5 มิถุนายน 2548 16:05 น.
แก้วประเสริฐ
ฤาสุดซึ้งรำพึงหวนฤา
..๏แลคลื่นไหวสั่นพลิ้ว ทะเลครวญ
แสงอร่ามงามรัญจวน ยิ่งแท้
สาดปรางค์ส่องกายนวล ผองแม่ งามแล
จนพี่หลงใฝ่แล้ ค่ำเช้าคนึงหวน๚
นวลนางรองสิ่งไว้ เหนืออาสน์
พื้นหาดทองทรายลาด อร่ามหล้า
ผุดผาดดั่งหงส์วาด เคียงคู่ มังกรแฮ
ยลใฝ่สุดปองฟ้า ไขว่คว้าเพียรสนอง๚
พิศงามเพียงใฝ่น้อง ตลึงแล
ฝันป่วนหวนถึงแม่ เรียกร้อง
เปรียบดุจดั่งดวงแข ฉายส่อง แสงนา
ภาพแม่ยลเสียงซ้อง ร่ำก้องฉ่ำหวาน๚
ยองเอยช่างหยาดพริ้ง สวยจริง แน่เอย
สายคลื่นสาดซบอิง สู่หล้า
มธุรสช่างงามยิ่ง ปรายสิ่ง ฮิแฮ
เฉลยคำหวานเปรียบฟ้า แก่ข้าจากสรวง๚
ผันจรขอฝากไว้ จำนรรจ์
เฉลยสิ่งหอมอนันต์ แด่ฟ้า
ยอดหญิงที่เปรียบฝัน จำผ่าน หวนนา
อกที่เหี่ยวอ่อนล้า ใฝ่ร้องเรียกสรรค์๚
หยดหยาดสาดคลื่นน้ำ เวียนใจ จริงเฮย
สุรีย์ที่สาดส่งไข ผ่องจ้า
ยากลุล่วงทรวงใน ไผสู่ ครองฤา
สุดที่จะลืมหน้า ผ่องฟ้าคราฝัน๚
จำเนียรกาลสู่ห้อง ดวงใจ
ยองพี่ไม่หนีไกล ใฝ่เจ้า
จดจำสิ่งไฉไล ผันสู่ จิตแฮ
วนสิ่งหวนสู่เข้า ส่องหล้าสู่ศานต์๚
ทะเลงามหญิงผ่องฟ้า มากมี ยลแฮ
พฤกษาอีกขุนคีรี จรดน้ำ
แสนสวยสิ่งสดศรี ฝังแก่ จำนา
หญิงหนึ่งพึงสุดล้ำ จากแคว้นยองสรวง. ๚ะ๛
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
4 มิถุนายน 2548 12:15 น.
แก้วประเสริฐ
ลอยตัวลอยใจ
อดีตกาลผันผวนล้วนผ่านพ้น
ชีวิตคนแหวกว่ายในห้วงฝัน
ทั้งเท็จจริงเบ็ดเสร็จสำเร็จพลัน
พึงเสกสรรสร้างบ่วงเป็นห่วงใจ
เขาวาดชีวิตฝันหวานออกแถลง
ตลบตะแลงปลิ้นปลอกหลอกสีใส
ล่อลวงภาพให้หลงสิ่งวิไล
ว่าไฉไลในแนวทางสร้างดำเนิน
คนทั้งหลายพาคิดติดในห่วง
คำหลอกลวงสิ่งหวานสร้างสรรเสริญ
เข้าหวานล้อมหอมหวนชวนชิดเชิญ
หลงเข้าเดินในห่วงล่วงผ่านมา
เกิดเป็นฟองล่องลอยสีใสสด
ช่างหมดจดแลอร่ามงามนักหนา
พอสุริยันส่งแสงแรงฤทธา
โอ้ชะตาฟองแตกแยกกระจาย
ต่างดิ้นรนขนขวายให้เหลวแหลก
ยากจำแนกสูงต่ำนำมาขาย
บ้างดิ้นรนต่อสู้จนตัวตาย
ความวอดวายเกิดอยู่ที่ผู้ทำ
พอผันเปลี่ยนเวียนหันเข้าสรรค์สร้าง
ต่างกระจ่างดีใจเหมือนได้น้ำ
พอหลงเสพกับได้แค่น้ำครำ
กระหน่ำซ้ำโชคชะตาโอ้นะเรา
ปวงชนเอ๋ยเคยเห็นทั้งเย็นค่ำ
ช่างชอกช้ำหัวอกเหมือนตกเขา
กระเสือกกระสนดิ้นรนสู้ทนเอา
เป็นความเศร้าว่ายแหวกแหกฉิมพลี
อิสรเสรีอยู่ที่ไหน
เหตุไฉนอิสรภาพมิคงที่
คนทั้งปวงมากหลายที่คงมี
สิ่งเหล่านี้เมื่อใดจะได้มา.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
3 มิถุนายน 2548 11:29 น.
แก้วประเสริฐ
ร้อยรักร้อยเล่ห์
ชีวิตนี้เปรียบได้คล้ายกองขยะ
ที่สุมสะสิ่งของต้องประสงค์
สู้ขนขวายหามาตามจำนง
ปรับปรุงลงจิตไว้สู่ในกาย
ทั้งร้อยเล่ห์พันโกงสารพัด
นำมาจัดลวงไว้สู่มุ่งหมาย
มิได้มากลั่นแกล้งแฝงทำลาย
สิ่งทั้งหลายมาสู่พวกพ้องตน
เอารูปร่างวาจาเป็นที่ตั้ง
กิริยาท่าทางให้คนสน
เสน่หาลวงเล่ห์ร้อยเล่ห์กล
ทำเป็นคนเมตตาน่าเคารพ
ในโลกนี้มากมายมีหลายอย่าง
ที่จัดสร้างเอาไว้ได้ประสบ
ทั้งรูปร่างหลงใหลเข้าพานพบ
ล้วนบรรจบรักลงตรงกลางใจ
คมศรรักปักลงตรงช่วงอก
มิวิตกกลับยินดีศรีสดใส
หากคำพูดขัดหูมิไฉไล
โกรธเป็นไฟรุมจิตคิดทำลาย
ดูประหนึ่งขัดสนเวียนวนเกล้า
เฝ้าปวดร้าวมุ่งมั่นบั่นสลาย
ร้อยเล่ห์รักหักทรวงลวงทำลาย
ยอมวอดวายไม่คำนึงถึงผลพวง
ล่วงละเมิดเกิดเป็นเช่นดักแด้
สร้างรอยแผลดุจไหมที่เฝ้าหวง
ห่อหุ้มกายหมายได้สิ่งทั้งปวง
ไม่ทันล่วงก็มลายวายชีวี
อันรักเล่ห์เล่ห์รักช่างเหหัน
มันผูกพันสรรค์สร้างสิ่งสดศรี
แต่เล่ห์ร้ายเล่ห์ลวงห่วงอัปรีย์
ดูเป็นที่สนุกสนานเฝ้าบันเทิง
นี่แหละหนอชะตาชีวิตที่เปรียบไว้
มันวุ่นวายเวียนวนจนคนเหลิง
เพียงลืมตาร้องอุแว้ก็ระเริง
ด้วยถูกเพลิงแห่งกรรมตามเข้ามา.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
2 มิถุนายน 2548 11:30 น.
แก้วประเสริฐ
ชีวิตที่วุ่นวาย
วิวิธผันกาลเปลี่ยนเวียนชีวิต
สร้างลิขิตปรวนแปรแม้แต่ฝัน
ก่อกำเนิดวุ่นวายแต่ละวัน
มิสร้างสรรค์กลับหันเข้าสู่วังวน
สิ่งใดเล่าเข้าใฝ่หาชะตาหนอ
ล้วนหมุนต่อกงเกวียนเวียนสับสน
จิตสล้างกลับมืดมนจนตรอมตรม
สิ่งเข้าบ่มล้มล้างคือทางรัก
หันเหหวนล้วนเกิดจากตัวเจ้า
ทุกค่ำเช้าเฝ้าคำนึงถึงประจักษ์
จะกินนอนวอนเว้าเสียยิ่งนัก
มิยอมพักหักใจแล้วไม่เมิน
ข้อปฏิบัติของชีวิตที่เอียงสุด
มิหันหยุดกับสร้างจนแลเขิน
ทางที่ถูกกลับวางมิดำเนิน
หลงเพลิดเพลินเดินอยู่ในหมู่มาร
มัชฌิมาปฏิปทาพระวางไว้
ก็ไม่ใส่ฝังจำมากล่าวขาน
หมกมุ่นอยู่กามาจนลนลาน
ว่าสำราญกามสุขทุกข์ครอบครอง
ทำลายสิ้นในสัมมาอาชีวะ
แม้แต่พระมาฉุดก็ไม่สนอง
เกิดลำบากเดือดร้อนที่ใฝ่ปอง
แล้วมาร้องเสียงแตกแหกกะเชอ
โอ้ใครเล่าเขาทำเกิดเช่นนี้
คงเป็นที่ความรักมักเสนอ
เข้าครอบคลุมหน่วงเหนี่ยวเลี้ยวนะเธอ
จนละเมอเพ้อหาพาระยำ
หากมีสติใคร่ครวญล้วนจัดสร้าง
ให้กระจ่างมัชฌิปฏิปทาสุขล้ำ
วางตัวเองถูกต้องทำนองธรรม
มิกระทำยำเกรงสิ่งผ่านมา
ความวุ่นวายทั้งหลายก็คลายสิ้น
จะโผผินบินไปสำราญหนา
กระจ่างสุขหากชอบในกามา
รักที่หาก็สว่างกระจ่างใจ.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
1 มิถุนายน 2548 12:41 น.
แก้วประเสริฐ
ชังสิ้นดินฟ้า
ส่อรูปสรีระนอกในยากใคร่เห็น
ใช่ประเด็นสำคัญนั้นอย่าหมาย
หากใจจิตคิดประดับอยู่กับกาย
สิ่งทั้งหลายมองเห็นดุจเช่นเงา
ถึงสอดส่องมองไปนั้นหาอยู่
สิ่งมุ่งสู้อยู่ที่ใจใช่เราเขา
เลือนแลลับนับอยู่คู่กับเงา
จนลืมเนาทำเรื่องให้เขื่องโต
กาลเวลาพาคนหลงวนยิ่ง
สร้างทุกสิ่งยามรักมักทำโข
กระเซาะกระแซะแนะนำทำคุยโว
สุดจะโอ้อวดอ้างสร้างมายา
ล้วนคำนึงถึงผลตามกลสร้าง
เข้าแทรกกลางพิลึกสุดกังขา
เดี๋ยวว่าลืมไม่ลืมทำเย็นชา
นี่แหละหนามวลหมู่สู้ตอแย
กลมายาพากลด้วยคนชัก
จัดห่วงมักหลอกไว้ให้แยแส
พอสิ้นเสียงหงายผึ่งหมดดวงแด
ยากจะแก้กลับได้โธ่ใจคน
ฟ้าทะนงหลงตนคนดีเด่น
สรรพสิ่งเห็นวางก้ามแต่สับสน
ดินพะนอหมายเพน้าเพื่อเฝ้ายล
วางตัวตนเหนือชั้นกระสันนัก
อุตพิดผลิดอกออกกลิ่นขี้
หมาเร่งรี่เข้าดอมหอมประจักษ์
วงสังคมมากมายคล้ายแสร้งรัก
เหหันมักถูกผลักเข้าวังวน
โอ้อนาถวาสนาชะตากลับ
ยากคืนกลับจากสิ่งให้สับสน
ขอชิงชังดินฟ้าจากห้วงกมล
ทำตัวตนลอยชายแม้นใครเมิน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ.๙๙๙