก เพราะใบเปลี่ยนนามสกุลเดิมของเจ้า
คิดว่าเจ้าก็คงจะเก็บไว้ใช่ไหมล่ะ???....พ่อเชียรถาม
ครับพ่อคิดได้ถูกต้องแล้วล่ะ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนแก่ครอบครัวเรา
ด้วยนามสกุลที่ผมตั้งใหม่นี้พวกวงการทำผิดกฏหมายมันรู้กันหมดแล้ว
ยิ่งผมได้เป็นผู้กำกับในจังหวัดนี้อีกด้วยมันก็จะรู้เลยว่าใครเป็นใครครับ
นั่นซิพ่อมาคิด ตอนแรกก็จะเปลี่ยนนามสกุลและแม่เจ้าเป็นเหมือนนาม
สกุลของเจ้า แต่มานึกได้ว่าต่อไปมันจะไม่ดีจะเป็นภัยแก่ลูกทำให้เกิด
ความห่วงหน้าพะวงหลังไป ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้น
พ่อนี่ฉลาดไม่ใช่เล่นนะพ่อ ชายหนุ่มพลางหัวร่อเสียงดัง
อ้าวๆๆๆไหงพูดแบบนี้ล่ะ???... หากข้าไม่ฉลาดแล้วจะเป็นพ่อเอ็งได้หรือ
ว๊ะ ส่วนแม่เข็มพลันขัดจังหวะขึ้นทันที มันฉลาดเหมือนแม่มันต่างหากล่ะ
หรือว่าไม่จริงพี่เชียร ไม่งั้นล่ะคงจะไม่มีวันนี้หรอก ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
ไปหมดแล้ว คราวนี้เล่นเอาพ่อเชียรอ้าปากค้างทันทีพูดไม่ออกอีกเลย
ชายหนุ่มได้ฟังก็ยิ่งหัวร่อใหญ่ รวมทั้งสาวชบาและเจ้าชัยด้วย แต่มันไม่กล้า
ออกความเห็นใดๆทั้งสิ้น
ผมว่าผมฉลาดขึ้นก็ด้วยพ่อแม่นั่นแหละครับ ต่างเอาความฉลาดมาให้ผมหมด
จริงไหมครับคุณพ่อคุณแม่ ชายหนุ่มไกล่เกลี่ยบุพการีทั้งสอง
คราวนี้ทำให้ทั้งพ่อเชียรแม่เข็มพอได้รับฟัง ต่างก็ยิ้มกัน จริงๆของมันว๊ะหาก
พ่อแม่ไม่ฉลาด ไหนเลยลูกมันจะฉลาดได้ เอาเป็นว่าเสมอๆกันก็แล้วกันนะแม่เข็ม
พ่อเชียรได้ทีกล่าวขึ้นบ้าง
แม่เข็มยิ้มเออๆมาคิดๆดูมันก็จริงอย่างลูกพูดแหละนะพี่ หากพ่อแม่ไม่ฉลาดไหน
เลยลูกเรามันจะฉลาดด้วยถึงได้เป็น อุ๊บๆๆๆ!!!!!.....พลางยกมือขึ้นปิดปาก
นี่แหละน๊าโบราณถึงกล่าวไว้ว่าหากความลับสำคัญไม่ควรให้ผู้หญิงรู้เรื่องด้วย
เอาละซิๆ....คราวนี้แม่เข็มหยุดยิ้มทันที หันไปถามพ่อเชียรว่า
ทำไมๆผู้หญิงเป็นอย่างไรหรือ???.... แล้วที่เป็นมาข้าเที่ยวไปพูดบอกใคร
หรือเปล่าล่ะพูดให้ดีๆนะ เดี๋ยวหัวจะแตกไม่รู้เชียว
เล่นเอาพ่อเชียรตาค้าง พลางถอยหลังไปเสียแทบไกลๆ ด้วยรู้ฤทธิ์ของแม่เข็มดี
ผู้หญิงหรือผู้ชายก็เหมือนกันแหละครับ มันอยู่ที่คนนั่นแหละสำคัญมักชอบ
อวดตัวเองเสมอๆแหละ ผมเห็นมามากแล้วเรื่องความลับนี้ บอกว่าไม่ต้องห่วงแต่
ไปบอกอีกคนว่า เฮ้ยๆๆมึงอย่าพูดไปเชียวนะให้รู้กันแค่เราสองคน ไอ้คนรู้มันก็
พูดเหมือนๆกัน เรื่องความลับมันเลยแตกจ๊ะ ได้แก่ลูกน้องผมนี่แหละพวกผู้ชาย
ทั้งนั้น ดีนะผมปลอมตัวไปถึงได้รู้พอเลี้ยงเหล้าพวกมัน พอเมามากๆเข้ามันก็เล่า
ให้ฟังหมดซ้ำก็ย้ำเหมือนเดิมอีก ฉะนั้นเวลาเป็นความลับผมต้องบอกไม่หมดครับ
จะบอกก็แต่เรื่องไม่ค่อยสำคัญนัก ส่วนความลับแท้จริงผมจะไม่ยอมบอกใครเลย
เมื่อพ่อเชียรแม่เข็มได้ฟังเหตุผลลูกก็พากันหยุดทันที ที่ลูกพูดมานั้นล้วนแต่
จริงๆหรือลูก ก็ผมฉลาดเหมือนพ่อแม่นะซิผมถึงไม่ไว้ใจใครๆเขานี่ครับ
ชายหนุ่มตอบ
ให้มันได้อย่างนี้ซิว๊ะถึงเป็นลูกพ่อได้ ฮ่าๆๆๆ จะมีเรื่องอีกหรือพี่เชียร???....
แม่เข็มถาม มันก็ฉลาดเหมือนแม่มันด้วยนา ใช่ไหมลูก แม่เข็มหันไปถามลูก
ก็นั่นนะซิครับความฉลาดของพ่อแม่นี่แหละทำให้ผมฉลาดขึ้น ดูอย่างแม่ซิ
การบ้านการเรือนหรือก็เก่ง แกะสลักหรือก็เยี่ยม พ่อหรือทางไร่นาสวนหรือก็
ฉลาดรู้จักหาทางสร้างขึ้นตามข่าวทันเหตุการณ์ ผลผลิตทั้งผลไม้ และอื่นๆนั้น
ก็เก็บได้ทั้งปี เก็บขายได้ จนมีเงินมีทองมากมายก่ายกอง คนจะมาปล้นหรือก็ไม่
กล้าด้วยพ่อและแม่เก่งกล้าวิชาอาคมสามารถใช้ผีทำงานได้ จนเขารู้กันทั้งหมู่บ้าน
คนเข้ามาจะปล้นหรือขโมยของในไร่หรือนาสวน มันก็เกรงกลัวไม่กล้า ย่างกราย
พ่อเลี้ยงควายธนูเฝ้าบ้านไร่นาสวนไว้มันเฝ้าทั้งกลางวันกลางคืนใครมาขโมยไม่
ได้ทั้งสิ้น ซ้ำยังผูกหุ่นพยนต์ไว้ในไร่นาสวนอีกแต่ละมุมที่ของเราด้วยล่ะ ใครจะกล้า
ส่วนแม่เองก็เก่งวิชาอาคมเลี้ยงน้องชบาและเจ้าชัยไว้คอยเฝ้าบ้าน ตลอดเวทมนต์ต่างๆ
ล้วนแล้วแต่เก่งทั้งคู่ ผมร่ำเรียนมาก็ได้ทีดีๆ จนสอบชิงทุนไปเรียนในกรุงเทพฯได้
ส่วนวิชาอาคมสมาธิหรือก็สำเร็จได้อย่างรวดเร็วได้สำเร็จทุกๆอย่าง ก็ด้วยความ
ฉลาดของพ่อแม่นั่นแหละ หากไม่เหมือนพ่อแม่มีแต่ความโง่ แล้วไหนเลยจะ
สร้างชบาและเจ้าชัยขึ้นมาช่วยพ่อแม่ได้เล่า ชายหนุ่มสาธยายให้พ่อแม่เขาฟัง
พอถึงตอนนี้เล่นเอาพ่อเชียรแม่เข็มต่างอ้าปากค้างฟังลูกๆไป ต่างก็หันมา
หัวร่อให้แก่กัน เออๆๆๆจริงๆนะพี่เชียรลูกมันพูดถูกต้องทุกอย่าง งานบ้านการ
ฝีมือข้าเก่ง ส่วนวิชาอาคมพ่อสอนมาให้ พี่เองก็เก่งทางไร่นาสวนเลี้ยงสัตว์วิชา
หรือก็ฝึกฝนมาจากหลายๆอาจารย์ด้วย หากพ่อโง่จะจำได้มากมายเช่นนี้หรือ
มันพูดถูก ที่มันฉลาดก็ด้วยพ่อแม่มันหรือว่าไม่จริงพี่เชียร
คราวนี้พ่อเชียรพูดว่าจริงจ้ะแม่เข็ม เหมือนดั่งมันพูดถูกทุกๆประการเหตุผลหรือ
ก็ถูกต้อง งั้นพวกเราฉลาด เฮ้ยๆลูกชบาและไอ้ชัยมึงจงจำไว้นะโว้ยอยู่กับกูมาก็
หลายๆปีแล้วจงฉลาดเหมือนพี่มึงนะโว้ย!!!!!.......
* แก้วประเสริฐ. *
1 ธันวาคม 2553 12:36 น.
แก้วประเสริฐ
อทิสมานกาย ๓๔
หลังจากที่ชายหนุ่มตื่นนอนชำระล้างร่างกายแล้ว ครั้นขึ้นมายังบนบ้านก็
เห็นหญิงสาวชบานั่งคอยอยู่ที่ถาดอาหาร ซึ่งเตรียมจัดอาหารนั่งคอยอยู่แล้ว
เขาทักทันทีว่า.....
น้องพี่เป็นอย่างไรบ้างรู้สึกอึดอัดหรือเปล่าล่ะน้อง????......
ตอนนี้น้องไม่เหมือนเก่าแล้วน๊ะ....
หญิงสาวหัวร่อ พลางตอบว่า
ก็อึดอัดบ้างจ๊ะพี่...แต่ต่อไปคงจะชินเองแหละจ๊ะ
รีบทานอาหารเสียก่อนเถอะ.......
แกงเลียงข้าวกำลังร้อนๆอยู่
หากเย็นลงแล้วจะไม่อร่อยจ้าหรือว่าอาหารที่ทำนั้น
จะอร่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะพี่ด้วยไม่เคยทำมาเลยทั้งหมดนี้
เป็นฝีมือของน้องทำเองจ้า จำมาจากแม่จ้าพี่???...
หญิงสาวตอบชายหนุ่ม
พลางมองใบหน้าชายหนุ่มที่แต่งตัวอยู่กับบ้าน
แบบลูกทุ่งธรรมดาทั่วๆไป
ชายหนุ่มนั่งลงและกำลังนั่งใช้มือเปิบกินข้าวไป
ซดน้ำแกงและผักจิ้มน้ำพริกไปด้วย หญิงสาวมอง
แอบนึกในใจว่าช่างเป็นชายงามรูปหล่อ
นักอายุล่วงเข้าไปสี่สิบกว่าๆเท่านั้น
แต่ทำไมดูเหมือนราวๆอายุพึ่งจะสามสิบอ่อนๆเอง
ซ้ำรูปร่างก็หุ่นงามอีกด้วย เปรียบไปคล้ายๆดารา
หล่อนรำพึงกับตนเอง แล้วก้มหน้าเงยหน้ามองสลับกัน
ชายหนุ่มก็บอกว่าให้จัดอาหารจากที่นี่
แบ่งไปให้เจ้าแสงสีสินชัยไว้ด้วยนะชบา
จ๊ะพี่หนูเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
และได้นำไปวางบอกพี่แสงสีพี่สินชัย
ให้ทานอาหารแล้วจ้า....เห็นพี่ทำก็ทำตาม
ดีแล้วจ้าต้องทุกๆวันด้วยนะจ๊ะน้อง ชายหนุ่มกล่าวขึ้น
ครั้นแล้วชายหนุ่มก็ลงมือกินอาหาร
กินไปก็พูดไปว่า ฝีมืออาหารไม่เลวนี่
ชบาอร่อยมากเสียด้วย ไม่เลวนะต่อไปคงจะเก่งขึ้น
กว่านี้อีกและคงทำได้หลายๆอย่าง
ทำเอาใบหน้าชบาซึ่งมัวแต่จ้องมองใบหน้าของชายหนุ่ม
ครั้นได้ยินชายหนุ่มชมเท่านั้นถึงกับแดงระเรือๆขึ้นมาทันที
พี่ล้อชบาเล่นหรือเปล่าล่ะ!!!!???.....
นี่เป็นครั้งแรกที่ชบาทำอาหารนะพี่
หญิงสาวตอบ
จริงๆนะน้อง อร่อยจริงๆเสียด้วยซิ
แล้วก็รีบลงมือกินอาหารโดยเร็ว พลางพูดว่า
พี่จะเข้าไปในจังหวัดเสียหน่อยนะ
หากพ่อแม่ถามก็บอกท่านว่าพี่ไปธุระ
ขากลับจะซื้อของมาฝากชบาด้วย
แต่ต้องแวะไปกราบหลวงพ่อทองก่อนจะเข้าบ้านจ้า
จ๊ะพี่แล้วพี่จะเอาพี่แสงสีและพี่สินชัย
ไปด้วยหรือเปล่าล่ะ???... หญิงสาวถาม
คงไม่หรอกจ้า...พี่จะไปคนเดียว
เดี๋ยวเสร็จแล้วจะไปแต่งตัวแล้วเอารถมอเตอร์ไซค์
คันเก่าๆของพ่อไปด้วย บอกพ่อแม่ด้วยท่าน
คงจะรู้หรอกว่าพี่ไปทำไม ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
อ้าวๆๆแล้วพี่ตั้งแต่มาอยู่นี่ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย
ไม่อันตรายหรือ???... หญิงสาวเป็นห่วง
คงไม่เป็นไรหรอกจ้าชบา พี่รักษาตัวองได้จ้า
พี่อิ่มแล้วขอบใจมากนะ
เดี๋ยวจะรีบไปสักหน่อย นี่ก็สายแล้วล่ะ
พอชายหนุ่มล้างบ้วนปาก เช็ดผ้าเช็ดมือ
ที่สาวชบาเตรียมไว้ให้แล้ว ก็เดินเข้าห้องไป
ครั้นชายหนุ่มออกห้องมาเล่นเอาสาวชบา
ถึงกับตลึงตกใจมาก พลางทำตาโตแล้วถามว่า
ทำไมพี่ถึงแต่งตัวอย่างนี้ล่ะไหนๆไปในเมืองทั้งๆที
ควรจะแต่งตัวดีกว่านี้นะ สาวๆในเมืองเขาสวยๆกันนะพี่
กลับนุ่งกางเกงขาสั้นเก่าๆขาดๆที่ปะไว้
ซ้ำเสื้อก็มอซออีกด้วย ปล่อยชายดูคล้ายๆๆๆแล้วหยุดเอ่ยขึ้น
ผ้าคาดพุงหรือก็เก่าๆมากเสียด้วย
ชุดที่ดีๆก็มีอีกถมเถไปทำไมไม่แต่งเสียล่ะพี่
หญิงสาวฉงนใจ
ชายหนุ่มหัวร่อพลางพูดว่า ไปอย่างนี้แหละดี
จะได้ไม่มีคนสงสัยจ๊ะ
แล้วชายหนุ่มตัดบทว่าชุดอะไรๆก็เหมือนๆกันแหละ
พลางเดินไปเพื่อลงจากบ้าน
พี่ไปก่อนนะชบาพูดเสร็จก็ก้าวลงบันไดบ้าน
เสียงรถมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทเครื่องแล้วแล่นรถออกไป
จากบริเวณบ้านทันที เสียงก็เงียบหายไป
หญิงสาวก็รีบเก็บข้าวของไปล้างแล้วรีบเช็ดถูบ้าน
ให้สะอาด เก็บจัดข้าวของเสียใหม่ให้แลดูสวยงาม
ภายในจังหวัด ชายหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์คันเก่า
วนเวียนไปรอบๆตัวเมือง เขาตรวจดูทุกๆทางแยก
ทุกๆซอกทุกๆมุม ตลอดจนที่ทำการราชการทั้งหมด
ตั้งแต่เขามาถึงยังไม่เคยที่จะมาเที่ยวในเมืองเลย
เห็นว่าช่างเจริญมากนักกว่าสมัยเขายังเป็นนักเรียนเสียอีก
ครั้นตรวจเรียบร้อยบนถนนก็กว้างใหญ่มีไฟและตำรวจจราจร
เฝ้าทางแยกอยู่เกือบทุกทางแยก เขาพลางขับรถไปยัง
ตำรวจจราจรคนหนึ่งพลางถามหนทางไปยังโรงพักตำรวจ
ตำรวจคนนั้นมองใบหน้าและร่างกายซึ่งตอนนี้เผ้าผม
เขากระเซิงไปหมด เนื้อตัวสกปรกด้วยฝุ่นที่เขาเดินทางมา
ตำรวจคนนั้นเห็นเช่นนั้นแล้วถามว่า???...
เอ็งจะไปโรงพักทำไหมหรือว๊ะ...เห็นวนไปๆมาๆน่าสงสัย
ชายหนุ่มตอบว่าจะไปหาเพื่อนคนหนึ่งนัดไว้หน้าโรงพักครับ
บ้านผมอยู่แถบภูเขาไม่เคยเข้าเมืองเลย ฝุ่นแยะเลยดูมอมแมมไป
แล้วเอ็งมีใบขับขี่รถหรือเปล่าว๊ะ???......
ตำรวจชักสงสัยด้วยเห็นรถเก่ามากๆ ขอดูหน่อยได้ไหม
ผมทำผิดกฏจราจรหรือครับ มีครับพลางล้วงส่งใบขับขี่รถ
ที่เขาทำไว้ในในกรุงเทพฯให้ตำรวจดู เมื่ออ่านใบขับขี่แล้วพูดว่า
เอ็งมาจากกรุงเทพฯหรือนี่ การพูดเจรจาของมึงนั้น...
ไอ้ห่า!!!!ทำเป็นหัวหมอรู้กฏจราจรด้วย
หรือเรียนกฏหมายมาด้วยหรือเปล่าล่ะ???.....
ทำไมแต่งตัวเหมือนพวกขอทานว๊ะ
จะแต่งตัวให้ดีๆกว่านี้ไม่ได้หรือว๊ะ
แต่งตัวเหมือนพวกหัวขโมยนักล้วงกระเป๋า
มึงอย่าคิดว่าในจังหวัดนี้ทำกันง่ายๆนะโว้ย????......
ไหนขอดูย่ามเอ็งหน่อยนะ พลางคว้าย่ามมาตรวจค้น
แต่ไม่พบอะไรเลย ที่ผิดกฏหมายสักอย่างเดียว
เพียงแค่สมุดดินสองเท่านั้นเอง จึงส่งคืนให้
ครับท่านผมมาเยี่ยมพ่อแม่แล้วก็จะกลับไปกรุงเทพฯ
ชายหนุ่มตอบพลางมองยศบนบ่า
เป็นแค่นายสิบเท่านั้นเอง เขานึกทำไมพูดจาช่างโฮกฮากนัก
เหมือนจะข่มขู่ประชาชนทั่วๆไป คงเป็นนิสัยมันกระมัง เขาคิด
โน่นๆๆมึงขับเลี้ยวซ้ายมือไปอีกนิดเดียวก็ถึงโรงพักแล้ว
พลางยื่นใบขับขี่ส่งคืนแต่ไม่วายมองตลอดหัวเขาตลอดเท้า
ชายหนุ่มหัวร่อในใจฮีๆๆๆ.....พลางเร่งรถไปทันที
ครั้นถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้ายมือทันที ก็เห็นโรงพัก
สร้างด้วยตึกแต่มีเนื้อที่บริเวณกว้างขวางนัก
มีตึกเล็กๆสร้างอยู่ข้างๆโรงพัก
ในบริเวณมีรถยนต์ต่างๆจอดเรียงรายเต็มไปหมด
เขาหาทางจอดรถได้ข้างๆร้านอาหารที่เปิด
ไว้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่มาใช้บริการ
ชายหนุ่มมองเข้าไปในร้านนั้นจัดโต๊ะอาหารเป็นรูปโต๊ะยาวๆ
แต่มีประมาณสามสี่โต๊ะยาววางเรียงรายด้วยเก้าอี้เก่าๆ
ไว้ให้คนมานั่งกินอาหาร อีกด้านหนึ่งมีโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมไม่กี่โต๊ะ
แยกไว้ต่างหากจากโต๊ะยาวๆ ล้วนแล้วเป็นของใหม่ๆเกือบทั้งหมด
ส่วนที่จำหน่ายอาหารอยู่ริมอีกแถบหนึ่ง มีจำนวนหลายๆร้าน
คนทานต้องไปสั่งแล้วนำมากินกันเอง ตอนนี้มีคนทะยอยนั่งกิน
อาหารกันอยู่บ้างแล้ว และกำลังคุยกันไปบ้าง แต่ยังไม่มากนัก
ยกเว้นโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆนั้นยังไม่มีคนไปนั่งสักคนเดียวเลย
ชายหนุ่มหลังจากจอดรถไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปรอบๆโรงพัก
ดูสภาพภายในจนรอบๆพอใจ
แล้วก็เดินกลับมาร้านอาหาร ไปที่ร้านผัดไทยสั่งผัดไทยจานหนึ่ง
เขายืนรอคนทำสักพักใหญ่ๆก็จ่ายเงิน แล้วไปยังร้านขายเครื่องดื่ม
ซื้อน้ำกระเจี๊ยบมาแก้วหนึ่ง เดินไปนั่งยังมุมโต๊ะห่างๆกับโต๊ะ
พิเศษที่จัดไว้ แต่สภาพที่เขานั่งสามารถมองเห็น
สิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหมือนมุมที่เหมาะสมในการนั่งมอง
ด้วยเป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว สักพักหนึ่งก็มีคนทะยอยลงมา
สั่งอาหารกินกันบนโต๊ะยาวๆซึ่งไม่มี
คนมาคอยบริการต้องช่วยเหลือตัวเอง ส่วนโต๊ะพิเศษนั้น
มีคนคอยบริการอยู่ สักครู่ใหญ่ๆก็เห็น
สารวัตรชัชวาลย์ ผู้กองจรัสและผู้กองจำลอง
กำลังเดินสนทนากันเข้ามาตำรวจอื่นๆก็ทำความเคารพ
พลางไปนั่งยังโต๊ะที่จัดไว้ให้เป็นพิเศษ คนบริการก็เข้ามา
ถามรายการอาหารจากนายตำรวจทั้งสามทันที
เมื่อได้รับการสั่งเรียบร้อยแล้ว ก็เดินจากไปเพื่อไปยัง
ร้านอาหารให้จัดการเพื่อจะได้นำมาเสริฟ
สักพักหนึ่งท่านรองกำกับก็เดินตามเข้ามาอีก
ตำรวจทั้งหลายที่กำลังกินอาหารกันอยู่ต่างก็ยืน
ก็พากันทำความเคารพ เห็นท่านรองกำกับเดินตรงไปยัง
โต๊ะสารวัตรและผู้กองทันที พลางดึงเก้าอึ้มาแล้วนั่งลง
เพื่อนั่งร่วมเพื่อกินอาหารร่วมกัน แล้วพลันหันไปสั่งอาหาร
จากผู้มาบริการที่มาคอยต้อนรับ เสร็จแล้วก็รีบเดินออกไป
ทั้งสี่นายก็นั่งสนทนาไปพลางๆกันเพื่อรออาหารมากิน
ในระหว่างนั้นผู้กองจำลองหันไปตรวจดูพวกที่กำลังกิน
อาหารกันอยู่ มีทั้งประชาชนมาใช้บริการและเหล่าตำรวจทั้งหลาย
เสียงดังแสดไปหมด ครั้นแลเห็นชายหนุ่มก็ตกตลึงพลางสะกิด
สารวัตรและผู้กองจรัสทันที ทั้งสองก็รีบหันไปมองชายหนุ่มทันที
อาหารที่กำลังกินอยู่ในปากถึงกลับปากอ้าตาค้างไปตามๆกัน
อาหารก็หล่นใส่บนจาน จนท่านรองสงสัย
เพียงถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือสารวัตร???......
สารวัตรชัชวาลย์รีบปฏิเสธทันทีเปล่าครับท่าน
พอดีผมสะอึกเท่านั้นเอง แล้วแสร้งยกน้ำขึ้นดื่ม
ท่านรองก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไร แล้วก็ก้มหน้าก้มตา
กินข้าวกันต่อไป....
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็พอดีเด็กเก็บจานอาหารผ่านมา
จึงตะโกนเสียค่อนข้างดังถามเด็กเก็บจานว่า เอ๊ะร้อนอย่างนี้
เห็นฝนตกทุกๆวันแต่วันนี้ทำไมไม่มี พิรุณโปรยเลยหรือไง?????...
เด็กเสริฟที่กำลังเก็บจานว่างเปล่าเพื่อเอาไปล้างมองเห็น
ชายหนุ่มผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเสิง แต่งตัวสกปรก กางเกงก็ขาดขาสั้น
ย่ามวางไว้ก็ช่างสกปรกสิ้นดี ก็ส่งเสียงห้วนๆว่า มึงไม่เห็นหรือว่า
ท้องฟ้าแดดออกจ้าแรงอย่างนี้
พิรุณห่าอะไรจะโปรยให้ มึงได้ไอ้เวร???....ไม่แหกตาดูเสียบ้าง
มึงจะบ้าหรือไงว๊ะ???......รู้จักอาบน้ำอาบท่าซักเสื้อผ้าบ้าง
ซิเหม็นฉิบหายไอ้ห่านี่???.... แล้วคนเก็บจานก็รีบๆเดินหนีไป
เมื่อสารวัตรและผู้กองทั้งสองได้ยินเช่นนั้น
ก็ทราบทันทีว่านายส่งรหัสมา จึงแสร้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็สะกิดสารวัตร
กินอาหารไป พลางคุยกันไปพลางๆ ครั้นได้ยินท่านรองผู้กำกับเปรยๆขึ้นว่า
ผมเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะต้องปลดเกษียณแล้ว
ป่านนี้ทำไมท่านผู้กำกับยังไม่เห็นมารับงานสักที
คิดว่าคงจะอยู่กับนายกรุงเทพฯ หรือทำเรื่องบางอย่างไม่เสร็จกระมัง??...
ผมเองก็เตรียมงานส่งมอบไว้พร้อมนั้งนานแล้วล่ะ
จะได้พักผ่อนเสียทีต้องคอยพะวงวันนี้พันตำรวจโท
วิเชียรก็มาลาป่วยเสียอีกหมอบอกเป็นไข้ป่าอาการหนักมากเสียด้วย
ส่วนพันตำรวจตรีอำนวยฝ่ายสอบสวน ก็มาขออนุญาต
ไปเยี่ยมเมียที่กำลังคลอดลูกที่กรุงเทพฯยังไม่กลับมาเลย
ตอนนี้เหลือเพียงสารวัตรเท่านั้นกับผู้กองที่ผมไว้ใจมากที่สุด
ช่วยๆกันหน่อยนะ ได้ข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจจะส่งตำรวจมือดี
มาช่วยอีกหลายนายมาเสริมกำลังช่วยทางเรา แต่จะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
นี่กำลังทดแทนคนถูกย้ายก็มารายงานตัวกันหมดแล้ว จัดวางกำลังเรียบร้อย
โรงพักเราได้เลื่อนชั้นขึ้น ก็ด้วยผู้กำกับคนนี้ทางกรุงเทพฯแจ้งผลงานฝ่ายเรา
จำเป็นต้องมีตำรวจเพิ่มมากขึ้นเพื่อจะได้ช่วยดูแลบริเวณมากขึ้น
ด้วยทางด้านเราก็มีภูเขาเยอะแยะทางหรือก็กันดาร
ล้วนแล้วแต่เป็นทางผ่านพวกทำงานด้านผิดกฏหมายมากขึ้น
จะอาศัยตำรวจตระเวณชายแดนหรือเขาก็ประสานงานดีอยู่หรอก
แต่พวกป่าไม้นะซิผมเองชักจะไม่ค่อยไว้ใจนัก ด้วยมีกลิ่นทะแหม่งๆอยู่
ตอนนี้ก็อาศัยนายอำเภอกับพวกปลัดไปพลางๆก่อนเท่านั้น
ท่านรองผู้กำกับกล่าวขึ้น........
ไม่เป็นไรหรอกครับท่านรองฯ ถึงแม้ว่าพวกผมจะพึ่งย้ายมาใหม่
แต่ก็พอจะรู้อะไรเป็นอะไรกันบ้างแล้วล่ะ ใช้เวลาวันหยุดไปดูสถานที่
ด้วยตัวเองเสมอๆ ทำให้รู้หนทางต่างๆได้ดีบ้างครับท่าน สารวัตรเอ่ยขึ้น
อ้อๆๆๆจะละลาบละล้วงไหมครับ ด้วยเห็นเสี่ยหว่างกับพวกมันต่าง
เข้าไปหาท่านรองเมื่อสายๆนี้เอง
มันพยายามจะให้ผมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จะมอบเงินให้จำนวนมหาศาล
ผมเลยไล่ตะเพิดมันออกไป พวกมันหัวเสียใหญ่เลย
ชักจะสงสัยเหมือนกันและมันยังไปหาเมียผมอีกแต่ผมห้ามปรามไว้
ว่าหากรับอะไรจากมันไม่ว่ามันจะให้อะไรๆทั้งสิ้นแล้วล่ะเห็นที
เราก็ต้องเลิกกันนะผมไม่ชอบแบบนี้ ผมขู่เมียผมไว้ก่อนมันจึงไม่ได้ผล
ท่านรองกล่าวกับสารวัตรชัชวาลย์เล่าเรื่องให้ฟัง
เมื่อเป็นอย่างนี้ท่านสารวัตรให้จับตาดูพวกเสี่ยพวกนี้ไว้ด้วยก็แล้วกัน
ผมคาดว่าคงจะมีเรื่องผิดกฏหมายอยู่ในเร็วๆนี้แหละให้พยายามส่งสายสืบ
เราไปค้นหาความจริงให้ด้วย
ผมเองชักสงสัยมันมากด้วยก่อนนั้นมันไม่เคยมาเข้าพบผมเลย
อีกอย่างผมสั่งกำชับเจ้าหน้าที่หน้าห้องว่า หากเป็นพวกเสี่ยเม้งหรือเสี่ยหว่าง
ไม่ให้เข้าพบแม้แต่คนของมัน นอกจากประชาชนธรรมดาที่เดือดร้อน
ไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับตำรวจเราเท่านั้นเอง
แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเข้าพบผมได้อย่างไร ทำให้ผมชักสงสัยจึงเรียกมาตักเตือน
นี่ผมก็สั่งย้ายคนหน้าห้องไปทำหน้าที่อื่นแล้ว ส่งไปอยู่หน่วยสารบรรณไม่เกี่ยว
กับความลับใดๆทั้งสิ้น เหมือนลอยแพมันไปเองให้มันคอยดูการส่งหนังสือเท่านั้น
และผมหาคนไว้ใจได้ซึ่งมาใหม่ได้แล้วด้วย เป็นตำรวจมาใหม่จากกรุงเทพฯ
ที่สืบประวัติการทำงานตรวจสอบดูแล้วถึงผลงานต่างที่เขารายงานมาให้
หากสารวัตรและผู้กองไม่กำลังฟังท่านรองอย่างตั้งใจ ก็จะทราบทันทีว่า
บัดนี้ชายหนุ่มได้ย้ายที่นั่งใหม่แล้ว ด้วยไปซื้ออาหารมาเพิ่มและมานั่งใกล้ๆ
กับโต๊ะของสารวัตรเอง ดังนั้นเหตุการณ์ทั้งหมดชายหนุ่มจึงได้ยินทั้งหมด
แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ค่อยๆกินอาหารไปตามลำพังผู้เดียว ครั้นเสร็จก็นั่งสูบบุหรี่ราคาถูก
ครั้นผู้กองจรัสเหลือบตามาเห็นก็สะดุ้งในใจ แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
หันไปฟังท่านรองกล่าวขึ้นอีก
ด้วยไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก เนื่องจากการแต่งกายของชายหนุ่มนั้น
บ่งบอกถึงฐานะด้วย ทั้งร่างกายยังเต็มไปด้วยฝุ่นสีแดงแต่งตัวมอมแมมสกปรกอีก
ผู้กองจรัสจึงสะกิดสารวัตรและผู้กองจำลองใต้โต๊ะบนขาให้ทราบ
ทั้งสองก็หันมามองพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ทำเป็นไม่สนใจ
จึงถามท่านรองว่าแล้วทางเราคิดว่าหากได้รับรายงานจากสายสืบ
แล้วจะทำอย่างไรดีหรือครับท่านรอง
ท่านรองกล่าวว่าผมรู้จากคนของผมว่าเสี่ยหว่างมันค้าไม้เถื่อนอยู่
จะใช้วิธีสับเปลี่ยนรถกัน ฉะนั้นเรื่องการตั้งด่านจะคิดแค่ป้ายรถไม่ได้เสียแล้ว
มันจะค่อยทะยอยมาใช้รถหลายๆคันแยกทางกันมานะ
แต่สายของผมบอกเท่านี้แล้วต้องรีบไป........
ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือเข้าจับกุมในระหว่างส่งของกันเหมือนคราวที่แล้ว
นั่นแหละเห็นจะดี ผมคิดเช่นนี้ทางสารวัตรจะคิดอย่างไรหรือเหมือนผมหรือเปล่า
ถ้าให้มันทะยอยๆมาก็คงจะลำบากด้วยคนของเราก็น้อย กำลังเสริมก็ยังไม่มา
ทางผมจะลองให้สายสืบหลายๆสาย รีบออกเดินทางหาสถานที่แลกเปลี่ยนครับ
ได้ผลประการใดจะรีบรายงานให้ท่านรองทราบครับท่าน
เมื่อได้เวลาแน่นอนแล้วค่อยดำเนินการทีเดียว การขนย้ายคราวนี้คงจะลำบาก
ด้วยของมันไม่เหมือนพวกยาและกัญชาที่ง่ายแก่การขนย้าย
นี่เป็นไม้แปรรูปเสียด้วยที่สายผมบอกมาครับ
นั่นซิ....งานนี้ให้ท่านสารวัตรดำเนินการก็แล้วกัน
ส่วนกำลังคนอาวุธต่างๆนั้นแจ้งมาได้เลยว่าจะเอาเท่าไหร่ผมจะเซ็นต์มอบให้
ขอให้ทำงานให้สำเร็จก็เพียงพอ หรือได้สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี
ส่วนรายละเอียดค่อยไปหารือผมที่ในห้องอีกทีก็แล้วกันะ ตอนนี้ผมไปก่อนล่ะ
แล้วท่านรองก็เรียกพนักงานเก็บเงินให้มาเก็บ บอกว่า
ให้รวมกันเป็นบิลของผมเองหมดด้วย
ทางสารวัตรและผู้กองต่างยืนคาราวะส่งแล้วก็ขอปรึกษาหารือนั่งคุยกันก่อน
ท่านรองกล่าวว่าตามสบายเถอะเกินเวลาก็ไม่เป็นไร ช่วยกันรีบแสดง
ความคิดเห็นปรึกษาหารือ ผมเองก็เห็นคล้อยตามสารวัตรว่าเหมือนกันนะ
แล้วพอชำระเงินเสร็จท่านก็รีบเดินเข้าไปในโรงพักทำงานทันที.......
ครั้นท่านรองขึ้นไปทำงานแล้ว ทางสารวัตรและผู้กองก็ปรึกษากัน
เรื่องงานในครั้งนี้ พลางชำเลืองหางตามายังชายหนุ่มทันที
พลางคิดว่านี่ถ้าหากท่านรองรู้ว่าผู้กำกับตัวจริงไม่ได้ไปไหน
นั่งอยู่ใกล้ๆนี่เอง แล้วท่านจะตกใจมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้
แม้ตำรวจอื่นๆตลอดจนร้านค้าก็ยังดูถูก ท่านกำกับการตำรวจเลยนึกว่า
เป็นพวกกระจอกงอกง่อยกันทั้งสิ้น แม้แต่เด็กเก็บจานไปล้างยังขู่ตะคอก
หากมันรู้มันคงจะตกใจขี้เยี่ยวแตกเป็นแน่ๆ ทั้งสามหัวร่อในใจ
ชายหนุ่มแสร้งนั่งสูบบุหรี่ฟังการพูดคุยกัน นั่งหลับตาบ้างแสร้งไอบ้าง
ครั้นแลเห็นว่าเหลือเพียงแค่สามคนแล้วก็พลันเอ่ยขึ้นเบาว่า
นกฮูกนกเค้าแมวทำงานอยู่คงจะจับหนูได้แน่ๆนะ
คนนั่งห่างจากชายหนุ่มไปเพราะได้กลิ่นเหม็นจากเสื้อผ้าของเขา
พากันหันมามองคิดว่าไอ้นี่คงจะบ้าเสียแล้ว อยู่ดีๆก็พูดว่านกฮูกนกเค้าแมว
อะไรของมันว๊ะ??...แล้วรีบกินอาหารให้เสร็จเร็วๆแล้ว เดินออกไป
แต่ทางสารวัตรและผู้กองทั้งสองรู้ทันทีว่านายสั่งอะไรมา
หากเราคิดว่าฟ้าแจ้งหรือมืดดีล่ะสารวัตร ก็ได้ยินเสียงมาอีกว่า
เย็นๆอากาศกำลังสบายเห็นว่าจะไปนอนเล่นที่เดิมดีกว่า โอ้ย!!!!!.....
เดี๋ยวต้องรีบกลับแล้วจะได้หาซื้อของสักหน่อย จะมืดคำเสียก่อนซินะ
พรุ่งนี้จะได้ออกไปช่วยเขาทำงานหน่อย
ว่าแล้วชายหนุ่มมอซอ ก็เดินออกจากร้านไปขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ
ออกจากโรงพัก หายไปทันที
สารวัตรกล่าวเบาๆว่านายเราเจ๋งว๊ะว่าไงผู้กอง ???....
จริงๆครับผู้กองทั้งสองตอบ
แหมมายังกับเงาหายไปก็เหมือนเงาเลยนะ สารวัตรกล่าว
ตกลงที่เดิมนะพรุ่งนี้เวลาเดิมสารวัตรกล่าว ไปๆๆไปทำงานกัน.......
* แก้วประเสริฐ. *