29 สิงหาคม 2553 15:21 น.
แก้วประเสริฐ
เพลิงราคะ
แสนเพริศพริ้งอวลอบนทีศรีสวาด
งามดารดาษพรรณรายมไหศวรรย์
หอมกลิ่นโปรยโชยชื่นลัดดาวัลย์
เริงร่าอนันต์อโนดาตพาดเรืองรอง
ใสสะอาดบริสุทธิ์ดุจแมนสรวง
เหล่าพุ่มพวงดารณีพลีจัดสนอง
ประทุมมาศเต่งตึงอึงคะนอง
ชูชันครองสองเต้าเย้าพริ้มพราย
บุปผาพฤกษ์โปรยปรายไอหอมกลิ่น
โชยระรินกลิ่นผกาฟุ้งจรุงขยาย
ด้วยทีท่าเย้ายวนชวนหทัยคลาย
ปรุงแต่งขจายอาภรณ์ร่อนเริงลม
หวังสลายดวงฤทัยให้แตกซ่าน
พลิกผันผ่านคืนกลับนับเสพย์สม
ด้วยท่าทีอ่อนช้อยปรอยเชยชม
หว่านทวีถมองค์มุนินทร์ชินสีห์
เหล่ามาณวิกาสารพัดจัดถวาย
เพื่อสลายดวงหทัยนัยยวนฉวี
สุดเปล่งปลั่งครอบราคะคละทวี
ยวนยั่วฤดีหลายท่าตัณหาเถกิง
ชม้อยดวงเนตรหยาดเยิ้มเพิ่มพิลาส
แล้วนวยนาดปราศอาภรณ์ร่อนเถลิง
เปล่งสำเนียงหวานหาคราระเริง
หวังกระเจิงดวงหทัยให้ละลาย
องค์มุนินทร์ปิ่นนิพพานนั้นสอน
สิ้นอาวรณ์ตรัสรู้หมู่มารถวาย
เปี่ยมสิ่งเกิดตัณหาราคะขจาย
ซุกซ่อนในธรรมมารมย์บ่มวาง
ทรงตัดขาดเยื้อใยใช้ปัญญา
พิจารณากองไฟอันใหญ่สล้าง
ทั้งเศษเล็กมากน้อยอย่าคล้อยทาง
สมาธิสร้างพลิกค้นจนเบิกบาน.
* แก้วประเสริฐ. *
20 สิงหาคม 2553 16:47 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงรักหรือไฉน
๐ พราวเพริศพริ้งรักล้น คุณอนันต์ จริงฤา
แม้นมาดจะใฝ่สรรค์ กีดกั้น
ห้วงฟ้าถูกบั่นพลัน ผันพลิก นักแฮ
ดุจดั่งกำแพงนั้น ลึกล้ำฉีกสลาย:-
๐ พราวเพริศพริ้งรักนั้น คุณอนันต์มากล้นหรือ
แม้นมาดจะใฝ่ถือ คือกีดกั้นห้วงสั่นผวา
ห้วงฟ้าถูกบั่นพลัน หลบหลีกนั้นดั่งจันทรา
ดุจดั่งกำแพงครา พลิกหาค้นหมดล้ำสลายฯ
๐ ทวนทบพบรอยเก่า ฉีกแสนเศร้าสบกับกลาย
มากนักมักจักคลาย ร้ายจริงหนอล้อเล่นผวน
หวนพบพักตร์ยิ้มเย้า ดั่งพลิกเฝ้าสถิตย์เรรวน
หอมกลิ่นเคยเคล้าชวน ดุจล้วนลากฝากลอยลมฯ
๐ อิงแอบแนบชิดฝัน รอยเก่านั้นพลันขื่นขม
กลิ่นแก้มเคยเฝ้าชม บ่มรอยช้ำกลับฝากหทัย
เคยกอดอ้อนออเซาะ รักที่เพาะมาป่วนคลาย
หวานรักหมดละลาย สิ้นสลายในบ่วงสนองฯ
๐ รอยลิดติดล้ำลึก เฝ้าคอยผนึกต่อสิ่งปอง
นวลนางหวังใยยอง สนองแค่ค่ำย้ำแพรวฝัน
แสงสีผ่องเพริศพริ้ง โอ้ใจหญิงสุดจำนรรจ์
ทั้งผองลบเลือนสรรค์ สิ้นถวัลย์ในแสงตะวันฯ
๐ ราตรีที่แสนหวาน กลิ่นแก้มนั้นมิอาจผัน
กลิ่นหอมอเนกอนันต์ พลันสู่พับสุดนับถวิล
บ่อรักในห้วงโศก แสนวิปโยคเป็นอาจินต์
หยดหยาดหลั่งโรยริน ดุจสิ้นรักกำแพงขวางฯ
๐ ห้วงรักนี้หรือไฉน สุดแสนไกลยากยิ่งสร้าง
เก่าใหม่ใคร่จืดจาง วางให้เจ้าคอยเฝ้าผสม
แพร่พันธุ์ขยายหนอ เฝ้าพะนอใฝ่ภิรมย์
อ้อล้อครองเชยชม เสกสมบ่มน้ำใจนางฯ
๐ ลาแล้วในห้วงรัก แสนประจักษ์ใคร่ขอวาง
แม้นผูกมิเลือนราง สร้างสิ่งช้ำระกำไสว
วางตัวให้โดดเดี่ยว มุ่งเดินเลี้ยวสู่แดนไพร
ขอบฟ้าอันแสนไกล เหตุไฉนดุจคล้ายกำแพง.:-
* แก้วประเสริฐ. *
16 สิงหาคม 2553 19:55 น.
แก้วประเสริฐ
โอ้มหาราช
๐ เชื้อสายจีนยากคว้า ปิ่นทอง
แทนทดแผ่นดินผอง ยากล้ำ
แม่ไทยจึ่งคงสนอง พลิกก่อ ผไทแฮ
เห็นชาติล่มดำคล้ำ ฮึดสู้ม่านขจายฯ
๐ อยุธยาเขตล่มแล้ว เรืองรอง มลายเฮย
ปวงเหล่าน้ำตานอง แผ่นหล้า
ผันผวนป่วนปกครอง แบ่งแยก ก๊กนา
แสนสุดยากไขว่คว้า ม่านย้ำคืนผองฯ
๐ อยู่ตากครองไพร่ฟ้า ผสานสุข
พลไพร่ชนปราศทุกข์ สุดพลิ้ว
จากเมืองเพื่อป้องรุก ผืนแผ่น- ดินแฮ
ปืนใหญ่เป็นเหตุกริ้ว เผ่นล้ำนำทหารฯ
๐ ห้าร้อยนายทหารกล้า ยึดครอง จันแฮ
เรือบกจีนไทยสนอง ตลบล้อม
เจ็ดเดือนฆ่าม่านผอง แตกเผ่น ขยาดนอ
นำทัพฝ่าตลบอ้อม ไล่สิ้นหนีเขจริงฯ
๐ มวลอำมาตย์ชั่วช้า ถูกขจัด
หมายก่อสร้างวิรัช กษัตริย์ย้ำ
วิญญาณไล่เซซัด นอกเขต เก่านา
สุดเนื่องสายจีนช้ำ ยอกเนื้อ หม่นหมองฯ
๐ จึ่งคิดสร้างใหม่ขึ้น ธนบุรี นามเฮย
ตีฝ่าพวกอัปปรีดิ์ กอบกู้
รวมก๊กเหล่าเป็นศรี ขยายแผ่ ไทยแฮ
ต่างสยบมิอาจสู้ เนตรกว้างไพศาลฯ
๐ ต่างชาติเข้านอบน้อม ยุคล
เริงร่าผองไพร่ชน เปล่งล้ำ
จีนไทยต่างปะปน ค้าก่อ เจริญแฮ
เรืองรุ่งผสานไทยค้ำ เลิศฟ้ามาสนองฯ
๐ เมืองธนบุรีล่มแล้ว ตานอง น้ำเฮย
พลไพร่วิปโยคครอง มวลหล้า
เสี้ยนเกิดเพื่อนรักปอง เหตุก่อ จริงนา
คดีหนึ่งโทษไขว่คว้า ฆาตซึ้งก่อเวรฯ
๐ หนึ่งนายมิมากซึ้ง ยอมตาย
จ้อยจึ่งต้องสู่สลาย เทิดฟ้า
สื่อเลื่องฤาพาขยาย สร้างก่อ ใหม่แฮ
มิ่งขวัญฝากสู่หล้า ต่อฟ้าขยาดสยองฯ
๐ โอ้มหาราชสยบฟ้า ครองดิน สิ้นแฮ
อนุสรณ์สร้างยลยิน เกริกก้อง
ดาบแม้หักโบยบิน ฝากสู่ เหนือนา
สิ้นสุดธนบุรีพ้อง ชื่อล้ำไพศาล.:-
* แก้วประเสริฐ. *
13 สิงหาคม 2553 19:22 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงรักฤาไฉน
๐ สนธยาม่านฟ้า คราลับ ล่วงแล
แววสิ่งแพรวระยับ ฟากฟ้า
พราวแสงมิระงับ สรรก่อ มวลแฮ
สิ้นล่วงนี้ผ่านหล้า ฝากครึ้มยังสนองฯ
๐ อกพี่แสนห่วงซึ้ง อนงค์นาง
สิ่งวับจับเลือนราง เมฆคล้ำ
คร่ำครวญจืดจิตจาง หวามก่อ ม่านแฮ
รำลึกแสนฝากย้ำ ซ่านเนื้อนวลครองฯ
๐ ลมโชยบุปผาพลิ้ว ล่องลอย ลับนอ
หอมชื่นราตรีรอย ผ่านแพร้ว
ดวงเนตรคิดย้อนคอย รักซึ่ง มอบแฮ
ดุจหนึ่งดังฝากแคล้ว หลบลี้หนีหายฯ
๐ เหม่อมองธารผ่านน้ำ ไหลริน
วิหคโผโบยบิน พรากแล้ว
ขาวหงส์คู่เย้ายิน ผันสู่ หทัยแฮ
ทรวงอกมิผ่องแผ้ว ชอกช้ำมวลสนองฯ
๐ วจีผ่านโสตถิ์ซ่านซึ้ง ใยยอง มากเฮย
ไออุ่นเคยแนบครอง ผ่านไว้
ณ ที่เก่าหมายปอง คอยอยู่ เดียวนา
หวามวาบดลซ่านไซร้ บัดนี้เลือนหายฯ
๐ ท้าวคางคงพร่ำเพ้อ เดียวดาย
สายธารมิกลับกลาย ซ่านเร้น
หงส์เจ้าเพื่อนมิคลาย รอหยอก จริงนา
ห้วงอกนางซ่อนเน้น รักไว้มั่นเสมอฯ
๐ จวบสิ้นชีวิตแล้ว ยังคอย พี่แฮ
โดดเดี่ยวเดิม ณ รอย ผ่านแล้ว
ก่อนชมม่านผมปอย งามเด่น จริงนา
เคยฝากวจีเพริศแพร้ว ซ่านล้ำหทัยสนองฯ
๐ อกเอ๋ยอกชอกช้ำ น้ำใจ จริงเฮย
คอยสิ่งพราวสดใส ฝากน้อง
เมฆม่านกลับครึ้มใน ทรวงอก จริงแฮ
วายวุ่นสำเนียงก้อง เรียกร้องใฝ่สนานฯ
๐ น้ำตารินหลั่งไว้ หยดหยาด
คอยพี่จนแทบขาด พรากห้วง
เหลือเพียงร่องรอยพาด ปราศจาก กายแฮ
ฝากสิ่งดวงแดล้วง ไขว่คว้ากลับสลายฯ
๐ ความรักยากทอดทิ้ง จากใจ มวลเฮย
แสนฝากสิ่งสดใส เปรียบฟ้า
แปรเปลี่ยนผ่านจากไป เกิดก่อ หมองนา
หมั่นคิดก่อนจะคว้า รสลิ้มพึงสนอง.:-
* แก้วประเสริฐ. *