27 มิถุนายน 2548 11:49 น.
แก้วประเสริฐ
นางฟ้าจำแลง
ยลนวลนางเฝ้าเสริมประทินโฉม
แต่งทรวดทรงใบหน้าสุดประสาน
ทั้งลูบไล้เครื่องหอมอเนกประการ
อีกจัดสรรภูษารัดรึงใจ
ร่างรูปทรงอรชรช่างอ้อนแอ้น
ยามโลดแล่นท่วงท่าน่าหวั่นไหว
เสริมจริตแย้มยิ้มดูพริ้มพราย
เฉิดไฉไลในหมู่เหล่าชาวพารา
สำเนียงแจ้ววิเวกหวานระฆังแก้ว
ช่างเพริศแพร้วพรรณรายใครจะหา
มธุรสเอื้อนเอ่ยเฉลยวาจา
เย้าเสน่หายวนอารมณ์ชวนชมเชย
ทอดสายตาแลชายไร้ปิดเขิน
กลับเชื้อเชิญสิเน่หาอย่างเปิดเผย
แสร้งก้มหน้าทอดร่างมิละเลย
ทำก้มเงยโชว์รูปกายอร่ามตา
ปทุมมาลย์นั้นล้นจนพ้นเขต
สร้างอเนกกลิ่นยวนชวนนาสา
สิ่งสงวนล้วนลับล่อส่อเจตนา
เย้ายวนพาให้ชายหมายภิรมย์
แม้นติดอยู่ในบ่วงห้วงกฤษณา
ยากยิ่งหนาพ้นภัยได้ขื่นขม
ด้วยหล่อนนี้มีไว้เพื่อเชยชม
คิดสู่สมกับชายหมายเงินตรา
หากย้อนกลับหันดูสู่บ้านเล่า
ท่าทีเจ้าแปรเปลี่ยนเสียนักหนา
คนละเรื่องเครื่องโฉมแต่งกายา
เหมือนผีป่าเงาะเขาลำเนาไพร
จริตก้านน่าดูเสียยิ่งนัก
สิ่งฟูมฟักเห็นสวยกว่าสิ่งไหน
ส่งคืนกลับสู่ราตรีที่ไฉไล
ดูบ้าใบ้กรี๊ดก๊าดตลาดเย็น
ที่ยกนี้มิใช่ให้ร้ายหญิง
เป็นเรื่องจริงที่พบประสบเห็น
ยกมาเล่ากล่าวไว้ตามประเด็น
เพื่อยกเป็นอุทาหรณ์ไว้สอนใจ.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
25 มิถุนายน 2548 10:57 น.
แก้วประเสริฐ
โดดเด่นเดียวดาย
เรียมเอ๋ยพี่เคยเฝ้าพลอดจอมขวัญ
สุขสันต์จำนรรจ์รักมั่นอยู่เสมอ
เดือนกระจ่างฟ้าสางใกล้เคียงเธอ
หลงละเมอเพ้อพร่ำร่ำคร่ำครวญ
โอ้อ้างว้างอารมณ์มิสมฤดี
เหมือนโนรีทิ้งพรากรังมิหวน
ชวนหาอาวรณ์สะท้อนปั่นป่วน
แสนรัญจวนเมื่อตะวันพลันลับตา
ดึกดื่นเดือนคล้อยร้อยหัวใจพี่
พรากชีวีดวงหทัยยากสุดหา
มองดาราเรียงรายคล้ายกานดา
ใยเสน่หามาลับกลับดาวเดือน
เหลียวหาเจ้ามาทิ้งร้างไปไหน
เหตุไฉนจึงได้ลืมเลือนลับเลื่อน
เหมือนเดือนตกจากฟ้าครามาเยือน
ช่างสะเทือนอารมณ์มิสมฤดี
ปั่นป่วนรวดร้าวโน้มน้าวจิต
ใยชีวิตคิดพรากแล้วจากหนี
คงเหลือเดือนเด่นฟ้ายามราตรี
ทิ้งใจพี่ปวดร้าวเฝ้าอาวรณ์
โธ่เอ๋ยใจใยมาซึ่งปวดร้าว
ตะวันน้าวคราคบสบสะท้อน
ช่างโดดเดี่ยวเดียวดายหัวใจรอน
เหมือนนกวอนเรียกคู่ชู้คืนรัง
จะหลับนอนใจพะวงหลงความคิด
เรียมฤาผิดหรือข้าจะหมดหวัง
เหมือนมีมนต์ดลใจในภวังค์
แลความหวังอกสะท้อนนอนมิลง
เรียมเอ๋ยเรียมเรียมรักมาพรากหนี
ทิ้งชีวีหวานหวนชวนไหลหลง
จนตาค้างเหม่อมองฟ้าหาอนงค์
หัวใจคงเปล่าเปลี่ยวเดี่ยวเดียวดาย.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
23 มิถุนายน 2548 10:43 น.
แก้วประเสริฐ
เกินกว่าจะคว้า
จะรักเลือกลุ่มหลงพะวงศักดิ์
หรือใฝ่นักศักดินาแม่มารศรี
จึงกอบเกี่ยวโน้มหักร้างไมตรี
ที่พีนี้มอบลงตรงใจนาง
แม้นจะปองใส่ไว้ในวงพักตร์
แม้นนำชักคำพูดมาสะสาง
แม้นหยิบยกแม่น้ำเข้ามาวาง
ล้วนสิ่งสร้างมิไหวไร้คำนึง
เสาวรสพจมานซ่านซึ้งเหลือ
นำมาเจือยังน้อยร้อยใจถึง
หากสุเมรุมาศเอนคงรำพึง
ต้องตลึงในถ้อยน้อยคำมี
ช่างซ่านผ่านห้วงล้วงแล้วผลิต
สรรค์ชีวิตผิดตรงลงศักดิ์ศรี
เขาสูงต่ำเกาะแก่งแล้งวารี
แก่เจ้านี้ยังน้อยในความรัก
สุคนธ์ธารหวานหอมเมื่อน้อมกลิ่น
หรือเสียงพิณฟากฟ้ามาประจักษ์
ยังน้อยกว่าคำพูดที่หวานนัก
ล้วนชวนชักให้หลงปลงหทัย
หากมาดแม้นตัวพี่นี้มีฤทธิ์
จะเนรมิตศักดินามิปราสัย
อีกทั้งยศศักดิ์ศรีที่เกรียงไกร
มอบส่งให้เจ้าไว้ได้เชยชม
เพียงแต่พี่เป็นมนุษย์สุดยากเข็ญ
จะเที่ยวเล่นยังยากต้องขื่นขม
จะคว้าเจ้าเคล้าคลึงพึงอารมณ์
ต้องตรอมตรมข่มไว้แม้ใจคะนึง
ขอลาก่อนแม่งอนผู้ห่อนรัก
อนงค์ลักษณ์นวลนางวางก่อนซึ้ง
แม้นรูปงามสวยสะดุดสุดตะลึง
ยากจะกลึงกล่อมเจ้าเฝ้าครอบครอง.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
21 มิถุนายน 2548 14:47 น.
แก้วประเสริฐ
ใจที่คดเคี้ยว
ยืนนิ่งพิงหินผาดารดาษ
ใสสะอาดห้วงธาราพุ่งเป็นฟุ้งฝอย
ดุจหัวใจดวงน้อยไหลล่องลอย
แล้วเคลื่อนคล้อยสู่เวิ้งว้างกลางนภา
มองเถาวัลย์พันเกี่ยวช่างเคี้ยวคด
ยิ่งรันทดห้วงฤทัยยากใฝ่หา
เหมือนชีวิตวกเวียนเสี้ยนชะตา
สู้ไขว่คว้ายิ่งพันนั้นมืดมน
จักมีรักสักครั้งยังปนเศร้า
ช่างปวดร้าวแตกยับดุจจับป่น
พึงหญิงหนึ่งมีไว้ในดวงกมล
กลับสับสนหันเหเล่ห์หลอกลวง
ลมรำเพยเผยวจีที่แสนสล้าง
ดั่งน้ำค้างหยาดนภามาจากสรวง
ชโลมจิตฟุ้งซ่านครั้นตักตวง
รุจีล่วงห้วงสลายกลายเป็นตรม
ฟ้าเอ๋ยฟ้าคราจรัสประภัสสร
ยังอาวรณ์สีสันพลันขื่นขม
อกของข้าปวดร้าวยามระทม
ดุจยาขมใครเล่าเขาจะแล
เหหันหวนทวนตรมครั้นเชยชื่น
ความระรื่นตื่นคล้ายในกระแส
ไหลพัดผ่านพุ่งกระจายผันแปร
หมองใจแท้แน่ใจในเคี้ยวคด
ลมจ้าลมบ่มรักใยหักเห
อุปเท่ห์เล่ห์ลวงล้วนเลี้ยวลด
ปลุกหทัยใจสวาทเหลือกำหนด
แล้วก็ปลดวางทิ้งทุกสิ่งไกล
ใยฟ้าสรรค์พลันสร้างวางสิ่งหวัง
ล้วนสร้างพลังก่อไว้กลับผลักไส
หรือลิขิตชีวิตนี้ช่างกระไร
เปล่าเปลี่ยวใจยืนแลชะแง้คอย.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
14 มิถุนายน 2548 10:39 น.
แก้วประเสริฐ
ชีวิตคน หรือ คนชีวิต
กระแสเปลี่ยนเวียนวนตามกลโลก
อุปโลกน์วกหันเหเล่ห์สมอง
สร้างสภาวะหลงใหลคนใฝ่ปอง
เข้าทำนองเชือกผูกจมูกควาย
สิ่งกำนัลหอมหวนทั้งชวนล่อ
สร้างเป็นบ่อลวงคนจนขวนขวาย
ทั้งศักดิ์ศรีเงินตราอีกมากมาย
ส่งทั้งหลายฮึกเหิมเข้าเสริมมัน
เมื่อหลงติดบ่วงไว้ถูกปลายชัก
เหมือนโดนกักอิสระน่าขบขัน
ต้องก้มหัวน้อมคำนับแต่ละวัน
ยากจะผันชีวิตตนพ้นแนวทาง
วงเวียนนี้มีไว้แต่ในอดีต
ยากจะปลิดหักพวงร่วงสะสาง
ความขี้เกียจหลงตัวจึงละวาง
มิสรรค์สร้างติดสบายถูกใช้งาน
เปรียบดังคนวนไปอยู่ในอ่าง
หรือลูกข่างหมุนวนด้วยแรงสาน
ของเชือกขว้างหมุนวนจนลนลาน
ไม่ช้านานก็หยุดสะดุดลง
เกิดเป็นคนดิ้นรนต่อสู้ชีวิต
จงลิขิตตัวไว้อย่าให้หลง
วางแบบแผนอย่าไปใฝ่พะวง
สร้างแนวตรงเสาะหาด้วยปัญญา
ให้รู้เขารู้เราในการดำเนิน
อย่ามัวเพลินหลงเชื่อคำมุสา
ทั้งล่อหลอกคำหวานด้วยวาจา
สืบค้นหาทดลองมิหมองมัว
สติมั่นขันติมีไว้เสมอ
สิ่งเพ้อเจ้อเห็นเป็นเช่นของชั่ว
ความหนักแน่นจงมองว่าน่ากลัว
อย่าหลวมตัวหมกมุ่นอยู่กับกาม
อันสุรานารีมีนิดหน่อย
แต่อย่าพลอยหลงติดมิเกรงขาม
เพื่อสังคมมีไว้แค่พองาม
มิหลงตามจะทำให้เสียงาน
ทั้งเงินทองหาได้จงใช้ประหยัด
แล้วขจัดไม่จำเป็นอย่าประสาน
คนดีสรรเสริญกับชั่วจงประจาน
ใช้คนนั้นให้เหมาะจำเพาะตน
หูต้องหนักดั่งแท่นศิลาหิน
จะโผบินดุจนกเหินเวหน
ตาต้องคมเหมือนเหยี่ยวอยู่เบื้องบน
ความอดทนเหมือนหมายามหิวโซ
หากทำได้จะมีชื่อระบือเลื่อง
คนทั้งเมืองมาหาอย่าเขื่องโข
จงอดออมถ่อมตนมิวางโต
อย่าเฉโกอยู่ไปชั่วกัลป์กาล.
(คำว่า เฉโก นิยาม ฉลาดแกมโกง ไม่ตรงไปตรงมา)
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙