20 มิถุนายน 2549 13:29 น.

* ภินทนาการ *

แก้วประเสริฐ


             *  ภินทนาการ  *

     น้ำซับหยาดราดรินจากถิ่นห้วง
หยดไหลล่วงทรวงระทึกตรึกขื่นขม
ห่วงแห่งกรรมซ้ำเติมเสริมระทม
สร้างรอยปมถมทับจับราคิน

     สิ้นแล้วหนอขอลาหนีพาห่าง
สุดอ้างว้างร้างอารมณ์ทับถมสิ้น
ภินท์หัวใจใยสลายละลายบิน
เหลือเพียงกลิ่นเงารสยังจดจำ

     ผินไปไกลขอบฟ้าถิ่นลาล่วง
ทิ้งใยบ่วงช่วงสิ่งรักที่หักช้ำ
หนีขอบเขตขัณฑสีมาพาระกำ
แฝงลำนำพ้นฟ้ามาเดียวดาย

     อกหนอเคยเผยกว้างดั่งแผ่นฟ้า
ต้องโหยหาหม่นหมองละอองสาย
ห่อเหี่ยวแห้งแล้งน้ำจิตระยิบพราย
หมดสิ้นไร้คล้ายดาวตกโลกลืมเรา

     ต่อนี้ไปใครเล่าจะเฝ้าเห็น
ดุจดั่งเช่นดาวน้อยลอยโง่เขลา
ห้วงนภาจะลาลับไม่เหลือเงา
เหลือสิ่งเคล้าตำนานผ่านจากจร

     ลาแล้วหนอขอพรากจากสิ่งเฉลย
สิ่งที่เคยสร้างสรรค์นั้นพลันหลอน
สู่หยดเลือดเหือดหายใจร้าวรอน
แม้นสะท้อนก่อนไปให้สุขเอย.

        ***   แก้วประเสริฐ.  ***
				
13 มิถุนายน 2549 10:33 น.

อลวนจนเพ้อ

แก้วประเสริฐ


              อลวนจนเพ้อ

     ลมสวาทแปรผันจนฉันเหงา
แม้นซึมเซาแต่ใจเหมือนได้ฝัน
เคยออดอ้อนงอนง้อพะนอกัน
แสนสุขสันต์เธอพรากยามจากไป

     เปรียบชีวิตเกิดใหม่จนได้แก้ว
ที่เพริศแพราวแจ่มจรัสมาจัดให้
ช่วงอิสระเสรีที่เคยไกล
กลับสู่ไว้ให้คืนฟื้นชีวี

     ต่อนี้ไปใครเล่าจะเข้าครอง
เห็นจะต้องมองดูให้สูสี
สร้างกลไกตรองไว้ในฤดี
ไม่หลงที่ว่าสวยร่ำรวยทรัพย์

     แม้ยากจนไร้เงินกลับเพลินกว่า
ไม่ตีค่าศักดินาเข้ามานับ
กดเสียจนตัวเราเฝ้าย่อยยับ
เพื่อนฝูงกลับนินทาว่าหลงเมีย

     โลกเอ๋ยโลก..โลกว๊ะ..นะโลกเหวย
แสนเสบยเปรมปรีดิ์ที่สูญเสีย
เขาทิ้งเราจากไปแม้ใจละเหี่ย
แม้นจะเพลียก็สุขทุกข์ไม่มี

     จะเที่ยวท่องร้องเพลงบรรเลงชีวิต
มุ่งลิขิตปิดลบกลบศักดิ์ศรี
ฟ้าสว่างกระจ่างแล้วแนวชีวี
ต่อแต่นี้ปฐพีมีแต่เรา.

    ***  แก้วประเสริฐ. ***
				
12 มิถุนายน 2549 12:52 น.

น้ำค้างนางฟ้า

แก้วประเสริฐ


                 น้ำค้างนางฟ้า

     จันทร์สว่างกระจ่างแล้วแก้วตาเอ๋ย
สิ่งที่เคยพรอดพร่ำร่ำเรียกหา
ใยบัดนี้เหลือไว้เพียงน้ำตา
โปรยพรมมาให้ข้าช้ำระกำชีวี

     สิ้นสุดหรือคือรักประจักษ์เจ้า
ที่เคยเคล้าคลอเคียงเลี่ยงหลบหนี
เป็นใยรักฝากลงตรงฤดี
ยากที่พี่กล่าวคำสุดช้ำใจ

     ยืนคอยเจ้าเฝ้ามองจันทร์แสงส่อง
หยาดละอองต้องกายไม่สดใส
ด้วยรำลึกนึกถึงสิ่งตรึงหทัย
ลับเจ้าไปให้สะท้านพล่านอกตรม

     ลมเอยลมบ่มฤทัยในคืนนี้
สุดที่พี่อาลัยใจขื่นขม
คิดถึงนวลชวนมองสนองอารมณ์
ที่เคยชมชี้ชวนแสงนวลจันทร์

     สายสวาทที่รักของข้าเอ๋ย
ใยทรามเชยหนีลับนับโศกศัลย์
หัวอกพี่แทบสลายในคืนวัน
ที่แสงนั้นทอดไว้แต่ไกลตา

     น้ำค้างพร่างพรมไว้ให้เย็นฉ่ำ
คิดถึงคำนางฟ้าในคราอุษา
ก่อนลาลับกลับไปไม่กลับมา
เหลือน้ำค้างต่างหน้ามาเชยชม.

      ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
7 มิถุนายน 2549 11:27 น.

ของขวัญจากในหลวง

แก้วประเสริฐ


                             ของขวัญจากในหลวง

1)	อย่าทำลายความหวังของใคร...เพราะอาจเหลืออยู่แค่นั้น...
2)	รู้จักฟังให้ดี...โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆเท่านั้น...
3)	จะคิดการใด...จงคิดการให้ใหญ่เข้าไว้  
         แต่เติมความสนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย...
4)	หัดทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัยโดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้...
5)	จงจำไว้ว่าข่าวทุกชนิดถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น...
6)	ใครจะวิจารณ์อย่างไรก็ช่าง...ไม่ต้องเสียเวลาโต้ตอบ...
7)	ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่  2 แต่อย่าให้ถึง 3....
8)	เราไม่ได้ต่อสู้กับคนโหดร้าย แต่เราต่อสู้กับความโหดร้ายในตัวคน...
9)	เมื่อมีใครสวมกอดคุณ...ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน...
10)	อย่าไปหวังเลยว่าชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม...
11)	ประเมินตัวเองด้วยมาตรฐานของตัวเองไม่ใช่มาตรฐานของคนอื่น...
12)	คงไว้ซึ่งความเป็น  คนเปิดเผย อ่อนโยน และอยากรู้อยากเห็น...
13)	ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด สุขุมเยือกเย็นไว้...
14)	อย่าวิจารณ์นายจ้าง...ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุขก็ลาออกซะ...
15)	คำนึงถึงการมีชีวิต  กว้างขวาง  มากกว่าการมีชีวิต  ยืนยาว...

                  ใครไม่เคยถูกตี  ถูกทุบ  เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น
                                  จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่

                         พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม...อัญเชิญมาเพื่อเตือนสติแก่ปวงชนชาวไทยเนื่องในวโรกาสครองราชย์ครบ 60 พรรษา ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งๆขึ้นเทอญ
                 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ  ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
                                      ข้าพระพุทธเจ้า... แก้วประเสริฐ.
				
7 มิถุนายน 2549 10:09 น.

* หัวใจประกายดาว *

แก้วประเสริฐ


          * หัวใจประกายดาว *

    * จะรวมร้อยเกี่ยวไว้สู่ใจเสมอ
แสนเลิศเลอเพียงฝันที่ฉันรัก
วิจิตรตระการสรรค์ไว้สู่ใจนัก
ยิ่งประจักษ์เพียงเงาที่เฝ้ารำพึง

     มองฟากฟ้าคราย่ำคร่ำสนธยา
หมู่นกกาบินหมู่แลดูซึ้ง
สุดขอบฟ้าลาแสงแห่งตราตรึง
หวนคำนึงถึงเขาเฝ้ารำพัน

     ถึงอย่างไรได้ผ่านกาลช่วงนี้
ดวงฤดีเก็บไว้เพียงในฝัน
ทั้งรสหวานซ่านซึ้งตรึงใจกัน
ขอเธอนั้นแย้มยิ้มก็เพียงพอ

     ดูซิดูหมู่ดาวพราวพร่างฟ้า
ดุจรักข้าลอยไปเสียแล้วหนอ
ยากฉุดเหนี่ยวเกี่ยวรั้งหวังเคียงคลอ
สู้ทนรอดั่งประกายในดวงดาว

     กระพริบแสงแจ้งไว้สู่ในรัก
ช่างมืดนักฝากลงตรงห้วงหาว
แล้วริบหรี่ค้างลงนัยน์ตาพราว
สุดสืบสาวค้างฟ้าพาใจลอย

     จะเก็บรักฝากรักถักเป็นสร้อย
นำมาร้อยห้อยไว้เพื่อใช้สอย
เป็นสิ่งเตือนเสมือนใจที่ได้คอย
เปรียบร่องรอยประกายดาวเฝ้าจันทรา *.

          ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ