16 กรกฎาคม 2547 15:34 น.
แก้วประเสริฐ
อันแนวชีวิตเราเขาก็เท่านี้
จะเป็นตายร้ายดีอย่าไปสน
ในวังวนว่ายเวียนเพียรสร้างตน
เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันสิ่งดี
ภพหนึ่งนั้นพลันเกิดมาแสนยาก
ต้องลำบากทุกข์กล้ำช้ำหมองศรี
แต่บุญกรรมนำพามาให้มี
ไม่เป็นที่ได้สมอารมณ์ปอง
ความตั้งใจหมายไว้ที่ได้คิด
กลับแปรปิดเปลี่ยนทางสร้างให้หมอง
เป็นไปตามดีชั่วตัวที่ครอง
มันจะสนองผลสร้างวางกฎเกณฑ์
คำสอนพระว่ากล่าวเล่ากันไว้
ว่าร่างกายคล้ายบ้านมีให้เห็น
จะสวยงามทรามชั่วที่ประเด็น
ดุจดั่งเช่นผลพวงช่วงกระทำ
ผ่องผิวพรรณนวลพักตร์ลักขณายิ่ง
ด้วยทุกสิ่งความดีที่หนุนซ้ำ
ถ้าร่างกายอัปลักษณ์จักหมองนำ
เพราะสร้างกรรมชั่วไว้ให้เกิดมี
อันวงเวียนเวียนวนปนทุกข์สุข
สิ่งแสนสนุกหม่นใจไม่เป็นที่
ร่ำรวยหรือยากจนข้นแค้นนี้
เกิดอยู่ที่ดีชั่วอย่ามัวเพลิน
การปรามาสพลาดพลั้งแห่งชีวิต
มันลิขิตปลิดปลงอย่าสรรเสริญ
หันมาสร้างความดีที่ล่วงเกิน
เป็นแนวเนินทางไว้ให้สุขใจ
เมื่อสิ้นภพจบชาติจะได้สุข
พบสิ่งสนุกแว่นแคว้นแดนสดใส
ไม่เกิดในไกลสถานอันวิไล
ลุล่วงไปในนรกหมกไหม้ตรม.
๕๕๕ แก้วประเสริฐ. ๕๕๕
13 กรกฎาคม 2547 13:03 น.
แก้วประเสริฐ
แว่วสำเนียงวิหคผกเหิรร้อง
กังวานก้องป่าเขาลำเนาผา
นกขมิ้นน้อยเกาะกิ่งอิงหน้ามา
ถ้อยเจรจาเอมเสนาะเพราะจับใจ
บินหลาดงโกงคอคลอรับหา
ปลอดป่าพามาขานช่างสดใส
กิ่งไม้ไหวพระพายพัดระบัดใบ
ส่งเสียงให้ได้ยินระคนกัน
ขุนทองนั้นเฝ้าไซร้เลนไรขน
แซงแซวหม่นบ่นจ้องมองร้องลั่น
โพระดกร้องโฮกโป๊กเสียงพลัน
กางเขนนั้นลอดไม้ใบงามตา
ผีเสื้อเล่าเฝ้าโบยบินกลิ่นเกสร
บุบผาร่อนชูช่อล่อนาสา
ผึ้งน้อยเจ้าเคล้าคลึงเกสรมาลา
เสียงน้ำซ่าซ่าซ้องก้องลำธาร
หุบผาเขาคีรีผ่านเลาะไหลล่อง
เป็นแนวช่องพฤกษามาประสาน
น้ำรินหลั่งพาพัดซัดกังวาน
เลาะหินลานรวมแก่งแอ่งน้ำไป
ลมโชยพัดใบไม้ไปละลิ่ว
บ้างถูกปลิวสู่ลงตรงน้ำใส
ลอยล่องตามสายธารผ่านแนวไพร
หมุนวนไปผันผายหายสุดตา
แสงแดดอ่อนสนธยาลาลับจาก
หมู่สัตว์หลากอำลาพาตามหา
ความมืดครึ้มแลเลือนเตือนเข้ามา
กาลเวลาเปลี่ยวร้างทางอารมณ์.
แก้วประเสริฐ.
10 กรกฎาคม 2547 15:46 น.
แก้วประเสริฐ
ปมซ่อนเร้นเน้นลึกผลึกล้ำ
ก่อเกิดนำซ้ำซ้อนตะกอนถม
จิตภายในปั่นป่วนชวนนึกตรม
สุขระทมจมลงตรึกผนึกลวง
แผ่กระจายซ่านหทัยภายในขึ้น
ยากจะฝืนข่มใจที่ได้หวง
ดุจถูกห่วงบ่วงมัดรัดในทรวง
แลเหมือนล่วงสูญสลายมลายไป
รักเจ้าเอ๋ยแผ่ไปข้างในนอก
แสนช้ำชอกตอกกลับมิสดใส
มิได้หายคล้ายทับถมบ่มหัวใจ
เหมือนใกล้ตายให้เศร้าเร้าฤดี
อารมณ์ร้อนแผ่วผ่านเข้าเร้าในจิต
ที่สิงสถิตกั้นไว้ให้หมองศรี
ความหวานชื่นรื่นรสบทวจี
ล้วนเป็นที่เวิ้งว้างร้างสิ่งปอง
ด้วยคำรักฝากไว้ไพเราะโสตถิ
เอมชะโอดโลดร่ำพร่ำสนอง
จิตหมายปองร้องหวนนวลละออง
นำคล้องจองจารไว้ให้ใจพะวง
ก่อกำเนิดโรครักมัดฝังลึก
อึกกระทึกคึกโครมโน้มไหลหลง
จนเซซวนชวนพร่ำร่ำนวลอนงค์
เกิดบ่อลงฝังลึกตรึกไว้ให้จดจำ.
แก้วประเสริฐ.
4 กรกฎาคม 2547 15:11 น.
แก้วประเสริฐ
เสมือนฟ้ากำหนดกฎกั้นชะตาฉัน
ที่แปรผันเปลี่ยนแปลงแฝงความเหงา
สู้บากบั่นหมั่นสร้างทางมิบางเบา
จนพวกเขาเข้าใจให้ผิดทาง
ต้องหันเหมุมมองลองชีวิตใหม่
ลิขิตไว้ด้วยใจมิให้หมาง
เริ่มห่างลี้หนีคนจนเบาบาง
กำหนดสร้างชีวิตลิขิตตน
วางแผนดำเนินการสานความฝัน
การงานนั้นวาดไว้ให้คนสน
เพื่อจะหลีกหนีพ้นความยากจน
ประคองตนระวังไว้ใช้ปัญญา
วางลิขิตค่อยทำมิล้ำเส้น
ดุจดั่งเช่นเส้นทางรถไฟหนา
มันเลี้ยวลดคดเคี้ยววกไปมา
แล้วนำพาเดินไปมิให้ระเริง
อุปมาอุปมัยให้ใช้เส้นชีวิต
หากได้ติดผูกพันมันยุ่งเหยิง
ชุลมุนวุ่นวายเพลียจนเสียเชิง
อย่าบังเอิญหลงใหลในทางนั้น
แล้วจัดสร้างตัวนั้นอันอ่อนไหว
ค่อยจากไปด้วยขจัดมัดตัวฉัน
หมั่นบากบั่นหั่นกั้นอยู่ทุกวัน
ชีวิตนั้นจึงได้พบสบความจริง.
แก้วประเสริฐ.