13 เมษายน 2554 14:17 น.
แก้วประเสริฐ
รับขวัญสงกรานต์
..๏ วันวิจิตรปีใหม่ไทยย่างขาน
สิบสามกาลเมษาพาเกษมสานต์
เลิศดิถีย่างก้าวเคล้าเบิกบาน
พลิกวันวานเริ่มเฉิดเกิดเรืองรอง
..๏ อรุณสางชำระกายให้สอาด
แล้วใส่บาตรสรงน้ำพระทั้งผอง
ด้วยน้ำปรุงอบไทยใจฉ่ำปอง
ขันสีทองเติมแต่งแฝงดอกผกา
..๏ จิตตั้งมั่นเจริญธรรมน้อมนำจิต
เคล้าประดิษฐ์ใจรื่นชื่นหรรษา
เข้าฟังธรรมทางวัดสร้างจัดมา
สู่น้อมพาสิ่งสอนตอนนำแสดง
..๏ นำน้ำในขันทองสรงน้ำพระ
พิพัฒนมงคลดลธรรมแฝง
ปราศจากทุกข์โรคภัยอ่อนแรง
อำนาจแห่งรัตนตรัยให้ภิรมย์
..๏ แล้วชำระเท้าภิกขุผู้ประเสริฐ
ซึ่งเลอเลิศมวลธรรมนำสุขสม
แห่งพระไตรปิฏกไว้ให้เชยชม
แสดงเป็นบ่มขจัดสิ้นสิ่งอิงใจ
..๏ เล่นรดน้ำสงกรานต์ผ่านฉ่ำชื่น
แสนระรื่นห้วงในให้ผ่องใส
ตกเย็นสร้างเจดีย์ทรายใส่วัดไป
อธิษฐานไว้ฝากเป็นพุทธบูชา
..๏ เข้าสู่โบสถ์ฟังธรรมน้อมนำจิต
แล้วใฝ่ปลิดพ้นจากซากทุกข์หา
ผ่านซ่อนเร้นหลุดออกนอกกายา
พร้อมรัตน์มาแฝงไว้ใส่ทดแทน
..๏ ภายในวัดจัดงานอันครึกครื้น
แสนระริ่นมโหรสพครบถ้วนแถน
ลิเกหนังชิงช้าสวรรค์ลอยรำแพน
นี่แบบแผนสงกรานต์แต่นานมา๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 14:48 น.
แก้วประเสริฐ
๐ ปีกแห่งรัก ๐
..๏ ปีกรักยากหักแล้ว.......เหลี่ยมลา หลบแฮ
ราตรีสิเน่หา.....................ห่อนคว้าง
ซ่านเสียงผ่านรุจา............ห่มห่อ ฝากเนาว์
โลมลูบไล้ซ่านสล้าง........ม่วนแต้วาบไหว๚ะ๛
..๏ ปีกรักยากหักแล้ว สุดผ่องแผ้วลับลาไกล
หวานซึ้งทั้งนอกใน พลิกวาบหวามตะลึงแล
หนทางใช่ร้างเหตุ มณฑลเขตยังเผยแผ่
ฝันใฝ่ครั้งมวลแล โชควาสนามาเชยชม
ฤดูเปลี่ยนรสสร้าง สู่เลือนลางที่เสพย์สม
กลิ่นหอมอวลภิรมย์ อุ่นอิงไว้ไล้ลูบเชย
อาหารทิพย์ส่งกลิ่น ย่อมถวิลใคร่พึงเสวย
บ่วงฝากรักล่วงเลย สิ่งแดนฟ้ามาสู่ครวญ
วิมานรักสล้างจิต ล้วนสถิตย์คิดใคร่หวน
พักตร์เจ้างามเย้ายวน ปานอัปสรอมรเทวี
แม้นจากยังฝากรัก สวามิภักดิ์แม่มารศรี
สาวสวยทุกกรณีย์ มิอาจล้างสิ่งอาวรณ์
พิลาสเหม่อมองฟ้า ปวงเมฆาล่องลอยจร
ห่วงหาแสนอาทร ห้วงฉะนี้มิอาจเลือน
สำเนียงถ้อยตรึงใฝ่ รำลึกใจมิได้เฝื่อน
คิดถึงม่านดาวเดือน สิ้นแลลับยังนับคอย
ดุจต่ายน้อยแหงนฟ้า แลจันทราสุดละห้อย
นวลเอ๋ยรักมิลอย ผูกพันไว้ใฝ่คำนึง
ปีกแห่งรักผุดผ่อง ดุจละอองยองใยถึง
พันผูกสุดตราตรึง ดวงใจน้อยคอยเวลา
กานต์เอ๋ยเจ้ากานดา บุญนำพาใคร่มาหา
ซึ้งโฉมลุ่มลึกมา เงาโลมรักประจักษ์ใจ๚ะ๛
..๏ กานต์เอ๋ยเจ้ากานดาของข้าเอ๋ย
ดวงจันทร์เผยลำยองสุดผ่องใส
ผ่านนุ่มเนื้อผุดผ่องเป็นยองใย
จนคลั่งไว้ห้วงจิตยากคิดเลือน
..๏ พักตร์น้องเจ้างามเด่นเช่นฟากฟ้า
ครวญใฝ่หาพลิกพริบระยิบเฉือน
ห้วงแห่งรักโหยหวนปั่นป่วนเยือน
ใจข้าเสมือนเหี่ยวร้างอยู่กลางนภา
..๏ สบม่านเมฆหมอกอวลป่วนดำคล้ำ
ฝากลมพร่ำผ่านช่วยระทวยหา
ปีกแห่งรักหลากล้นยามพ้นมา
ซ่านกานดาค่ำเช้าแสนเฝ้าปอง
..๏ รักเจ้าเอ๋ยอย่าเป็นดุจเช่นนี้
กาลนาทีสร้างไว้ฝากให้หมอง
ทุกอย่างผันเปลี่ยนเวียนใยยอง
ความเรืองรองสีสรรอย่าผ่านไกล
..๏ ประสบการณ์ที่เห็นมักเช่นนี้
ล้วนมากมีหลงใหลมิคว้าไขว่
จะอวลอบรอบข้างเพื่อสร้างใน
ความสดใสหวนคิดยากบิดเบือน
..๏ ยิ่งมองฟ้ายามเพ็ญที่เด่นสล้าง
สมสู่สร้างซ่านไว้ดุจคล้ายเฉือน
สิ่งไหวหวั่นฝากให้ดูคล้ายเลือน
อย่าให้เหมือนดวงจันทร์ดั้นเมฆา
..๏ ปีกแห่งรักห้วงนี้พลีเพื่อเจ้า
ทุกค่ำเช้าครวญคร่ำเฝ้าพร่ำหา
หวั่นจะหักแรมร้างเลือนลางมา
เป็นบ่วงผวาร้อนรุ่มดังสุมเพลิง
..๏ ลมเจ้าเอ๋ยเผยรักฝากผ่านเคล้า
สิ่งคลอเย้าจากใครอย่าใฝ่เหลิง
มิผันเปลี่ยนเผื่อไว้อย่าได้เถกิง
หลงระเริงมากนักจากคนไกล๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.
(ภาพนี้ขอจากคุณ ครูกระดาษทราย
ขอรับท่านที่รัก)
4 เมษายน 2554 20:53 น.
แก้วประเสริฐ
กิ่งโศก
๏ แม้สุรีย์ไม่สิ้น............แสงสี
พื้นแห่งปฐพี.................เฉิดแล้ว
ผดุงเทิดใฝ่กวี...............ยากผ่าน มวลแฮ
คว้าไขว่ค้นสิ่งแพร้ว......ก่อไว้พลิกสรวงฯ
๏ โศกต้นบานเบ่งไซร้......มุ่งฝาก หอมเอย
มองสีม่วงงามจาก............หลุดพ้น
เพียรค้นช่างแสนยาก........วิปโยค เกิดนา
ดุจกิ่งซากโศกต้น..............หนีแล้วหม่นผองฯ
๏ นามกิ่งโศกฝากไว้.........ปากกา
รำลึกต่อสิ่งหา...................หม่นเศร้า
มิอาจถูกนำพา..................จิตซ่าน จริงเฮย
สรรพสิ่งผ่านเคล้า.............ยากซึ้งหวังสนองฯ
๏ กาลเวลาผ่านพ้น...........เนิ่นนาน จริงนอ
หวังก่อสิ่งเบิกบาน.............มอบไว้
กระทู้ส่งเอ่ยขาน................ถามไถ่ ตลึงแฮ
แม้นมาดเพียงหนึ่งไซร้......ลบข้อหม่นถวิลฯ
๏ คำตอบสั้นสุดซึ้ง..........ก่อเจิด ใจนา
นำคิดพัฒนาเชิด...............ไขว่สร้าง
บรรลุสิ่งค้นเฉิด.................ก่อเกิด สว่างเฮย
พ้นหลีกสิ่งเคว้งคว้าง........มั่นไว้ทั้งผองฯ
๏ เพชรก้อนแก้วเจียรแล้ว...เปล่งงาม
มวลสิ่งใฝ่ติดตาม...............เหลี่ยมแพร้ว
มุ่งบรรเจิดมิขาม................ผ่านสิ่ง หมองแฮ
สู่ขจัดจนผ่องแผ้ว..............สู่สล้างบรรเลงฯ
๏ เกิดกิ่งโศกพร่างพริ้ง....ผ่านตา ผองแฮ
งามสุดกานท์พรรณา.......ฝากไว้
สำนวนคำซ่อนหา...........เปล่งสวัสดิ์ มากนา
รูปยอกย้อนแทรกไล้.......ซาบซึ้งหวนถวิลฯ
๏ ดั่งแสงสุรีย์เปล่งฟ้า....รัศมี
ถ้อยบทอรรถรสกวี........นภาสล้าง
หลากแห่งสีมากทวี.......เหลี่ยมทบ สว่างแฮ
ไสวฉาบร้อยสิ่งกว้าง.....เฉิดแล้วใฝ่ปอง๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.
3 เมษายน 2554 17:26 น.
แก้วประเสริฐ
แก้วประภัสสร
๐ รุจีรัตน์พวยพุ่งแสงรุ่งโรจน์
มณีวาวโชติแวววับพุ่งนับไสว
มุมขจรมวลสีเฉิดงามเลิศไกล
ฉวีสว่างไกวมุมพร่างกระจ่างตา
๐ วิวัฒน์แห่งฟากฟ้าคราบรรเจิด
แพรวล้ำเลิศพวยพุ่งยากจรุงหา
เจียรนัยเก็จแก้วเพริศแพร้วนภา
ปานดาราระยับประดับเดือน
๐ จากก้อนแก้วเจียไว้ในมุมหลี่ยม
รัตนะเยี่ยมเลอสลับยากนับเสมือน
ขาวประกายสุรีย์แสงยามแฝงเยือน
วับพราวเกลื่อนสีพร่างกระจ่างมณี
๐ งามยิ่งแล้วเลอเลิศประเสริฐฟ้า
เฉลาห้วงหาแฝงไว้ประกายสี
ประกายผ่องรองรับจับรวี
เกิดแสงมณีพวยพุ่งดั่งรุ้งพราว
๐ ประดับไว้เลอค่ายากหาแล้ว
ดั่งเพชรแก้วแววสลับสีนับขาว
สว่างไสวพริ้งเลิศดั่งเพริศวาว
รัตน์แสงสกาวเปล่งสีรวีครอง
๐ ประภัสสรเปรียบไว้สู่ในสรวง
รุจแห่งปวงสว่างไสวอิงไว้สนอง
วับวาวแสงเฉิดฉวีสุดที่ปอง
รุ่งเรืองรองแห่งมณีศรีกัลยา
๐ พริ้งแพรวพรายในสิ่งอิงใฝ่ผอง
รัศมีส่องกระจ่างสร้างหรรษา
เลอเลิศคุณแห่งค่าเพริศพรรณา
มวลมรรคาแห่งรัตน์จำรัสครอง
๐ แสงไสวส่องศรีสวัสดิ์พิพัฒน์ผล
สว่างไสวปนล้ำค่ายากหาสนอง
วาวพร่างผองอิงไว้ฝากใคร่ปอง
ลำยองก้องบรรเจิดเลิศแห่งมณี.
แก้วประเสริฐ.