20 มกราคม 2551 17:29 น.
แก้วประเสริฐ
** รักสิ้นจาง **
โอ้ความรักครั้งแรกใยแตกสอง
มิอาจสนองครองไว้จนหมดสิ้น
ประหนึ่งตรึงหทัยเปลี่ยนไร้จินต์
ใฝ่เคยถวิลล่องลอยคล้อยสายลม
ยากจะหวนทวนกลับสิ้นแล้วหนอ
สิ่งยืดขอสัญญามาเปลี่ยนขม
ด้วยอัปลักษณ์ใบหน้ามิกล้าชม
ยากภิรมย์ชมชื่นเหมือนอื่นชาย
คำพูดเจ้าคราวก่อนใยอ้อนออด
หวานคำหยอดมิคิดจิตกลับหลาย
สรรค์สร้างช้ำน้ำใจแสนวอดวาย
วกเวียนคล้ายสายน้ำล้นฝั่งครอง
จะเหลือรักอันใดใฝ่แล้วเอ๋ย
ถูกละเลยรูปลักษณ์มักมาสนอง
ความยากไร้เป็นเหตุเจตนาปอง
เหลือทำนองประจักษ์ฝากห้วงใจ
สิ่งเหลือไว้ดุจเงาใจเศร้าสร้อย
ดุจเดือนคล้ายแลลับนับหวนไห้
ตะวันคล้อยหมดแสงแฝงวิไล
ดาวสิ้นไร้ทางเดินมิเพลินนภา
ฝากชีวันขวัญชีวาที่มาเลิศ
จะชูเชิดดุจชายทั้งหลายหา
แม้นรูปชั่วตัวดำมินำพา
ใฝ่ค้นคว้าเพื่ออยู่สู้ชีวิต
แม้นมิลืมสิ่งรักประจักษ์แรก
อันซึมแทรกสู่ห้วงดวงลิขิต
ถึงซาบซ่านผ่านไว้ยากใคร่สนิท
แปรเปลี่ยนจิตสู่ไว้คล้ายลิดรอน
อันอัปลักษณ์มิงามเด่นล้ำพักตร์
จะภักดีรักไว้อย่าได้หลอน
หัวใจน้อยมอบไว้ไม่ขาดตอน
ไม่แคลนคลอนมอบอยู่แต่ผู้เดียว.
*** แก้วประเสริฐ. ***
18 มกราคม 2551 13:37 น.
แก้วประเสริฐ
** สาวบ้านนา **
ทุ่งพลิ้วไสวใยร้างกลางสิ่งโศก
ข้าวไหวโยกเอนเอียงเคียงสนอง
ยิ้มให้กันเก็บเกี่ยวเคียวประคอง
มือน้อยน้องตาตวัดคล้ายรัดใจ
บัดนี้หนอทุ่งร้างกลางฝุ่นตลบ
ยากจะพบความหวังครั้งสดใส
ได้แต่ยืนเฝ้ามองหมองอาลัย
ใยเลือนหายมิเห็นเช่นดังเดิม
หน้าหนาวแล้วเดือนนี้ที่เก็บเกี่ยว
ปลายรวงเคียวหายลับมินับเสริม
เหลือแต่เพียงมือเดียวเกี่ยวใยเติม
จิตที่เหิมหม่นหมองครองระทม
เจ้าทุยน้อยร้องก้องสนองเรียก
มันพร่ำเพรียกมองไปคงใจขม
เหมือนใจข้าฝากปองต้องระบม
แม้นอกตรมเกี่ยวเก็บเจ็บทั้งทรวง
ดั่งสายยวงฝนมาพาโปรยผ่าน
วิลาวัลย์หนีหายทำให้ห่วง
จนเป็นบ่วงหยาดน้ำย้ำทั้งปวง
อกช่างล่วงคิดคะนึงถึงสาวนา
บัดนี้เล่าเจ้าทุยของข้าเอ๋ย
เหลือบยุงเคยโฉบตวัดคนจัดหา
ต่างทนทุกข์ทรมานรานอุรา
ยากจะมาสุขโขโธ่เวรกรรม
เหลือแต่เจ้าทุ่งนาที่ข้าฝาก
ไม่เว้นจากพังผุประทุขนำ
ซากยังเหลือฝากไว้ให้จดจำ
เคยยิ้มขำย้ำหมายคลายกังวล
หลายพรรษาล่วงแล้วที่แคล้วจาก
เธอได้พรากมิหวนล้วนสับสน
ทิ้งความโศกโยกย้ำช้ำเหลือทน
แหล่งนาพ้นสาวนาข้าหวังคอย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
17 มกราคม 2551 21:59 น.
แก้วประเสริฐ
** เกศินี **
๏ เกศางามหยาดย้อย พรรณราย
ดุจหนึ่งนิลประกาย เจิดจ้า
นวลยลเพ่งพิศพราย แลแม่ จริงนา
อกพี่แทบอ่อนล้า จากฟ้าฤาสรวง ฯ
๏ วาบหวิวไหวสั่นพลิ้ว ลอยลม
หญิงอื่นไป่บ่ชม แม่นแท้
หอมรวยกลิ่นภิรมย์ ล้วนสิ่ง ยวนแฮ
ซาบซ่านจิตใจแม้ ใฝ่ซึ้งพิศวง ฯ
๏ หอมเอยยามเพ่งน้อง ยุพดี
สิเน่หาชาตรี กลิ่นแย้ม
รวยรินรอบฤดี หลงใฝ่ ปองเฮย
เย้ยหยาดแม้กายแก้ม ซาบซึ้งตรึงถวิล ฯ
๏ บุบผายังหลีกลี้ นวลอนงค์
ช่อพฤกษ์แรกแย้มคง ไป่สู้
ล้วนหลบหลีกพะวง มิเท่า นางแม่
ยากยิ่งจะลอบกู้ สู่ไว้เคียงสนอง ฯ
๏ อกเอ๋ยเคยผ่านแล้ว เทวี
ล้วนต่างสยบฤดี ต่อข้า
มาเกิดก่อชีวี เศร้าแก่ ใจแฮ
คงแต่ความอ่อนล้า โศกซึ้งรัญจวน ฯ
๏ เกศินีพี่แพ้ นวลนาง แน่เอย
แม้กลิ่นกายรอบวาง บ่สู้
ขอเพียงฝากรอยจาง ฝังสู่ ใจแม่
จิตพี่ไป่รอบรู้ แน่งน้องครองสรวง.๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***
16 มกราคม 2551 21:49 น.
แก้วประเสริฐ
** วิลาวัณย์ **
วิภูษณะแวววามงามเฉิดฉาย
ยลพิไรแซ่ซ้องก้องประสาน
นฤมลยลพักตร์ลักษณ์ตระการ
ฉวีวรรณพรรณรายฉายแสงไกล
วิเมลืองประเทืองไว้ใสสว่าง
แสนกระจ่างดั่งแขแผ่ไสว
พิลาสโฉมดุจรัตน์ตวัดใจ
ระรื่นใสสว่างกระจ่างภิรมย์
สมฤดีเพียงยลระคนจิต
ดั่งจะลิดภายในใสขื่นขม
ดุจกระต่ายชะแง้เฝ้าแลชม
สุดเสกสมเคียงใกล้มิได้ปอง
หอมระรินกลิ่นผกามานฤมิต
ประพาฬพิศป่วนไว้วิไลสนอง
พิลาสพักตร์ดุจมณีศรีเรืองรอง
งามครรลองอ่อนไหวไสวเมฆินทร์
พลิ้วละล่องยุรยาตรงามหยาดยิ่ง
ล้วนทุกสิ่งแพรวสะพรั่งหวังถวิล
พริ้งเพริศพรายวิไลครองต้องกวิน
ยามยลจินต์หทัยหมองต้องอัคนี
เปรียบสินธุ์กระแสไสวสู่ชายหาด
งามพิลาสยากปองหมองโฉมศรี
เหลือแต่เงาเคล้าเยี่ยมเปี่ยมชีวี
ดั่งอัญมณีดาวน้อยคล้อยลาเลือน.
*** แก้วประเสริฐ. ***
15 มกราคม 2551 23:36 น.
แก้วประเสริฐ
** สักการบูชาวันคุณครู **
ปาเจราจริยาโหนตุ
คุณนุตะรานุสาสักการ
ข้าขอนอบน้อมบูรคณาจารย์
ผู้ทรงคุณอนันต์อเนกนับวิชา
ฝึกหัดกอขอพอได้ขีดเขียน
พร่ำย้ำเพียรมุ่งมั่นหมั่นศึกษา
มอบความรู้สู่ทั้งธรรมจริยา
เที่ยวค้นหาคุณค่ามาย้ำวอน
ไม่เลือกหน้าชนชั้นแลวรรณะ
แม้นกักขฬะยังรักมักสั่งสอน
ให้อยู่ศีลแห่งธรรมนำขั้นตอน
ไม่ตัดรอนสอนให้เป็นคนดี
ครูมอบให้ด้วยรักปรารถนา
มอบวิชาศิษย์ไว้ได้ศักดิ์ศรี
ใช้ปัญญาฝ่าฟันปัญหามี
ให้เรืองทวีเป็นศรีวงศ์ตระกูล
วันครูพรุ่งนี้หนอขอคาราวะ
พระคุณจะเปรียบได้คล้ายแสงสูรย์
ส่องจำรัสวิวัฒนาข้าเทิดทูน
เกื้อการุนหนุนปัญญาพาวิไล
ข้าขอน้อมวันทาบูชาไหว้
ด้วยพุ่มไม้แห่งชีวิตวิจิตรใส
สักการบูชาครูผู้พรรณราย
ศิษย์น้อยถวายคุณครูผู้การุน.
*** แก้วประเสริฐ. ***