6 สิงหาคม 2549 23:06 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงคำนึง
ระลึกหวนชวนย้อนรำพึงหลัง
สิ่งที่ฝังยังจำความสดชื่น
สะท้อนสิ่งสุขสันต์วันชื่นมึน
พลิกระรื่นฟื้นภวังค์รั้งกลับมา
สู่ธารไหลนิ่งขจีสีมรกต
สวยบรรพตอร่ามงามนักหนา
สายลมแผ่วแว่วร้องสกุณา
มวลพฤกษาส่ายระบำย้ำใบ
ใบไม้พลิ้วระลิ่วลงเลื่อนคล้อย
พลิกสู่ลอยจากห้วงล่วงน้ำใส
ไหลตามน้ำละล่องท้องธารไป
ตรึกความนัยรำลึกนึกชวนชม
งามเพริศพริ้งอิงลออหนอสิ่งสร้าง
ดั่งน้ำค้างสลอนระวีหลากสีสม
ปมยิ่งคิดพิศหวามยามเริงลม
ผ่อนอารมณ์วิจิตรคิดย้อนมา
ดุจสระน้อยขรณีที่พราวเพริศ
งามบรรเจิดกำเนิดไว้สู่ในหล้า
กลางป่าเขาลำเนาไพรในวนา
คล้ายกัลยาเริงร่าพาเพลิดเพลิน
ดั่งกินนรีพลีร่างกลางคิมหันต์
สนานลำธารป่วนฤดีที่แนวเขิน
ซ่านภิรมย์ชมวิไลใกล้โขดเนิน
งามเหลือเกินเสมือนพบสบคคนางค์
ท่องธาราวิเวกเฉกสรวงสวรรค์
สิ่งสารพันทำให้ใจผ่อนหมาง
เปี่ยมล้นสุขทุกข์ขจัดพัดเลือนราง
ล้วนสิ่งสล้างจ่างหทัยในสิ่งจำ
ลำธารไหลไล้ภูผาวนาสวย
โอบอุ้มด้วยพฤกษาคุณค่าล้ำ
ธรรมชาติไว้ให้ใจชื่นฉ่ำ
ผ่านลำนำย้ำสู่ห้วงดวงฤดี.
*** แก้วประเสริฐ. ***
4 สิงหาคม 2549 12:33 น.
แก้วประเสริฐ
หนึ่งหญิงอิงหทัย
อธิกวารผ่านจรัสประภัสร์แสง
โน้มสิ่งแฝงน้าวหทัยใฝ่คิดถึง
วาระกาลหันหวนล้วนรำพึง
ซาบซึ้งตรึงห้วงในใสเบิกบาน
นิรันดร์คำสอนไว้สู่ใจนัก
จตุรพักตร์คือแม่แผ่ไพศาล
โอบอุ้มเกื้อเอื้ออาทรทุกวาร
แม้จะนานผ่านฟ้าทุกราตรี
เปี่ยมเมตตาคราเห็นเย็นสู่จิต
เฝ้าพินิจแจงสล้างกระจ่างศรี
เบิกหทัยมืดสลายให้เปรมปรีดิ์
ผันชีวีพลีไว้ใจการุน
น้อมรำลึกนึกคุณหนุนเหนือเกศ
ปัญญาเขตทั่วแคว้นแหนเกื้อหนุน
เฝ้าปกคุ้มเกล้าแลแผ่เกื้อกูน
เป็นใบบุญอุ่นฤทัยในมุทิตา
อุเบกขาไพศาลสราญจิต
เป็นข้อคิดฝากไว้ให้หรรษา
ทั้งนอกในจารึกตรึกเมตตา
โอ้มารดาผ่านฟ้าข้ารำพัน
พระคุณแม่ล้ำฟ้ายิ่งกว่าสมุทร
ใสพิสุทธิ์ดุจดาวพราวสวรรค์
สมุทรเฉทคำสอนวอนสารพัน
เนืองอนันต์สรรค์สร้างมิร้างใจ....
*** แก้วประเสริฐ. ***
31 กรกฎาคม 2549 10:49 น.
แก้วประเสริฐ
แสงทองหมอง
ฤารักรสหมดสิ้นจินต์เทวษ
สิ่งเหลือเศษตะกอนไว้ใยซึ้ง
คำนึงนุชสุดสวาทพิลาศคนึง
ช่างตราตรึงแม้ผ่านจะนานปี
สูรย์แสงส่องประกายสู่ใจนัก
เสมือนจักฝากไว้ไร้เกษมศรี
สิ้นแสงทองจันทร์ฉายในราตรี
ผวนชีวีที่พลีสีเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่เหลือคือถ้อยช่างร้อยจิต
หวานหลงติดแค่ลิ้นจินต์แสลง
มโหระทึกฝากลงหรือตรงแสดง
เธอรู้ไหมว่าแกล้งแฝงชอกช้ำ
ลมรำเพยเผยตรมอารมณ์ผวน
วะวิบ..ล้วนหวนพลิกวิจิตรล้ำ
แฝงสิ่งเหลือเกื้อลงเหมือนบ่งนำ
เปรียบลำนำขาดตอนวอนหัวใจ
นี่นะหรือคือรักมักหวานฉ่ำ
แทรกเข้านำหลงเพ้อละเมอไว้
ไหลรินพรากหักสบั้นสั่นฤทัย
ป่วนสลายช้ำชอกตอกฤดี
แสงสีทองผ่องไว้สุริยาย่ำ
กลับพลิกทำย้ำหัวใจหมองศรี
รักของข้าหาเอื้อเกื้อไมตรี
ยากจะมีเหลือไว้ใฝ่คำนึง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
30 กรกฎาคม 2549 09:27 น.
แก้วประเสริฐ
เพียงหนึ่งในฤทัย
ดาวเสี้ยวจันทร์ลอยไกลปลายขอบฟ้า
ห้วงนภาประกายพราวราวสดใส
หรีดหริ่งกรี๊ดก้องพนาพฤกษาไพร
วังเวงใจอาลัยหวนชวนรำพึง
ล้วนคำนึงถึงเสียงพรรณนารัก
หนุนนอนตักหยอกเย้าเอาใจซึ้ง
แนบกายกอดสอดไว้ให้รำพึง
ยังตราตรึงรสสวาทพิลาสราตรี
นวลน้องนางกลางประกายดาวเด่น
แลสิ่งเห็นขาวอร่ามงามโฉมศรี
สวยสะคราญผ่านเคล้าเย้าฤดี
ดวงใจนี้แทบแยกแตกรัญจวน
โอ้คืนนี้มิมีน้องปองเคียงคู่
ยอดพธูสู่ฤทัยไร้นางหวน
ใจร่ำร้องพิศวาสอากาศชวน
ระลึกครวญนวลนางลี้ห่างไกล
หนึ่งในร้อยนารีที่ปรารถนา
ใยกานดาไม่มาสร้างผ่องใส
โอ้ดาวน้อยลอยรวมแข่งไฉไล
ก็สิ้นประกายริบหรี่เมื่อมีนาง
มาคืนนี้พี่ครวญล้วนรอเจ้า
เพื่อคลอเคล้ารอหายใจอ้างว้าง
ลุ่มพิศวาสฝากไว้ให้ครวญคราง
เหลือน้ำค้างคอยไว้ในราตรี.
*** แก้วประเสริฐ. ***
27 กรกฎาคม 2549 10:58 น.
แก้วประเสริฐ
สายลม
ลมหวนแผ่วแว่วเสียงโสตเสนาะ
หวานไพเราะผ่านหูมิรู้หาย
ซาบซึ้งช่วงล่วงคืนยืนเดียวดาย
ดาวเรียงรายจันทร์ฉายให้วังเวง
เจื่อนแจ้วสำเนียงดูเหมือนชู้เรียก
ดุจพร่ำเพรียกคลอเคล้าเร้ารีบเร่ง
ระริกชวนป่วนไปคล้ายยำเกรง
ส่งเสียงเพลงอ่อนพลิ้วละลิ่วไกล
สดับฟังวังเวงหวนชวนสะท้าน
นกบินผ่านอดสะดุ้งจรุงหาย
ไหวลมพัดให้สะท้านผ่านฤทัย
เมฆปิดฉายมืดสลัวตัวคนเดียว
อดคิดย้อนตอนอดีตถูกกรีดยับ
รักคืนกลับสะบั้นนั้นเป็นเสี้ยว
ชอกช้ำมัดหฤทัยคล้ายเป็นเกลียว
โลดแล่นเลี้ยวทิ้งไว้ให้อกตรม
อกดูเหมือนเจื่อนแจ้วแว่วเสียงผ่าน
วกเวียนพล่านฝากไว้ได้ขื่นขม
ดูจะเหมือนเราหนอรอชื่นชม
สิ่งภิรมย์เหลือไว้แต่ไกลตา
นึกคิดไปใจคล้ายสายลมแผ่ว
หวานพลิ้วแล้วฝากกลิ่นรินนาสา
สิ้นความหวังดั่งจันทร์ดั้นเมฆา
น้อยวาสนาคว้าได้เพียงไร้เงา.
*** แก้วประเสริฐ. **