31 กรกฎาคม 2556 19:32 น.
แก้วประเสริฐ
พิณครวญ
แว่วพิณครวญพร่ำเพรียกดุจเรียกหา
ประสานมากับขลุ่ยคลอล้อลมหวน
กลิ่นบุปผาอวลตลบเคล้าอบอวล
พฤกษ์ไพรล้วนโอนเอนเน้นเสียงลม
เสียงสลับนับตะวันพลันชิงพลบ
ผ่านอวลตลบแผ่วสล้างกลางป่าห่ม
มิอาจกั้นน้ำเสียงเบี่ยงหมายชม
ซาบภิรมย์ชื่นฉ่ำย้ำสราญหทัย
ดวงจันทรโผล่ล้อทอขอบฟ้า
สอดสายตามองหาคราแสงไสว
จวนค่ำแล้วเย็นเยือกเกลือกภายใน
หรือผีพรายหยอกเย้าเฝ้ามองเมียง
ดอกลั่นทมขาวพร่างกลางใบต้น
อวลระคนหอมเย็นเน้นเคล้าเสียง
ดารดาษดอกไม้ป่าหาเอนเอียง
สุดหลีกเลี่ยงโหยหวนชวนป่วนใจ
เสียงทำนองสูงต่ำพร่ำประสาน
จิตเบิกบานหรือเศร้าเฝ้าเป็นไฉน
ด่อมต้นเสียงเมียงมองสองตาไป
มีแต่ใบกิ่งไผ่ให้เสียดสีกัน
พิณและขลุ่ยคงเศร้าจากเฝ้ารัก
มิอาจสมัครสานใจให้สุขสันต์
แม้นเสียงเจ้าสอดคล้องต้องผูกพัน
แต่เสียงนั้นดังแว่วแผ่วห่างไกล
ตะวันลับท้องฟ้าคราชิงพลบ
ขลุ่ยบรรจบแหลมสูงปรุงพิณไล้
สายลมพัดระรื่นชื่นกลางไพร
อวลตลบไว้บุปผานานาพันธุ์
นั่งฟังเพลงอกสะท้อนซ่อนไสว
ผ่านห้องใจหมองเศร้าเฝ้าเสพย์สันต์
เหมือนตัวข้าเคล้าคลุกปลุกชีพพลัน
เพียงคอยวันดุจเพลงบรรเลงครวญ.
แก้วประเสริฐ.
16 กรกฎาคม 2556 15:22 น.
แก้วประเสริฐ
หยาดน้ำค้าง
รุ่งทิวาฟ้าสางสร้างสิ่งเหงา
หยาดน้ำเฝ้าแระเล็มเต็มใบหญ้า
แสงสีสรรกระจ่างสว่างนัยน์ตา
เหมือนบอกว่าใกล้แล้วแนวหนทาง
มองตะวันกลมแดงแฝงใสสว่าง
งามกระจ่างแต่ใจใยหม่นหมาง
อกเอ๋ยอกประดุจหยุดต้องวาง
สิ่งที่สร้างใกล้แล้วแผ่วหัวใจ
โอ้หยาดน้ำค้างล่วงลับกับใบไม้
แสงสีไล้แวววาวพราวสดใส
หลากความงามต้องหายให้หวั่นไป
หวานสดใสเคยกระจ่างสว่างอารมณ์
น้ำเจ้าเอยเหมือนใจในห้วงอก
หวั่นวิตกมากมายใยมาประสม
ทั้งนอกในไหวหวั่นพรั่นภิรมย์
กลับตรอมตรมเสียแล้วแผ่วดวงจินต์
แสงแดดเริ่มร้อนรุ่มเหมือนสุมข้า
บอกเวลาใกล้แล้วแนวทั้งสิ้น
ฝากแต่ใจมอบไว้ในทางดิน
ดุจดั่งกวินเวียนวนปะปนครอง
ยืนซึมเศร้าเฝ้าปลงตรงร่างน้อย
ที่จะลอยละล่องท้องฟ้าสนอง
แสงสว่างเรืองรองหมองสิ่งปอง
ดุจละอองหยาดน้ำเลิศล้ำกราย
อันชีวิตของคนปนเปนัก
วุ่นวายจักยึดมั่นนั้นก็สาย
ผ่านกาลห้วงล่วงย้ำเหมือนน้ำพราย
ต้องละลายยามอาทิตย์ทรวงจิตใน
หยาดน้ำค้างแสนสวยช่วยสร้างโลก
ให้บริโภคความสุขปลุกสิ่งใส
แต่ใยข้าละเหี่ยเพลียหัวใจ
ต้องลอยไปไกลเพื่อนหยาดเปื้อนตรม.
แก้วประเสริฐ.
1 กรกฎาคม 2556 20:16 น.
แก้วประเสริฐ
เปลี่ยนฝัน
๐วันคืนเปลี่ยนแน่แล้ว จริงฤา
ยากจะมาฝึกปรือ ผ่องแผ้ว
เวียนวนว่ายวกหรือ ก่อเกิด
ซ้ำยากผ่านมิแคล้ว ถูกจ้องจับมองฯ
วันคืนเปลี่ยนแน่แล้ว ความฝันแป้วหมองใจ
มิทราบเหตุเป็นไฉน ฝากภายในดวงฤดี
มองดูดุจดั่งฟ้า เดือนดาราหมองศรี
ชอกช้ำแฝงชีวี ยากจะพลีม่านดวงใจ
อดเปรี้ยวแต่ไร้หวาน ความจริงผ่านมองหม่นใน
ยากยิ่งจะแก้ไข ฝังอยู่ไว้ในตัวเอง
เนิ่นนานผ่านหมองหม่น มันระคนปนย่ำเกรง
ไม่เขียนชักวังเวง จึงฝากไว้ในห้วงฝัน
ดุจโดนไข้ให้หนาวสั่น มันป่วนปั่นสุดเสกสรร
อกเอยยากแบ่งปัน ช่างเปลี่ยนแล้วนะแก้วตา
รวดร้าวแห่งดวงจิต หวานแนบสนิทติดพันหา
ร่ายบทดุจสนทนา เหมือนปลาร้าที่เน่าโชย
หลับตาพาเปลี่ยนฝัน เคยกำนัลผ่านแห้งโหย
คงไว้นัยน์ตาโปรย นิทราแล้วไข้เรียกหา.
แก้วประเสริฐ.