* วาบหวิว * ๐ อากาศร้อนเหตุใดใยแปรเปลี่ยน สร้างหมุนเวียนยั่วเย้าเมื่อเฝ้าเห็น โอ้น้องนางสาวน้อยแม่สร้อยเย็น ประชดเน้นประหนึ่งพึงโชว์กาย ๐ ช่างสวยสดงดงามยามเผยสล้าง ร่างอ้างว้างผ้าผ่อนจนร่อนหาย ใจช่างกล้าอวดร่างไม่พรางอาย กลางท่ามสายนัยน์ตาฝ่าคนมอง ๐ เธอใจเด็ดเหลือเกินเพลินคนสลับ สองตาจับมากมายทั้งหลายสนอง โลกมันร้อนจนเป็นที่เด่นครรลอง เปลื้องผ้าปองประชดหมดเสียจริง ๐ ทั้งกลางคืนและวันมันช่างร้อน จึงสะท้อนจรดแล้วปลดทุกสิ่ง ฝากสร้างคิดความหมายมิไร้จริง แล้วฝากสิ่งบางอย่างสร้างเวลา ๐ ด้วยป่าเขาลำเนาไพรไร้ต้นไม้ อีกทั้งใช้น้ำมันเที่ยวผลาญหา จนโลกแยกรอยร้าวพุเคล้ามา ก่อภัยพาทั่วโลกเฝ้าโศกครวญ ๐ วงแหวนไฟโลกล้อมอาณาเขต แคว้นนิเวศน์เจอภัยให้กำสรวล พิษณุโลกแดนไฟเหตุไฉนกวน ต่างเซซวนโทษกันแทบบรรลัย ๐ จึงเป็นเหตุสาวน้อยแม่ร้อยชั่ง จึงสร้างพลังประชดกลางสดใส อากาศร้อนเพิ่มหลากจนมากไป ด้วยเหตุไฉนผ่านทำหรือจำเป็น ๐ แม้ตำรวจจราจรยังผ่อนผัน ไตร่ถามนั้นปล่อยไปที่ได้เห็น ใช่อนาจารประชดเพื่อปลดเย็น โลกลำเค็ญด้วยคนจนเกิดกาล. * แก้วประเสริฐ. *
* ผาซ่อนแก้ว * ๐ เทพเทวัญชั้นฟ้าพาสถิตย์ ช่วยเนรมิตรสถานวิมานไสว ที่เขาค้อเพชรบูรณ์ศูนย์รวมใจ เฉิดไฉไลหลากหล้าหาใดเทียม ๐ บนขุนผาซ่อนแก้ววับแววหา ด้วยศรัทธาเป็นหนึ่งพึงยอดเยี่ยม ยากสัญจรเหล่าชนปนนางเรียม สงบเสงี่ยมเงียบสงัดปราศพจมาน ๐ อุดมด้วยพฤกษานานาพันธ์ สร้างกำนัลกลิ่นผกามาประสาน สุดระคนหอมหวนชวนดวงมาน ซึ้งซาบซ่านเสียงเพลงบรรเลงไพร ๐ เทพอัปสรประสานผ่านวิษณุ ต่างบรรลุเป็นสถานอันผ่องไสว อัญเชิญพระภิกษุบรรลุธรรมไกล เข้าครองในสิ่งสถานวิมานแมน ๐ ต่างนำแก้วซ่อนมหิทธาอานุภาพ ใช้กำหราบหมู่มารผ่านเหลือแสน ตั้งขนานนามวัดผาซ่อนแก้วแทน เป็นแว่นแคว้นดุจวิมานผ่านศรัทธา ๐ จัดเรียงรายล้อมรอบวิมานอินทร์ ผ่านเป็นถิ่นสรวงสวรรค์อันสูงหล้า เสริมสร้างบุญหนุนเอื้อเผื่อศาสดา ที่พระศาสนาบอกกล่าวเข้าสู่ธรรม ๐ เฉลิมฉลองบุญทานผ่านถิ่นเขา เฝ้าหยอกเย้าร่ายรำเทพงามขำ ครบเจ็ดราตรีมิผ่านซ่านกระทำ พลางร้องนำพฤกษายามราตรี ๐ อันวัดผาซ่อนแก้วเพริศแพร้วนัก ใครได้ประจักษ์พบพาเป็นราศรี เปรียบเมืองสวรรค์ชั้นฟ้าไร้ราคี น้อมนำชีวีปราศทุกข์เป็นสุขเทอญ. * แก้วประเสริฐ. * (ภาพของคุณ พุด สาวงามแห่งพงไพร พอดีผมไปเยี่ยมคุณฤกษ์มา พบภาพนี้ของคุณพุด ถูกใจจึงรีบแต่งกลอนส่งมาเลยครับ ขออภัยคุณพุดด้วยครับ)
* สักคนไหม???...* ๐ งามละออหยาดฟ้ามาแดนดิน หวนหาถวิลเป็นทหารผ่านศึกษา เพื่อช่วยชาติรุ่งเรืองประเทืองนภา แต่ต้องมาขัดข้องจนหมองใจ ๐ อุตส่าห์บินจากอเมริกามาคัดสรร ยากจะผ่านห้วงจิตยากคิดไสว เพียงเป็นสาวเภทสองผุดผ่องไกล แปลงเพศไว้เป็นหญิงที่อิงปอง ๐ ฉันนะย๊ะเป็นชายในเพศหญิง แต่ใจจริงเพื่อชาติมิขลาดสนอง เพื่อให้ชายจริงแท้แม้ประลอง คนทั้งผองประนามว่าสองเพศ ๐ มันเป็นเรื่องนานาของจิตตัง หากความหวังสู้ในอาณาเขต จะรับใช้บ้านเมืองประเทืองเจตน์ ทุกประเภทอย่ากั้นฉันนักเลย ๐ เหล่าทหารหญิงก็มีที่เป็นได้ ฉันเป็นชายมิใช่หญิงอิงเฉลย พร้อมทั้งจิตร่างกายฉันไม่เคย ไม่ปิดบังเปิดเผยเฉลยทุกทาง ๐ ความเป็นทหารคนเราเฝ้าหายาก ทนลำบากผ่านเกณฑ์เช่นสะสาง สร้างหน้าที่ถูกต้องมิปองวาง เพื่อชาติสล้างรุ่งเรืองเมืองยินดี ๐ ราชสีมาหัวหน้ามาเป็นหญิง ไม่ถูกติงสร้างชาติฉลาดศักดิ์ศรี ก็ด้วยหญิงทั้งหลายให้เปรมปรีดิ์ เพียงห้วงฤดีช่วยชาติปราศหมองมัว ๐ ล้วนชาติไทยประวัติจัดจารึก ก้องระทึกกว่าชายไม่ใช่ขรัว มือกุมดาบฆ่าฟันนั้นไม่กลัว อย่ามั่วซั่วปืนผาหายำเกรง ๐ หากเลือกฉันสักคนสนดีไหม เกรงทำไมสาวสองมองข่มเหง จะร่วมรบเพื่อชาติปราศละเลง อย่าทำเบ่งเห็นเราเศร้าหมองใจ. * แก้วประเสริฐ. *
* แม่ศรีสมร * ๐ เลื่อนรักฟ้าพาใจสุดไหวหวั่น ความผูกพันเคยซึ้งรำพึงหา ว้าเหว่ว้างกลางจิตยากคิดมา หวนนำพาคงไว้ดุจคล้ายควัน ๐ ก่อนนั้นคำออดอ้อนมิซ่อนเงื่อน แย้มยิ้มเยือนเย็นพบสบสุขสันต์ ผ่านห้วงนี้เหลือไว้คล้ายผูกพัน แต่สิ่งนั้นซ่อนเร้นเช่นบ่วงตรม ๐ สองเจ้าเอ๋ยเทพีดวงศรีสมร แสนอรชรล้นเผื่อห้วงเหลือขม สร้างฝากไว้ในรสปลดอารมณ์ สิ่งเคล้าชมงามงอนแล้วถอนใจ ๐ เหม่อเฝ้ามองคราใดใจใฝ่จิต ยามหวนคิดลอยล่องมิผ่องใส เสียงป่าเขาห้วงพฤกษ์ตรึกวิไล น้ำตกไหลเสียงซ่าส์ว้าเหว่จินต์ ๐ สายลมแผ่วแว่วเสียงเคียงร่ำร้อง ดุจนวลน้องเคยพร่ำย้ำสู่ถวิล ที่เฝ้ามองหลากไว้สายน้ำริน ค้นทุกถิ่นยากพบประสบเงา ๐ โอ้อกเอ๋ยใยเป็นดังเช่นนี้ สิ่งหวานที่ฟุ้งซ่านผ่านสิ่งเขลา รักตราตรึงซึ้งผ่านซ่านซบเซา สิ่งเคยเย้าเหม่อมองผุดผ่องตา ๐ ป่านฉะนี้น้องน้อยลอยไปไหน วาบหวามใจอ้างว้างกลางสิ่งหา สายลมเอยไม่เรียกเพรียกนำมา แสนระอาหมายเคล้าเฝ้าแต่นาง ๐ สุดแสนรักปักใจสร้างไหวหวั่น ซ่านซึ้งนั้นทอทาบอาบฟ้าสาง เอนกายพิงก้อนหินจินต์ยากจาง หลับตาพลางยังไสวแต่ใจครวญ. * แก้วประเสริฐ. *
* วาบหวามใจ * ๐ ตอนแรกรักฝากไว้ฤทัยมั่น แสนผูกพันซาบซึ้งรำพึงฝัน ยามมาร้างหลีกไปมิคล้ายกัน มากผูกพันเศร้าจิตหากคิดไป ๐ โอ้นี่หรือความรักมักเที่ยวหา ม่านบังตาแปรผันจนฝันใฝ่ หากคะนองระเริงบันเทิงใจ มีหวังได้สู่ห้วงล่วงลับพลัน ๐ ปีเดือนวันเกิดปัญหาจนล้าจิต ผวนชีวิตจึงเพลียแทบเสียขวัญ หลายเหตุผลสร้างลงมิตรงกัน ทุกคืนนั้นผันเปลี่ยนสู่เวียนวน ๐ อันความรักกับใคร่ควรใฝ่คิด บ่วงชีวิตปะปนเปลี่ยนวนข้น ซึ่งรูปลักษณ์กับใจดูคล้ายปน จึงมากล้นล้วนแปรผ่านแย่กัน ๐ พอเริ่มแรกหัวใจคล้ายยึดมั่น เขาพูดกันลืมทุกข์ด้วยสุขสันต์ กลิ่นหอมอวลซาบซึ้งมาขึงพัน พอผ่านวันนานเข้าเฝ้าแยกทาง ๐ ก่อนจะคิดดำเนินอย่าเพลินไว้ จงตรึกให้แน่นอนจึงผ่อนสร้าง หญิงกับชายคล้ายไฟที่ไหม้ฟาง ย่อมจืดจางปวดร้าวเฝ้าเรืองรอง ๐ ควรรู้จักเลือกใช้ในหลายอย่าง จงหวนสร้างใฝ่คิดให้ติดสมอง หมั่นตั้งสติตรวจตราที่คราปอง อย่าหม่นหมองต่อตนจนละอาย ๐ คิดหากรักมากน้อยค่อยตรวจซึ้ง ควรคำนึงต่อกันยากพลันสลาย แม้นรู้จักคิดสร้างระหว่างกราย ย่อมสู่สายทางราบวาบหวามใจ. * แก้วประเสริฐ. *