15 กรกฎาคม 2548 11:55 น.
แก้วประเสริฐ
วัยเอ๊าะเพาะเรียน
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนวนคนที่สร้าง
จัดแนววางสิ่งแปลกใหม่ไร้ศักดิ์ศรี
นำของนอกเข้ามาไว้สร้างราคี
กลับเป็นที่ยินดีนิยมชมนิจสิน
ประเพณีไทยเก่าเขาเฝ้าถนอม
สู้เก็บออมค้นหาไว้ละลายสิ้น
การแต่งกายปกคลุมเป็นอาจินต์
ดูโบยบินสิ้นสลายมลายตาม
อีกมารยาทเก่านิยมนบนอบไหว้
บัดนี้ไซร้เลือนหายมิเกรงขาม
มิรู้จักเด็กผู้ใหญ่เข้าคุกคาม
มายาททรามสิ้นดีมีทั่วไป
เด็กวัยเอ๊าะเพาะพันธุ์ถูกสรรสร้าง
ช่างอ้างว้างเสื้อผ้าสุดหาใส่
สิ่งห่อหุ้มปทุมมาลย์อันไฉไล
เสมือนจะไร้หมดสิ้นทั้งอินทรีย์
ทั้งหมกมุ่นกามกีฬาพาสรรเสริญ
ว่าเพลิดเพลินสร้างใจให้เกษมศรี
ร่วมเพาะพันธุ์ดั่งสัตว์ลืมประเพณี
วัดกันที่ใบหน้าและท่าทาง
การศึกษามิพากเพียรร่ำเรียนอ่าน
เข้าระรานเกเรเพื่อนจนหม่นหมาง
เที่ยวตามห้างสรรพสินค้ามิละวาง
จัดคู่สร้างบ้างจูบกันนั้นมิอาย
ด้านครูอาจารย์นั้นเล่าเฝ้ากังขา
กลัวบิดรมารดาจะมาสลาย
ใช้อำนาจนอกวิถีมีทำลาย
จนกลับกลายส่งเสริมเพิ่มเพาะพันธุ์
ลูกที่เกิดมายากหาพ่อแม่
คนเหลียวแลแน่ใจไม่เกษมสันต์
บ้างทำลายหน่อเนื้อที่เอื้อกัน
ส่งผลนั้นเสื่อมเสียวงศ์ประเพณี
โปรดไตร่ตรองหันมองดูนักนิด
ดูชีวิตเด็กน้อยเราไม่เกษมศรี
เพราะขาดการให้เวลาเท่าที่มี
ล้วนเป็นที่พ่อแม่ตามใจเขา
พอพลาดพลั้งไปกับได้การดุด่า
สร้างคุณค่าที่ผิดจิตร้อนเร่า
เป็นรอยบาปฝังลึกผนึกเอา
พอจะเข้าแก้ไขก็สายไป
ชาติก็สิ้นดินก็จมลงมืดมิด
เยาวชนติดมัวเมาเอานิสัย
ทำแต่ใจตัวเองมิเกรงใจ
ช่างขาดไร้อบรมบ่มแนวทาง
ความผิดถูกชั่วดีเท่าที่เห็น
ล้วนเป็นเช่นเด่นชัดมิสะสาง
เกิดเป็นพันธุ์วัยเอ๊าะที่เปราะบาง
อิสระเสรีสร้างในขั้วหัวใจฤา.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
14 กรกฎาคม 2548 11:34 น.
แก้วประเสริฐ
แม้จะแก่หัวใจหนุ่ม
ทั้งลุ่มลึกนึกพะวงจนหลงใหล
ด้านจิตใจกระชวยด้วยความฝัน
สิ่งรอบข้างอล้าอร่ามงามทุกวัน
โถกายนั้นห่อเหี่ยวมิเลี้ยวตาม
สู้พากเพียรร่ำเรียนตำรารัก
ทุกวันจักออกกำลังหาเกรงขาม
ทั้งนอกในฝึกไว้ดูให้งาม
ยังคงความแก่ชราช่างน่าชัง
ความรุงรังเข้าหายากมาถวิล
คิดสร้างจินตนาการผ่านสักครั้ง
เบิกความหนุ่มสุ่มลึกผนึกกำลัง
เตะปี๊บดังยังเกรงว่าเฒ่าหัวงู
รู้เขานั้นใช่ว่าจะมาชนะ
ทิ้งคำพระใคร่ครวญเพื่อทวนสู้
แต่กายเรานี้หนอยากเอ็นดู
หากยิ่งพธูใฝ่ชวนล้วนยากแท้
ยามสาวแลเข้ามาพาโหยหวน
ช่างรัญจวนป่วนฤดีสุดที่แก้
หลับตาพริ้มยิ้มสิ่งที่ผันแปร
ยากยิ่งแม้บินเดี่ยวหวังเลี้ยวตาม
หวนนึกถึงคำเพื่อนที่เลือนหลง
ใฝ่พะวงหลงสาวจึงเฝ้าถาม
ถ้าติดตามความรักมิสู้งาม
จะพบความพ่ายแพ้แม้ใจหนุ่ม
อกสะท้อนย้อนดูจึงรู้แน่
สิ่งผันแปรแก่เราถ้าเฝ้ากลุ้ม
กายกับใจแยกไว้ซึ่งร้อนรุม
หากกลิ้มกรุ่มคงแพ้แน่ทั้งปี
โอ้เพื่อนเราต่างชราอย่าช้าเอ๋ย
จงละเลยอย่าคิดหวังเกษมศรี
มีสาวใดไหนเล่ามาเปรมปรีดิ์
รักคลุกคลีคนแก่แม้หัวใจ.
.ฮ่าๆๆ...เฮอะๆๆ..จบจ้า.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
13 กรกฎาคม 2548 14:44 น.
แก้วประเสริฐ
ล้วนใฝ่จริงแท้
อวิชชาพาใจให้เร่าร้อน
สร้างสะท้อนผ่านไปในสิเน่หา
สิ่งลุ่มหลงคงไว้ด้วยมารยา
สรรค์นำมาสีสันต์บันเทิงรมย์
จากชาวดินบินผันหันสกาวฟ้า
มองพสุธาเห็นว่ามิเหมาะสม
ทั้งเหยียดหยามดูหมิ่นในถิ่นจม
เป็นโคลนตมเหม็นคลุ้งมิจรุงใจ
หลงละเมอเพ้อพกปกคลุมหนอ
เฝ้าพะนอลอยล่องงามผ่องใส
หงส์คือหงส์กาคือกามิทันใด
ละลิ่วไปในห้วงบ่วงเคยมา
สรรค์ความโกรธโทษฟ้าลำเอียงนัก
แกล้งมาหักผลักไสมิปรารถนา
ทวนหวนกลับว่าดินถิ่นพสุธา
อร่ามตางดงามเสียยิ่งนัก
สันดานเก่าเฝ้าเอาขนหงส์เสริม
เข้าแต่งเติมเพิ่มเสน่ห์มาประจักษ์
ดีดสะดิ้งพริ้งพรายยามกรายพักตร์
สร้างน่ารักจักให้คนหมายปอง
หวังกอบโกยเข้าโบยบินผินสู่ฟ้า
มินำพาว่าเวรกรรมจะมาสนอง
ใช้ทุกสิ่งในรูปร่างที่เคยครอง
ตามครรลองชายหญิงเล่ห์เพทุบาย
อนิจจังวัฎฎะสังขารามาคืนสู่
เข้าฟื้นฟูกฎแห่งกรรมมิหดหาย
กลับผันแปรทุกอย่างสร้างความนัย
เข้ากระจายในทางมิร้างลา
พลังอำนาจฟ้าดินยากเคยแคล้ว
มิสิ้นแล้วต่อบ่วงล้วงสรรค์หา
ส่งต่อผู้เคยผ่านห้วงช่วงนำมา
ดินกลบหน้าเข้าสู่ทุกข์ปรายภพ.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
12 กรกฎาคม 2548 12:19 น.
แก้วประเสริฐ
ชีวิตที่แปรผัน
การหมุนเวียนเปลี่ยนไปในแนวนี้
สุดชีวีสรรค์พบประสบเห็น
ทั้งร้ายดีมีชั่วทุกประเด็น
ยุคยากเข็ญเด่นชัดในปัจจุบัน
ค่าเงินตรายุบลงยากปลงด้วย
ไม่อำนวยค่าใช้จ่ายที่เสกสรร
ทุกบาทสตางค์ไม่เหลือแต่ละวัน
อดออมนั้นยากมีเป็นที่ทาง
ค่าน้ำมัน-รถโดยสารพลันแหกคอก
ทั้งในนอกครอบครัวยากสะสาง
อาหารทานแต่ละมื้อต้องซื้อวาง
ช่างอ้างว้างในหมู่สู้ทานทน
ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ดูสูญสิ้นแล้วหนอเพราะสับสน
เหมือนกบที่เลือกนายว่ายเวียนวน
ไม่ช้าตนเป็นอาหารพล่านวิญญาณ์
โอ้อนาถวาสนาชะตาชีวิต
ที่ลิขิตเกิดมาเสียแล้วหนา
มันสร้างทุกข์จนยากจะพึ่งพา
ฝากเวลาฝนฟ้ามาช่วยโปรย
มองตะวันลับไปใจห่อเหี่ยว
ครั้นมองเหลียวเดือนดาวก็แห้งโหย
ลมก็ร้อนผ่อนกายคล้ายถูกโบย
ยากกอบโกยความสุขพ้นทุกข์ภัย
ฟ้าเอ๋ยฟ้าตัวท่านนั้นสูงนัก
ดินยากประจักษ์ฝนมาพึ่งอาศัย
เพียงแต่มองจ้องนภาด้วยอาลัย
อีกเมื่อไหร่หยาดมาชโลมดิน
บุญกรรมเวรเห็นแล้วมิแคล้วพราก
โดยไม่ยากปัจจุบันที่เป็นหิน
มันหนักหน่วงถ่วงทับเป็นอาจินต์
เห็นจะสิ้นเมื่อลาลับพร้อมกับตะวัน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
11 กรกฎาคม 2548 15:13 น.
แก้วประเสริฐ
เพียงใจปรารถนา
เห็นเขาอิงแนบสนิทชิดกายา
ความฝันพาร่าเริงกระเจิงหาย
สิ่งร้อนรุ่มฟุ้งซ่านพล่านหทัย
สร้างหวั่นไหวยืนตลึงรำพึงตน
นี่นะหรือคือรักประจักษ์แจ้ง
ใยกลั่นแกล้งล่อลวงสักกี่หน
เหมือนทำดีฤทัยให้วกวน
ปลุกปั่นจนดวงใจใฝ่คำนึง
เพ่งตามองช่อมาลีที่สรรค์จัด
ยิ่งผูกมัดจิตใจคิดใฝ่ถึง
อดีตกาลผ่านมาเฝ้ารัดรึง
อดรำพึงเพ้อฝันสิ่งรัญจวน
กลิ่นอบอวลดอกไม้ไล้นาสา
ความหอมพาหัวใจให้โหยหวน
โอ้มาลีที่รักแม้นโศกครวญ
จนข้าป่วนขอฝากเจ้าเฝ้าธรณี
อย่าโกรธนะมาลีที่หอมเอ๋ย
สิ่งเปรียบเปรยดั่งเจ้าเคล้าหมองศรี
ใจปรารถนารักเขาดุจชีวี
จำเป็นที่ต้องร้างห่างจากจร
เพียงขอฝากสักนิดจงคิดช่วย
อบอวลด้วยกลิ่นหอมของเกสร
ลอยละล่องถึงเขาอย่านิวรณ์
มีคนสะท้อนระลึกถึงซึ้งอารมณ์
เพียงหัวใจปรารถนาแต่มาหมอง
เพียงใฝ่ปองในรักนี้จักสม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวไว้ยังตรอมตรม
เพียงระทมต้องข่มแม้นล่มสลาย
ลมผันแปรมิเท่าเคล้าลมรัก
สุดนำชักครองไว้ไม่เฉิดฉาย
หมุนเวียนวนเปลี่ยนไปใจละลาย
สิ้นมลายกระจายร้างห่างฤดี.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙