31 มกราคม 2547 14:39 น.
แก้วประเสริฐ
แสงตะวันลาลับหลังฝนพรากจาก
ท้องฟ้าหากฉ่ำมีรุ้งตะวันอันเฉิดฉาย
ลมพายพริ้วหนาวเหน็บเจ็บแสบกาย
วิหคปรากฏกายในป่าร้องก้องกังวาล
ปานประหนึ่งคนรักพลันพรากจาก
น้ำตาพรากพรั่งพรูสุดจะกล่าวขาน
วาจานั้นเจ้าเอ่ยเราไว้ดุจวันวาน
แสนทรมานตัวของเราเฝ้าใฝ่พะวง
เคยลงน้ำดำว่ายในธารกระแสร์
กลิ่นแก้มแม่ยังหอมซึ้งเราสุดใหลหลง
ไฉนเจ้าลงแส้สวาทไว้ให้ใจสุดจะปลง
โอ้โฉมยงค์คงเหลือไว้ใจรัญจวน
หวนมาคิดยิ่งทำจิตสุดแสนเศร้า
เพ็ญน้องเจ้าช่างไม่เหลียวแลใจพี่ป่วน
ล้วนแต่เกิดจากกลิ่นแก้มสุดรัญจวน
ใจพี่หวนครวญพร่ำเพ้อละเมอตรม
โอ้แมวเหมียวเลี้ยวลดปรากฏร่าง
ยิ่งชอกช้ำใจพี่ละเมอเจ้าสุดขื่นขม
อกตรมคิดจิตสะท้านใจให้ระทม
แม้นตรมยังมีแมวเจ้าไว้เคล้าครอง
ยืนมองจันทร์พร่างพรายกระจายแสง
อีกทั้งแสงมวลดาราพาให้ใจยิ่งหมอง
เพ็ญเอ๋ยเพ็ญแมวถ้าได้เจ้ามาครอง
คงไม่หมองยืนซมเศร้าเคล้าน้ำตา.
แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2547 23:36 น.
แก้วประเสริฐ
แสงตะวันสีทองส่องฟ้าใกล้ลาลับ
ท้องฟ้ากลับมืดมัวหมองไม่ฝ่องใส
ในหมู่เมฆถูกลมพัดดุจทะเลใจ
โอ้หัวใจเหตุไฉนให้อาวรณ์
ตอนคลื่นสาดพัดพาเข้าหาฝั่ง
จิตที่ยังไม่มีคลื่นพลิ้วละลิ้วล่อง
มองดูใจเหตุไฉนเฝ้าคิดถึงน้อง
เราต้องวอนคำนึงโปรดนึกถึงเรา
เจ้าชมภูหวานแหววแพรวพราวยิ่ง
เพราะเป็นสิ่งแทนใจให้หรรษา
กัลยาชื่นชอบเบิกบานสุดพรรณา
หอมนาสาชวนแช่มชื่นระรื่นใจ
ในดอกกุหลาบแรกแย้มแพลมสีกลิ่น
ช่างรวยรินกลิ่นซาบซ่านส์ให้ผ่องใส
ข้างในนอกหอมหวลซึ้งตรึงจิตหัวใจ
ดั่งภายในนั้นดุจมีเจ้าเฝ้าจุนเจือ
เอื้อความรักคิดมากเหมือนขลาดเขลา
ไม่ตรองเอาเราก็ชอกช้ำระกำเหลือ
หากเชื่อง่ายใจเราสุดช้ำยากจุนเจือ
แม้นเหลือเฟือมากนักรักหลุดกระเด็น
เห็นความรักนั้นหนอล้อกันว่า
เหมือนดาราท่าทางช่างยากเข็น
เห็นแสดงได้แต่ละบทช่างยากเย็น
เหมือนคนเล่นความรักหนักอกทรวง.
แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2547 15:32 น.
แก้วประเสริฐ
วังวนเวียนกระแสร์สายชลวนชีวิต
ตามลิขิตกระแสร์ชลมันวนไหล
ไหนตัวเรารอบข้างหมุนวนไกล
วกวนไปยากจะหลบพบบ่วงมาร
อันชีวิตคิดดูไปคล้ายเพลงกล่อม
มันรายล้อมเร้าอารมณ์ให้แตกฉาน
พล่านดวงจิตสุดหวั่นไหวใจร้าวราน
กระเซ่าส้านผลาญอารมณ์จนไปไกล
เสียงเพลงแว่วแผ่วพลิ้วริ้วระริก
เจตสิกสั่นสะท้านสุดหวั่นไหว
ใจฉันสั่นพลันคำนึงถึงคนแดนไกล
เหตุไฉนใครทำเขาเฝ้าคร่ำครวญ
กำสรวลเพลงแว่วหวานปานขาดจิต
สุดระริกจิตใจฉันสั่นพลันกำสรวล
ครวญในอกดุจหมกไหม้ให้รัญจวน
เหมือนจะชวนให้ชอกช้ำตามเสียงเพลง
โอ้เพลงนี้เธอกับฉันประสานเสียง
ช่วยเรียบเรียงบทประพันธ์มิหน่ายแหนง
เธอแกล้งฉันพลันหัวร่อมิคลายแคลง
แล้วแอบแฝงเข้าในรสบทประพันธ์
เพลงนี้นั้นใยมาพลันขันเสียงแว่ว
พริ้งเพริศแจ้วแว่วหวานมาให้ฉัน
พลันแฝงไว้ในความเศร้าให้แก่กัน
ทำให้ฉันพลันหมองใจไปกับเธอ.
แก้วประเสริฐ.
19 มกราคม 2547 13:41 น.
แก้วประเสริฐ
อย่าโศรกซึ้งตรึงใจใฝ่ถึงเขา
อันคนเราเกิดมาน่าขวนขวาย
อุปสรรคยากยิ่งอันมากมาย
รอเราคลายในปัญหาที่พึงมี
หากตรึงจิตพินิจตรองเพียงแค่นี้
ยากที่ผ่านพ้นวิกฤตกาลอันเสียดสี
โลกเราใบใหญ่มากด้วยปัญหาที่มี
เครื่องบ่งชี้มีแก้ด้วยปัญญาของเรา
พึงศึกษาขวนขวายใฝ่ปองหาความรู้
ศึกษาดูขยันเล่าเรียนอย่าโง่เขลา
สร้างปัญญาให้ทันโลกมิบางเบา
เพื่อสร้างเราให้เป็นเด่นในโลกา
อนึ่งนั้นพลันให้ตรึกระลึกคุณแม่
เพราะท่านแท้เลี้ยงเราลำบากยากจะหา
คนทั้งโลกไม่มีใครรักเราเท่ากับมารดา
ท่านอุสส่าห์ถนอมกล่อมเลี้ยงเราแท้แท้
บาปยิ่งใหญ่ไม่มีใครเขาสรรเสริญ
ไม่เจริญเพราะชอบเถียงพระคุณแม่
คนที่แม้เชื่อรักยังแหน่งหน่ายไม่เหลียวแล
ที่จริงแน่เธอควรหันกลับรั้งใจคืน
หันหลังกลับพากเพียรเรียนหนังสือ
ให้ระบือลือลั่นสะท้านโลกาอย่าจิตฝืน
ทดแทนพระคุณพ่อแม่ให้ท่านยั่งยืน
แล้วนึกคืนพระคุณท่านทุกลมหายใจ.
แก้วประเสริฐ.
11 มกราคม 2547 23:59 น.
แก้วประเสริฐ
จากดวงใจ
แก้วประเสริฐ.
ขอขอบคุณทุกๆท่านผ่านมาแวะ
ช่วยชี้แนะบทกลอนเพื่อเสริมสร้าง
จะสนองตามคำท่านเป็นแนวทาง
เพื่อจะสร้างกลอนไทยไว้ให้ยั่งยืน
พยายามให้เจิดจรัสชัชวาลย์รุ่งโรจน์
เป็นประโยชน์แด่อนุชนไว้มิให้ฝืน
เพื่อคืนกลับบทกลอนไทยให้ยั่งยืน
มิให้จืดคืนหายไปในวรรณกรรม.
แก้วประเสริฐน้อมรับไว้ในที่นี้
และโปรดชี้หนทางไว้อย่าเกรงขาม
เพื่อหัวใจน้อยนี้จะได้กระทำตาม
เป็นแนวทางตามที่ได้ติติงมา
การตินั้นเพื่อก่อหาใช่แกล้ง
จะเป็นแสงช่วยส่องทางให้มาหา
ใช้วิชาที่ได้พร่ำร่ำเรียนเพียรมา
เพื่อรักษาวรรณศิลป์ของถิ่นไทย.
ด้วยความเคารพ
แก้วประเสริฐ.