28 ธันวาคม 2552 20:02 น.
แก้วประเสริฐ
หนุมานะ
บัดนั้น ลูกพระพายฤทธิ์ไกรเรืองศรี
เสร็จศึกอสูรร้ายสุดเปรมปรีดิ์ ขนกุณฑีลุกสั่นภิรมย์
แลสายเดี่ยวสาวน้อยทาบใจ ห้วงหทัยไหวหวั่นเสกสม
หวิวซึ้งใจอยากใคร่เชยชม ยอกรร่ายบ่มมนต์ดลนาง
ฤทธิ์เอ๋ยมนต์กู ผ่านเข้าสู่ดอมดมบ่มสร้าง
ให้นางเจ้าหลงใหลมิวาง เป่าเสกพลางพิชิตจิตอนงค์
นางสายเดี่ยวหลงต้องมนต์ จิตระคนวานรประสงค์
เข้าสวมกอดวายุจำนง พลางปลิดปลงอาภรณ์คลาย
หนุมานเต้นเร่าเคล้าสวมกอด แสนลิงโลดพลอดพริ้งอิงขยาย
ปทุมมาศพุ่มพวงพรรณราย ช่างเฉิดฉายเลิศล้ำนางสวรรค์
โหนกหนั่นนุ่มเหน้านิ่มเอกอุ มุทะลุภิรมย์บ่มพรรณ
ดอมดมกลิ่นเจ้าเฝ้ารำพัน ดาราลับดวงจันทร์จากจร
เมื่อเอยเมื่อนั้น พลันลูกอาทิตย์ทรงฤทธิ์รอน
เห็นหลานรักหายไปทอดถอน องค์สี่กรพร่ำเพรียกตรัสหา
ให้กลัดกลุ้มอุราลุ่มลึก ทรงตรึกลูกพระพายไม่มา
พลางลุกจากพำนักไคล้คลา ตามหลานยาหลงเล่ห์เสน่ห์ไหว
พอพบเห็นอลวนผลักถลำ สาวคะมำตามฤทธิ์ผลักไส
หนุมานเต้นเร่าเฝ้าอาลัย พอแลไปน้าชายหายฉงน
จึ่งอ้อนวอนทำหน้าพิกล มิอาจบ่นทำลุกลี้ลน
เอ่ยอ้อนพร่ำคำหวานระคน โปรดอย่าบ่นมีเรื่องฉันท์ใด. ฯลฯ
* แก้วประเสริฐ. *
25 ธันวาคม 2552 13:18 น.
แก้วประเสริฐ
วันปีเคลื่อนคล้อย
...๏ ปีใหม่ใกล้ย่างเยื้อง รอคอย
ดุจดั่งบุหลันลอย ขอบฟ้า
วันคืนนับลับถอย ลาจาก พสุธา
เกิดก่อกำหนดหล้า พลิกฟื้นฝากสนอง ฯ
ชีวิตเรามากล้วน อนิจจัง จริงเฮย
โลกหลากล้วนทุกขัง ฝากไว้
แปรผันป่วนจีรัง ยากยิ่ง คืนนอ
ดุจดั่งตะวันไซร้ ล่วงสิ้นคอยคืน ฯ
วันเก่าคอยลับแล้ว ใหม่มา
เปี่ยมสุขอย่าโรยลา คลาดแคล้ว
จงค้นสิ่งใฝ่หา ครองครอบ ตนแฮ
ด้วยสิ่งปัญญาแพร้ว เพริดซึ้งตรึงหทัย ฯ
ทุกข์สุขล้วนสิ่งไหม้ หม่นหมอง แน่เฮย
เกิดรักย่อมทุกข์ครอง แน่แท้
สิ้นหวังสิ่งสร้างปอง ผันเปลี่ยน ใจแฮ
ปรับสุขเข้าครองแม้ ฝากไว้คลายสนอง ฯ
ขอผองชนเปี่ยมไว้ เกษมสุข
ค้นใฝ่หาสิ่งสนุก เจิดจ้า
ปัญญาส่งมาปลุก ก่อสิ่ง งามแฮ
ล้างลบทิ้งจากหล้า ฝากซึ้งขจรขจาย ฯ
ดุจเปรียบดีชั่วนั้น เปลี่ยนแปลง มากนา
ใจจิตนั้นย่อมแฝง ฝากแล้ว
ควรคิดครุ่นเหตุแสดง สานก่อ ดีแฮ
ล้างสิ่งทุกข์ให้แคล้ว ผ่านพลิ้วลอยลม ฯ
ปีเก่าพ้นผ่านแล้ว ใหม่มา
หมุนวกเวียนดุจนภา เคลื่อนคล้อย
เปรียบดุจสิ่งมิหา กลับผ่าน มานา
หมั่นฝึกเล็กผสมน้อย สู่ไว้กายเรา ฯ
อดีตให้จงผ่านพ้น มิครอง แนบเฮย
หลบหลีกภัยทั้งผอง เปลี่ยนแล้ว
ใจจะรุ่งเรืองสนอง เกิดก่อ ผสานแฮ
สิ้นทุกข์สุขเพริดแพร้ว เลิศล้ำใจตน๚ะ๛
*แก้วประเสริฐ.*
23 ธันวาคม 2552 14:33 น.
แก้วประเสริฐ
น้ำใจคน
..๏ทุกคนสุดหยั่งรู้ จิตใจ จริงแฮ
แม้แต่ทราบภายใน แม่นแท้
ยังหลากเล่ห์เฉไฉ ยากยิ่ง จริงนา
สุดที่จะมอบแม้ สิ่งซึ้งตรึงหทัย ๚ะ๛
๐สักกวาคนสุดหยั่งรู้จิตใจ
ซึ้งภายในแม้ทราบยังทาบถวิล
ล้วนหลากเล่ห์เฉไฉกระไรกวิน
สุดจะสิ้นมอบแม้สิ่งแท้รัญจวน
แสงสุรีย์ผ่านย้อนสะท้อนกลับ
จันทราลับเหลี่ยมโลกยังโยกสวน
แต่น้ำใจคนเราต้องเฝ้าครวญ
ยากจะหวนคืนกลับสุดลับกาล
มอบสิ่งรักหัวใจมากมายถวิล
ทุกสิ่งสิ้นยากหวนมาชวนสาน
ก่อเกิดกลับพิลาสประหลาดการณ์
สิ่งเนิ่นนานขออภัยฉันไม่คอย
มีแต่หมองฟกช้ำจนคล้ำจิต
เป็นรอยติดตราตรึงล้วนซึ้งถอย
เป็นแผลบาปติดไว้จนคล้ายรอย
จนเป็นฝอยเข้าเลือดเถือเชือดเรา
สิ่งซึ้งตรึงหทัยมลายแล้ว
เสียงเจื่อนแจ้วพับไว้สู่ในเฉลา
หลงโง่งมวนเวียนคิดเปลี่ยนเงา
ยากจะเคล้าคืนกลับพานลับจร
ต่อไปนี้ทางใครแฝงไว้เถิด
จงเลอเลิศประจักษ์อนุรักษ์สอน
ฝากไว้ใต้สำนึกบันทึกตอน
ผ่านเร่าร้อนตกผลึกจนตรึกชา
ขอจดจำมิเลือนสะเทือนแล้ว
จงคลาดแคล้วความหลังครั้งหรรษา
หากหวนกลับอย่าคิดจะสนิทมา
ล่วงจากฟ้าอย่าหมายจะใคร่เอย.
*แก้วประเสริฐ.*
21 ธันวาคม 2552 19:07 น.
แก้วประเสริฐ
สาลิกาหลงรัง
โปรยสำเนียงคร่ำครวญรัญจวนก้อง
ฟากฝั่งสองสายชลระคนวสันต์
น้ำไหลรินครึกโครมแข่งโหมกัน
ดวงตะวันจากจรสะท้อนฤทัย
แว่ววิหคหลายหลากเฝ้าฝากเสียง
พฤกษาเอียงกิ่งก้านกลับผ่านไสว
ร้องเรียกหาคู่ครองครรลองไกล
พลางหลบไศลภูผาเลี่ยงฟ้าพรม
แสงสุรีย์อ่อนล้าต้องคราพราก
เรืองรองจากมืดหม่นระคนโฉม
ประโน้มน้าวเสียงป่ามาประโคม
ส่งแสงโสมลอยล่องจากท้องนภา
สาลิกาคร่ำครวญปั่นป่วนเศร้า
หวานเคยเคล้าห่างไปสุดไกลหา
โดนกลั่นแกล้งฟ้าหลั่งที่พรั่งมา
แสนอ่อนล้าเงียบเหงาสุดเศร้าฤดี
เจ้านกน้อยสะอื้นแตกตื่นสลด
สุดรันทดวาบหวามแม้งามสี
บุหลันเลื่อนผ่านฟ้ายามราตรี
หม่นหมองทวีเพิ่มพูนมิอุ่นใจ
โอ้ยอดรักฉะนี้ดวงฤดีเล่า
เคยโลมเร้ากับเราคอยเฝ้าไหม
มิกลับมาคู่ครองพลิกปองฤทัย
ยิ่งคิดไปหวั่นไหวสู่ในอารมณ์
จวบฟ้าสางสุรีย์แสงสีส่อง
โผกู่ร้องฝากนภากลับคว้าขม
มุ่งคืนกลับรับขวัญกับรันทม
สิ่งภิรมย์เลือนหายมาคลายจร
ดวงใจน้อยสาลิกาพาสลาย
แสนเสียดายสาวเจ้าจนเฝ้าหลอน
ฟ้าดินฝนพร่างพราวสุดร้าวรอน
เหลือแต่คอนสิ้นแล้วเจ้าแก้วใจ.
*แก้วประเสริฐ.*
(ค้นหาภาพสาลิกาไทยไม่ได้ ได้แต่นกสาลิกาเขียวจะอยู่ในเมืองไทยหรือนอกไม่
ทราบครับ)
19 ธันวาคม 2552 16:47 น.
แก้วประเสริฐ
ก้านแก้ว
...๏ เกิดกิจก้านกิ่งแก้ว กอปรกานท์
เกี่ยวกับการก่อกานต์ เกริกกล้ำ
กู่ก้องกลิ่นกร้านกาล กลายกลับ
กล่าวกึ่งกลั่นกรอบก้ำ เกี่ยวก้อยการกรองฯ
กกกอดเกี่ยวกึ่งกล้า กำกวม
กรเกิดก่อก้านกลวม กรีดกั้น
กอบเกลียดกิ่งกรวม กัดก่อ
กางกึ่งก้านกวัดกลั้น กลบกลิ้งกานต์กลอนฯ
แก้วการกวัดกรีดกลิ้ง กร่อนเกียรติ
ก้องกู่กอปรเกิดเกลียด กอบแกล้ว
ก้านกิ่งเกี่ยวกัดเกรียด กลางกุด
เกือบกลบการกั้นแก้ว เกิดกลิ้งกำกวมฯ
กอปรก้านกล้วยก่อก้าน เก็บกด
กอกิ่งกรีดกรกลั้นกรด กาบก้าน
แก้กลกลบเกี่ยวกลด กันกิ่ง
เกิดก่อการกุดกร้าน เก็บกู้กลิ่นกรายฯ
ก็กราดเกลื่อนกลิ่นแก้ว เกิดกานต์
กิ่งก่อเกิดกิจการ แกร่งแกล้ว
กลัดกลุ้มเกี่ยวแก่กานท์ เก็บก่อ
การเกี่ยวเก็บเก็จแก้ว กอบกู้การกลอนฯ
กวัดกั้นการกดกล้ำ กิจกอปร
เกิดก่อกิ่งก้านกรอบ กรีดกั้น
เกื้อเกิดกรุ่นแก้วกอบ ก้านกิ่ง
ก้องกู่เกี่ยวกลบกลั้น กิ่งแก้วกานท์กรองฯ
กอบเกยกองก่ายแก้ว กรุ่นกมล
เกล้าเก็บกลิ่นกึ่งกรน กอดกล้ำ
เกล็ดก้านกลิ่นกรุ่นกม เกิดก่อ
ก้านเก็บเกี่ยวกลางก้ำ กดกลั้นเกรียงไกรฯ
กลิ่นกู้กาพย์กรุ่นเกื้อ กรอบการณ์
กมลก่อกิจกายกานต์ เกล็ดแก้ว
กริ่งแก้วก่อเกรียงกานท์ กลายเก็บ
ก็กู่กิจแกร่งแกล้ว กอบก้องกมลกานท์.๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***