25 สิงหาคม 2555 14:09 น.
แก้วประเสริฐ
* อัคนีแห่งใจ *
๐ ณ ห้วงแห่งบ่วงจิตยามคิดลึก
คราหวนตรึกสิ่งเก่าเฝ้าสุดหมอง
ปองสิ่งหวังครั้งแรกแจกเรืองรอง
ยามไตร่ตรองป่วนซึ้งตรึงอารมณ์
๐ ปมหลายสิ่งฝากลงที่ตรงหลอน
วาบไหวย้อนสู่ทรวงล่วงขื่นขม
ชมหวานชื่นฝากไว้ในสิ่งตรม
เศร้าระทมขมวดไว้สู่ในจินต์
๐ สิ้นเสน่หาครานี้ยากมีแล้ว
ที่เพริศแพร้วลบหายมลายสิ้น
ถวิลสิ่งหลังเปรียบไว้ใต้พื้นดิน
ยามน้ำรินลบหายคลายชมเชย
๐ เคยมอบรักแนบไว้ในทรวงจิต
ยิ่งหวนคิดปลิดไว้คล้ายเมินเฉย
เผยความขมฝากลงที่ตรงเปรย
สิ่งที่เฉลยสุดอ้างเหมือนร้างใจ
๐ ใยดวงเดือนหมู่ดาวพราวค้างฟ้า
เฉิดห้วงนภาทอแสงแฝงสิ่งไสว
วาบไหวนี้ร้อนลนปนทรวงใน
ล้วนเอนไหวปวดร้าวแผดเผามา
๐ อากาศเย็นน้ำค้างพร่างพรมทั่ว
แต่ยังกลัวความหลอนที่ซ่อนหา
หวนใจคิดกระต่ายชะม้ายตา
หวังจันทราทอแสงแฝงเรืองรอง
๐ ปองความหวังฝากไว้คล้ายอัคนี
รักที่มีร้อนรุ่มกลุ้มใจสนอง
ครองแผดเผาลุ่มลึกตรึกใจปอง
เหมือนละอองฟุ้งซ่านผ่านโรยลา
๐ พาให้ใจละเมอเผลอความเศร้า
มันช่างเขลาเหลือเกินเพลินห่วงหา
คราหวานรักรัญจวนป่วนน้ำตา
สุดวาสนาหลงไว้ในห้วงกรรม.
* แก้วประเสริฐ. *
18 สิงหาคม 2555 15:15 น.
แก้วประเสริฐ
* ชีวิต *
๐ หากกายน้อมวาจาปัญญาชอบ
มุ่งมั่นมอบสู่พุทธสุดหรรษา
พาจิตใจผ่องใสในมรรคา
ทั้งกิริยาสิ่งใดให้ความดี
๐ มีสิ่งใดทำใจให้สะอาด
อย่าได้วาดทิษฐิปรีดิ์เปรมศรี
อันดีชั่วปลูกสร้างระหว่างชีวี
หากมากทวีร้อนรุ่มจะกลุ้มใจ
๐ ในความรักคนเราก็เท่านี้
แฝงไว้ที่ความงามยามสดใส
ในทุกวันสิ้นสลายทำลายไป
แก่เฒ่าได้ดีชั่วกลั้วลำเค็ญ
๐ เห็นสิ่งใดหมายไว้มักได้สลาย
บ่อนทำลายภายในให้ยากเข็ญ
เป็นบ่วงทุกข์ผูกใจคล้ายสิ่งเย็น
อย่าได้เห็นสิ่งใดอยู่ได้ทน
๐ ปนเกิดแก่เจ็บตายคลายชีวิต
ล้วนลิขิตเวรกรรมนำสับสน
จนร้อนรุ่มฝากไว้ในทุกคน
ยากหลีกพ้นสิ่งทุกข์ปลูกงดงาม
๐ นำพระธรรมคำสอนสุนทรพจน์
ให้ใจหมดสิ้นลงตรงเกรงขาม
ยามเยื้องย่างตรึกไว้ในเขตคาม
จะปิดความชอกช้ำระกำทรวง
๐ ห้วงชีวิตคนเราเฝ้าปนทุกข์
ยากจะปลูกให้งามยามมีห่วง
ล่วงละเมิดย่อยยับนับทั้งปวง
คล้ายเป็นบ่วงผูกมัดจัดวิญญาณ์
๐ ฝ่าต้นเหตุนี้ไว้ให้ได้เห็น
ความร่มเย็นสู่ไว้คลายสิ่งหา
ว่าเป็นสิ่งหลอกไว้ไม่นำพา
ภพจะมาหมุนเวียนมิเปลี่ยนใจ
๐ ให้มองดูตัณหาคือความยาก
จงนำพรากอย่าได้ให้สดใส
ในบ่อเกิดเท่านี้ที่เป็นไป
ละสิ่งได้วางลงที่ตรงเรา
๐ เฝ้าเพ่งมองปลงไว้ให้ตรึกคิด
จะแนบสนิทใฝ่ปองสนองสิ่งเขลา
เอาปฏิจจสมุปบาทวาดเป็นเงา
อย่ามึนเมาไตร่ตรองปองความงาม
๐ ยามเกิดขึ้นละวางอย่างร้างจิต
หมั่นครุ่นคิดไตร่ตรองสิ่งหมองหยาม
ยามย่างเยื้องไตร่ตรองทุกเขตคาม
ทั้งรูปนามเปลี่ยนไปในทุกคน
๐ ปนรวมไว้ในยามที่อ้างว้าง
มองสิ่งร้างดับไปไม่สับสน
วนเวียนภพหมุนเคล้าเฝ้าร้อนลน
สมาธิฝนดับสิ้นจินต์ปัญญา.
* แก้วประเสริฐ. *