20 สิงหาคม 2552 13:55 น.
แก้วประเสริฐ
** ศาลาพักใจ **
สุริยันจันทราดาราคล้อย
วกเวียนรอยเส้นทางระหว่างสรรค์
บ้างเจิดจ้าลาวัลย์บ้างรำพัน
ฤาสวรรค์ปนนรกหมกไหม้ตน
มีทั้งรักรวมแค้นแน่นหนักจิต
สร้างชีวิตตัวเราเคล้าสับสน
หาที่แนบแอบอิงล้วนระคน
เฝ้าปะปนจนเพ้ออนันตกาล
บนเส้นทางโลกายากหายิ่ง
ล้วนทุกสิ่งเปลี่ยนไปไร้เสพย์สานต์
หาใช่กลีบกุหลาบซาบซึ้งกานต์
วิวัฒน์ผ่านสรรค์ปองหมองฤทัย
หากรู้จักเพียงพอต่อสิ่งเสพย์
ดุจสับเขปแยกแยะแนะสู่สมัย
ย่อมรู้จักประมาณมิหวั่นหทัย
เส้นทางไกลอย่างไรยากหมองมัว
หาที่พักแอบอิงต่อสิ่งนี้
แล้วสรรค์ที่พักผ่อนย้อมใจสลัว
ให้เจิดจรัสประภัสสรผ่อนกลัว
หลากสิ่งชั่วสร้างสิ่งแคลงอิงใจ
อันทุกข์สุขเส้นทางระหว่างผ่าน
จงประสานสู้ไว้จัดสรรค์ไสว
ระบายสิ่งอิงแอบแนบภายใน
สร้างไฉไลศาลาพักพอเพียง
แล้วระบายสิ่งหมกหมุ่นกรุ่นจิต
เปล่งชีวิตถ้อยคำลำนำเสียง
ต่อสถานที่จัดไว้ด้วยสำเนียง
ที่แอบเคียงหมกหมุ่นกรุ่นใจเรา
ศาลาที่กล่าวไว้คือไทยกลอน
ฝากขั้นตอนระบายไว้ให้เฉลา
นำทุกข์ที่ซ่อนเร้นเป็นลำเนา
แล้วก็เอาความสุขปลุกอารมณ์.
*** แก้วประเสริฐ. ***
17 สิงหาคม 2552 17:25 น.
แก้วประเสริฐ
** เดือนลับดับรัก **
ร่วงโรยลงเสียแล้วแก้วตาเอ๋ย
หวานที่เคยย้อมหายฤทัยหวน
ป่วนฝากไว้ให้หวังสิ่งยังชวน
คงแค่ล้วนสูญหวิวพลิ้วภายใน
อกเอ๋ยอกฟกช้ำยากย้ำบอก
เขาลวงหลอกให้ฝันสั่นซึ้งไหว
นี่นะหรือห้วงรักช่างปักใจ
หรือเพียงได้แค่ฉ่ำล้ำสู่ทรวง
แล้วก็ห่างเหินหายไร้ขอบเขต
อาจมีเจตน์พลิกผันจนสั่นสรวง
ที่เคยพาสู่ฟ้ามากกว่าตวง
กลับเป็นบ่วงแสนเข็ญยากเห็นใจ
รักลืมรสหมดสิ้นแผ่ห้วงฟ้า
ผืนพสุธาเร้นค้นจนหทัยหาย
เหลือสิ่งเก่าฟ้าเอ๋ยเย้ยทำลาย
สูญร้างไกลจริงหนอพอกับเดือน
ยามเร้นลับเวหาดาราเศร้า
เคยเคียงเคล้าเที่ยวท่องหมองเฉือน
มิแลเลยปล่อยดาวเฝ้ารางเลือน
ดุจดั่งเหมือนอกข้าฟ้าแกล้งใย
รักที่เคยฝากไว้ไปไหนเสีย
เคยคลอเคลียอาดูรแลสูญไสว
ดาราเอยเหมือนข้าฟ้าห่างไกล
ล่วงเลยไฉนน้ำใจไม่อาดูร
ต่อนี้ไปไกลลับใจดับสิ้น
ยากโผผินค้นหาพากลับสูญ
พูนเคยเต็มเปี่ยมแก้วแป้วเกื้อกูน
เมฆาหนุนปิดเดือนเยือนแค่คอย
กลิ่นราตรีมณีสวรรค์สรรค์เฉิดฉาย
กลับละลายใจข้าพาละห้อย
เดือนก็ดับลับมาพรากจากคอย
น้ำตาย้อยเหลียวมองต้องอกครวญ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
12 สิงหาคม 2552 15:11 น.
แก้วประเสริฐ
** รักที่จาง **
วาบหวิวหวามล่วงล้ำยามทำลาย
พลิกผันคลายต่อรักมักหักไสว
ผ่านซาบซึ้งตลึงซ่านราญหัวใจ
ความสดใสฝากแผ่แม้รัญจวน
ยามหวนคิดอกพรั่นพลันพล่านซึ้ง
ส่งหวานตรึงผันพลิกปลิดสิ่งสรวล
นวลนุ่มเนื้อแนบเนียนเน้าเนื้อนวล
ความหอมอวลล้วนอุ่นกรุ่นใจกราย
สี่ห้องหทัยมอบไว้ไยหลอกเคล้า
หรือรักเฝ้าพะนอคลอโฉมฉาย
มิซาบซึ้งตรึงนวลล้วนทำลาย
ฝากเฉิดฉายผ่านเราเฝ้าละออง
ฉันนะหรือน้ำใจมอบให้เสมอ
สิ่งปรนเปรอหนีลับมิกลับสนอง
ก่อนเคยบอกความจนล้นกั้นปอง
หมายเรืองรองรักนับประทับใจ
เคยบอกเสมอว่าคิดสักนิดหน่อย
ก่อนหวังคอยเคียงคู่ประตูไสว
จะทำให้เราหมองต้องร้างไกล
ความจนไซร้มิสนองปองอารมณ์
กำแพงสูงกีดกั้นนั้นยากผ่าน
เพียงรูปหวานจงคิดปลิดสุขสม
ห่างศักดิ์ศรีมากมายคล้ายสิ่งปม
หลากขื่นขมระบมตรมสิ่งครอง
ฉันนั้นจริงสี่ห้องประคองให้
ด้วยจนไซร้เป็นสิ่งยากอิงสนอง
บอกเธอแล้วใช่ไหมก่อนใฝ่ปอง
จนต้องหมองประจักษ์รักจืดจาง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
8 สิงหาคม 2552 13:27 น.
แก้วประเสริฐ
** เฉิดโฉม **
๏ พิศเจ้างามผ่องแย้ม นวลจันทร์
เลิศลักษณ์วิลาวัลย์ เปรียบแม้น
พรายงามกระจ่างรัญ- จวนยิ่ง จริงแฮ
หญิงใดในแว่นแคว้น ยากล้ำเลอโฉม ฯ
๏ ลักยิ้มปรางเฉิดแฉล้ม ดาวราย นภาแล
ตลึงหยุดพิศเยี่ยมกราย เฉียดใกล้
พราวระยิบทอดพราย กายแม่ หอมเอย
ฤทัยป่วนจนคลั่งไคล้ กลิ่นเย้ายวนหทัย ฯ
๏ หอมเอยคล้ายผกาไม้ เบิกบาน
สูดกลิ่นชวนสำราญ เทียบฟ้า
ลอยละล่องร่ำกานท์ มอบแด่ นวลเฮย
เปรยสิ่งหวังไขว่คว้า แนบน้องสู่สวรรค์ ฯ
๏ ยิ่งพิศยิ่งละล้า ใฝ่ฝัน แม่เอย
หอมกลิ่นจนกระสัน คลั่งไคล้
โลมร้อนรุ่มลืมวัน สร้างสิ่ง หวังเฮย
ยามพบพึงแนบใกล้ ลุ่มล้ำย้ำทรวง ฯ
๏ยอดหญิงเอยยากแล้ว มุ่งหวัง เคียงแม่
เฝ้าพบจนหมดพลัง ฝากฟ้า
ม่านเมฆหมอกปิดบัง สรรค์ฝาก พรากแฮ
พิศยิ่งหมองสิ่งคว้า พร่ำเพ้อเผลอครวญ ฯ
๏ อกเอ๋ยอกเหี่ยวแห้ง หนอเรา
ยากยิ่งฝากแอบเนา แนบเนื้อ
หวังคิดทาบนงเยาว์ หอมกลิ่น ยากเฮย
เพียงเหม่อยลหมายเกื้อ โอบอ้อมล้อมสวรรค์ ฯ
๏ บุญเวรกรรมพบเนื้อ นวลปราง
หลงคลั่งมิอาจวาง แม่เจ้า
ยุงเหลือบริ้นไรจาง กัดกร่อน เราเอย
นางลับเหลือจันทร์เคล้า เหม่อจ้องปองใจ.๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***
5 สิงหาคม 2552 17:54 น.
แก้วประเสริฐ
** สดุดีมหาราชินี **
๏... สิบสองสิงหาราชินีนราเศรษฐ์
อัครยุพเรศนรินทรอมรสวรรค์
ปิ่นเกล้าเกศพระภูมีศรีสุวรรณ
ชนม์วารบรรจบครบเลิศเลอ
ข้าพุทธเจ้าน้อมประณตจรดเกศา
พระชายาฝ่าพระบาทนลาฏเสมอ
ใต้เบื้องยุคลละอองเสด็จท้าวเธอ
ปลื้มบำเรอมหาสวัสดิ์พิพัฒน์ชัย
เป็นมิ่งมงคลใฝ่ปองไผทชน
ฉลองเบื้องบนอภิลักขิตศุภสมัย
เวียนครบรอบชนม์วารอันเกริกไกร
มวลชาวไทยแซ่ซ้องก้องแผ่นดิน
เปี่ยมมิ่งขวัญแห่งภพบรรจบสล้าง
มิอ้างว้างบารมีศรีกระแสสินธุ์
ทรงรากฐานหัตถกรรมนำยุพิน
มอบชาวดินสรรค์แต่งแห่งปัญญา
ย่างพระบาทเยื้องกรายหลายพื้นที่
สร้างสุขีเหล่าไทยใฝ่ค้นหา
เพื่อปลดทุกข์แฝงไว้ในประชา
แทนนฤบาลผ่านฟ้ามิอาดูร
เลื่องลือนามหมู่นรินทร์ถิ่นต่างเทศ
เยี่ยมสู่เขตแว่นแคว้นแดนไอศูรย์
เพื่อนำสิ่งรากฐานผ่านไพบูลย์
หวังเกื้อกูลหมู่บ้างอย่างเพียงพอ
ทุรกันดารผ่านสิ่งอิงสรรค์สร้าง
ทรงโปรดวางบำบัดจัดหาหมอ
อุปถัมภ์ปราบโรคภัยใฝ่พะนอ
มิย่อท้อปลูกต้นไม้ชอุ่มพุ่มงาม
ขอน้อมนบมโนไว้ใส่เหนือเกล้า
หฤทัยเฝ้ามหาราชินีแม่ศรีสยาม
ผืนแผ่นหล้าสุขสราญผ่านเขตคาม
เปล่งพระนามถวายองค์ทรงพระเจริญ.๚ะ๛
(ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพร)
*** แก้วประเสริฐ. ***