28 มีนาคม 2550 10:15 น.
แก้วประเสริฐ
** กุหลาบแสนสวย **
บันทึกฝากจากเพื่อนซ่านสะท้านจิต
สิ่งลิขิตดำรงอักษราสู่พาฝัน
เป็นเรื่องดีของหญิงหนึ่งซึ่งกำนัล
ฝากสิ่งนั้นลงไว้สู่ในแผ่นดิน
หล่อนชื่อโรสหรือกุหลาบช่างซาบซ่าน
สร้างตำนานให้คนเรามิเศร้าสิ้น
สรรค์ชีวิตสร้างครรลองสนองชีวิน
หยาดน้ำรินรดหลั่งทั้งหญิงชาย
ระรวยรินกลิ่นหอมย้อมนฤมิต
ช่างหวานสนิทสีสันต์อันเฉิดฉาย
อวลกุหลาบแสนสวยด้วยกระจาย
อุทาหรณ์ไว้ในโลกามาคิดกัน
ท่านทั้งหลายลองอ่านแล้วสรรค์สร้าง
ไม่อ้างว้างทางชีวิตไม่คิดสั้น
สนุกสนานร่าเริงบันเทิงกัน
เป็นกำนัลหญิงหนึ่งซึ่งชื่อโรส
หากดีแล้วเพียงขอส่งต่อเพื่อน
เพื่อจะเฉือนขี้เกียจเรียนเขียนโกรธ
อายุนั้นไม่สำคัญจะพลันโรจน์
อย่าได้โทษตัวแก่แม้ครรลอง
หอมเอยหอมกลิ่นรวยรินชาติ
กุหลาบวาดสีสันต์สิ่งสรรค์สนอง
แม้นจะเหี่ยวลาลับดับหมายปอง
เสียงเรียกร้องอบอวลล้วนเชยชม.
*** แก้วประเสริฐ. ***
วันแรกที่พวกเราเริ่มการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น
อาจารย์ของเราได้เข้ามาแนะนำตัว
และบอกให้พวกเราทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อน
ผมยืนขึ้นแล้วมองไปรอบๆ และมีมือๆ หนึ่ง เอื้อมมาจับบ่าของผม
ผมหันไปพบกับหญิงชราร่างเล็ก ผิวหนังเหี่ยวย่น ที่ส่งรอยยิ้มอันเป็นประกายมาให้ผม
รอยยิ้มนั้นทำให้เธอดูสดใสอย่างยิ่ง
หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นว่า
“สวัสดี รูปหล่อ ฉันชื่อโรส อายุแปดสิบเจ็ดแล้ว มาให้ฉันกอดสักทีสิ”
ผมหัวเราะกับท่าทางของเธอ และตอบอย่างร่าเริงว่า
“แน่นอน ได้สิครับ ” แล้วเธอก็กอดผมอย่างแรง ผมถามเธอว่า
“ทำไมคุณถึงมาเรียนมหาวิทยาลัย เอาตอนที่อายุน้อยและไร้เดียงสาอย่างนี้ละ.. ”
เธอตอบด้วยเสียงปนหัวเราะว่า “ฉันมาหาสามีรวยๆ ที่ฉันจะได้แต่งงานด้วย แล้วมีลูกสักสองสามคน... ”
ผมขัดจังหวะเธอ โดยถามว่า “ไม่เอาครับ.. ถามจริงๆ ” ผมสงสัยจริงๆ ว่า อะไรทำให้เธอมาเรียนที่นี่ตอนที่อายุขนาดนี้ และเธอตอบว่า
“ฉันฝันมานานแล้ว ว่าฉันจะได้ปริญญา และตอนนี้ ฉันก็กำลังจะได้ปริญญาที่ฉันฝัน”
หลังเลิกเรียนวิชานั้น เราเดินไปที่อาคารสโมสรนักศึกษาด้วยกัน และนั่งกินชอคโกแลตปั่นด้วยกัน เรากลายเป็นเพื่อนกันในทันที
ตลอดสามเดือนหลังจากนั้น เราจะออกจากชั้นเรียนพร้อมกัน และจะไปนั่งคุยกันไม่หยุด ผมนั้นประหลาดใจเสมอเมื่อได้ฟัง “ยานเวลา" ลำนี้
แบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ของเธอให้กับผม
ตลอดปีนั้น โรสได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยของเรา และเธอนั้นจะเป็นเพื่อนได้กับทุกคนในทุกที่ที่เธอไป เธอรักที่จะแต่งตัวดีๆ
และดื่มด่ำอยู่กับความสนใจ ที่นักศึกษาคนอื่นๆ มีให้กับเธอ เธอได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
เมื่อถึงตอนสิ้นสุดภาคการศึกษา เราได้เชิญโรสให้มาพูดที่งานเลี้ยงของทีมฟุตบอลของเรา
ผมไม่เคยลืมเลยว่า เธอได้สอนอะไรให้กับเรา ... พิธีกรแนะนำตัวเธอ และเธอก็เดินขึ้นมาที่แท่น
ตอนที่เธอกำลังเตรียมตัวที่จะพูดตามที่เธอตั้งใจนั้น
เธอทำการ์ดที่บันทึกเรื่องที่เธอจะพูดตกพื้น เธอทั้งอาย ทั้งประหม่า
แต่เธอโน้มตัวเข้าหาไมโครโฟนแล้วบอกว่า
“ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันซุ่มซ่าม ฉันเลิกกินเบียร์มาตั้งนานแล้ว
แต่วิสกี้พวกนี้มันแรงจริงๆ... ฉันคงจะเอาบทของฉัน
มาเรียงใหม่ไม่ทันแล้วงั้นฉันก็คงได้แค่บอกเรื่องที่ฉันรู้ให้กับพวกคุณก็แล้วกัน”
พวกเราทุกคนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ตอนที่เธอเริ่มต้นว่า
“พวกเราทุกคนนั้น ไม่ได้หยุดเล่นเพราะเราแก่หรอก แต่เราแก่เพราะว่าเราหยุดเล่น
ที่จริงแล้วมีเคล็ดลับสู่การที่จะยังหนุ่มสาวอยู่เสมอมีความสุข
และประสบความสำเร็จอยู่ 4 ประการ
1) พวกคุณจะต้องหัวเราะ และมีเรื่องสนุกๆ ขำขันทุกวัน
2) พวกคุณจะต้องมีความฝัน เมื่อไรก็ตามที่คุณสูญเสีย ความฝันของคุณไป คุณจะตาย มีคนมากมายที่ยังเดินไป เดินมาอยู่ทั้งๆ
ที่ตายไปแล้วและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายไปแล้ว.....
3) การที่คุณ “แก่ขึ้น” กับ “เติบโตขึ้น” นั้นมันต่างกันมาก ถ้าคุณอายุสิบเก้า แล้วนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ปีหนึ่ง
และไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตลอดทั้งปี คุณก็จะอายุยี่สิบ
ถ้าฉันอายุแปดสิบเจ็ด แล้วนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยตลอดทั้งปี ฉันก็จะอายุ
แปดสิบแปด ทุกๆ คนนั้นจะแก่ขึ้น ทั้งนั้น
ไม่จำเป็นต้องอาศัยความสามารถอะไรเลย
ประเด็นของการ เติบโตขึ้น นั้นอยู่ที่การแสวงหาโอกาสในการเปลี่ยนแปลง
4) อย่าทิ้งอะไรไว้ให้เสียใจภายหลัง คนสูงอายุส่วนใหญ่นั้น ไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว แต่มักจะเสียใจกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ
คนที่กลัวความตายนั้น มีแต่คนที่ยังมีสิ่งทีต้องเสียใจค้างอยู่ "
เธอจบการพูดของ เธอด้วยการร้องเพลง “The Rose” อย่างกล้าหาญ
และเธอได้แนะให้พวกเราทุกคนศึกษาเนื้อร้องของเพลงนั้นและเอาความหมายเหล่านั้นมา ใช้กับชีวิตประจำวันของพวกเรา
เมื่อสิ้นปีการศึกษานั้น โรสได้รับปริญญาที่เธอได้เริ่มฝันไว้เมื่อนานมาแล้ว
หนึ่งสัปดาห์หลังจบการศึกษา โรสจากไปอย่างสงบ
เธอนอนหลับไปและไม่ตื่นขึ้นอีกเลย
นักศึกษากว่าสองพันคนไปร่วมพิธีศพของเธอ เพื่อแสดงความเคารพ ต่อหญิงชราผู้วิเศษ
ผู้ได้สอนให้พวกเขาได้รู้ ด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ..........ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่จะเป็นทุกสิ่งที่คุณสามารถเป็นได้
เมื่อคุณอ่านเรื่องนี้จบลง กรุณาส่ง คำแนะนำอันดีเยี่ยมนี้ต่อให้กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ พวกเขาคงจะชอบมัน
เรื่องราวเหล่านี้ส่งต่อกันมาเพื่อระลึกถึงหญิงชราที่ชื่อ โรส
จงจำไว้ว่า
"การแก่ขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่การเติบโตขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เราเลือกได้
เราอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เราได้รับ แต่เราจะมีชีวิตอยู่เพราะสิ่งที่เราให้ไป"
*************************************************
ของฝากจากคุณ แหม่ม แด่ แก้วประเสริฐ.
27 มีนาคม 2550 14:32 น.
แก้วประเสริฐ
** มาณวิกา **
งามลออนวลนางท่ามกลางหมอก
สู่เย้าหยอกล้อกระซิกระริกสวรรค์
งามวิจิตรเฟื่องฟ้าไขว่คว้าอนันต์
รัตติกาลสรรค์สมัครมิพักวลัย
สิระเคล้าลาวัลย์แห่งจันทร์สล้าง
พราวสว่างกลางพฤกษ์รำลึกสมัย
อติกาลผ่านสนิทหวนคิดไป
โน้มหทัยใฝ่รำพึงคำนึงนวล
วิจิตรพราวขาวปทุมเฝ้าสุมจิต
หอมสนิทยวนฤทัยสุดให้ป่วน
กลิ่นเจ้าพราวสวาทพาดรัญจวน
อุทัยหวนชวนสว่างเฝ้านางลออ
จันทร์เจ้าเอ๋ยราตรีนี้มิมีแล้ว
สิ่งเพริศแพร้วแววหายเสียดายหนอ
เหลือเพียงพุ่มสุมทุมมารุมพะนอ
เพียงแต่พ้อสุดสงวนแม่นวลใย
สายเอยสายใยหฤทัยเคล้า
กำจายเย้าราตรีแม่ศรีไสว
แม้นเมฆบังยังแสงสิ่งแฝงใจ
เหตุไฉนให้ตรึกรำลึกคะนอง
โอ้ราตรีนี้ศศิธรมิผ่อนพัก
วลัยลักษณ์สุกใสวิไลสนอง
ปองดาริกาลาวัณย์วลัญช์จอง
วิวัฒน์ผ่องต้องฤดีวลีกำจาย
สู่ในทรวงห้วงลึกบันทึกฝาก
แต่มาพรากกลิ่นไว้สุดไร้ฉาย
มาณวิกาเคยสนองผุดผ่องกาย
แผ่วพริ้งขจายเชยชิดวิจิตรตรึง
ฟากฟ้าเผยเฉลยไว้หทัยหม่น
วิจิตรปรนเปรอสิ่งเฝ้าอิงซึ้ง
ถึงศศิธรย้อนนวลเฝ้าหวนรำพึง
สุดคำนึงถึงนารีแม่ศรีอำไพ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
25 มีนาคม 2550 12:08 น.
แก้วประเสริฐ
** กาลแห่งเวลา **
วิวัฒน์กาลผันเปลี่ยนวนเวียนว้าง
โอภาสสร้างวกวนระคนสนอง
สิ่งทุกข์สุขถูกสลัดตัดใยยอง
ปวงทั้งผองหมุนสลับดับวันวาร
สรรค์ชีวิตเปลี่ยนแปลงแฝงมิสิ้น
ดุจดั่งสินธุ์ลมไฟดินไพศาล
ช่างร้อนรุ่มแผ่นดินถิ่นระราน
อุดมการณ์หันเล่ห์เพทุบาย
อ้างลวงหลอกศาสนาตำรากล่าว
เสริมแต่งเข้าเพื่อสนองคันฉ่องฉาย
เล่ห์เหลี่ยมหลอกยอกย้อนซ่อนคมคาย
หวังทำลายความคิดติดพงศ์พันธุ์
อ้างแยกแยะกำหนดวางกฎไว้
เสริมหมู่ให้เป็นใหญ่ในสิ่งฝัน
วางอุบายใช้หลอกบอกสัมพันธ์
ประวัติศาสน์นั้นอิงอ้างสร้างมี
วารร่วมรักหักสิ้นแผ่นดินพินาศ
เคยเป็นญาติทุกข์สุขเกษมศรี
แยกแบ่งแตกวางไว้ไร้ไมตรี
สิ่งเคยมีเหลือทุกข์คลุกน้ำตา
โอ้อนาถชาติไทยให้สิ่งเอื้อ
จุนเจือเผื่อแบ่งปันสรรค์สร้างหา
ร่วมเป็นเผ่าพงศ์พันธุ์แต่กาลมา
ทั้งปู่ย่าตายายเลือดเหือดแผ่นดิน
บัดนี้หลานเหลนโหล่นมาโยนทิ้ง
แยกแบ่งดินเผ่าพงศ์หลงเสียสิ้น
อ้างศาสนาเชื้อสายมลายชีวิน
สร้างแผ่นดินทำลายในคำยอ
เลิกเถิดหนาแคลงใจที่ใครชัก
สมานสมัครรักกันไว้เชื่อในพ่อ
เขาจับแพะชนแกะแนะสอพลอ
จะหัวร่องอหายควายสนสะพาย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
20 มีนาคม 2550 19:57 น.
แก้วประเสริฐ
** มนต์เสน่หา **
โอมสิทธิอิทธิอาจาริยัง
อัตตานังมะนุสามะอิตถี
เมตายะสัพพะบุรุษปรานี
เทวีมณีเทวาจะพรหมา
ยักขาอสุรีมุนีฤาษีคนธรรพ์
ครุฑอรัญนาคาวนิดา
มัคคะนะฤทธิ์ปติกามา
สัพพะสิเน่หาอัตตะวาโย
โสตเมมะโนวิชญะวจะ
สิทธิพะลังคชาพยัคโฆ
นารีวิริยะรูปะอัตตาโน
อิทธิปัญโญอิตถีสวาหะฯ
มนต์นี้มีไว้ใครเรียนรู้
ท่องบ่นเช้าตรู่สู้วิริยะ
ทั้งเช้าค่ำกลางวันด้วยฉันทะ
ก็จะชนะใจคนจนเมตตา
พอออกจากบ้านกราบเมียแลผัว
อีกทั้งพ่อแม่ผัวตัวจะเสน่หา
พอเข้าบ้านกราบอีกจะดีนา
ซื้อของมาฝากไว้ให้ประจำ
อยู่ข้างนอกอ่อนน้อมเขาย่อมรัก
อย่าทำเป็นรู้มากจะหักช้ำ
เป็นคนโง่โปกฮาผ่าระกำ
จงอย่าย้ำทำสิ่งที่เกินเลย
สู้อมเปรี้ยวกินหวานวันข้างหน้า
รอเวลาสุกหง่อมแล้วจงเสวย
ทั้งสาวแก่แม่หม้ายบุรุษจงเคย
จงอภิเปรยในสิ่งซึ้งเพื่อตรึงใจ
โอมมะรึกกึกก๋อยความหงอยสิ้น
มันโบยบินหลีกหนีศรีสดใส
สิเน่หายามนต์ฝนมิคลาย
เมตตาไว้สร้างผลจนคนฤา.
*** แก้วประเสริฐ. ***
19 มีนาคม 2550 10:01 น.
แก้วประเสริฐ
** วิจิตรนฤมิต **
นฤมลดลสวาทพิลาสเฉวียน
ยลแย้มเวียนมธุรสสดหอมหวล
ยวนสนิทพิศวาสวิลาสอบอวล
อกปั่นป่วนล้วนตะลึงซึ้งหทัย
วิจิตรพราวเย้ายายีศรีเฉวียง
ดั่งฟ้าเอียงเพียงพิศจิตสั่นไหว
ใสสว่างกลางสุมทุมพุ่มไฉไล
ซ่านฤทัยใฝ่ดำรงคงเคล้าเคียง
เพียรลดาพะว้าภวังค์ระวังแล้ว
เนินเพริศแพร้วแววสถิตปิดเฉลียง
เพียงกลิ่นหอมย้อมหทัยให้เอียง
อาภรณ์เบี่ยงเสียงสั่นพรั่นภิรมย์
สิ่งปรารถนาวารุณีมิเพียงฟ้า
มนต์เสน่หาครานี้ฤดีเหมาะสม
บ่มภายนอกออกในส่ายอารมณ์
วิกาลชมสมฤทัยสุดใคร่รัญจวน
ฉวีวิไลสุนทรีศรีแห่งเพริศ
สุดงามเลิศเฉิดขจายฉายสิ่งหวน
ล้วนมหิทธิเบญจางค์สล้างนวล
แสนเย้ายวนชวนรำพึงตะลึงแล
แม้เฉวียนเปลี่ยนรสจรดสีสัน
สุดสะท้านผันวทัญญูสู่กระแสร์
แปรบริพัตรจัดวิลาสสาดดวงแด
โน้มกระแสร์แห่งวารุณีศรีอำไพ
สายใยล้อมย้อมผนึกตรึกวิจิตร
สร้างสนิทติดพิศสวาทวิลาสสวาย
วนเวียนแว่วสำเนียงเข้าเคียงกาย
แวววับใสในเสนาะเจาะบรรจง
หอมพะยอมกล่อมผกาผวาเย้า
เฝ้าโลมเล้าเคล้าวิจิตรพินิจหลง
พะวงสวาทวาทะสถิตจิตดำรง
เอื้ออนงค์ส่งวิลาสสาดสู้เดือน.
*** แก้วประเสริฐ. ***