30 สิงหาคม 2550 12:07 น.
แก้วประเสริฐ
** กลิ่นขจร **
๏ ลมโชยพัดผ่องพลิ้ว กลิ่นขจร
เอวโอบนวลบังอร แนบข้าง
ปทุมมาศส่งยวนวอน ใจสู่ นางแฮ
หลงกลิ่นพวงสล้าง แนบไว้ในทรวง ฯ
๏ อกเอยใยเร่าร้อน นางไกล
แสนสุดเสน่ห์อาลัย พุ่มฟ้า
ฝากรินกลิ่นทรวงใน ผุดผ่อง จริงนา
เก็บกดดวงใจข้า เปลี่ยวว้างห่างไกล ฯ
๏ บรรถรอ่อนกระด้าง ขาดแล
ยังฝากส่งกระแส สลดไว้
ยิ่งหวนคิดถึงแม่ เสริมสู่ ใจเฮย
ใยชอกปั่นป่วนคล้าย ลิ่วลี้หนีสวรรค์ ฯ
๏ วิจิตรเพียงแผ่วพริ้ง ลอยลม
หัวอกข้าระบม หม่นไหม้
มาดแม้นจักขื่นขม ฝากสู่ นวลแม่
เจ็บปวดยามยากไร้ หมดสิ้นทางเดิน ฯ
๏ หอมเอยหอมกลิ่นเจ้า มิจาง
คงหมดสิ้นทุกทาง แน่แล้ว
ใจของพี่อ้างว้าง ถึงแม่ นางแฮ
เหลือกลิ่นหอมเพริศแพร้ว ฝากไว้ใยสมร ฯ
๏ รอนรอนลับหลีกลี้ หทัย
ห้วงกลับดึงภายใน ว่างเว้น
กลิ่นแก้มอกวิไล เคียงคู่ ใจเฮย
เหลือแต่เพียงซ่อนเร้น เด่นสล้างฤทัย ฯ
๏ กุหลาบน้อยเหี่ยวแห้ง แจกัน
ยากจักกลับมีวัน แจ่มเคล้า
โลมเล้าลิดเสกสรร เหลือแต่ เงาแฮ
อกพี่แสนสุดเศร้า เก็บไว้ในทรวง. ฯ
๏ วิงวอนใจแม่น้อง คนงาม
หวนกลับยังเขตคาม เถิดเจ้า
หยาดรินหยดวาบหวาม ป่วนปั่น พี่นา
หอกกเคยเคียงเฝ้า กอดเนื้อแนบสรวง.๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***
29 สิงหาคม 2550 09:55 น.
แก้วประเสริฐ
** เสียดาย **
แสนหวงเอยกลิ่นไร้ในรำเพย
ล้วนหอมเชยชวนชิดวิจิตรใส
หยาดน้ำรินจากฟ้าสุลาลัย
หยดหลั่งไว้ลอยลมรันทมใจ
ต่อแต่นี้เหลือไว้เพียงในฝัน
วิลาวัณย์พลันสิ้นโรยรินไสว
ซ่อนเงื่อนงำรำลึกตรึกห้วงใน
แปรผันไกลไร้สิ้นจินตนา
โอ้อนาถแล้วหนอพอเสกสรร
พลิกหอมนั้นโหยหวนรัญจวนหา
เปรียบสวรรค์กลั่นแกล้งในพริบตา
เย้ายวนพาลอยคว้างกลางสายลม
เสน่หาวางไว้แล้วใยร่วง
เสมือนห้วงฤทัยฝากใยขม
หอมเย็นเยือกลงไว้ในระทม
สิ่งภิรมย์คล้ายเงาเฝ้ารัญจวน
กระแสลมหมุนไปดวงใจพราก
วิจิตรฝากตราตรึงซึ้งกำสรวล
กลิ่นหอมแย้มย้อมนำย้ำมาชวน
ห้วงปั่นป่วนแฝงสิ้นอจินไตย
เคยดอมดมชมผกามาร้างจาก
ล่วงลงพรากกลางธารอันสดใส
ละลิ่วคว้างลอยลับแวววับไป
กลิ่นก็ไร้สิ่งเหลือเจือกลางนที
เปรียบใจเราเฝ้าหวนสิ่งเคยคิด
มารอนลิดผลักไสไร้ศักดิ์ศรี
จนเคว้งคว้างสร้างไว้หทัยมี
ต่อแต่นี้เพียงฝันที่สรรค์วาง
คล้ายรำเพยเลยลับมิกลับหวน
เสน่ห์ยวนชวนหามาสะสาง
ลอยลับเลี่ยงเบี่ยงไว้สู่หนทาง
ฤทัยร้างเสียดายคล้ายมืดมน.
*** แก้วประเสริฐ. ***
27 สิงหาคม 2550 13:27 น.
แก้วประเสริฐ
** ตัวเรา **
ตัวของข้าอย่ามาบัญชาสวรรค์
แม้นผูกพันจิตไว้อย่าใคร่เกี่ยว
มาลดเลี้ยวเรื่องคิดจิตผู้เดียว
ถึงจะเปลี่ยวหัวใจมิได้ตรอง
หากอินทร์พรหมยมฟ้ามหาสมุทร
มิอาจฉุดเรื่องข้าอย่ามาสนอง
เรื่องเช่นนี้ชีวิตจิตใฝ่ปอง
มิเรืองรองสะเออะเลอะเทอะกัน
อันตัวเราใครนี้มิอาจสั่ง
แม้สิ้นหวังเพียงใดไม่กระสัน
อย่าเยาะเย้ยวาจาพล่าชีวัน
สิ่งหวังนั้นจะลอยคล้อยตามลม
ข้ามิยุ่งเรื่องเจ้าอย่างเฝ้าเอี่ยว
ถึงหวานเปรี้ยวเพียงใดแม้นใคร่ขม
ก็เป็นสิทธิ์เรื่องนี้ที่ตรอมตรม
อภิรมย์ปล่อยไว้ให้เลื่อนลอย
เรื่องของเราอย่างไรใครอย่ายุ่ง
มิอาจผดุงมุ่งหวังพลั้งสุดสอย
ข้าลิขิตตัวไว้มิให้คอย
แม้นเป็นรอยหยาดไว้ในความจำ
โปรดเถอะหนอขอเพียงอย่ายุ่งนะ
วาจาจะเฉือนใจสู่ให้ช้ำ
ทั้งหลอกลวงร้อยเล่ห์เซคะมำ
อย่ามาพร่ำคำหวานซ่านฤดี
แม้นจะสร้างสวรรค์อันเฉิดฉันท์
แล้วฆ่ากันจนสิ้นหมิ่นศักดิ์ศรี
หัวใจข้ามิยุ่งมุ่งชีวี
เจ็บครั้งนี้ฝากไว้ให้ลาเลือน
พอเสียเถิดกันทีที่สนอง
ฝากสิ่งปองเหลือไว้ในเชือดเฉือน
หยดน้ำตาของข้าคอยมาเตือน
หยาดแปดเปื้อนหัวใจให้ระบม.
*** แก้วประเสริฐ. ***
24 สิงหาคม 2550 14:02 น.
แก้วประเสริฐ
** นางโลม **
งามพริ้งพรายในลักษณ์ยากหาเทียบ
แม้นจะเปรียบดุจเทวีศรีอัปสร
จุติจากชั้นฟ้าวัชชะจร
กรรมบังอรเก่าวางยากสร้างตน
กำเนิดเป็นอิสตรีที่ยากยิ่ง
หมุนระวิงเข้าเปลี่ยนเวียนสับสน
ด้วยรูปงามทรามสงวนล้วนแยบยล
วกระคนดุจกังหันพลันต้องลม
วิถีชีวิตยากไร้ให้ได้สรรค์
เคราะห์วลัญช์ปริศนามาเสกสม
บ่มชีวิตลิลิตสร้างอภิรมย์
สิ่งหวังชมอนงค์นาถบาดฤดี
หลากวสันต์ผันเวียนไปจากฝัน
ที่เสกสรรหนทางกลางวิถี
เปลี่ยนรองรับพินิจผิดวิธี
เพื่อชีวีแก่น้องผองครอบครัว
หยาดน้ำรินรดพาดสาดอกเอ๋ย
แม้นมิเคยหมองช้ำต้องทำชั่ว
สู่หนทางสรรค์หาพาเมามัว
ต้องเย้ายั่วกายาระอาใจ
โถรู้ไหมหทัยแทบจะขาด
พลีสวาทเรือนร่างสร้างสดใส
แต่จิตเราซิหนอท้อเพียงใด
ปรนเปรอไว้ระทมขมวิญญาณ์
ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามประณามชั่ว
สิ่งเกลือกกลั้วหาใช่เพราะใจหา
เพียงแต่คิดจะสร้างหวังเงินตรา
หาใช่ว่าหฤทัยใคร่หมายปอง
พอทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางดี
ผันฤดีใฝ่นำตามใจสนอง
พลิกแปรผันชีวิตตามครรลอง
ผ้าขาวกรองกายาสู่พระธรรม.
*** แก้วประเสริฐ. ***
20 สิงหาคม 2550 10:18 น.
แก้วประเสริฐ
** วิลาวัณย์ **
ดุจแดนสรวงฟากฟ้าวิลาสสวรรค์
งามเลิศพรรณนางหนึ่งซึ้งอัปสร
ย่างเยื้องกรายพสุธาแม่งามงอน
เด่นอรชรล้ำพักตร์เลิศลักขณา
เปรียบประหนึ่งจุติจากแมนสรวง
ยามพุ่มพวงล่วงธารพลันหรรษา
คล้ายหงส์เหิรโรยรินกลิ่นกายา
หอมนวลสง่าพินิจฝากจิตจำ
ยิ่งอรชรร่อนร่างกลางไพรพฤกษ์
ดั่งมนตราผนึกซึ้งตรึงงามขำ
เสน่ห์พราววาววับว่ายเวียนนำ
อกต้องพร่ำมิพรากจากร้างไกล
ประกายแก้วแวววับจับเรือนร่าง
เปรียบสล้างเรืองรองผ่องสุกใส
เพริศระยิบส่งร่างสร้างไฉไล
งามตรึงใจให้ผนึกรำลึกครวญ
แม้นนางฟ้าปรากฏเข้ามาเปรียบ
มิอาจเทียบพียงเจ้าเฝ้าส่งสรวล
จำเรียงแผ่วแว่ววจีแม่ศรีนวล
พร่ำโหยหวนรำพึงคิดถึงนาง
ยอดหญิงเอ๋ยซึ้งฤทัยใยหวนคิด
อยากฝากจิตลงใคร่ไว้สะสาง
สู่ตรงทรวงล่วงลงตรงกึ่งกลาง
มิอาจสร้างแสดงออกนอกฤทัย
เพียงแต่มองปองร่างสร้างไหวหวั่น
ซึ้งอนันต์พินิจวิจิตรไฉน
นัยน์ตาเหม่อเพ้อมองปองไฉไล
เพียงแต่ได้เงาทาบอาบเรืองรอง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
( ภาพของคุณ white rose)