31 สิงหาคม 2549 12:42 น.
แก้วประเสริฐ
วิจิตรทัศนา
วงจรมนุษย์สุดแปลกมิแยกไว้
จะเห็นได้เสพย์สรรค์สู่หรรษา
หันเหไว้แต่เรื่องประเทืองกามา
มุ่งมั่นหาใฝ่สนองเพื่อครองฤดี
คลุกเคล้าปนวนจิตติดในสุข
พอเห็นทุกข์ปลุกปั่นจะพลันหนี
สร้างสิ่งหลงในรสปรากฏชีวี
หาแสงสีฉวีวิไลมาใฝ่ครอง
ติดซึ้งตรึงอารมณ์บ่มลงจิต
ผันชีวิตเพียงภาพที่ฉาบสนอง
มุ่งไขว่คว้าสิ่งงามเมื่อยามปอง
มิหันมองรูปกายอยู่ภายใน
จึงเสนอสิ่งนี้ไว้มาให้เห็น
ดุจเช่นอุทาหรณ์ตอนสดใส
สิ่งภายนอกอร่ามงามวิไล
สิ้นสลายดูภายในให้เต็มตา
ความวิจิตรพิสดารนั้นถูกสร้าง
ภายในดั่งรูปกายที่ใฝ่หา
ยามไร้รสหมดสวยในกายา
ยังไขว่คว้ามาหรือจะถือเอา
นี่คือจริงสิ่งแท้มิแปรเปลี่ยน
จะวนเวียนภพชาติหากขลาดเขลา
ยังหลงติดรูปกายไม่บรรเทา
ก็จะเข้าวัฏฏะสารไม่ผันแปร.
*** แก้วประเสริฐ. ***
29 สิงหาคม 2549 12:46 น.
แก้วประเสริฐ
จิตต์เวคิน
เวสารัชมัดรักมักอาจหาญ
ล้วนจัดสรรวิภาดามาเฉลย
แทรกซ้อนหาพรรณนาอภิเปรย
ปราโมทย์เลยจรัสผูกมัดจินต์
หวานซึ้งจึงวิภัชแล้วจัดจิต
วาบไหวคิดพิศเห็นดุจเช่นศิลป์
เย็นยะเยือกฟุ้งซ่านวกผ่านกวิน
กระแสสินธุท่วมท้นสู่ล้นไว้
อ่อนไหวโชยโปรยพลิ้วระลิ่วหวน
วิกฤติล้วนปรวนแปรถึงแม้ใส
ยังจำแนกแฝงไว้จากภายใน
วิจิตรกลายเป็นทุกข์เข้ารุกครอง
ดุจน้ำผึ้งตรึงไว้ในห้วงพิษ
หวานซึ้งจิตสู่ไว้ภายในสนอง
อุกฉกรรจ์ผันเปลี่ยนวกเวียนปอง
ฤดีต้องหมองหม่นปนน้ำตา
ด้วยเวคินจินต์งามอร่ามผ่อง
มิใฝ่ตรองเพียงแลแล้วแผ่หา
อินทรีย์สังวรจับต้องสนองมา
หลงไขว่คว้ามาสู่เป็นคู่ภิรมย์
อธิกมาสนี้ปีหนึ่งถึงสองหน
เปรียบกมลหันเหย่อมเซล้ม
ความรวดเร็วในใจที่ใคร่ชม
หวานจึงขมตรมไว้ควรใฝ่ตรอง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
24 สิงหาคม 2549 11:12 น.
แก้วประเสริฐ
เสน่หายาใจ
สิ่งที่เหลือเยื้อใยหวั่นใจภักดิ์
หวานรสหลงคงรักยากนักหรือ
คืนชื่นซ่านผ่านหมดหรือปลดฤา
เคยยึดถือยังสลัดปัดเชยชม
คำหนึ่งน้องนงนุชช่างสุดคิด
เพียงเหลือติดกากเดนเช่นสู่สม
สายสวาทขาดสะบั้นสั่นอารมณ์
ไม่เหลือปมชมชื่นยากฝืนใจ
ก่อนนี้หรือคือสิ่งอิงใสสด
เอื้อในรสหวานชื่นคืนผ่องใส
ออดอ้อนคำซาบซึ้งตรึงทรวงใน
กาลผ่านไปรสใหม่สู่ใจปอง
เสน่หาอาลัยในครั้งนี้
สิ่งที่มีติดไว้เพียงได้สนอง
รสเก่าสิ้นบินผวาหาใหม่ครอง
คงเรืองรองดูเด็ดช่างเผ็ดมัน
กระแสเปลี่ยนเวียนไปจากใจแล้ว
เคยเจือแจ้วแว่วพร่ำคำสุขสันต์
จะครองคู่ชู้ชื่นทุกคืนวัน
ครั้งรำพันฝากไว้ให้จดจำ
ยอดยาหยียาใจในพี่เอ๋ย
เสน่หาเคยฝากไว้ให้เลิศล้ำ
ขอจารึกตรึกไว้เพียงลำนำ
ทุกเช้าค่ำย้ำไว้ในใจปอง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
22 สิงหาคม 2549 18:25 น.
แก้วประเสริฐ
โอ้ชะตาชีวิต
ชีวิตผันวันเปลี่ยนเวียนสับสน
แฝงวกวนปนยิ่งอิงสิ่งสลาย
ดุจละครหมุนสลับมากลับกลาย
เดี๋ยวดีร้ายพะวงหลงเพลิดเพลิน
ยามรุ่งโรจน์โชติช่วงดวงดีเด่น
ก็จะเป็นเช่นดาวคราวสรรเสริญ
เมื่อตกอับวาสนาคนพาเมิน
เหลือสิ่งเกินหมุนกลับนับโรยลา
หรือเช่นรักมักหอมย้อมล้ำเลิศ
หลงพริ้งเพริศแนบทรวงลวงเสน่หา
พอลิ้มหวานผ่านรสหมดนำพา
ยากไขว่คว้าหาสิ่งมาอิงครอง
มิคำนึงถึงทุกข์คลุกเคล้าจิต
สิ่งหวังคิดมิเป็นดังเช่นสนอง
เห็นแต่สวยรวยทรัพย์นับใฝ่ปอง
ต้องหม่นหมองโหยหาเฝ้าอาดูร
ชะตาชีวิตคนเราก็เท่านี้
ย่อมจะมีสูงต่ำนับวันสูญ
สิ่งที่เหลือควรไว้ในการุน
จงเพิ่มพูนหนทางสร้างดีไว้
เปรียบชีวิตนกน้อยล่องลอยฟ้า
หรือดาราพราวพร่างกระจ่างใส
ดวงอาทิตย์หรือจันทร์อันไฉไล
นับประสาอะไรจงใคร่ครวญ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
21 สิงหาคม 2549 11:45 น.
แก้วประเสริฐ
รำพึงคำนึงคิด
จะแจกรักสักครั้งยังข้องจิต
ครวญใคร่คิดพิศวาสมันเหหัน
ใจและกายไม่สัมพันธ์ซึ่งกัน
ยากกำนัลฝากไว้สุดให้ปอง
เสนอสนองพินิจวินิจฉัย
นี่กระไรใยรักมาหักสอง
ยิ่งมองดูคุดคู้มิสู้คะนอง
ยากลำพองมองไว้คิดใฝ่รัก
ยิ่งเห็นเจ้าเยาว์มาลย์พรั่นวิตก
ดั่งหัวอกอุศเรนเห็นประจักษ์
เจอคำหวานสั่นวิไลยิ่งนัก
เจ้ากลับพักมิรักหน้าระอาใจ
โอ้ยิ่งคิดจิตเศร้าดูเฝ้าหม่น
ยากดิ้นรนหาสิ่งอิงสดใส
ในสัมผัสนอกมิรับพับไป
ดูดังคล้ายอนิจจังรั้งมั่นคง
สังขารหนอพอประจักษ์ชักรู้
มองโฉมตรูดุจครูผู้ประสงค์
สั่งสอนไว้ในกายมิอาจดำรง
ยากจะทรงกลับทรุดดุจร่างกาย
รำพึงคิดจิตคำนึงถึงสาเหตุ
ล้วนกิเลสงามงดจรดสาย
เป็นใยพันผูกไว้แล้วทำลาย
หมกมุ่นไปให้สลายคล้ายเงา.
*** แก้วประเสริฐ. ***