4 กันยายน 2547 22:48 น.
แก้วประเสริฐ
แสงธรรมนำส่อง
แสงธรรมชักนำส่อง.......... ประกาศก้องทั่วโลกา
ฝูงมารหวั่นผวา............... หนีหลบหน้าแทรกกายหนี
หมู่ชนคนทั้งผอง.............บัดนี้ต้องร้องโศกี
ต่างชาติมาราวี.................นำธรรมนี้ขยี้แหลกลาญ
โอ้เหล่าชาวพุทธเอ๋ย....... อย่าละเลยธรรมสังขาร
แม้นภัยมารรุกราญ.......ขอสมานรักสามัคคี
พิบัติมันเพียงนาม...........อีกไม่นานคงหลีกหนี
หมั่นสร้างคุณความดี.....จะได้มีที่พึ่งพา
ทุกข์เอ๋ยมันแค่ทุกข์......มันร้อนรุกเหลือคณา
อนิจจังจะนำพา............ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง
อนัตตาเข้ามาแทรก....... มันดับแตกตามสีแสง
ท่านเพียรช่วยอีกแรง...แล้วโน้มแสงธรรมรุ่งเรือง.
ดอกบัวสีน้ำเงิน
ดอกบัวแก้วแพรวพราววับวาวจิต
ฟ้าลิขิตน้ำเงินสีที่สดใส
ดารดาษวาดสีสันต์อันวิไล
ให้ดินไว้ใช้สร้างตามครรลอง
ก่อกำเนิดกุมารีที่งามพร้อม
เลอเลิศน้อมย้อมจิตมิเป็นสอง
ช่วยสร้างสรรค์ธรรมไว้ให้เกริกก้อง
คนแซ่ซ้องก้องฟ้าทั่วธานี
ที่สิบสามมีนาฟ้ากำหนด
ตามเบื้องบทกฎเกณฑ์แห่งราศี
สองสี่เก้าเก้าเร้าอารมณ์สมฤดี
ตามเดือนปีที่ฟ้ามาประทาน
นามบุษกรเมธางกูรดรุณน้อย
เธอตามรอยพุทธองค์ทรงสร้างสรรค์
ประกาศอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ตำนาน
จนพ้นผ่านกาลเวลาสู่ปัจจุบัน
แสดงเหตุเจตสิกจิตปลิดแตกดับ
วงจรกลับดับเกิดขณะจิตพลัน
ที่สร้างสรรค์ดีชั่วมั่วทุกวัน
จนมีอันพลันเกิดแก่เจ็บตาย
ครบวารดิถีปีที่กำเนิด
เมธีเลิศปัญญาพามารสลาย
ขอจงได้เกษมสันต์พลันสบาย
เป็นหลักชัยมูลนิธิฯคู่ฟ้าดิน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
3 กันยายน 2547 14:25 น.
แก้วประเสริฐ
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนตามกระแสนั้น
สุดแปรผันหันหวนทวนกระแส
ทั้งวัตถุจิตใจไม่เหลียวแล
ยากจะแก้ไขด้วยใจใฝ่อวิชชา
เพราะมอบให้ตัณหาพาแช่มชื่น
สุดระรื่นกามารมณ์สมใจหนา
อีกโมหะเข้าครองต้องเข้ามา
แล้วนำพาโทสะระรานกัน
อีกความโลภครอบงำซ้ำเติมจิต
ปล่อยชีวิตผันผวนจนโศกศัลย์
มอบตัณหาพาจิตคิดผูกพัน
สร้างกรรมนั้นพันผูกจนเกิดภพ
กรรมนั้นเปรียบไร่นามาหว่านกล้า
วิญญาณหนามาเป็นพืชสมทบ
ตัณหาเร้าเฝ้าอารมณ์เข้าประจบ
เป็นยางสยบกลบทางสร้างความดี
เมื่อวิญญาณประดิษฐ์ฐานผ่านพบ
ถูกยางลบจบเส้นทางอันสุขี
เพราะอวิชชาหาเหตุมาราวี
ด้วยเหตุมีตัณหามาผูกใจ
ผลกรรมอำนวยผลให้ในรูปธาตุ
อวิชชาวาดตัณหาพาหวั่นไหว
แล้วผูกใจให้เป็นทาสมิไป
สร้างภพใหม่ได้มีผลการเกิด
เป็นที่มาพามนุษย์และหมู่สัตว์
เข้ามาสกัดผลักดันนั้นเป็นเลิศ
อวิชชานำตัณหามาละเมิด
เป็นบ่อเกิดหมุนเวียนเปลี่ยนภพไป
ด้วยสาเหตุเช่นนี้ที่เป็นผล
ดังนั้นชนที่ประเสริฐเลิศแจ่มใส
ใช้ศีลสมาธิปัญญามากลับกลาย
สร้างจิตใจหมายมุ่งพุ่งนิพพาน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
3 กันยายน 2547 12:08 น.
แก้วประเสริฐ
เสียงครวญชวนฝัน
หวีดเสียงแว่วแผ่วพลิ้วไผ่เสียดสี
ดุจดนตรีขับขานสนานเสนาะ
ลมโชยพัดผ่านมาพาไพเราะ
จิตจำเพาะเจาะลึกให้นึกถึง
คำสัญญาว่าไว้ได้หวนคิด
ช่างถูกปลิดความหวานผ่านรัดรึง
สุดคิดถึงผ่านไปให้ตราตรึง
เปรียบสะดึงขึงขนดรดราดใจ
ใบไผ่ริ้วพลิ้วคล้อยลอยจากต้น
แล้วหมุนวนวกผันหันผลักไส
เปรียบดั่งคล้ายชีวิตคิดจากไกล
ยากจะได้โลมเร้าเคล้าคู่ครอง
ลมเอ๋ยลมพรมรักกลับชักหนี
ชั่วชีวีมีเจ้ามิเป็นสอง
ยิ่งหวนคิดจิตใจยากใฝ่ปอง
น้ำตานองมองไผ่ให้คร่ำครวญ
ก้มมองไปไร้แล้วโธ่อกเอ๋ย
แผ่นดินเคยเกยรักกลับกำสรวล
เจ้าเคยเล่นซ่อนหามาชักชวน
บัดนี้ล้วนครวญไว้ใจอกตรม
กาลเวลามาผ่านทำให้เปลี่ยน
โลกที่เพียรเรียนรักไม่เหมาะสม
นี่แหละหนารักมากไปให้ระบม
เฝ้าโศกตรมขื่นขมระบมกาย
หากใครเล่าเฝ้าพะนอมอบใจรัก
ขอจงจักระวังไว้ยังไม่สาย
พิษรสนั้นมากมายยากมลาย
เมื่อช้ำหทัยใจรู้ถูกรักลวง
นี่แหละหนาคือโฉลกเป็นโรครัก
ปล่อยตัวนักมักคว้าแค่ลมหวง
ดวงใจจิตคิดไว้แทบล้นทรวง
มันคือบ่วงห่วงรักผลักอกตรม
ลมพัดผ่านกิ่งไผ่ไหวส่งเสียง
เป็นสำเนียงเย้ยเยาะมิได้สม
ดุจใบไผ่ลอยลิ่วปลิวตามลม
ล้อเล่นลมบ่มบอกไว้อนิจจัง.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
3 กันยายน 2547 09:41 น.
แก้วประเสริฐ
เดินตามทางรอยเก่าหาเงารัก
เคยพิงพักโพธิ์ไทรใบแน่นหนา
คราวดรุณอ่อนเยาว์เขลามายา
มีบิดามารดาพาเล่าเรียน
สอนให้เขียนความดีทีละน้อย
สั่งให้ทำบ่อยบ่อยคอยอ่านเขียน
สอนให้หัดอดทนผลพากเพียร
สั่งให้เรียนความดีฝึกที่ใจ
ในทางนั้นที่หมายอยู่ไกลนัก
พ่อเพียรกวักมือเรียกเพรียกเสียงใส
อย่าท้อถอยบนทางธรรมแม้แสนไกล
จงเดินไปเพื่อผู้อื่นให้ชื่นชนม์
หลายครั้งร้าวหนาวกายโรคร้ายรุม
คล้ายเมฆคลุมผืนหล้าพาสับสน
แต่แสงธรรมพลันสว่างกลางกมล
ปลุกชีพตนแยกวิบากพรากจากกาล
ทั้งน้ำใจใยดีไมตรีจิต
จากมวลมิตรมอบให้ไว้ขับขาน
ดุจน้ำทิพย์ชะโลมใจให้เบิกบาน
นานแสนนานไม่เคยเลือนเหมือนเช่นเดิม
ขอบคุณสายสัมพันธ์มั่นคงนี้
แก้วประเสริฐ...ธรรมกวีผู้ส่งเสริม
จรดบทกานท์งานธรรมนำเพิ่มเติม
ร่วมพูนเพิ่มความงามไว้ให้แผ่นดิน
พี่ดอกแก้ว
กัลยาหนึ่งหมกมุ่นกรุ่นธัมมะ
เพื่อชำระจิตใจคนทั้งผอง
ให้สะอาดสดใสดั่งใจปอง
โดยสนองร่องรอยพุทธองค์
ตามกำหนดแนวทางวางคำสอน
เพื่อจะผ่อนภาระให้ได้ประสงค์
ตามคุณพ่อวางไว้ได้จำนง
ให้ดำรงคงไว้ในแผ่นดิน
แม้นลำบากตรากตรำจนเหงื่อตก
ไม่สะทกอกสะท้านพลันโผบิน
มุ่งเดินหน้าพาคำสอนเป็นจินต์
ทั่วทุกถิ่นแว่นแคว้นแดนถิ่นไทย
อภิธรรมกำจรหอมดอกแก้ว
ที่เพริศแพร้วพรรณรายจนสดใส
ท่องจากริกเดินหน้าพาหัวใจ
อันแจ่มใสไร้มลทินถิ่นขวานทอง.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
2 กันยายน 2547 14:54 น.
แก้วประเสริฐ
ปั่นป่วนรัญจวนหวนคิด
ฟ้าครืนคร่ำร่ำร้องคะนองฟ้า
วิชชุพาสายแข่งแห่งสีแสง
อสุนีบาตพาดเวหาสเป็นสีแดง
ดุจคนแสลงน้ำใจคิดใฝ่ปอง
ลมโชยโหมโรมเร้าเฝ้าครวญคิด
ด้วยมีจิตจากไปเศร้าใจหมอง
ครั้นหวนพินิจไปเมื่อไตร่ตรอง
เห็นจะต้องใช้กาลผ่านเวลา
ครั้นมิจากหากรักมาพรากหนี
เสมือนนารีมอบรักไม่จักหา
รสสุคนธ์พากลิ่นที่โชยมา
จนกานดามาพรากรักแรมไกล
ฟ้าคร่ำครวญหวนไห้แต่ไร้ฝน
โอ้ดวงกมลพ้นหายช่างเป็นไฉน
พอหล่อนพรากจากไปมิทันไร
โธ่จิตใจทำไมได้คร่ำครวญ
นี่หรือว่าฟ้าดินท่านกำหนด
ยากจะปลดหมดเปลื้องเรื่องกำสรวล
ด้วยพาจิตปั่นป่วนหวนรัญจวน
มาทบทวนชวนคิดเป็นอนิจจัง
ช่างอนาถตัวเราเข้ามาติด
มันสิงสถิตคิดอยู่เป็นทุกขัง
ถ้าวางหายกลายจากมิจริงจัง
สิ่งประดังทั้งหลายย่อมหายไป
นี่แหละหนอพอเหตุนั้นได้เกิด
ผลนั้นเชิดชูไปให้ผ่องใส
พอพานพบสบแล้วไม่สบายใจ
เพื่อผ่อนคลายจึงได้ใช้ธรรมครอง.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙