22 มีนาคม 2548 11:36 น.
แก้วประเสริฐ
วิมานรักเคียงฝัน
ขอฝากถ้อยสักนิดติดดอกสร้อย
ผ่านเรียงร้อยน้ำคำดุจพร่ำหวาน
ส่งสำเนียงแว่วหวนผ่านดวงมาลย์
สร้างตระการซ่านทรวงสู่ดวงใจ
จะเก็บน้อยค่อยบรรจงส่งห้วงรัก
หมั่นฟูมฟักอารมณ์บ่มสดใส
ตวัดเกี่ยวเหนี่ยวรักมิหักใบ
ผูกรวมไว้หมายตรงลงชีวิน
หมดทิวาคว้าดาวมาเคล้าฝาก
มาลาหลากกลิ่นหอมย้อมถวิล
โชยระรื่นชื่นจิตเป็นอาจินต์
กล่อมยุพินกอดเจ้าเคล้าราตรี
แม่ดอกเอ๋ยดอกสร้อยอย่าน้อยจิต
อย่าหวนคิดความหลังณมารศรี
สิ่งหวานชื่นคืนเก่าเร้าฤดี
อารมณ์นี้พี่มอบแด่โฉมตรู
แม้นสิ่งนี้มีไว้แค่เพียงฝัน
จะสร้างสรรค์วิมานสุดเลิศหรู
ประดับไว้รายเรียงเคียงโฉมพธู
เฝ้ามองดูเคียงข้างมิร้างไกล
คฤหาสน์จัดกลางวางพฤกษา
เอาจันทามาประดับวับแจ่มใส
พันธุ์ไม้ดอกหอมหวนอวลวิไล
ส่งกลิ่นไปสู่เจ้าเคล้ากานดา
กล่อมเพลงรักสู่เจ้าเยาว์ลักษณ์
สุดที่รักปรารถนาจะสรรค์หา
ประโลมรูปจูบฝากผ่านกัลยา
ล้วนสิเน่หามาไว้เป็นกำนัล
อันความรักมอบหญิงอิงหวนหา
สู่แก้วตาพาใจดุจดังฝัน
สำเนียงแจ้วแว่วหวานมารำพัน
เข้าปลุกปั่นสั่นฤทัยคิดหมายจอง
สะท้านห้วงบ่วงรักสุดหักคิด
พึงโลมจิตใคร่หวนล้วนสนอง
เหลือเพียงรักฝากอยู่เพื่อคู่ครอง
ชวนนวลน้องสองเราเฝ้าเคล้าจันทร์
ชีวิตนี้พี่รักประจักษ์แจ้ง
หวังแสดงหัวใจแก่เจ้านั้น
มิละลายหายจากไปต่อกัน
แม้นชีวันจะสลายไปก็ยอม
โอ้ดอกเอ๋ยที่รักแม่ยอดสร้อย
จะพึงร้อยสายใยเฝ้าถนอม
ดุจฟากฟ้าราตรีเคล้าพะยอม
ส่งกลิ่นหอมออมไว้แต่วันวาน
หากสิ้นตะวันจันทาหาร้างจิต
จะขอชิดแนบข้างมิร้าวฉาน
เคียงคู่เจ้าเคล้าคลอดุจวิมาน
เอาดาวนั้นประดับยามหลับนอน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
20 มีนาคม 2548 00:33 น.
แก้วประเสริฐ
ฤารักลมหวน.
..๏ อบอวลปั่นป่วนแท้.....................ยลนาง
ใจจิตยากวายวาง.....................................ยิ่งแท้
ผิวผาดผ่องผุดกลาง.................................ทรวงแม่ แลมอง
พักตร์ปลั่งจันทร์กลมแล้............................ผ่านซึ้งอัปสร ฯ
ฤารักหวานซ่านซึ้ง......................ตลึงแข จริงนา
ฉาบฉ่ำรสยลแล.......................................กรุ่นล้ำ
หากเพียงแม่ผันแปร................................อกพี่ ระทม
รักที่วอนฝากคล้ำ.....................................ชอกช้ำสุมทรวง ฯ
หอมเชยดอมกลิ่นเคล้า...............นวลนาง แม่เอย
พิกุลส่งหอมเย็นจาง.................................จากน้อง
โรยรินกลิ่นดอกพลาง................................แสนซ่าน รำพึง
ใจพี่อยากหมายต้อง..................................สู่ฟ้าแดนสรวง ฯ
ใจรักมิเปลี่ยนแท้.........................พาดครอง
อกพี่ภิรมย์ปอง..........................................แด่เจ้า
พึงรักมั่นสนอง..........................................ปองคู่ เรียมแฮ
หากพี่ผิดรักเฝ้า.........................................มอดม้วยธรณินทร์ ฯ
ลมเอยลมรักแท้............................ลมหวน ชวนปอง
มิอย่ามาแปรปรวน.....................................ห่อนไห้
กอบรักสู่ทางชวน.......................................มอบแด่ นวลปรางค์
แสงพร่างทางรักไว้......................................แด่น้องคนเดียว ฯ
สาบานรักแม่ฟ้า............................เป็นพยาน
หากพี่ผิดคำสาบาน.....................................แน่งน้อง
ลงทัณฑ์ที่สามานย์.....................................สมแก่ ผิดจริง
นรกก่อกำเนิดคล้อง....................................ค่ำเช้าทรมาน. ๚ะ๛
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
18 มีนาคม 2548 14:08 น.
แก้วประเสริฐ
คำนึงหวนชวนรำลึก.
..๏วิเวกแว่วสำเนียงเสียงลมผ่าน
กิ่งไผ่นั้นเสียดสีคล้ายกำสรวล
เอี๊ยดออดอี๊ดอวลล้าดุจนางครวญ
พร่ำโหยรัญจวนหามาแอบอิง
จ๊อกแจ๊คจ๊อกตอกย้ำจากน้ำตก
พรูพรั่งโกรกลงซ้ำกระหน่ำยิ่ง
รินไหลแยกแตกออกเสียหนอจริง
ยากประวิงหลั่งไหลให้วนเวียน
รุ้งพร่างพรายปรายสีละอองน้ำ
เป็นม่านย้ำแสงตะวันนั้นเฉวียน
ระยิบระยับจับธารวาวเนียน
ฉวัดเฉวียนเวียนวนปนสายธาร
ต้นระบัดจัดกิ่งก้านยอดโศก
ระย้าโยกพลัดดอกหลุดจากก้าน
ดุจถูกปล่อยลอยพัดจากวิมาน
หมุนตามกาลหันเหล้วนเสน่ห์ครอง
ดูเงือกน้อยลอยเด่นเห็นแหวกว่าย
เย้าเยื้องกรายเวียนวนสายชลก้อง
วี๊ดว้ายร้องอึงคะนึงรำพึงปอง
เหมือนทดลองของหวานซ่านซึ้งใจ
สำเนียงนกดงพฤกษ์ระทึกหา
ดนตรีวนาคลอเคล้าเร้าเสียงใส
ช่างสอดคล้องกิ่งก้านสะท้านใบ
แฝงหทัยวิมานผ่านแดนเวียง
ลิงทโมนโยนตัวบนกิ่งหว้า
ทำหน้าตาหยอกล้อคลออุ้งเสียง
บ้างอุ้มลูกผูกพันกิ่งไม้เอียง
บางตัวเลี่ยงหาหมัดบ้างกัดกัน
หยิบดนตรีเคียงกายบรรจงผิว
กรีดละลิ่วแนวเสียงสุดจะสรรค์
บรรจงคลอแนวโน้มโลมรำพัน
หวังกำนัลแนวรักฝากคนจร
บังเกิดหริ่งเรไรเคล้าคลอคู่
สำเนียงกู่สัตว์ไพรใจสังหรณ์
วิเวกแว่วแผ่วพลิ้วเป็นช่วงตอน
เงือกสะท้อนหันจ้องมองฉับพลัน
ถิ่นวิเวกเฉกสวรรค์พลันกำหนด
อารมณ์ปลดอุราร้าวเฉกเช่นฝัน
ล้วนรำพึงคำนึงคิดถึงกัน
เฉกเช่นฝันเป็นนรกหมกไหม้ดิน
ตะวันล้าคราอ่อนรอนยอแสง
มณีแดงแรงฤทธิ์ล้วนชวนผิน
ผิวขลุ่ยพลางมุ่งหน้าหายลยิน
ละจากถิ่นหวนกลับลับแนวไพร
ทินกรลาลับกลับเหลี่ยมเขา
เหลือเพียงเงาดาวกระจายแสงไศล
ไร้เดือนเคียงมืดคล้ำย้ำภายใน
เสียงแผ่วหายสลายแสงแห่งคนจร.๚ะ๛
**********************************
..๏ทินกรกลับลับหล้า ยอแสง แน่เอย
กาลเปลี่ยนผันหมุนแรง อ่อนล้า
ราตรีดาวเปล่งแสดง กระจ่าง จริงแฮ
เสียงที่โหยชวนล้า แด่น้องคนไกล ฯ
วิมานวาดพร่างฟ้า เพียงฝัน
หวานแผ่วหยุดฉายพลัน กร่อยล้ำ
สำเหนียกพี่รันทด แสนห่วง ดวงใจ
เกลือกกรุ่นสุดหมองช้ำ อกไหม้ฤทัยหวน. ๚ะ๛
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
****************************************
15 มีนาคม 2548 17:02 น.
แก้วประเสริฐ
แม่แห่งธรรม.
ระเบียงรักฝากไว้ด้วยใจฝัน
พฤกษาพันธุ์กลิ่นชวนอบอวลหนอ
สอดแทรกรักผนึกธรรมค้ำจุนละออ
ล้วนเกิดก่อปรัชญามากำนัล
สำเนียงแว่วแพร้วแพริศเลิศแซ่ซ้อง
มวลทำนองละอองธรรมล้ำเสกเสรร
จุนเจือจิตคิดสละไว้ให้เป็นทาน
บ้านที่ฉันสรรสร้างระหว่างเดิน
อุดมจิตคิดเพียงร้อยเรียงฝัน
ถิ่นสถานนั้นคือร่างที่พลันเหิน
ปรับปรุงเปลี่ยนเวียนวัฏจัดพาเพลิน
ด้วยต้องเดินไปในทางแห่งเวรกรรม
ระลึกคำพ่อกล่าวเฝ้าสั่งสอน
มอบขั้นตอนเจ็ดคำภีร์ที่เลิศล้ำ
มูลนิธิเบิกฟ้ากระจายธรรม
เป็นสถานนำให้ใช้ดำเนินการ
ผ่านวัยสาวน้าวโน้มโลมมัชฌิม
หัวใจปริ่มลิ้มธรรมนำประสาน
จนกิจการผ่านพิบัติมาร้าวราน
วิสุทธิธารพลันไหลหลั่งพรั่งพรู
บ้านหลังน้อยร้อยใจให้กำเนิด
มิเลอเลิศแต่ในแฝงไว้อยู่
ทุกสิ่งในปรัชญามาค้ำชู
ทุกมวลอณูสู้สร้างวางแนวธรรม
เพื่อให้ศิษยานุศิษย์คิดกอบกู้
ใช้เป็นอู่ร่ำเรียนเพียรเกิดล้ำ
อีกรูปนางวางไว้ให้ระลึกคำ
ที่เคยพร่ำคร่ำสอนตอนเป็นครู
มาครั้งนี้เหมือนกำหนดกฏแห่งฟ้า
อีกชะตาน้อมนำธรรมล้ำเลิศหรู
บุษกรอ่อนล้าเหลือแม้นค้ำชู
ขอสยมภูช่วยแลแม่แห่งธรรม.
แก้วประเสริฐ์.
14 มีนาคม 2548 00:04 น.
แก้วประเสริฐ
สะท้านพล่านอารมณ์
สุดละเหี่ยเพลียใจหวนให้คิด
ฟุ้งซ่านจิตเหลือไว้เพียงในฝัน
ความผูกพันขันชะเนาะต่อกัน
สิ่งสัมพันธ์นั้นยากจะกำหนด
มิอาจปลดจริงหนอจำขอจาก
เหลือแต่กากวางมองต้องสลด
จะหนีร้างห่างไปยังรันทด
จำต้องลดช่องว่างระหว่างตอน
ช่างสะท้อนอ่อนใจแล้วเสียหนอ
มิร้องขอสิ่งใดในช่วงหลอน
มันกัดกร่อนรำพึงจึงร้าวรอน
ทิ้งบางตอนดวงหทัยให้กังวล
อันดวงกมลหนนี้ยากกลับจิต
อันความคิดเปรียบกระแสที่สับสน
ดุจสายชลวนเชี่ยวไหลเวียนวน
มันเปี่ยมล้นหล่นทลายกระจายไป
โอ้ไฉนคร่ำครวญล้วนคลั่งนัก
แสนยิ่งจักเสนอสนองมิผ่องใส
แม้อุตส่าห์บากบั่นสู้ผ่านไป
สมองใจกายคิดล้วนติดพัน
ความกระสันหันเหลังเลคิด
หักใจจิตหนีหายไร้โศกศัลย์
สิ่งผูกพันเหลือไว้แค่กำนัล
เพียงแค่ฝันวางไว้ในอดีตกาล.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙