6 สิงหาคม 2548 12:49 น.
แก้วประเสริฐ
วันเกิดเลิศมงคล
เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยร้อยใจพ่อ
ขอมอบต่อทะเลใจไว้สุขี
ยี่สิบแปดสิงหาครบรอบปี
สิ่งที่ดีมงคลจงดลมา
ด้วยอำนาจพุทธาอานุภาพ
พระธรรมปราบชั่วร้ายอย่าได้หา
สังฆคุณหนุนเกื้อแก่ลูกยา
ทั้งชีวาประสบพบความงาม
ตุ๊กตาน้อยตัวนี้มีค่ายิ่ง
แทนทุกสิ่งเทพนารีที่เกรงขาม
ศิษย์เจ้าแม่กวนอิมจะนำความ
สิ่งงดงามความสุขมาสู่ใจ
ขจัดสิ่งชั่วร้ายให้หายจาก
ภัยพิบัติยากล้ำกรายให้สดใส
คิดสิ่งใดสำเร็จสมดังหทัย
จึงฝากไว้ให้ดูแลแทนตัวพ่อ.
แด่เอมลูกรักจากดวงใจ
กุหลาบพอร์ต.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
5 สิงหาคม 2548 12:08 น.
แก้วประเสริฐ
*นางแก้วแววฟ้า*
*นางแก้วของพี่เอ๋ย สุดที่จะเอ่ยคำอ้าง
หยาดฟ้ามอบรอบทาง ใจพี่ร้างสุดโรยลา
นี่นะหรือคือรัก ที่ประจักษ์เสียนักหนา
ช้ำนะช้ำแก้วตา หากบอกมาไม่เสียใจ
นกเขาคู่ยังกู่รัก ปลายังรักห้วยน้ำใส
แต่น้องใยจึงเปลี่ยนไป ด้านใจช่างดำปลัก
เพียงบอกกล่าวพี่สักคำ จะไม่ช้ำยิ่งนัก
รักไม่รักขอประจักษ์ สุดที่รักจักจร
สิ้นสุดเสียแล้วหรือ สิ่งยึดถือของบังอร
มาสลัดตัดอาวรณ์ ฤทัยหลอนสุดแหลกเหลว
ยินดีด้วยขออวยพร ดวงสมรเพริศพริ้งแพร้ว
เป็นหยาดฝนชโลมแนว อย่าแหลกเหลวนะแก้วตา
วาสนาพี่นั้นน้อย จึงต้องคอยเฝ้าห่วงหา
สิ้นสุดแล้วแก้วตา ขออำลาไปตามทาง
ชาติหน้านั้นมีจริง คงพักพิงมิเลิกร้าง
เสน่หาที่วายวาง ต้องสล้างมิโรยลา.*
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
3 สิงหาคม 2548 10:39 น.
แก้วประเสริฐ
*ดอกไม้นี้เพื่อเธอ*
*ดวงตะวันสาดส่องแสงสีทอง
กระจ่างเรืองรองสุดจะสร้างสรรค์
ยามดอกไม้เบ่งบานมอบเป็นกำนัล
เพื่อคุณนั้นเป็นรางวัลฉันมอบเธอ
สิ่งผ่านมาอารมณ์ช่างร้าวรอน
ความอาวรณ์ฝังจิตฉันคิดเสมอ
สู้บากบั่นมั่นรักประจักษ์ละเมอ
เพียงพร่ำเพ้อครวญคิดใจติดตรึง
วันเวลาผ่านมาจนล้นทรวง
ความอบอวลฝังลงตรงห่วงถึง
ตะวันฉายดอกไม้บานซ่านรำพึง
หวนคำนึงถึงความหลังสองเรา
สู้บากบั่นหมั่นเพียรจนสรรค์สร้าง
ทุกสิ่งอย่างฝากลงตรงห่วงเขา
แสนปลาบปลื้มชื่นจิตแม้เป็นเงา
จะขอเฝ้ารักนี้ไว้ให้นิรันดร์
ดอกไม้นี้ขอมอบให้แด่เธอ
มิเลิศเลอแต่ให้ด้วยใฝ่ฝัน
ดุจดังพลังแรงใจเฝ้าผูกพัน
แด่เธอนั้นผู้เดียวที่เกี่ยวไป
อย่าลืมคำฝากไว้ในสัญญา
คำวาจาผูกกันนั้นผ่องใส
ดั่งดอกไม้แรกแย้มเหนือสิ่งใด
สิ่งมอบให้ใจกายแห่งชีวา
รักเดียวนั้นมอบไว้ด้วยใจเสมอ
ขอเพียงเธอดั่งดอกไม้ที่ใฝ่หา
เหนือสิ่งใดในโลกนี้ล้วนมายา
จงฟันฝ่าด้วยพลังดอกไม้บาน
จงฝ่าฟันอุปสรรคมาขวางกั้น
ดอกไม้นั้นพลันแย้มเกษมสันต์
จงฟันฝ่าด้วยพลังดอกไม้นั้น
เรารักกัน...เบ่งบาน...ชั่วนิจ..นิรันดรฯ.*
*เห็นดอกกุหลาบพอร์ตแอลเจลร่า
กลิ่นหอมหวลงามตระการสดใส
จึงใคร่บันทึกไว้ในทำนองเสียงเพลง*
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
2 สิงหาคม 2548 14:50 น.
แก้วประเสริฐ
*สิ่งปั่นป่วนฤทัย*
*จะขอเขียนตำนานล้วนผ่านพบ
ด้วยประสบพบเห็นเฝ้าเหม็นคลุ้ง
สิ่งกำเนิดภาพลักษณ์จักใฝ่ผดุง
เพียงหมายมุ่งพุ่งสู่ผู้ภิรมย์
ความอิจฉาริษยาพาหมองเศร้า
ช่างแนบเอาสิ่งร้าวเข้าขื่นขม
เกิดอาฆาตมาดร้ายไม่ชื่นชม
ผูกเป็นปมส่งไว้ยากคลายลง
เห็นเขาดีมีสุขยิ่งทุกข์เหลือ
วุ่นวายเพื่อทำลายสิ่งได้หลง
กลัวเกินหน้าพาไว้ใฝ่พะวง
แทรกสอดลงตรงใจให้มัวเมา
เห็นเขาทุกข์สุขใจกระไรแท้
ยินดีแม้พินาศลงตรงหน้าเขา
นำความช้ำซ้ำเติมเสริมแต่งเอา
เยาะเย้ยเล่านำมาพาประจาน
ผิดของตัวมัวเมาเฝ้าปกปิด
สร้างจริตยกแม่น้ำมาร่ำขาน
อ้างสิ่งดีความชอบของวันวาน
ทำแสร้งสรรค์ให้เห็นเช่นดีงาม
เข้าประจบเสแสร้งแกล้งว่าชอบ
เฝ้านบนอบอ่อนน้อมจนวาบหวาม
ยกมือไหว้กราบกรานเฝ้าติดตาม
ให้เป็นความงามเด่นเห็นว่าดี
เพราะตัณหาพาไปในราคะ
อีกฉันทะนำมาเพื่อศักดิ์ศรี
โลภะจัดวางไว้ในชีวี
ด้วยเกิดมีริษยานำพาไป
อนิจจาเปลี่ยนแปลงที่แฝงเล่า
ก็ยังเฝ้าใฝ่พะวงหลงสดใส
ทุกข์ทั้งหลายผูกพันกระชั้นไป
ยังเก็บไฟริษยามาครอบงำ
สิ่งกำเนิดเกิดตามไม่หวนคิด
หมกมุ่นจิตเอามาเล่าเฝ้าย้ำ
กลัวจะดีเกินหน้าสู้ฝ่าทำ
เกิดความช้ำครอบครัวทั้งตัวเอง
ประสบการณ์สิ่งนี้ที่ล้วนกล่าว
จากเรื่องราวหนหลังครั้งละเบ็ง
ขอคิดว่าอุทาหรณ์ตอนบรรเลง
เมื่อวังเวงควรลิดจงคิดตรอง.*
(ละเบ็ง คำนิยมคือ ... ดัง , ดังอื้ออึงแซ่ไปหมด,
ระเบ็ง ก็ว่า.
วังเวงในที่นี้หมายถึง อาการที่สงบเยือกเย็น.)
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
31 กรกฎาคม 2548 13:56 น.
แก้วประเสริฐ
นิราศเจ้าพระยาคลารำลึก
กระแสน้ำไหลเอื่อยดูเฉื่อยนั้น
แสงจันทร์ทอทบน้ำร่ำรำพัน
นึกถึงวันแสนซ่านสำราญรมย์
เงาดวงจันทร์ทาบลงอยู่ตรงหน้า
แลท้องนภาเฉิดฉวัดเข้าผลัดสม
พิเคราะห์พินิจติดตาในวงกลม
สนิทสนมแลสล้างกลางธารา
เจิดจรัสประภัสสรในตอนพลิ้ว
ระริกลิ่วแววระยับยากนับหา
ไปตามคลื่นลื่นแวววับงามจับตา
กระทบฝาเรือเอี่ยมจุ้นที่คุ้นเคย
อีกเรือประทุนลอยล่องพร่ำเพรื่อ
ทั้งเรือเกลือข้าวสารที่ผ่านเอ๋ย
เรือหาปลาลอยลำไม่เว้นเลย
ยากจะเฉลยคราคล่ำสองล้ำฝั่ง
พระพายโชยโรยกลิ่นน้ำรำลึก
ทั้งยุงผนึกกำลังยามมานั่ง
สองมือเกาเหลือบมองคอยน้องนาง
จันทร์กระจ่างแลชมภิรมย์เดียว
เจ้าพระยาเอ๋ยข้าเคยว่ายท่องเที่ยว
เกาะลดเลี้ยวเกี่ยวเรือดูหวาดเสียว
คอยหลบหลีกเจ้าของตัวเป็นเกลียว
หลบไม้เรียวคอยฟาดข้างแคมเรือ
ทั้งเรือลากซุงลอยลงตรงกลางน้ำ
ดำออกคลำกุ้งปลากามากมายเหลือ
เชือกกล้วยมัดรอบเอวส่งจุนเจือ
นำไปเผื่อทางบ้านเพื่อกันถูกตี
มาบัดนี้อายุวัยดุจใกล้ฝั่ง
เพียงมานั่งเฝ้ามองสองฝั่งนี้
เพื่อประกอบอดีตปัจจุบันที่มี
สร้างชีวีเป็นฝันที่รัญจวน
เดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง
แต่ทุกสิ่งเปลี่ยนไปยากคืนหวน
เมื่อก่อนนี้หญิงชายมากมายชวน
บัดนี้ล้วนเรือยอร์กพ่นกรอกวลี
ยิ่งเพลงฟังครั้งนี้สุดที่กล่าว
เหมือนจับเอาลิงเต้นบนสังกะสี
หากยุคเก่าสุนทราภรอ่อนหวานดี
ต่อไปนี้ยากจะแลชะแง้คอย
คนละยุคละสมัยไม่ว่ากล่าว
แต่ยังเฝ้าเหม่อมองคิดจะสอย
เดือนและดาวมาเล่นเห็นเลื่อนลอย
เอามาปล่อยลงน้ำแทนกระทง
ประกอบเพลงเก่าเก่าที่เร้าจิต
จะเนรมิตสาวงามตามประสงค์
แทนนางกระทงคงไว้ในเจตจำนง
แล้วปล่อยอนงค์ลงบูชาพระคงคา
ความฝันนี้ใกล้ดับเสียแล้วหนอ
สิ่งที่พ้อเห็นร้างกระมังหนา
ด้วยวัยเรานี้หนอต้องขอลา
ยากจะมาหวนกลับแลลับจร
จันทร์ดาราพากันนั้นทรงกลด
งามจรดแลสล้างมิหลอกหลอน
อีกท้องน้ำแลระยับเป็นตอนตอน
ใจอาวรณ์ตอนเที่ยงคืนสุดชื่นเพ็ญ
เสียงเพลงเก่าแว่วมาใจพาระทึก
ภวังค์ที่ตรึกหวนลับกลับมาเห็น
เงากระจ่างกลางน้ำที่ฉ่ำเย็น
พบเนื้อเย็นยืนจ้องดูมองเรา
แย้มยิ้มนิดจิตสว่างกระจ่างไสว
เฉิดไฉไลถือกระทงมอบส่งเข้า
ยื่นมือรับขอบคุณเสียงเบาเบา
มิ่งเฉลาเราอธิษฐานพลันลอยกระทง.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
31 กรกฎาคม 2548
13.50 น.